สวัสดีค่ะ ก่อนอื่น เราต้องขอนุญาตเกริ่นก่อนเลยนะคะ รีวิวนี้เขียนเพื่อแชร์ประสบการณ์จริง ความรู้สึกจริงๆ ที่เราไปพักผ่อนบนเกาะลันตา กับโรงแรมที่เค้าเล่ามาว่า แพงและดีที่สุดบนเกาะลันตา ซึ่งมีนามว่า พิมาลัยรีสอร์ท แอนด์ สปา (Pimalai Resort & Spa) การันตี ด้วยดาว 5 ดวงบนทุกเวบไซต์
คือ จริงๆ แล้วเราก็เลือกหลายที่สำหรับการฮันนีมูน ตอนแรกก็เล็งต่างประเทศนะคะ แต่ด้วยหลายๆ เหตุผล ทั้งเวลาที่จำกัด (ปลายปีงานยุ่งมาก) และความสะดวกสบาย (เพราะถ้าไปต่างประเทศ และต้องการการบริการระดับพรีเมี่ยม คุณก็ต้องเตรียมเงินเยอะทีเดียว) จึงตกลงกับสามีว่า เอาเมืองไทยนี่ล่ะ คิดสถานที่กันยังไม่ได้ ไหนจะยุ่งเรื่องงานแต่งงาน ไหนจะงานรัดตัวทั้งคู่ สรุปว่า.. คุณอาของเรารับไหว้ ด้วยสลากออมสิน + One-Bedroom Pool Villa 2 คืนในช่วง High Season ที่โรงแรมแห่งนี้ โดยกำหนดการที่เราจะต้องไปคือ 18-20 พฤศจิกายน 2559 โดยมีข้อแม้ว่า อากับสามีของอาไปด้วยค่ะ แต่ของ Pool Villa หลังติดกันค่ะ อาของเราไปฉลองครบรอบแต่งงาน 10 ที่นั่นในเวลาเดียวกันไปเลย (ท้าวความนิดนึง อาเราไปพัก โรงแรมนี้มา 3 ครั้งแล้วค่ะ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 )
ก่อนจะไป เราก็จองตั๋วเครื่องบิน สำหรับ 4 ท่าน ไปกลับ ดอนเมือง-กระบี่-ดอนเมือง แล้วส่งรายละเอียดเที่ยวบินให้คุณอา เค้าก็เอาไปส่งต่อให้กับทางโรงแรมเพื่อบริการการเดินทางจากสนามบินไปยังโรงแรม
เราเองก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก รู้แค่ว่า ต้องไป ทั้งๆ ที่งานยุ่งกันมาก แต่ก่อนเดินทาง 1 อาทิตย์ เราก็ไปหาอ่านข้อมูลนิดๆ หน่อยเพื่อเป็นไอเดียว่าต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง แต่รีวิวมีไม่ค่อยเยอะ เลยไม่ค่อยได้ตื่นเต้นอะไร จากประสบการณ์ที่ไปจริง ทำให้เราอยากมาเขียนรีวีว เผื่อคนที่กำลังจะไปจะได้เห็นภาพ และเตรียมตัวถูกค่ะ เริ่มกันเลยละกันนะคะ
พิมาลัยรีสอร์ท แอนด์ สปา เป็นโรงแรม 5 ดาว ตั้งอยู่บนเกาะลันตา มีบริการรับส่งลูกค้าจากสนามบินนานาชาติกระบี่ ถึงโรงแรม ด้วยรถของโรงแรม และเรือส่วนตัวของโรงแรม โดยโรงแรมมีท่าเรือเป็นของตัวเอง ส่วนรายละเอียดชื่อของท่าเรือนั้น ขอโทษจริงๆ เราไม่ได้ถามมาค่ะ
เมื่อเครื่องบินลงที่สนามบินนานาชาติกระบี่ รับกระเป๋าเสร็จเดินออกมา ก็จะเจอเจ้าหน้าที่ถือป้ายโรงแรมรอรับเลยค่ะ แต่ในรูปนี่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่นะคะ เราอาศัยช่วงชุลมุน เอาป้ายเขามาถือเล่นค่ะ 55555
