สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
ถามจริง ทำไมถึงแต่งงานกันเหรอคะ อะไรดลใจเหรอ ?
เรารู้สึกว่า พวกคุณทั้งสองคน ต่างฝ่ายต่างคิดเล็กคิดน้อยต่อกันเยอะแยะ
และยังมีความคิดแบบ "ตัวใครตัวมัน" อยู่
ถ้าอยู่เป็นครอบครัวเดียวกันคือ
- ไม่ควรรังเกียจที่จะจดทะเบียนสมรส
- ไม่ควรทำอะไรแล้วไม่บอก
- มีอะไรควรแบ่งให้เท่าๆกัน
- ไม่ควรไม่ชัดเจนเรื่องเงินๆทองๆ ทำอะไรคือบอกกันบ้างอะไรบ้าง
เราว่าคู่คุณเหมือนจะแต่งกันทำไมก็ไม่รู้อะ แต่งไปสภาพก็ไม่ได้ต่างจากตอนคบกัน
เรารู้สึกว่า พวกคุณทั้งสองคน ต่างฝ่ายต่างคิดเล็กคิดน้อยต่อกันเยอะแยะ
และยังมีความคิดแบบ "ตัวใครตัวมัน" อยู่
ถ้าอยู่เป็นครอบครัวเดียวกันคือ
- ไม่ควรรังเกียจที่จะจดทะเบียนสมรส
- ไม่ควรทำอะไรแล้วไม่บอก
- มีอะไรควรแบ่งให้เท่าๆกัน
- ไม่ควรไม่ชัดเจนเรื่องเงินๆทองๆ ทำอะไรคือบอกกันบ้างอะไรบ้าง
เราว่าคู่คุณเหมือนจะแต่งกันทำไมก็ไม่รู้อะ แต่งไปสภาพก็ไม่ได้ต่างจากตอนคบกัน
ความคิดเห็นที่ 7
ต่างคนต่างยังเห็นแก่ตัว
แล้วเรื่องงานแต่งอะไรทั้งหลาย ตกลงกันไว้ว่ายังไงเหรอคะ
สินสอดนี่ได้ตกลงกันไหมว่าจะคืน แล้วฝ่ายไหนเป็นคนออกเงินจัดงาน
บางบ้านฝ่ายหญิงเขาจัดงาน และตามกฎหมายนี่สินสอดมันเป็นของทางฝ่ายหญิงเขานะคะ
ถ้าคุณไม่ได้ตกลงอะไรกันไว้ก่อนให้ชัดเจนว่าจะคืน จะให้มาทำทุน อยู่ๆไปขอเขาไปถามเขาจะเอาคืน เขาอาจจะโกรธเอาได้
แล้วทองที่แม่คุณเก็บไว้อีก ในเมื่อมันควรจะเป็นของฝ่ายหญิง แต่แม่คุณดันเก็บ ฝ่ายนั้นเขาก็อาจจะเริ่มคิด
เลยทำให้เริ่มไม่ชอบใจ เริ่มระหองระแหงกันอย่างที่เป็นอยู่
คุณก็คิด เขาก็คิด ในใจเริ่มรู้สึกรังเกียจกันและกัน(ไม่ให้ยุ่งกับข้างของส่วนตัว ถามเรื่องเงินมีปัญหาทันที)
เราไม่เห็นด้วยกับเรื่องสินสอดนะ
แต่เมื่อคุณไม่ได้ตกลงอะไรกับเขาไว้ให้ชัดเจน อยู่ๆจะมาขอคืนพอไม่ได้จะมาว่าเขา เราว่ามันก็ไม่โอเคเท่าไร
แล้วเรื่องงานแต่งอะไรทั้งหลาย ตกลงกันไว้ว่ายังไงเหรอคะ
สินสอดนี่ได้ตกลงกันไหมว่าจะคืน แล้วฝ่ายไหนเป็นคนออกเงินจัดงาน
บางบ้านฝ่ายหญิงเขาจัดงาน และตามกฎหมายนี่สินสอดมันเป็นของทางฝ่ายหญิงเขานะคะ
ถ้าคุณไม่ได้ตกลงอะไรกันไว้ก่อนให้ชัดเจนว่าจะคืน จะให้มาทำทุน อยู่ๆไปขอเขาไปถามเขาจะเอาคืน เขาอาจจะโกรธเอาได้
แล้วทองที่แม่คุณเก็บไว้อีก ในเมื่อมันควรจะเป็นของฝ่ายหญิง แต่แม่คุณดันเก็บ ฝ่ายนั้นเขาก็อาจจะเริ่มคิด
