สวัสดีค่ะ ชาวพันทิปทุกคนเราเขียนกระทู้นี้เป็นกระทู้แรกซึ่งจะเป็นเรื่องระหว่างเจ้าของบ้านและผู้เช่าบ้าน
บ้านหลังนี้เป็นบ้านของเราเองค่ะอยู่ในจังหวัดสระบุรี เมื่อก่อนอาศัยอยู่กับแม่และน้องชายหลังจากที่เราจบม.6 เราก็ย้ายมาเรียนและอยู่ที่นครปฐม ส่วนแม่และน้องก็ย้ายไปอยู่บ้านอีกหลังที่จังหวัดหนึ่งทางภาคใต้ ดังนั้นบ้านหลังนี้จึงไม่มีคนอยู่ แม่เลยตัดสินใจปล่อยให้คนเช่าในราคา 5000 บาทต่อเดือนเพราะอย่างน้อยบ้านจะได้มีคนดูแล ซึ่งบ้านก็จะเป็นบ้านเดี่ยวมี 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 1 ห้องครัว 1 ห้องนั่งเล่น มีพื้นที่จอดรถในบ้าน มีแอร์ 2 ตัว เตียงนอน 2 เตียง มีทีวี จานดาวเทียม ตู้เสื้อผ้า เรียกง่ายๆว่าขนมาแต่เสื้อผ้าก็อยู่ได้ แม่เลยมอบหมายให้เราเป็นคนดูแลทุกอย่าง ตั้งแต่ทำสัญญา เก็บค่าเช่า ตรวจสอบความเรียบร้อย
ในช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมานี้ มีคนติดต่อเราเข้ามาว่าสนใจอยากจะดูบ้าน (ขอเรียกคนนี้ว่า A นะคะ) แต่เราบอกเขาไปว่าเราจะว่างไปเปิดบ้านให้ดูในวันที่ 2 กรกฎาคม เขาก็ตกลง
วันที่ 1 กรกฎาคมเราก็เลยเดินทางจากนครปฐมไปยังสระบุรี แล้วพอเช้าวันที่ 2 ก็ไปตามนัดหมายที่ได้ตกลงไว้กับ A ตอนประมาณ 10 โมงเช้า เมื่อมาถึงก็เปิดบ้านให้เข้าไปดู Aก็เดินดูบ้านทั้งข้างในและข้างนอก Aก็ตัดสินใจที่จะเช่าบ้าน ซึ่งก่อนหน้านั้นเราได้พูดคุยกับA ถึงรายละเอียดการเข้าอยู่ซึ่งจะต้องวางเงินค่าเช่าล่วงหน้าของเดือนสุดท้าย 5000 บาท และเงินประกันอีก 5000 รวมเป็น 10000 บาท นำมาจ่าย ณ วันที่ทำสัญญาเช่าพร้อมกับนำสำเนาทะเบียนบ้านและบัตรประชาชนมาให้เราด้วย วันนั้นเรานำสัญญาเช่าไปสองฉบับ เป็นฉบับที่ให้ไว้กับเราและA มีเนื้อหาข้อความตรงกันทั้งสองฉบับ ก่อนทำการเซ็นสัญญาเราบอกให้A อ่านก่อนค่อยเซ็น เพราะถ้าเซ็นแล้วถือว่ายอมรับข้อตกลงในสัญญาร่วมกันและเราก็ได้ถาม A ว่าสะดวกจะจ่ายค่าเช่าวันที่เท่าไหร่ Aตอบมาว่าทุกวันที่ 5 ของเดือนหลังจากทำสัญญาเสร็จเราก็ให้กุญแจบ้านและสัญญาหนึ่งฉบับไว้กับA เหตุการณ์ในวันนั้นผ่านไปได้ด้วยดีไม่มีปัญหาอะไรแต่ก่อนที่จะออกมาเราบอก A ว่าถ้ามีปัญหาอะไรให้บอกเราโทรมาที่เบอร์เราหรือจะไลน์มาก็ได้
