ชีวิตโดนตัดสินด้วยไลน์

กระทู้คำถาม
ทำไมคนเป็นสามีภรรยาเขาถึงทำกันแบบนี้
ชีวิตเราโดนตัดสินด้วยสื่อสังคมออนไลน์ประเภทหนึ่ง
ทำไมเขาต้องกล่าวหา ดูถูกเรา หมิ่นประมาทเรา หาว่าเราเอาผู้ชายเข้าบ้าน
ตอนท้องอุ้มท้องไปทำงาน ต้องตื่นตั้งแต่ตีห้าทุกวัน นั่งรถเมย์สายชลบุรี - บ่อทอง เกือบ 40 กว่ากิโล แล้วต้องขับมอเตอร์ไซต์เข้าที่ทำงานอีก 6 กิโลจนกระทั้งลาคลอด
ถ้าใครเคยขึ้นรถเมย์สายนี้คงรู้ดีกว่ารถจะมา นั่งรอรถเป็นชั่วโมง บางวันรถน้อยรอไปสองสามชั่วโมง คิดดูคนท้อง สามียังคิด ยังหาว่าเรามีคนอื่น
นั่งรอรถให้เปิดกล้อง เปิดกล้องแล้วหมุนกล้องไปรอบ ๆ ขึ้นรถก็ต้องหมุนกล้องไปรอบ ๆ เปิดแต่กล้องบางวันเปิดกล้องตั้งแต่ขึ้นรถยันลงรถเมย์  คนนั่งข้าง ๆ หรือคนรอรถเป็นผู้ชายก็หาว่าเรานัดเจอกันกับผู้ชาย !!  ทำงานยังต้องเปิดกล้อง!! อยู่บ้านคนเดียวเวลาเขาไม่อยู่เราต้องเปิดกล้องหมุนกล้องทุกซอกทุกมุนของบ้าน เหตุผลของเขาคือเป็นหวงและห่วง แต่มันตรงกันข้ามกับการกระทำ การกระทำของเขาคือการไม่เชื่อใจ ทั้ง ๆ ที่เราก็ท้องไม่เคยมีใครและไม่เคยคิดจะมีใคร กระทั้งคลอด ลาคลอดสามเดือนเลี้ยงลูกอยู่บ้านยังหาว่าเราเอาผู้ชายเข้าบ้านของเขา มาทำงานได้ไม่ถึงอาทิตย์ก็หาว่าเราเอาผู้ชายเข้าบ้านเขา เราเปิดกล้อง เขาแคปรูปจากแอปตัวหนึ่ง ซึ่งรูปมันเบลอเพราะคลื่นไม่สเถียร เบลอจนมองไม่เป็นรูป รูปที่เบลอมันคล้ายกับผู้ชาย แต่ในความเป็นมันคือเราเอง เราไม่เคยพาใครเข้าบ้าน เราไม่เคยมีใคร ด้วยเกียรติลูกผู้หญิงอย่างเรารักครอบครัว แต่สิ่งที่กล่าวหาคือรับไม่ได้ ลูกผู้หญิงรักซื่อสัตย์กับคนคนเดียวแต่โดนกล่าวหาแบบนี้มันน้อยเนื้อต่ำใจมาก ๆ
แต่โดนตัดสินจากรูปที่เบลอ ๆ ที่คลื่นไม่สเถียร..... ครอบครัวมันพังเพราะความไม่เชื่อใจกัน โดนตัดสินจากรูปเบลอ ๆ บอกตามตรงตอนเราท้องและหลังคลอดไม่มีอารมณ์ความต้องการเรื่องแบบนั้นเลยออกไม่ชอบเลย บวกหนังหน้าเราและสารรูปผู้หญิงท้องหรือหลังคลอดคงไม่มีใครเอา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่