เลยทำให้เริ่มไม่ชอบใจ เริ่มระหองระแหงกันอย่างที่เป็นอยู่
คุณก็คิด เขาก็คิด ในใจเริ่มรู้สึกรังเกียจกันและกัน(ไม่ให้ยุ่งกับข้างของส่วนตัว ถามเรื่องเงินมีปัญหาทันที)
เราไม่เห็นด้วยกับเรื่องสินสอดนะ
แต่เมื่อคุณไม่ได้ตกลงอะไรกับเขาไว้ให้ชัดเจน อยู่ๆจะมาขอคืนพอไม่ได้จะมาว่าเขา เราว่ามันก็ไม่โอเคเท่าไร
ความคิดเห็นที่ 29
จบชีวิต ลาก๋อย
สำหรับคนที่บอกว่า "คิดเล็กคิดน้อยเกินไป" ผมตอบสั้นๆ นะ
มันไม่ใช่ชีวิตพวกคุณไง เลยพูดได้
ไหงไม่ไปช่วยเขาละ สักแต่พูด ปะ
ความเห็นแก่ตัว มันมีอยู่ในทุกคน แต่ สามี หรือ ภรรยา ใครจะมีมากกว่าเท่านั้น
กรณีคุณ เล่าแค่นี้ ตีความไม่หมด ผมจะตอบแค่การฟังความจากคุณเท่านั้น
จาก STORY คุณ ภรรยาคุณ เห็นแก่ตัว แสร่..................ด
ทำไมนะหรือ
1. ไม่จดทะเบียนสมรส และ ซื้อทรัพยในนามตัวเอง
กรณีนี้ ถ้าฟ้องร้อง ตาม กฏหมาย คุณแพ้ทันที เวลาเลิกกัน คุณเหลือแต่ตัวเปล่า ๆ
แต่ ศาลจะรับพิจารณาได้ว่า คุณร่วมกันทำมาหาได้ เท่ากับว่า คุณ "ต้องผ่อน" เพื่อเอาสิทธิ์ในทรัพย์ตัวนี้ ผ่อนแล้วเก็บสลิปชื่อคุณด้วยละ
2. กรณี รถ อยากมีสิทธิ ก็ไปช่วยผ่อน ผ่อนแล้วเก็บสลิปชื่อคุณด้วยละ
ผมไม่รู้คุณจะอยู่ด้วยกันนานแค่ไหน แต่ขอให้อยู่ด้วยกันตลอดไป
ในคำแนะนำของผมนั้น "กันเหนียวไว้" พึ่งปฎิบัติซะ ทรัพยทุกชิ้น ควรมีส่วนร่วม
ส่วนคุณเขาให้มา เก้าหมื่นลงทุน
คุณ สร้างผลประกอบการให้เขาเห็นประสิทธิภาพแล้วยังละ
โลก มันไม่ได้สวยอย่างที่ คุณคิดหรอกนะ
แต่งงานกัน แล้ว ควรช่วยกันสร้างครอบครัว ให้ดี เวลามีลูกจะได้ ส่งให้เขาดีๆ
เป็นสามี แทนที่จะเป็นผู้นำ เอ้อ....ไปเป็นผู้ตามหรือป่าวนี่
เป็นภรรยา แทนที่จะให้เกียรติ สามี ดันทำตัวด้อยค่า
http://www.decha.com/main/showTopic.php?id=3892
สำหรับคนที่บอกว่า "คิดเล็กคิดน้อยเกินไป" ผมตอบสั้นๆ นะ
มันไม่ใช่ชีวิตพวกคุณไง เลยพูดได้
ไหงไม่ไปช่วยเขาละ สักแต่พูด ปะ
ความเห็นแก่ตัว มันมีอยู่ในทุกคน แต่ สามี หรือ ภรรยา ใครจะมีมากกว่าเท่านั้น
กรณีคุณ เล่าแค่นี้ ตีความไม่หมด ผมจะตอบแค่การฟังความจากคุณเท่านั้น
จาก STORY คุณ ภรรยาคุณ เห็นแก่ตัว แสร่..................ด
ทำไมนะหรือ
1. ไม่จดทะเบียนสมรส และ ซื้อทรัพยในนามตัวเอง
กรณีนี้ ถ้าฟ้องร้อง ตาม กฏหมาย คุณแพ้ทันที เวลาเลิกกัน คุณเหลือแต่ตัวเปล่า ๆ