และแล้วในวันที่ 5 ของเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นวันที่ A ตกลงจะจ่ายค่าเช่าให้เรา ในวันนั้น A เงียบหายไม่มีการติดต่อมาแต่อย่างใด ประมาณวันที่ 8-9 (จำไม่ได้ว่าวันไหน) Aติดต่อมาและบอกว่าเงินเดือนยังไม่ออกมีปัญหานิดหน่อยจะขอเปลี่ยนไปจ่ายวันที่ 10 ของทุกเดือนแทน เราก็เลยบอกไปว่าเดือนนี้ให้ยึดตามสัญญาถ้าจ่ายช้าก็คือมีค่าปรับวันละ 100 บาท แล้วเดือนหน้าจะปรับให้เป็นวันที่ 10 - 12 ของทุกเดือนไม่เกินนี้ A ก็ตกลงไม่ได้ขัดอะไร
เดือนกันยายน เมื่อถึงกำหนดจ่ายค่าเช่า A ก็ติดต่อมาบอกว่าเงินเดือนยังไม่ออกติดเสาร์อาทิตย์ เราเลยบอกไปว่าถ้าจ่ายช้าก็ต้องจ่ายค่าปรับตามสัญญานะคะ ซึ่งในเดือนกันยายน A จ่ายเราช้ามา 1 วัน
เดือนตุลาคม A จ่ายเงินค่าเช่าช้า 3 วัน แต่Aไม่ได้ติดต่ออะไรเรามาเลย มีแต่เราที่ไลน์ไปหาทุกเดือน เดือนนี้เราก็ไลน์ไปหาอีกเหมือนเคยแต่คราวนี้ A ไม่ตอบไลน์ ไม่อ่านไลน์ของเราเลย เราโทรไปหาก็โทรไม่ติด พอวันถัดมาก็มีไลน์เด้งมาบอกว่าจะจ่ายค่าเช่าไม่เกินวันที่ 15 ซึ่งไลน์นี้เป็นของแฟนA เขาก็ขอโทษเราที่เราติดต่อเขาไม่ได้เพราะโทรศัพท์ของAพัง โอเคเราก็เข้าใจไม่ได้ว่าอะไรแต่ก็ต้องทำตามสัญญาที่ตกลงกันไว้คือจ่ายช้าก็ต้องเสียค่าปรับ
เดือนพฤศจิกายน เดือนนี้ A ก็จ่ายเงินเราช้าอีกตามเคยเราไลน์ไปหาแฟนของ A คราวนี้กว่าจะตอบเราก็ข้ามวันข้ามคืน พอถึงวันศุกร์ 11 พฤศจิกายน เรากลับไปที่สระบุรี แต่เราเข้าไปดูบ้านวันที่ 13 พฤศจิกายน ภาพที่เราเห็นมันทำร้ายจิตใจเรามากจริงๆ ในวันนั้น A ไม่อยู่บ้านนะคะมีแต่น้องหมาตัวสีขาวยืนเห่าเราเสียงดังมาก เราโทรหาA แล้วก็ถามว่าอยู่ไหม กลับมาตอนไหนถามถึงเรื่องรั้วบ้านว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ Aก็บอกว่าก็ตอนนั้นที่แจ้งไปว่าประตูรั้วมันเสียจะให้ช่างมาซ่อมเราก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ตอนนั้นเขาไม่ได้บอกหรือถ่ายรูปส่งสภาพรั้วบ้านมาให้เราดูเราก็คิดว่าคงเสียหายเล็กน้อย อันนี้ก็เป็นความไม่รอบคอบของเราเองที่ไม่ถามว่าเสียยังไง