จากนั้น เราก็จะเดินทางโดยรถตู้ หรือรถยนต์ แล้วแต่โอกาสนะคะ ของเราได้รถตู้ไปที่ท่าเรือของโรงแรม
ก่อนขึ้นรถ ก็จะมีพนักงานแจ้งให้ทุกคนรัดเข็มขัด และเสิร์ฟน้ำดื่มยี่ห้อพิมาลัย หรือน้ำอัดลมแล้วแต่จะเลือกกันค่ะ
ต่อไปก็จะเป็นวิวระหว่างทางนะคะ
เมื่อถึงท่าเรือ ก็จะมีเจ้าหน้าที่ขนกระเป๋าเราขึ้นเรือ และเสิร์ฟเครื่องดื่มบนเรืออีกครั้ง ซึ่งวันที่เราไปอากาศดี ลมกำลังดี มีคลื่นเล็กน้อยค่ะ
ด้านหน้าที่เรามองเห็นนั้น จะเป็นที่พักที่เรากำลังจะไปพักกันนะคะ
พอถึงท่าเรือ เขาจะมีท่าเรือแบบลอยน้ำ เดินไม่ยาก แต่ถ้ามีคลื่นก้อจะลำบากนิดนึงค่ะ ผู้จัดการโรงแรม(เป็นคนต่างชาตินะคะ) มารับด้วยตัวเองถึงเรือ พร้อมกับพนักงานอีกหลายชีวิต เขาก็จะกล่าวต้อนรับเป็นภาษาอังกฤษ จับใจความได้ว่า ยินดีต้อนรับสู่โรงแรม พวกเค้ากำลังจะพาเราขึ้นฝั่งเพื่อเช็คอินท์ ขอให้ทุกท่านเดินไปพร้อมกับเจ้าหน้าที่ ถ้าผมบอกให้หยุดต้องหยุด ถ้าผมบอกให้วิ่งต้องวิ่งนะครับ.. นี่ก็งงๆ อะไรของเขา พอเห็นสภาพทางเดิน เลยถึงบางอ้อค่ะ มันสุดยอดมากกกกกกกก เราหาภาพมาให้ชมแก้ขัดนะคะ เพราะเราเองก็งงๆ แล้วกลัวโทรศัพท์ตกน้ำด้วยเลยไม่ได้ถ่ายตอนแรกไว้ค่ะ
พอถึงบนฝั่ง ก็จะมีพนักงานต้อนรับ เอามาลัยดอกมะลิคล้องคอให้กับลูกค้า แล้วก็นั่งรถไปยัง Lobby แต่ของเรากรณีพิเศษอะไรก็ไม่รู้ ไม่ต้องเข้า Lobby ค่ะ เขา Check in ที่ห้องพักให้เลย
พนักงานก็พาเราไปยังห้องพัก ของเราเป็นแบบ One-Bedroom Pool Villa ห้อง 702 เมื่อถึงห้องพัก จะมีพนักงานเข้าไปด้วย 1 ท่าน เชิญเรานั่งที่ห้องนั่งเล่น กรอกรายละเอียดส่วนตัวในใบ Check In แล้วเขาก็เอาน้ำตะไคร้มะนาวมาเสิร์ฟ พร้อมกับผ้าเย็นค่ะ
จากนั้นพนักงานก็อธิบายคร่าวๆ ว่าโรงแรมมีอะไรบ้าง มีห้องอาหารอะไรบ้าง มีกิจกรรมอะไรบ้าง รถจะมารับกลับวันไหนตอนไหน โทรศัพท์ภายในใช้ยังไง อย่าลืมล็อคห้อง เพราะลิงเปิดประตูเป็น บลาๆ เราฟังบ้างไม่ฟังบ้าง เพราะเริ่มตื่นเต้นกับที่พักแล้วค่ะ จากนั้นพนักงานก็หยิบเค้กมาให้เรากับสามี 1 ชิ้น น่ารักมากกกกกกก
งั้นส่วนแรก เราให้ชมภาพรวม ภายนอกของ Pool Villa หลังนี้ก่อนเลยนะคะ
ภาพนี้จะเป็น บริเวณที่รอรถของหน้าบ้านพักของเราค่ะ จริงๆ เราพยายามอยากให้ชมภาพแบบไม่มีตัวเรานะ แต่แฟนเราเขาชอบถ่ายรูปแบบมีนางแบบ ก็เลยคัดยากจริงๆ ค่ะ ทนๆ ดูไปกันก่อนนะคะ
