จากขาดทุนหุ้นเกือบ 50% แล้วกลับมาเป็นบวก

สวัสดีครับ ผมเป็นมนุษย์เงินเดือนคนหนึ่งที่เริ่มลงทุนเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว ที่เริ่มลงทุนเนื่องจากทำงานประจำมานานไม่มีเงินเก็บเลย เสียภาษีก็เยอะขึ้นเรื่อย ๆ จนมาเจอว่า LTF สามารถลดหย่อนภาษีได้ ก็เลยทุนก้อนเล็ก ๆ แบบงู ๆ ปลาๆ เลือกกองตามที่เค้าฮิต เค้าแนะนำกัน (สมัยนั้นเป็นธนาคารสีเขียว) ลงไปไม่มาก

               ต่อมาได้ย้ายที่ทำงาน และได้ไปเทรนงานที่ญี่ปุ่น ตกเย็นก็ไม่มีอะไรทำ เพื่อนคนญี่ปุ่นทำโอทีกัน เราโอฟรีก็กลับหอสิคร๊าบบบบ  ว่างมากก็เลยอยากรู้ว่า LTF เค้าเอาเงินเราไปทำอะไร จึงเข้าไปดูที่เวปไซด์ของธนาคารที่เราซื้อ LTF ไว้   จึงทำให้รู้ว่า อ๋อออออ เอาไปลงทุนหุ้นนี่เอง เค้าก็จะบอกว่า 5 ตัวแรกที่ถือเยอะที่สุด คือ ตัวอะไรบ้าง ตอนนั้นก็ตื่นเต้นที่เราได้เป็นเจ้าของบริษัทใหญ่ ๆ ทั้งนั้นเลย (แต่เงินเรา จ้างพี่ รปภ หรือ พี่แม่บ้าน ไม่ได้สักคน 5555)   ตอนนี้ปี 2013 คนเข้าใหม่ในตลาดหุ้นก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงมีความคิดว่าถ้าเราลงทุนเองละ อาจจะได้เยอะกว่ากองทุนนะ ดูราคากองทุนไม่ค่อยขึ้นเลย (กำลังคิดว่าตัวเองจะเก่งกว่าผู้จัดการกองทุน ทั้งที่ไม่เคยอ่านหนังสือหุ้นสักกะตัว) ตลาดหุ้นก็กำลังหอมหวาน ราคาขึ้นมาเป็นเท่าตัวใช้เวลาเพียง 2-3 ปี งานนี้เรารวยแน่!! นี่แหละครับ จุดเริ่มต้นการเล่นหุ้นของผม

               ตื่นเต้นมากครับ จะรวยแล้ว กลับไทยปุ๊ป รีบไปธนาคารเลย ขอเปิดพอร์ตหุ้นหน่อยคร๊าบบบบบ แล้วกรอกเอกสารหนาเต๊อะ ประมาณ 20-30 หน้า โดยปกติใช้เวลา 1 อาทิตย์ก็ได้รหัสเข้าแล้ว แต่ช่วงนี้ผู้คนถาโถมอยากจะรวยเยอะเหลือเกิน ปาเข้าไป 3 อาทิตย์ เกือบหมดไฟคนจะรวยเลยทีเดียว  ช่วงปีแรกที่เล่นหุ้น ก็ไม่รู้จักสักตัว มองหุ้นใกล้ตัวก่อนนี่แหละ เห็นแปะอยู่รถไฟฟ้ากำลังสร้างไม่ไกลจากบ้าน ซื้อปุ๊ป ลงปั๊ป ขายสิครับ เข้าตัวอื่น ลงอีก ก็ขายอีก นี่มนุษย์เงินเดือนนะ ทำยังกะเดย์เทรด มาร์รักผมมากครับ โทรมาทุกเช้าเลย คุณเข้าตัวนี้สิๆ    เอิ่ม... มันทำอะไรครับ    หรอๆๆ  เครๆๆ  จัดไปครับ  แล้วก็ขาดทุนตามระเบียบ หลังๆแนะนำ DW เลยครับ สงสัยอยากให้ซิ่ง ถือไปอาทิตย์นึง ได้มา 10% (งงอะดิ ใครเค้าถือนานขนาดนั้น) ติดใจเลยทีนี้ เล่นตัวอื่นต่อ  จนมาเจอตัวนึงครับซื้อ 0.5 พอลงมา 0.3 ถูกจัง รอไร จัดเล้ยยยย 0.1 บาท ถูกมาก จัดอีก  จนมันไหล 0.08, 0.07 เอิ่มมมม มันไม่ใช่แล้วครับ ตอนนั้นมอบตัวเลย น้ำตาแทบร่วง ตัวนั้น -70% ได้ ทั้ง ๆ ที่ถัวแล้ว ทุนก็ไปจมอยู่ตัวเดียวอีกต่างหาก



