สวัสดีค่ะเพื่อนๆทุกท่าน
ขอเริ่มเลยแล้วกันค่ะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาของทุกท่าน จากกระทู้คำถาม"เลิกจ้าง"ได้เงินชดเชย คงไม่มีใครอยากจบแบบนี้ใช่มั้ยค่ะ?
แน่นอนค่ะ เป็นประสบการณ์ตรงที่เกิดขึ้นกับฉันเอง และครั้งนี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรกเสียด้วย ถ้าจะถามว่าอยากจบแบบนี้มั้ย? ฉันเองก็ไม่อยากเจออะไรแบบนี้ แต่เนื่องด้วยการถูกเลิกจ้างนั้น เป็นเพราะนายจ้างเอง หรือบริษัทเองที่ไม่สามารถดำเนินกิจการหรือธุรกิจต่อไปได้ เนื่องจากขาดสภาวะคล่องตัวทางเศรษฐกิจ...
นั่นละค่ะ "ใจเขา ใจเรา" แต่เราก็ยังถือว่ามีความโชคดีอยู่เหมือนกัน ซึ่งถ้าเปรียบเทียบในบางกรณีของหลายๆคนที่ไม่ได้อะไรจากการถูก"เลิกจ้าง"
ด้วยความที่เราเจอแต่นายจ้างดีๆ หรือนายจ้างที่มีความรับผิดชอบนั่นเอง เราทำงานที่บริษัทนี้ได้ 1 ปีครึ่ง ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องสำอางแบรนด์หนึ่ง
เมื่อถึงเวลาที่ต้องถูกเลิกจ้าง บริษัทได้จ่ายเงินชดเชยให้เรา จำนวน 3 เดือน เพื่อเป็นทุนในการหางานใหม่ หรือเป็นทุนชีวิตช่วงที่ว่างงานนั่นละค่ะ
ถามว่าโอเคมั้ย? ถ้าเราไม่ตั้งครรภ์ใกล้คลอด ก็คงดีเพราะถึงอย่างไรก็สามารถหางานใหม่ทำได้ เราตั้งครรภ์ได้ 8 เดือนแล้ว เลยเหมือนมันผกผันไปหมด จะหางานใหม่ทำ ก็คงไม่มีที่ไหนรับคนท้องเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว แต่ปัญหาคือ เงินก้อนนี้จะพอประทังชีวิตเราและครอบครัวเราได้นานแค่ไหน เรามีลูกสาวแล้ว 1 คน 5 ขวบกว่าๆ ตอนนี้เราก็อยู่บ้านสามี มีพ่อแม่สามีอยู่ด้วย แต่ยังดีที่สามีทำงานอยู่ไม่ได้โดนเทเหมือนเรา TT
ตอนนี้เราอาจจะคิดเยอะ คิดมากมาย หลายเรื่อง แต่เราเชื่อว่าถ้าเป็นใครมาเจอแบบเราก็คงต้องมีเรื่องให้คิด เราคิดได้ แต่เราพูดกับใครไม่ได้ ขอบคุณพื้นที่ตรงนี้มากๆๆๆ มันทำให้เราแชร์ความรู้สึกผ่านตัวหนังสือถ่ายทอดเป็นเรื่องราว โดยที่ไม่กระทบกับคนที่อยู่รอบข้าง (ถ้าเค้าไม่บังเอิญมาอ่านเจอ) อ้อ ลืมบอกเรื่องที่ถูกเลิกจ้างไม่ใช่ครั้งแรก ถูกค่ะเพราะก่อนที่เราจะมาทำบริษัทนี้ เราก็ถูกเลิกจ้างมาเหมือนกัน เป็นร้านCAFE' กาแฟ เราเป็นบาริสต้า แต่ร้านต้องปิดไป เพราะเหตุผลส่วนตัวของเจ้านาย ตอนนั้นเราก็ทำงานที่นั่นได้ ปีกว่าเหมือนกัน แล้วนายก็จ่ายค่าชดเชยให้ 3 เดือน เฮ้ยยยย...
บางทีมันก็อดคิดไม่ได้ว่า " ทำไมเราทำงานที่ไหนก็ปิด โดนเลิกจ้าง " แหม..ใช่เราคิดคนเดียวที่ไหนกัน พ่อแม่สามีเรายังพูดเสมอเลย ว่าเราทำงานที่ไหนก็ปิด มันเป็นเพราะอะไร (แอบเศร้า หรือเรามันตัวซ ว ย)
เดี๋ยวมาต่อ Part 2 น่ะค่ะ...