เมื่อเดินลงจากบริเวณรอรถ ก็จะเป็นประตูเข้าบ้านพักค่ะ โดยมีตู้จดหมาย พนักงานจะนำจดหมายต่างๆ กำหนดการมารับกลับใส่ไว้ให้ค่ะ
พอเปิดประตูเข้าไป จะเจอกำแพงนะคะ เป็นด้านหลังของ Day Bed ค่ะ เตียงสำหรับนอนเล่น ริมสระว่ายน้ำค่ะ ปีกขวาเป็นห้องนั่งเล่น ปีกซ้ายเป็นห้องนอนค่ะ โดยมีสระว่ายน้ำกั้นตรงกลาง นี่คือข้อมูลที่เค้าเคลมมาใน www.booking.com นะคะ
Villa size: 204 m²
Bigger than most in Ko Lanta
Bed: 1 large double bed
Located on the hill side, villa features a private infinity pool and enjoy the views of Kan Tiang Bay and surrounding tropical forest.
Please note that the pool villa has steep drop-off from the terrace and infinity pool. Parents with young children are highly encouraged to be extra cautious about the safety.
Complimentary round-trip transfer from Krabi Airport to the resort. Guests are required to provide travel details at the time of booking.
Villa facilities: Balcony, Pool view, TV, Telephone, Satellite Channels, Safety Deposit Box, Air Conditioning, Iron, Seating Area, Sofa, Private Pool, Shower, Bath, Hairdryer, Bathrobe, Free toiletries, Toilet, Bathroom, Slippers, Minibar, Kitchenette, Refrigerator, Microwave, Dining area
รออะไรล่ะคะ แช่น้ำวนไปค่ะ อดใจไม่ไหวแล้ว
วิวตอนเย็นจากห้องพักเรานะคะ
ทุกท่านพร้อมจะเข้าไปชมภายในห้องนอน และห้องนั่งเล่นหรือยังคะ
ขอเปิดตัวที่ห้องนอนก่อนเลยนะคะ
ห้องนอนจะมี ห้องน้ำอันแสนกว้างขวางอยู่ด้วย โดยในห้องน้ำ แบ่งเป็นโซนแต่งตัว โซนอ่างอาบน้ำ โซนนั่งรำลึกความหลัง(ไม่มีประตู)!! โซนอาบน้ำ และโซนล้างมือ ส่วนเตียงนอนจะเป็นเตียงนอนสี่เสา มีมุ้งวุ่นวายไปหมด พร้อมโต๊ะทำงานในห้อง ทีวีเครื่องใหญ่ โซฟานั่งเล่น เก้าอี้นั่งเล่น โอ๊ะ สารพัดจะจัดมา สาบานว่านั่งไม่ครบทุกตัวค่ะ
ม

าดูในส่วนของห้องนั่งเล่นกันนะคะ ในห้องนั่งเล่นจะมี Sofa Bed ใหญ่ๆ พร้อมเตียงนั่งเล่น ห้องครัว ห้องน้ำอีก 1 ห้องพร้อมระเบียงวิวสวยๆ ค่ะ
สองภาพสุดท้าย เราดื่มกับอา หลังจากทานอาหารค่ำค่ะ เอาไวน์มาเองได้เลยค่ะ
ในส่วนของห้องพักเราก็ให้ชมบรรยากาศคร่าวๆ ประมาณนี้นะคะ เดี๋ยวเราไปทำงานก่อน
พรุ่งนี้ค่ำๆ ค่อยมาเล่าเรื่อง ร้านอาหารต่างๆ กิจกรรมต่างๆ ที่อยู่ในโรงแรมนี้ค่ะ เราไปพัก 3 วัน 2 คืน ไม่ออกจากโรงแรมเลยค่ะ เพราะทุกอย่างจะทำให้คุณเพลิดเพลินไปกับของเล่นที่เขาเตรียมไว้ให้