              แต่ผมไม่ยอมแพ้ครับ และสัญญากับตัวเองว่าจะเลิกเล่น DW (เพราะเล่นไม่เป็น แถมไม่รุ้อีกว่า มูลค่ามันลดลงตามเวลา ข้ามวันเมื่อไหร่มูลค่าลดลงทันที จนหมดอายุมูลค่าเป็นศูนย์ ใครจะไปรู้ว่าหุ้นมันบูดได้!! ) [คนรวยจาก DW ก็มีนะ แต่มือใหม่ไม่แนะนำครับ]  มีคนรวยจากหุ้นได้ เราก็ต้องทำได้สิฟร่ะ เติมเงินครับ ถมเข้าไป อย่ายอมแพ้  แล้วผมก็เริ่มเรียนรู้วิชา VI จากอาจารย์ท่านนึง ก็ทำให้รู้ว่ามีวิธีลงทุนแบบนี้ด้วยหรอ ดูงบ ดูอัตราส่วนทางการเงิน อ่ออออ ที่ผ่านมาแมงเม่าช่ายมั้ย นั่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นครับ เพราะไปเจ๊งกับหุ้นปั่นต่อ อันนี้ก็หนักมาก แต่โชคดีที่ยังได้คืนมาบ้างครับ

               หลังจากนั้นผมได้พยายามพัฒนาตนเองอย่างมาก ทั้งอ่านหนังสือเซียนหุ้นหลายคน ฟังสัมมนาฟรี(เสียตังไม่ไป) ฟังคลิปในรถเวลาขับทางไกล (บ้าน กทม ทำงาน ตจว กลับทุกศุกร์) จริงๆแล้วการลงทุน VI ไม่ง่ายนะครับ ผมรู้สึกว่ามันเป็นศิลปะเหมือนกัน เช่น การประเมินมูลค่า หรือการมองเทรนด์ในอนาคต เอาเป็นว่าสุดท้ายเรียนมาแล้วเกือบ 2 ปี ก็เพิ่งจะสามารถหาแนวทางที่เหมาะกับตนเองได้ นั่นคือ หุ้นเติบโต (ระยะสั้น เหมือนจะเก็งกำไร) เพราะผมชอบดูตัวเลข ดูการเติบโต งบออกทุกไตรมาส ดีใจมาก เลิกงานกลับมาบ้าน นั่งเปิดผลประกอบการทุกตัว แล้วเลือกตัวที่น่าสนใจไปแกะงบต่อ ดูข่าวเกี่ยวกับหุ้นตัวนั้นว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง นี่ก็เป็นสไตล์การลงทุนของผมที่จากพอร์ต ติดลบเกือบ 50% กลับมาเป็นบวกได้เมื่อสิ้นเดือน พ.ย. 2016 นี้ นี่เอง

               ซึ่งผมก็เข้าใจดีว่ายังเป็นเพียงระยะสั้น และไม่ได้ผลตอบแทนเยอะเหมือนบางท่าน ผมจะพยายามต่อไปคาดหวังปีละ 15% ทุกปีและก็แบ่งโบนัสมาลงทุนอย่างต่อเนื่อง แค่นี้ก็เพียงพอแล้วครับ เป็นกำลังใจให้ผมผ่าน 0% ไปได้ไกลๆ และตลอดไปด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

ปล. หากเขียนยาวไป ต้องขออภัยด้วยครับ มันส์มือไปหน่อย

30 Nov 2016
TOP Shil20
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่