ไปเลย เชียงคาน กางเต้นท์กัน ( 2 วัน 1 คืน )


มีอีก1 ประสบการ์ การเดินทางมาเล่าสู่กันฟังครับ   เปิดทริปรับลมหนาว ในแก๊งคืเพื่อนๆ เลยนึกถึงอยู่หลายที่ จนสุดท้ายมาสรุปที่ เชียงคานเพราะ ยังไม่เคยไป และติดแม่น้ำโขง ด้วย ดูเป็นเมืองชิวๆสงบๆดี   ว่าแล้วก็ป่ะ ไปกันเลย  
เราวางแพลนกันไว้คร่าวๆว่า จะออกเดินทางจาก กทม ในคืนวันศุกร์ ช่วง เที่ยงคืน เพราะต้องใช้เวลาขับรถไปกัน  8-9 ชม. จากที่ลองคำนวนเส้นทาง  


เริ่มเดินทาง ออกจาก กทม. ใช้เส้นทาง สระบุรี ไปทางเพชรบูรณ์ ( ไปตาม GPS ของรถนำทาง ) มันทำให้ได้เส้นทางที่เร็วที่สุดแต่ว่า!!! มันคือทางที่เราต้องขับเลาะเขาวนซ้านวนขวา มึนหัวกันไปครับ ช่วงเพชรบูรณ์ จนถึง เลย  ผ่านที่ท่องเที่ยวเยอะมากครับ ทางขึ้นภูทับเบิก ภูเรือ ภูลมโล  และโชคดีที่ ช่วงที่ไปถึงเป็นช่วง เช้ามืดพอดี  ช่วงนั้น บรรยากาศมีหมอก อากาศเย็นๆ เห็นพระอาทิตย์กำลังขึ้นพอดี ถือว่าก้ยังโชคดีอยู่ครับ




แวะถ่ายรูปกันเรียบร้อย ก็ไปต่อกัน ผลัดกันหลับผลัดกัน คุยเป็นเพื่อนคนที่ขับรถกันไป ต้องแวะพักเป็นชวงๆครับ ระยะทางค่อนข้างไกลและ ถ้าใครขับรถยังไม่ชำนาญพอ น่าจะต้องเลือกการเดินทางโดย รถทัวร์หรือ ทางอื่นแทนครับ โชคดีที่คนขับรถของเรา สายแข็ง 5555

       เราเริ่มเข้าสู่ จังหวัดเลย ช่วงเลยตัวเมืองมา ได้เวลา ช่วง แปด เก้าโมงพอดี เลยหาร้าน กาแฟกินเติมแรงกันก่อนไปต่อ ผ่านมาเจอร้านนึง ชื่อ ภูเรือ คอฟฟี่ พาร์ค บรรยากาศร้านอยู่บนนเนิน สูง ข้างในร้านเป็นกันเองครับ มีแปลงผัก ออแกนิค ไว้สำหรับทำสลัดขาย  มี แปลงปลูกสตอเบอรี่ อยู่ด้านหน้าให้เราเข้าไปชมไปถ่ายรูปได้เลยฟรี  ขึ้นไปบนร้านก็มองเห็นวิว ภูเขาไกลๆ เหมาะกับนั่งจิบกาแฟยามเช้าจริงๆครับ









      พักกินแฟ เดินเล่นยืดเส้นยืดสายกันเรียบร้อยก็ออกเดินทางต่อครับ  จนมาถึง จุดที่เรากางเต้นท์พักกัน ที่ กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 246 อำเภอ เชียงคาน เลย เป็นจุดที่เปิดให้นักท่องเที่ยวมากางเต้นท์พักได้ ฟรี โดยจะมีกล่อง วางไว้ให้เราใส่ ตามแต่ เราจะช่วยค่าน้ำค่าไฟ ครับ มีห้องน้ำ ที่อาบน้ำ ( เป็นอ่างอาบรวม) ให้อยู่ แต่บังเอิญว่า เราไปตรงกับมีการแข่งกีฬา เยาวชน  เด็กนักกีฬา ทั่วภาคอีสาน มาเก็บตัวที่นี่ด้วย 555555 เลยทำให้น้ำไม่พอ อาบ ยังโชคดีมีห้องน้ำจากร้านกาแฟด้านหน้าเปิดให้เราเข้าใช้ได้ฟรี ครับ  เจ้าหน้าที่ ตชด. เป็นกันเองน่ารักมากครับ  


พอดีว่าเราไปถึงช่วงเที่ยงๆพอดี เจ้าหน้าที่เลยแนะนำว่า ถ้ายังไม่กางเต้นท์ ก็เลยไปเดินเล่นไปดู แก่งคุดคู้ ซึ่งเลยไปไม่ไกลได้  เลยตัดสินใจไปหามื้อเที่ยงกินที่นั้น   


แก่งคุดคู้เป็น ช่วงโค้งน้ำ ของแม่น้ำโขงที่ แก่งหินโผล่ขึ้นมาบริเวกลางน้ำทำให้ เรือที่แล่นผ่านต้องอ้อมหลบ  เป็นวิวแม่น้ำกว้างๆ อีกฝั่งเป็นประเทศลาว มีต้นไม่ภูเขา รอบๆดูแล้วก็สบายตาดีครับ อากาศเย็นนิดๆกำลังสบายๆ


ร้านอาหารริมน้ำโขงมีสองสามร้าน แต่เมนูที่น่าสนใจคือ กุ้งทอดครับ ใครไป บอกเลยว่าต้องสั่งจริงๆ มันไม่อมน้ำมันเหมือนใน กทม หรือที่เคยกินมา กุ้งตัวเล็กๆมากครับแต่ทอดมาได้กรอบมาๆ เน้นว่ากรอบมากจริงๆ ร้านส้มตำ

คอหมูย่างก็เป็นหมูติดมันมีหนังหมูแต่ เขาย่างคล้ายๆ หมูหัน หนังกรอบๆ หมูก็เค็มนิดๆกำลังดีเลยครับ

อิ่มหนัมสำราญเรียบร้อยก็กลับมานอนกับ ตรงจุดที่เราจะกางเต้นท์ รอเวลา กางเต้นท์ช่วงเย็นๆแล้วจะไปเดิน ตลาดคนเดิมริมโขง หรือตลาดคนเดินเชียงคานครับ



พอตกเย็นก็ช่วยกันกางเต็นท์ที่พักเรียบร้อย  ที่พักเราไม่ไกลจาก ตลาดคนเดินครับสามารถเดินไปได้ เพราะขับรถไปก็ค่อนข้างหาที่จอดยาก ครับ   




ตอนแรกที่คิดไว้ก็คิดว่าคงเป็นตลาดนัดคนเดินระยะทางไม่ไกลมาก แต่พา มาถึงจริงๆมันยาวมากกกครับ  ทั้งของกิน เสื้อผ้า ของพื้นเมือง เต็มไปหมด    เดินเล่นหาของกินเล่นไปจนสุด ก้กลับมาที่พัก


    อ่านมาจากรีวิว ก่อนมาว่า ของเด้ดที่มาเชียงคานต้องกิน คือ กุ้งเชียงคาน  เป็นกุ้งฝอยเอามาเสียบไม้ย่างครับ  หอมๆเค็มๆกินแล้วก็อร่อยดีครับ เพลินๆ ไม่ล่ะ 10บาท 20 บาท แล้วแต่ขนาดตัวกุ้ง













มีเด็กๆ ลูกชาวบ้านแถวนั้นมาเต้น กันน่ารักเชียวครับ555


เดินจนสุดตลาด สำหรับใครที่หมดแรงจะเดินกลับหรือต้องการไปที่พัก ก็มีรถมอเตอร์ไซต์ 3 ล้อคอยให้บริการอยู่เป็นจุดๆครับ
เราเตรียมของสดมาทำกินกันด้วย รออะไร เริ่มเลย 555 เตาพร้อม อุปกรณ์พร้อม  ผมชอบบรรยากาศแบบนี้ นี้น่ะบางทีคนเราติดสะดวกสบาย ซ่ะจนลืมว่าบางทีอะไรง่ายๆหรืออะไรที่เราได้ทำเองบ้างแบบนี้ มันก็สนุกดี



นั่งกินนั่งคุยกันจนเกือบๆเที่ยงคืนก็แยกย้ายกันนอนเพราะเพลียๆจากการเดินทาง ตกลงกันว่า เช้าจะตื่นไป ภูทอกไปดูหมอกกัน
สรุป!!! ตื่นมา พระอาทิตย์ขึ้นแล้ว 5555555 สายนั้นเองครับ รีบลุกกันขึ้นมา พวกนักกีฬาก็ อาบน้ำใช้ห้องน้ำกันเต็มเลย