เราเลยปรึกษาแม่เกี่ยวกับเรื่องประตูรั้วบ้านเราและเรื่องการจ่ายเงินช้าของ A แม่เราเลยโทรไปคุยเองช่วงประมาณเที่ยงๆ ตอนนั้นแม่เราอยู่ในช่วงที่ไม่สบายเสียงแม่ไม่ค่อยมีขนาดคุยกับเรายังลำบากเลย แต่แม่เห็นว่าเกินไปแล้วจริงๆจ่ายช้ากันทุกเดือนแถมรั้วบ้านยังเป็นแบบนี้อีก
วันที่ 13 ช่วงบ่ายสองA ก็ได้โทรเข้ามาหาเราแล้วบอกเราว่าจะย้ายออก จะไม่อยู่แล้ว เราก็เลยบอกไปว่า ถ้าอยู่ไม่ครบตามสัญญาจะไม่ได้เงินประกันคืน Aเลยถามว่าไม่ได้คืนซักบาทเลยหรอ เราก็บอกว่าใช่ค่ะ ก็ในสัญญาวันนั้นก็อ่านแล้วใช่ไหมคะ ยังไม่ทันได้พูดอะไรเท่าไหร่เขาก็ตัดสายเราไป
และโทรกลับมาอีกทีเขาก็บอกเราว่าจะย้ายออก ส่วนเรื่องซ่อมรั้วเขาจะรับผิดชอบเอง เราก็เลยถามถึงค่าเช่าบ้านว่าจะจ่ายวันไหนเขาก็บอกว่าไม่เกิน 15 นี้เดี๋ยวจ่ายพร้อมค่าปรับเกินกำหนด
วันที่ 14 พฤศจิกายน A โทรมาหาเราช่วงบ่ายสามโมงครึ่งซึ่งยังเป็นเวลาที่เราเรียนอยู่เราเลยขออาจารย์ออกไปคุยข้างนอก เราคุยกันประมาณครึ่งชั่วโมง เรื่องที่คุยกันก็คือ เรื่องเงิน A ต้องการเงินค่าประกันคืน แต่เราก็บอกไปว่าต้องทำตามสัญญา ถ้าA ต้องการจะย้ายออกจริงๆ Aต้องออกภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายน แล้วต้องจ่ายค่าเช่าของเดือนตุลาคมที่ค้างไว้ก่อน ส่วนเงินค่าเช่าเดือนสุดท้ายA ได้จ่ายมาแล้วตั้งแต่วันทำสัญญา แต่A บอกเราว่าจะไม่จ่ายของเดือนตุลาคม ให้ถือว่าA อยู่ถึงแค่สิ้นเดือนตุลาคม ทางเราและแม่ต้องการให้A จ่ายค่าเช่าเดือนตุลาและซ่อมรั้วบ้านให้เราแล้วAอยู่ได้ถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายน เพราะจริงๆแล้ว A อยู่เดือนพฤษจิกามาแล้วครึ่งเดือนเลยจะให้เดือนพฤศจิกาเป็นเดือนสุดท้าย A ไม่ยอมในข้อตกลงนี้และพูดกับเราว่า "สัญญามันก็แค่ข้ออ้างอ่ะน้อง จริงๆแล้วพี่ควรได้เงินประคืนถ้าบอกล่วงหน้าหนึ่งเดือน" (ขอโทษนะคะ A บอกเราว่าจะออกเมื่อวันที 13 พฤจิกายน แต่พูดคำนี้วันที่ 14 พฤศจิกายน เรางงมาก) เราก็บอกไปว่าต้องทำตามสัญญาจริงๆ Aก็บอกว่าเราไม่มีจิตสำนึกของความเป็นคน และเอากฎหมายมาพูดกับเราว่า ตามกฎหมายไม่มีหรอกสัญญาเช่า 1 ปี มีแต่ 3 เดือน --" เมื่อถึงจุดๆนี้เราเริ่มทนไม่ไหวแล้วจริงๆค่ะ เราพูดยังไงไป A ก็ยังไม่ยอมเราเลยบอกว่าถ้าคุยกันไม่รู้เรื่องก็ไปเจอกันที่โรงพัก Aสวนกลับมาว่าน้องคิดดีๆนะต้องถึงโรงพักเลยหรอ แล้วAก็ตัดสายไปเลย พอช่วงหัวค่ำของวันนั้นเขาไลน์มาบอกว่า ตกลงน้องจะให้พี่ทำยังไง เราก็บอกไปว่าทำตามสัญญาค่ะและเราก็บอกรายละเอียดไปว่าทำยังไงบ้าง เขาก็ตกลงยินยอมที่จะทำตามนั้นและเราก็ได้นัดวันที่จะเข้าไปดูบ้านคือวันที่ 27 พฤศจิกายน Aไม่ได้ปฏิเสธเราแต่อย่างใด Aจ่ายเงินค่าเช่าเราวันที่ 17 พฤศจิกายนค่ะ ซึ่งเกินกำหนดไป 5 วัน เมื่อรวมค่าเช่ากับค่าปรับแล้วเป็นเงิน 5500 บาท แต่Aบอกว่าขอจ่าย 5000 ก่อนแล้วอีก 500 จะให้ทีหลังขอซ่อมประตูก่อน พอวันที่ 22 เราไลน์ไปถามว่าเสาร์อาทิตย์นี้อยู่ไหม เขาตอบกลับมาวันที่ 23 ว่า ทำงานค่ะ เราเลยบอกว่าถ้าจะย้ายออกแล้วรบกวนแจ้งเราล่วงหน้า 2 วัน เพราะเราจะได้เคลียร์ตารางของเราให้ว่าง แล้วพอมาถึงวันที่ 25 พฤศจิกายน เราก็ไลน์ไปบอกว่า หมดเดือนนี้ต้องออกแล้วนะคะ ถ้าจะออกเรื่องค่าน้ำค่าไฟคนเช่าต้องเป็นคนรับผิดชอบ Aตอบกลับมาว่าจะออกพรุ่งนี้ก็คือวันที่ 26 พฤศจิกายน (เราก็อุตส่าห์บอกไปก่อนหน้านั้นแล้วว่าจะออกให้แจ้งก่อน 2 วัน --")แล้วเราก็ถามเขาว่าประตูรั้วซ่อมเสร็จหรือยัง เขาบอกวันที่ 27 พฤศจิกาน้องชายเขาจะเข้ามาทำให้ แล้วก็ได้นัดกับเราว่าวันที่ 27 จะลางานแล้วเข้าไปที่บ้าน และเราก็ถามถึงเงินที่ค้างเราอยู่อีก 500 บาท เขาก็ไม่ตอบเรา ถามรอบที่ 2 ก็ยังไม่ตอบเรา
วันที่ 27 พฤศจิกายน เราเดินทางจากนครปฐมไปสระบุรี เราถึงสระบุรีประมาณ 10 โมงเช้าเราโทรไปหา A แต่ไม่รับสาย เราเลยไลน์ไปถามแล้วคำตอบที่เราได้กลับมาคือ วันนี้ไม่ว่างลางานไม่ได้แล้วน้องชายก็ส่งของอยู่ต่างจังหวัด ณ จุดๆนี้ อึ้งเลยค่ะ เราเลยบอก Aไปว่าถ้าไม่เรียบร้อยก่อนวันที่ 2 ธันวาคม เราจะไปแจ้งความแล้ว Aเลยบอกว่าเราเรื่องเยอะ โอเคค่ะเรายอมรับว่าเราเรื่องเยอะจริงแต่นี่คือบ้านของเราอ่ะ เขาทำเขาก็ต้องรับผิดชอบถูกไหม แล้วด้วยความที่ชอบผิดคำพูดกับเรามาตลอด เราก็ไม่รู้ต้องทำยังไงแล้วจริงๆ วันนั้นเราก็เลยเข้าไปดูบ้าน พบว่า ค่าน้ำค่าไฟค้างจ่าย 2 เดือน มีใบแจ้งตัดมิเตอร์ไฟฟ้ามา ประตูก็ยังไม่มาซ่อม หน้าต่างก็เปิดทิ้งไว้ TT อยากกรี๊ดมาก555 อยากบึ่งไปโรงพักซะตอนนั้นเลย แต่เราก็ให้เวลาเขาอยู่ถึงวันที่ี 2 ธันวา ถ้ายังไม่เรียบร้อยทุกอย่างเราแจ้งความจริงๆแล้วค่ะ