แอบสปอยให้ 2 รูปก่อนนะคะ
เรื่องกินไว้ใจอิชอยส์เถอะค่ะ สายกินมาเต็ม จัดหนักค่ะ
ไว้มาใหม่นะจ้ะ บั๊บบาย
[CR] เมืองไทย ก็ฮันนีมูนได้ ณ พิมาลัยรีสอร์ท แอนด์ สปา เกาะลันตา
คือ จริงๆ แล้วเราก็เลือกหลายที่สำหรับการฮันนีมูน ตอนแรกก็เล็งต่างประเทศนะคะ แต่ด้วยหลายๆ เหตุผล ทั้งเวลาที่จำกัด (ปลายปีงานยุ่งมาก) และความสะดวกสบาย (เพราะถ้าไปต่างประเทศ และต้องการการบริการระดับพรีเมี่ยม คุณก็ต้องเตรียมเงินเยอะทีเดียว) จึงตกลงกับสามีว่า เอาเมืองไทยนี่ล่ะ คิดสถานที่กันยังไม่ได้ ไหนจะยุ่งเรื่องงานแต่งงาน ไหนจะงานรัดตัวทั้งคู่ สรุปว่า.. คุณอาของเรารับไหว้ ด้วยสลากออมสิน + One-Bedroom Pool Villa 2 คืนในช่วง High Season ที่โรงแรมแห่งนี้ โดยกำหนดการที่เราจะต้องไปคือ 18-20 พฤศจิกายน 2559 โดยมีข้อแม้ว่า อากับสามีของอาไปด้วยค่ะ แต่ของ Pool Villa หลังติดกันค่ะ อาของเราไปฉลองครบรอบแต่งงาน 10 ที่นั่นในเวลาเดียวกันไปเลย (ท้าวความนิดนึง อาเราไปพัก โรงแรมนี้มา 3 ครั้งแล้วค่ะ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 )
ก่อนจะไป เราก็จองตั๋วเครื่องบิน สำหรับ 4 ท่าน ไปกลับ ดอนเมือง-กระบี่-ดอนเมือง แล้วส่งรายละเอียดเที่ยวบินให้คุณอา เค้าก็เอาไปส่งต่อให้กับทางโรงแรมเพื่อบริการการเดินทางจากสนามบินไปยังโรงแรม
เราเองก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก รู้แค่ว่า ต้องไป ทั้งๆ ที่งานยุ่งกันมาก แต่ก่อนเดินทาง 1 อาทิตย์ เราก็ไปหาอ่านข้อมูลนิดๆ หน่อยเพื่อเป็นไอเดียว่าต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง แต่รีวิวมีไม่ค่อยเยอะ เลยไม่ค่อยได้ตื่นเต้นอะไร จากประสบการณ์ที่ไปจริง ทำให้เราอยากมาเขียนรีวีว เผื่อคนที่กำลังจะไปจะได้เห็นภาพ และเตรียมตัวถูกค่ะ เริ่มกันเลยละกันนะคะ
พิมาลัยรีสอร์ท แอนด์ สปา เป็นโรงแรม 5 ดาว ตั้งอยู่บนเกาะลันตา มีบริการรับส่งลูกค้าจากสนามบินนานาชาติกระบี่ ถึงโรงแรม ด้วยรถของโรงแรม และเรือส่วนตัวของโรงแรม โดยโรงแรมมีท่าเรือเป็นของตัวเอง ส่วนรายละเอียดชื่อของท่าเรือนั้น ขอโทษจริงๆ เราไม่ได้ถามมาค่ะ
เมื่อเครื่องบินลงที่สนามบินนานาชาติกระบี่ รับกระเป๋าเสร็จเดินออกมา ก็จะเจอเจ้าหน้าที่ถือป้ายโรงแรมรอรับเลยค่ะ แต่ในรูปนี่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่นะคะ เราอาศัยช่วงชุลมุน เอาป้ายเขามาถือเล่นค่ะ 55555