แต่ ศาลจะรับพิจารณาได้ว่า คุณร่วมกันทำมาหาได้ เท่ากับว่า คุณ "ต้องผ่อน" เพื่อเอาสิทธิ์ในทรัพย์ตัวนี้ ผ่อนแล้วเก็บสลิปชื่อคุณด้วยละ
2. กรณี รถ อยากมีสิทธิ ก็ไปช่วยผ่อน ผ่อนแล้วเก็บสลิปชื่อคุณด้วยละ
ผมไม่รู้คุณจะอยู่ด้วยกันนานแค่ไหน แต่ขอให้อยู่ด้วยกันตลอดไป
ในคำแนะนำของผมนั้น "กันเหนียวไว้" พึ่งปฎิบัติซะ ทรัพยทุกชิ้น ควรมีส่วนร่วม
ส่วนคุณเขาให้มา เก้าหมื่นลงทุน
คุณ สร้างผลประกอบการให้เขาเห็นประสิทธิภาพแล้วยังละ
โลก มันไม่ได้สวยอย่างที่ คุณคิดหรอกนะ
แต่งงานกัน แล้ว ควรช่วยกันสร้างครอบครัว ให้ดี เวลามีลูกจะได้ ส่งให้เขาดีๆ
เป็นสามี แทนที่จะเป็นผู้นำ เอ้อ....ไปเป็นผู้ตามหรือป่าวนี่
เป็นภรรยา แทนที่จะให้เกียรติ สามี ดันทำตัวด้อยค่า
http://www.decha.com/main/showTopic.php?id=3892
แสดงความคิดเห็น
ผมเป็นคนคิดมากไปเอง หรือเมียผมไม่ดี หรือผมคือคนที่ไม่ดี จะได้ปรับปรุงตัว
เรื่องที่ทำให้ผมติดใจมาตลอดหลังจากแต่งงานมาก็คือ
1.เงินรับไหว้เงินซองวันแต่งงานเช้า ฝ่ายเจ้าสาวเอาไปหมด ผมไม่เห็นแม้แต่ซอง คุยกันละทะเลาะกันรุนแรงตลอดเลิกคุย
2.เงินซองวันเลี้ยงตอนกลางคืน(เลี้ยงสองวัน สองที่ สองจังหวัด)ผมก็เห็นตอนนับ แต่ก็ไม่เคยได้สัมผัส
3.เงินสินสอด สามแสน เธอแบ่งมาให้ 1 แสนผมเอามาทำธุรกิจ(จริงๆได้มาแค่เก้าหมื่นด้วยซ้ำ) ฝ่ายเจ้าสาวไม่มีให้เพิ่ม
4.เงินสองแสนเราไม่รู้ว่าเธอเอาไปทำไรบ้างไม่เคยบอก แต่ที่รู้แน่ๆคือไปดาวว์คอนโด เธอผ่อนเอง เราไม่ได้ช่วย
5.ทอง 5 บาทเธอเอาไปขาย ตอนแรกแม่เราเก็บไว้ให้ แต่วันที่เธอไปบอกขอทองจากแม่เรา (เรามารู้ตอนหลัง) เรื่องนี้ทำให้ทะเลาะกันรุนแรงมากๆ เกือบจะเลิกกันแล้ว แต่ไม่รู้ด้วยความรักหรือหลง เรากลับเป็นคนต้องง้อเธออีกครั้ง ซึ่งยอม ช่าง
6.สิ่งที่เราทำได้และดูแลคือ วันอาทิตย์เราจะพาเธอไปกินอาหารดีๆทุกอาทิตย์ เราไม่ได้อยู่ด้วยกันทุกวัน
7.เธอไม่ให้เราจับโทรศัพท์เลย ถ้าเราจับโทรศัพท์ เธอมาดูเธอจะโกรธ แบบมากๆๆ แบบโคตรโกรธเลย จนเราชอบคิดไปเองว่า มีชู้ป่าวว่ะ
8.เรายังไม่ได้จดทะเบียน และเธอก็ไม่คิดจะจดด้วย
9.เธอทำงานเองหาเงินเองได้ เราก็ทำงานหาเงินเองได้
อยากถามเพื่อนๆว่าเราควรช่วยเธอผ่อนรถหรือคอนโดไหม หรือไม่ต้อง(เธอไม่เคยเอ่ยปากให้ช่วย) เราไปนอนแค่วันเสาว์ อาทิตย์