หลังจากวันที่ 27 พ.ย. จนถึงวันนี้ (30 พ.ย. ) เราไลน์ไปไม่เคยตอบอีกเลยค่ะ อ่านนะคะแต่ไม่ตอบ โทรไปก็ตัดสายเราทิ้ง แม่เราโทรไปก็ตัดสายทิ้ง
ปล.1เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นยังไงเดี๋ยวมาเล่าให้ฟังใหม่นะคะ หลังวันท่ี่ 2 ธันวาคม รู้กันค่ะ
ปล.2ถ้าแจ้งความแล้วยังตามให้มาทำไม่ได้เราควรทำยังไงดี
11/5/63 : ลบรูปภาพประกอบ
โอ้โห...คนเช่าบ้าน
ในช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมานี้ มีคนติดต่อเราเข้ามาว่าสนใจอยากจะดูบ้าน (ขอเรียกคนนี้ว่า A นะคะ) แต่เราบอกเขาไปว่าเราจะว่างไปเปิดบ้านให้ดูในวันที่ 2 กรกฎาคม เขาก็ตกลง
วันที่ 1 กรกฎาคมเราก็เลยเดินทางจากนครปฐมไปยังสระบุรี แล้วพอเช้าวันที่ 2 ก็ไปตามนัดหมายที่ได้ตกลงไว้กับ A ตอนประมาณ 10 โมงเช้า เมื่อมาถึงก็เปิดบ้านให้เข้าไปดู Aก็เดินดูบ้านทั้งข้างในและข้างนอก Aก็ตัดสินใจที่จะเช่าบ้าน ซึ่งก่อนหน้านั้นเราได้พูดคุยกับA ถึงรายละเอียดการเข้าอยู่ซึ่งจะต้องวางเงินค่าเช่าล่วงหน้าของเดือนสุดท้าย 5000 บาท และเงินประกันอีก 5000 รวมเป็น 10000 บาท นำมาจ่าย ณ วันที่ทำสัญญาเช่าพร้อมกับนำสำเนาทะเบียนบ้านและบัตรประชาชนมาให้เราด้วย วันนั้นเรานำสัญญาเช่าไปสองฉบับ เป็นฉบับที่ให้ไว้กับเราและA มีเนื้อหาข้อความตรงกันทั้งสองฉบับ ก่อนทำการเซ็นสัญญาเราบอกให้A อ่านก่อนค่อยเซ็น เพราะถ้าเซ็นแล้วถือว่ายอมรับข้อตกลงในสัญญาร่วมกันและเราก็ได้ถาม A ว่าสะดวกจะจ่ายค่าเช่าวันที่เท่าไหร่ Aตอบมาว่าทุกวันที่ 5 ของเดือนหลังจากทำสัญญาเสร็จเราก็ให้กุญแจบ้านและสัญญาหนึ่งฉบับไว้กับA เหตุการณ์ในวันนั้นผ่านไปได้ด้วยดีไม่มีปัญหาอะไรแต่ก่อนที่จะออกมาเราบอก A ว่าถ้ามีปัญหาอะไรให้บอกเราโทรมาที่เบอร์เราหรือจะไลน์มาก็ได้
และแล้วในวันที่ 5 ของเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นวันที่ A ตกลงจะจ่ายค่าเช่าให้เรา ในวันนั้น A เงียบหายไม่มีการติดต่อมาแต่อย่างใด ประมาณวันที่ 8-9 (จำไม่ได้ว่าวันไหน) Aติดต่อมาและบอกว่าเงินเดือนยังไม่ออกมีปัญหานิดหน่อยจะขอเปลี่ยนไปจ่ายวันที่ 10 ของทุกเดือนแทน เราก็เลยบอกไปว่าเดือนนี้ให้ยึดตามสัญญาถ้าจ่ายช้าก็คือมีค่าปรับวันละ 100 บาท แล้วเดือนหน้าจะปรับให้เป็นวันที่ 10 - 12 ของทุกเดือนไม่เกินนี้ A ก็ตกลงไม่ได้ขัดอะไร