จากนั้น เราก็จะเดินทางโดยรถตู้ หรือรถยนต์ แล้วแต่โอกาสนะคะ ของเราได้รถตู้ไปที่ท่าเรือของโรงแรม
ก่อนขึ้นรถ ก็จะมีพนักงานแจ้งให้ทุกคนรัดเข็มขัด และเสิร์ฟน้ำดื่มยี่ห้อพิมาลัย หรือน้ำอัดลมแล้วแต่จะเลือกกันค่ะ
ต่อไปก็จะเป็นวิวระหว่างทางนะคะ
เมื่อถึงท่าเรือ ก็จะมีเจ้าหน้าที่ขนกระเป๋าเราขึ้นเรือ และเสิร์ฟเครื่องดื่มบนเรืออีกครั้ง ซึ่งวันที่เราไปอากาศดี ลมกำลังดี มีคลื่นเล็กน้อยค่ะ
ด้านหน้าที่เรามองเห็นนั้น จะเป็นที่พักที่เรากำลังจะไปพักกันนะคะ
พอถึงท่าเรือ เขาจะมีท่าเรือแบบลอยน้ำ เดินไม่ยาก แต่ถ้ามีคลื่นก้อจะลำบากนิดนึงค่ะ ผู้จัดการโรงแรม(เป็นคนต่างชาตินะคะ) มารับด้วยตัวเองถึงเรือ พร้อมกับพนักงานอีกหลายชีวิต เขาก็จะกล่าวต้อนรับเป็นภาษาอังกฤษ จับใจความได้ว่า ยินดีต้อนรับสู่โรงแรม พวกเค้ากำลังจะพาเราขึ้นฝั่งเพื่อเช็คอินท์ ขอให้ทุกท่านเดินไปพร้อมกับเจ้าหน้าที่ ถ้าผมบอกให้หยุดต้องหยุด ถ้าผมบอกให้วิ่งต้องวิ่งนะครับ.. นี่ก็งงๆ อะไรของเขา พอเห็นสภาพทางเดิน เลยถึงบางอ้อค่ะ มันสุดยอดมากกกกกกกก เราหาภาพมาให้ชมแก้ขัดนะคะ เพราะเราเองก็งงๆ แล้วกลัวโทรศัพท์ตกน้ำด้วยเลยไม่ได้ถ่ายตอนแรกไว้ค่ะ
พอถึงบนฝั่ง ก็จะมีพนักงานต้อนรับ เอามาลัยดอกมะลิคล้องคอให้กับลูกค้า แล้วก็นั่งรถไปยัง Lobby แต่ของเรากรณีพิเศษอะไรก็ไม่รู้ ไม่ต้องเข้า Lobby ค่ะ เขา Check in ที่ห้องพักให้เลย
พนักงานก็พาเราไปยังห้องพัก ของเราเป็นแบบ One-Bedroom Pool Villa ห้อง 702 เมื่อถึงห้องพัก จะมีพนักงานเข้าไปด้วย 1 ท่าน เชิญเรานั่งที่ห้องนั่งเล่น กรอกรายละเอียดส่วนตัวในใบ Check In แล้วเขาก็เอาน้ำตะไคร้มะนาวมาเสิร์ฟ พร้อมกับผ้าเย็นค่ะ
จากนั้นพนักงานก็อธิบายคร่าวๆ ว่าโรงแรมมีอะไรบ้าง มีห้องอาหารอะไรบ้าง มีกิจกรรมอะไรบ้าง รถจะมารับกลับวันไหนตอนไหน โทรศัพท์ภายในใช้ยังไง อย่าลืมล็อคห้อง เพราะลิงเปิดประตูเป็น บลาๆ เราฟังบ้างไม่ฟังบ้าง เพราะเริ่มตื่นเต้นกับที่พักแล้วค่ะ จากนั้นพนักงานก็หยิบเค้กมาให้เรากับสามี 1 ชิ้น น่ารักมากกกกกกก
งั้นส่วนแรก เราให้ชมภาพรวม ภายนอกของ Pool Villa หลังนี้ก่อนเลยนะคะ
ภาพนี้จะเป็น บริเวณที่รอรถของหน้าบ้านพักของเราค่ะ จริงๆ เราพยายามอยากให้ชมภาพแบบไม่มีตัวเรานะ แต่แฟนเราเขาชอบถ่ายรูปแบบมีนางแบบ ก็เลยคัดยากจริงๆ ค่ะ ทนๆ ดูไปกันก่อนนะคะ
เมื่อเดินลงจากบริเวณรอรถ ก็จะเป็นประตูเข้าบ้านพักค่ะ โดยมีตู้จดหมาย พนักงานจะนำจดหมายต่างๆ กำหนดการมารับกลับใส่ไว้ให้ค่ะ