"เลิกจ้าง"ได้เงินชดเชย คงไม่มีใครอยากจบแบบนี้ใช่มั้ยค่ะ?
ขอเริ่มเลยแล้วกันค่ะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาของทุกท่าน จากกระทู้คำถาม"เลิกจ้าง"ได้เงินชดเชย คงไม่มีใครอยากจบแบบนี้ใช่มั้ยค่ะ?
แน่นอนค่ะ เป็นประสบการณ์ตรงที่เกิดขึ้นกับฉันเอง และครั้งนี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรกเสียด้วย ถ้าจะถามว่าอยากจบแบบนี้มั้ย? ฉันเองก็ไม่อยากเจออะไรแบบนี้ แต่เนื่องด้วยการถูกเลิกจ้างนั้น เป็นเพราะนายจ้างเอง หรือบริษัทเองที่ไม่สามารถดำเนินกิจการหรือธุรกิจต่อไปได้ เนื่องจากขาดสภาวะคล่องตัวทางเศรษฐกิจ...
นั่นละค่ะ "ใจเขา ใจเรา" แต่เราก็ยังถือว่ามีความโชคดีอยู่เหมือนกัน ซึ่งถ้าเปรียบเทียบในบางกรณีของหลายๆคนที่ไม่ได้อะไรจากการถูก"เลิกจ้าง"
ด้วยความที่เราเจอแต่นายจ้างดีๆ หรือนายจ้างที่มีความรับผิดชอบนั่นเอง เราทำงานที่บริษัทนี้ได้ 1 ปีครึ่ง ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องสำอางแบรนด์หนึ่ง
เมื่อถึงเวลาที่ต้องถูกเลิกจ้าง บริษัทได้จ่ายเงินชดเชยให้เรา จำนวน 3 เดือน เพื่อเป็นทุนในการหางานใหม่ หรือเป็นทุนชีวิตช่วงที่ว่างงานนั่นละค่ะ
ถามว่าโอเคมั้ย? ถ้าเราไม่ตั้งครรภ์ใกล้คลอด ก็คงดีเพราะถึงอย่างไรก็สามารถหางานใหม่ทำได้ เราตั้งครรภ์ได้ 8 เดือนแล้ว เลยเหมือนมันผกผันไปหมด จะหางานใหม่ทำ ก็คงไม่มีที่ไหนรับคนท้องเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว แต่ปัญหาคือ เงินก้อนนี้จะพอประทังชีวิตเราและครอบครัวเราได้นานแค่ไหน เรามีลูกสาวแล้ว 1 คน 5 ขวบกว่าๆ ตอนนี้เราก็อยู่บ้านสามี มีพ่อแม่สามีอยู่ด้วย แต่ยังดีที่สามีทำงานอยู่ไม่ได้โดนเทเหมือนเรา TT
ตอนนี้เราอาจจะคิดเยอะ คิดมากมาย หลายเรื่อง แต่เราเชื่อว่าถ้าเป็นใครมาเจอแบบเราก็คงต้องมีเรื่องให้คิด เราคิดได้ แต่เราพูดกับใครไม่ได้ ขอบคุณพื้นที่ตรงนี้มากๆๆๆ มันทำให้เราแชร์ความรู้สึกผ่านตัวหนังสือถ่ายทอดเป็นเรื่องราว โดยที่ไม่กระทบกับคนที่อยู่รอบข้าง (ถ้าเค้าไม่บังเอิญมาอ่านเจอ) อ้อ ลืมบอกเรื่องที่ถูกเลิกจ้างไม่ใช่ครั้งแรก ถูกค่ะเพราะก่อนที่เราจะมาทำบริษัทนี้ เราก็ถูกเลิกจ้างมาเหมือนกัน เป็นร้านCAFE' กาแฟ เราเป็นบาริสต้า แต่ร้านต้องปิดไป เพราะเหตุผลส่วนตัวของเจ้านาย ตอนนั้นเราก็ทำงานที่นั่นได้ ปีกว่าเหมือนกัน แล้วนายก็จ่ายค่าชดเชยให้ 3 เดือน เฮ้ยยยย...
บางทีมันก็อดคิดไม่ได้ว่า " ทำไมเราทำงานที่ไหนก็ปิด โดนเลิกจ้าง " แหม..ใช่เราคิดคนเดียวที่ไหนกัน พ่อแม่สามีเรายังพูดเสมอเลย ว่าเราทำงานที่ไหนก็ปิด มันเป็นเพราะอะไร (แอบเศร้า หรือเรามันตัวซ ว ย)
เดี๋ยวมาต่อ Part 2 น่ะค่ะ...