เดือนกันยายน เมื่อถึงกำหนดจ่ายค่าเช่า A ก็ติดต่อมาบอกว่าเงินเดือนยังไม่ออกติดเสาร์อาทิตย์ เราเลยบอกไปว่าถ้าจ่ายช้าก็ต้องจ่ายค่าปรับตามสัญญานะคะ ซึ่งในเดือนกันยายน A จ่ายเราช้ามา 1 วัน
เดือนตุลาคม A จ่ายเงินค่าเช่าช้า 3 วัน แต่Aไม่ได้ติดต่ออะไรเรามาเลย มีแต่เราที่ไลน์ไปหาทุกเดือน เดือนนี้เราก็ไลน์ไปหาอีกเหมือนเคยแต่คราวนี้ A ไม่ตอบไลน์ ไม่อ่านไลน์ของเราเลย เราโทรไปหาก็โทรไม่ติด พอวันถัดมาก็มีไลน์เด้งมาบอกว่าจะจ่ายค่าเช่าไม่เกินวันที่ 15 ซึ่งไลน์นี้เป็นของแฟนA เขาก็ขอโทษเราที่เราติดต่อเขาไม่ได้เพราะโทรศัพท์ของAพัง โอเคเราก็เข้าใจไม่ได้ว่าอะไรแต่ก็ต้องทำตามสัญญาที่ตกลงกันไว้คือจ่ายช้าก็ต้องเสียค่าปรับ
เดือนพฤศจิกายน เดือนนี้ A ก็จ่ายเงินเราช้าอีกตามเคยเราไลน์ไปหาแฟนของ A คราวนี้กว่าจะตอบเราก็ข้ามวันข้ามคืน พอถึงวันศุกร์ 11 พฤศจิกายน เรากลับไปที่สระบุรี แต่เราเข้าไปดูบ้านวันที่ 13 พฤศจิกายน ภาพที่เราเห็นมันทำร้ายจิตใจเรามากจริงๆ ในวันนั้น A ไม่อยู่บ้านนะคะมีแต่น้องหมาตัวสีขาวยืนเห่าเราเสียงดังมาก เราโทรหาA แล้วก็ถามว่าอยู่ไหม กลับมาตอนไหนถามถึงเรื่องรั้วบ้านว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ Aก็บอกว่าก็ตอนนั้นที่แจ้งไปว่าประตูรั้วมันเสียจะให้ช่างมาซ่อมเราก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ตอนนั้นเขาไม่ได้บอกหรือถ่ายรูปส่งสภาพรั้วบ้านมาให้เราดูเราก็คิดว่าคงเสียหายเล็กน้อย อันนี้ก็เป็นความไม่รอบคอบของเราเองที่ไม่ถามว่าเสียยังไง
เราเลยปรึกษาแม่เกี่ยวกับเรื่องประตูรั้วบ้านเราและเรื่องการจ่ายเงินช้าของ A แม่เราเลยโทรไปคุยเองช่วงประมาณเที่ยงๆ ตอนนั้นแม่เราอยู่ในช่วงที่ไม่สบายเสียงแม่ไม่ค่อยมีขนาดคุยกับเรายังลำบากเลย แต่แม่เห็นว่าเกินไปแล้วจริงๆจ่ายช้ากันทุกเดือนแถมรั้วบ้านยังเป็นแบบนี้อีก
วันที่ 13 ช่วงบ่ายสองA ก็ได้โทรเข้ามาหาเราแล้วบอกเราว่าจะย้ายออก จะไม่อยู่แล้ว เราก็เลยบอกไปว่า ถ้าอยู่ไม่ครบตามสัญญาจะไม่ได้เงินประกันคืน Aเลยถามว่าไม่ได้คืนซักบาทเลยหรอ เราก็บอกว่าใช่ค่ะ ก็ในสัญญาวันนั้นก็อ่านแล้วใช่ไหมคะ ยังไม่ทันได้พูดอะไรเท่าไหร่เขาก็ตัดสายเราไป