  เจ้าหน้าที่แนะนำว่าวัดข้างๆ มีที่อาบน้ำบริการอยู่ เราเลย ออกไปอาบน้ำ กันที่นั้นก่อน  เป็นที่อาบน้ำของวัดจักไว้บริการนักท่องเที่ยวครับ อาจไม่สะดวกสบาย มากแต่ก็ โอเคเลยครับ  อาบน้ำกันเสร็จเรียบร้อย ก็กลับมา หาข้าวเช้ากินกันแถวๆริมโขง ตรง ตลาดคนเดินช่วงเมื่อคืน  

เมนูแนะนำอีก 1 เมนูคือ ต้มเส้น หรือข้าวเปียกครับ  กินแล้วก้คล้ายๆ ก๋วยจับญวนครับ อร่อยดี เดินเล่นเดินถ่ายรูปกัน สักพัก ก็กลับมาเก็บเต้นท์ เตรียมเดินทางกลับ



เรามาหาเส้นทางขากลับใหม่เพราะไม่อยากไวนเขาอีก 55555   ใช้เส้นทางออกทางชัยภูมิครับ มาเข้าสระบุรี  เพราะใช้เวลาในการเดินทางกลับ 8-9 ชม. เลยคิดว่าถ้าเจอที่เที่ยวผ่านทาง ขากลับก็จะแวะ แต่ถ้าไม่มีก็มุ่งหน้ากลับ เพราะไม่อยากถึงดึกมาก
มาถึงช่วงชัยภูมิ ได้เวลาข้าวเที่ยง มาแวะทานส้มตำกัน ที่ร้านในปั้ม ปตท. ชื่อร้าน ส้มตำวันวาน  เป็นร้านติดแอร์น่านั่งครับ สั่งไปสองสามอย่าง แต่ที่เด้ดเลยคือ ส้มตำถั่ว ถาดครับ รสชาติส้มตำ แน่นอนว่า โซนอีสานแบบนี้รสนั่วมาก แถมเครื่องเคียงที่ให้มาเยอะมากและเด็ดมากครับ หมูกรอบคือกรอบจริงๆ   และที่สำคัญ ราคา ถูกมากๆ   


อิ่มแล้วก็มุ่งหน้ากลับเข้า กทม  เจอรถติดช่วงสระบุรี หนักเลยครับ ช่วงวันอาทิตย์  กว่าจะถึงบ้านกันก้เกือบๆเที่ยงคืน

*/  สิ่งที่ประทับใจ สำหรับ เชียงคาน ครัง้นี้  /*
- ค่าใช้จ่าย ทั้งอาการ ของใช้ ของฝากราคาถูกครับ ถ้าเทียบกับเมืองท่องเที่ยว อื่นๆ  มื้อๆนึงกินกันเยอะมาก จ่ายไม่เคยถึง พันเลย
- จุดกางเต้นท์ เป็นจุดที่ถ้าใครมาหลายๆวันมีเวลาเที่ยวหลายๆที่  เป็นจุดที่สามารถเดินทางไปจุดเที่ยว ต่างๆ ได้ง่ายเจ้าหน้าที่ดูแล และเป็นกันเอง
- ตลาดคนเดิน บ้านเรือน ริมฝั่งแม่น้ำยังคงความเก่าและ จัดการได้ดี แทบไม่เห็นขยะเลยทั้งที่นักท่องเที่ยวกลางคืนก็เยอะ
- บรรยากาศ และอากาศ ที่เย็นๆ ไม่หนาวมาก และวิวสวยๆตลอดการเดินทาง
- เพื่อนร่วมเดินทาง การเดินทางบางครั้งจุดหมายก็เป็นส่วนนึงที่สร้างความประทับใจ แต่เพื่อนร่วมทาง ที่ดี ก็จะสร้างความสนุก ความประทับใจ และภาพจำดีๆให้กับการเดินทางของเราได้เสมอ
** ที่สำคัญ  โชเฟอร์ ผู้แข็งแกร่งที่ ควง 4x4 ไปกลับรวมเกือบ 20 ชม.ได้ คนเดียวตลอดทริป
[img]http://f.ptcdn.info/58
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่