พอเปิดประตูเข้าไป จะเจอกำแพงนะคะ เป็นด้านหลังของ Day Bed ค่ะ เตียงสำหรับนอนเล่น ริมสระว่ายน้ำค่ะ ปีกขวาเป็นห้องนั่งเล่น ปีกซ้ายเป็นห้องนอนค่ะ โดยมีสระว่ายน้ำกั้นตรงกลาง นี่คือข้อมูลที่เค้าเคลมมาใน www.booking.com นะคะ
Villa size: 204 m²
Bigger than most in Ko Lanta
Bed: 1 large double bed
Located on the hill side, villa features a private infinity pool and enjoy the views of Kan Tiang Bay and surrounding tropical forest.
Please note that the pool villa has steep drop-off from the terrace and infinity pool. Parents with young children are highly encouraged to be extra cautious about the safety.
Complimentary round-trip transfer from Krabi Airport to the resort. Guests are required to provide travel details at the time of booking.
Villa facilities: Balcony, Pool view, TV, Telephone, Satellite Channels, Safety Deposit Box, Air Conditioning, Iron, Seating Area, Sofa, Private Pool, Shower, Bath, Hairdryer, Bathrobe, Free toiletries, Toilet, Bathroom, Slippers, Minibar, Kitchenette, Refrigerator, Microwave, Dining area
รออะไรล่ะคะ แช่น้ำวนไปค่ะ อดใจไม่ไหวแล้ว
วิวตอนเย็นจากห้องพักเรานะคะ
ทุกท่านพร้อมจะเข้าไปชมภายในห้องนอน และห้องนั่งเล่นหรือยังคะ
ขอเปิดตัวที่ห้องนอนก่อนเลยนะคะ
ห้องนอนจะมี ห้องน้ำอันแสนกว้างขวางอยู่ด้วย โดยในห้องน้ำ แบ่งเป็นโซนแต่งตัว โซนอ่างอาบน้ำ โซนนั่งรำลึกความหลัง(ไม่มีประตู)!! โซนอาบน้ำ และโซนล้างมือ ส่วนเตียงนอนจะเป็นเตียงนอนสี่เสา มีมุ้งวุ่นวายไปหมด พร้อมโต๊ะทำงานในห้อง ทีวีเครื่องใหญ่ โซฟานั่งเล่น เก้าอี้นั่งเล่น โอ๊ะ สารพัดจะจัดมา สาบานว่านั่งไม่ครบทุกตัวค่ะ
ม
สองภาพสุดท้าย เราดื่มกับอา หลังจากทานอาหารค่ำค่ะ เอาไวน์มาเองได้เลยค่ะ
ในส่วนของห้องพักเราก็ให้ชมบรรยากาศคร่าวๆ ประมาณนี้นะคะ เดี๋ยวเราไปทำงานก่อน
พรุ่งนี้ค่ำๆ ค่อยมาเล่าเรื่อง ร้านอาหารต่างๆ กิจกรรมต่างๆ ที่อยู่ในโรงแรมนี้ค่ะ เราไปพัก 3 วัน 2 คืน ไม่ออกจากโรงแรมเลยค่ะ เพราะทุกอย่างจะทำให้คุณเพลิดเพลินไปกับของเล่นที่เขาเตรียมไว้ให้
แอบสปอยให้ 2 รูปก่อนนะคะ
เรื่องกินไว้ใจอิชอยส์เถอะค่ะ สายกินมาเต็ม จัดหนักค่ะ
ไว้มาใหม่นะจ้ะ บั๊บบาย
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น