และโทรกลับมาอีกทีเขาก็บอกเราว่าจะย้ายออก ส่วนเรื่องซ่อมรั้วเขาจะรับผิดชอบเอง เราก็เลยถามถึงค่าเช่าบ้านว่าจะจ่ายวันไหนเขาก็บอกว่าไม่เกิน 15 นี้เดี๋ยวจ่ายพร้อมค่าปรับเกินกำหนด
วันที่ 14 พฤศจิกายน A โทรมาหาเราช่วงบ่ายสามโมงครึ่งซึ่งยังเป็นเวลาที่เราเรียนอยู่เราเลยขออาจารย์ออกไปคุยข้างนอก เราคุยกันประมาณครึ่งชั่วโมง เรื่องที่คุยกันก็คือ เรื่องเงิน A ต้องการเงินค่าประกันคืน แต่เราก็บอกไปว่าต้องทำตามสัญญา ถ้าA ต้องการจะย้ายออกจริงๆ Aต้องออกภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายน แล้วต้องจ่ายค่าเช่าของเดือนตุลาคมที่ค้างไว้ก่อน ส่วนเงินค่าเช่าเดือนสุดท้ายA ได้จ่ายมาแล้วตั้งแต่วันทำสัญญา แต่A บอกเราว่าจะไม่จ่ายของเดือนตุลาคม ให้ถือว่าA อยู่ถึงแค่สิ้นเดือนตุลาคม ทางเราและแม่ต้องการให้A จ่ายค่าเช่าเดือนตุลาและซ่อมรั้วบ้านให้เราแล้วAอยู่ได้ถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายน เพราะจริงๆแล้ว A อยู่เดือนพฤษจิกามาแล้วครึ่งเดือนเลยจะให้เดือนพฤศจิกาเป็นเดือนสุดท้าย A ไม่ยอมในข้อตกลงนี้และพูดกับเราว่า "สัญญามันก็แค่ข้ออ้างอ่ะน้อง จริงๆแล้วพี่ควรได้เงินประคืนถ้าบอกล่วงหน้าหนึ่งเดือน" (ขอโทษนะคะ A บอกเราว่าจะออกเมื่อวันที 13 พฤจิกายน แต่พูดคำนี้วันที่ 14 พฤศจิกายน เรางงมาก) เราก็บอกไปว่าต้องทำตามสัญญาจริงๆ Aก็บอกว่าเราไม่มีจิตสำนึกของความเป็นคน และเอากฎหมายมาพูดกับเราว่า ตามกฎหมายไม่มีหรอกสัญญาเช่า 1 ปี มีแต่ 3 เดือน --" เมื่อถึงจุดๆนี้เราเริ่มทนไม่ไหวแล้วจริงๆค่ะ เราพูดยังไงไป A ก็ยังไม่ยอมเราเลยบอกว่าถ้าคุยกันไม่รู้เรื่องก็ไปเจอกันที่โรงพัก Aสวนกลับมาว่าน้องคิดดีๆนะต้องถึงโรงพักเลยหรอ แล้วAก็ตัดสายไปเลย พอช่วงหัวค่ำของวันนั้นเขาไลน์มาบอกว่า ตกลงน้องจะให้พี่ทำยังไง เราก็บอกไปว่าทำตามสัญญาค่ะและเราก็บอกรายละเอียดไปว่าทำยังไงบ้าง เขาก็ตกลงยินยอมที่จะทำตามนั้นและเราก็ได้นัดวันที่จะเข้าไปดูบ้านคือวันที่ 27 พฤศจิกายน Aไม่ได้ปฏิเสธเราแต่อย่างใด Aจ่ายเงินค่าเช่าเราวันที่ 17 พฤศจิกายนค่ะ ซึ่งเกินกำหนดไป 5 วัน เมื่อรวมค่าเช่ากับค่าปรับแล้วเป็นเงิน 5500 บาท แต่Aบอกว่าขอจ่าย 5000 ก่อนแล้วอีก 500 จะให้ทีหลังขอซ่อมประตูก่อน พอวันที่ 22 เราไลน์ไปถามว่าเสาร์อาทิตย์นี้อยู่ไหม เขาตอบกลับมาวันที่ 23 ว่า ทำงานค่ะ เราเลยบอกว่าถ้าจะย้ายออกแล้วรบกวนแจ้งเราล่วงหน้า 2 วัน เพราะเราจะได้เคลียร์ตารางของเราให้ว่าง แล้วพอมาถึงวันที่ 25 พฤศจิกายน เราก็ไลน์ไปบอกว่า หมดเดือนนี้ต้องออกแล้วนะคะ ถ้าจะออกเรื่องค่าน้ำค่าไฟคนเช่าต้องเป็นคนรับผิดชอบ Aตอบกลับมาว่าจะออกพรุ่งนี้ก็คือวันที่ 26 พฤศจิกายน (เราก็อุตส่าห์บอกไปก่อนหน้านั้นแล้วว่าจะออกให้แจ้งก่อน 2 วัน --")แล้วเราก็ถามเขาว่าประตูรั้วซ่อมเสร็จหรือยัง เขาบอกวันที่ 27 พฤศจิกาน้องชายเขาจะเข้ามาทำให้ แล้วก็ได้นัดกับเราว่าวันที่ 27 จะลางานแล้วเข้าไปที่บ้าน และเราก็ถามถึงเงินที่ค้างเราอยู่อีก 500 บาท เขาก็ไม่ตอบเรา ถามรอบที่ 2 ก็ยังไม่ตอบเรา
วันที่ 27 พฤศจิกายน เราเดินทางจากนครปฐมไปสระบุรี เราถึงสระบุรีประมาณ 10 โมงเช้าเราโทรไปหา A แต่ไม่รับสาย เราเลยไลน์ไปถามแล้วคำตอบที่เราได้กลับมาคือ วันนี้ไม่ว่างลางานไม่ได้แล้วน้องชายก็ส่งของอยู่ต่างจังหวัด ณ จุดๆนี้ อึ้งเลยค่ะ เราเลยบอก Aไปว่าถ้าไม่เรียบร้อยก่อนวันที่ 2 ธันวาคม เราจะไปแจ้งความแล้ว Aเลยบอกว่าเราเรื่องเยอะ โอเคค่ะเรายอมรับว่าเราเรื่องเยอะจริงแต่นี่คือบ้านของเราอ่ะ เขาทำเขาก็ต้องรับผิดชอบถูกไหม แล้วด้วยความที่ชอบผิดคำพูดกับเรามาตลอด เราก็ไม่รู้ต้องทำยังไงแล้วจริงๆ วันนั้นเราก็เลยเข้าไปดูบ้าน พบว่า ค่าน้ำค่าไฟค้างจ่าย 2 เดือน มีใบแจ้งตัดมิเตอร์ไฟฟ้ามา ประตูก็ยังไม่มาซ่อม หน้าต่างก็เปิดทิ้งไว้ TT อยากกรี๊ดมาก555 อยากบึ่งไปโรงพักซะตอนนั้นเลย แต่เราก็ให้เวลาเขาอยู่ถึงวันที่ี 2 ธันวา ถ้ายังไม่เรียบร้อยทุกอย่างเราแจ้งความจริงๆแล้วค่ะ
หลังจากวันที่ 27 พ.ย. จนถึงวันนี้ (30 พ.ย. ) เราไลน์ไปไม่เคยตอบอีกเลยค่ะ อ่านนะคะแต่ไม่ตอบ โทรไปก็ตัดสายเราทิ้ง แม่เราโทรไปก็ตัดสายทิ้ง
ปล.1เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นยังไงเดี๋ยวมาเล่าให้ฟังใหม่นะคะ หลังวันท่ี่ 2 ธันวาคม รู้กันค่ะ
ปล.2ถ้าแจ้งความแล้วยังตามให้มาทำไม่ได้เราควรทำยังไงดี
11/5/63 : ลบรูปภาพประกอบ