กระทู้นี้จะมีแต่ส่วนของการสัมภาษณ์นะคะ ในส่วนของการกรอกฟอร์ม DS-160 และนัดสัมภาษณ์นั้น จขกท ได้ติดตามข้อมูลจากกระทู้อื่นๆเห็นว่ามีครบแล้วและเป็นประโยชน์อย่างมากค่ะ กระทู้นี้เลยขอเล่าเฉพาะเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่ จขกท ไปเจอมาวันสัมภาษณ์ค่ะ สัมภาษณ์ ณ เดือน พ.ย. 59 ค่ะ
จขกท นัดสัมภาษณ์เวลา 7.15 น. ค่ะ ติดตามจากกระทู้ท่านอื่นเค้าบอกว่านัดเช้าๆดีกว่าคิวจะได้ไม่สะสมซึ่งจริงค่ะ คิวเช้าสุดคือ 7.00 น. แต่เต็มเลยนัดได้ 7.15 น. ค่ะ ทีนี้อ่านมาจากหลายกระทู้เค้าบอกว่าไม่ต้องไปก่อนนานเพราะเค้าจะไม่ให้เข้า ซึ่งตอนแรกก็กะจะไปสายหน่อยค่ะ แต่บังเอิญตื่นเช้ามาก ไปถึงเวลาประมาณ 6.15 น. ก็มีคนมารอตัวเองเป็นคิวที่ 9 แล้วค่ะ
จุดที่ 1 หน้าสถานฑูต
รออยู่สักพักก็มีคนมาต่อแถวยาวออกไปพอสมควรค่ะ ประมาณสัก 6.30 น. รปภก็เดินมาแจ้งว่าถ้าใครมีมือถือสองเครื่องหรือตัวพาวเวอร์แบงก์ ให้นำไปฝากไว้ที่อื่น เพราะด้านในจะรับฝากมือถือแค่เครื่องเดียวค่ะ จริงๆท่านที่ศึกษามาก็จะทราบเพราะในใบนัดหมายก็มีเขียนไว้ชัดเจนนะคะ แต่คนที่รอคิวถัดจาก จขกท ก็ยังนำพาวเวอร์แบงก์มาเลยต้องออกจากแถวแล้วเสียเวลาเดินไปฝาก พอกลับมาใหม่ก็ต้องไปต่อแถวด้านหลังค่ะ
ก่อนหน้านี้เจ้าของกระทู้คิดว่าคิว 7.00 น. จะได้เข้าไปด้านในก่อน โดยคิว 7.15 น. จะต้องรอด้านนอกจนกว่าคิว 7.00 น. จะเข้าไปหมด แต่เมื่อเวลาประมาณ 6.45 น. มีเจ้าหน้าที่เดินมาเดินมาโดยให้ผู้สมัครวีซ่าแบบถาวร คู่หมั้น แยกไปอีกแถวนึงด้านขวาแล้วเข้าด้านในก่อนนะคะ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะขอให้เตรียมเอกสารสองอย่างเท่านั้นนะคะ คือใบ DS-160 Confirmation กับ พาสปอร์ตโดยเปิดหน้าที่มีรูปและข้อมูลเท่านั้น และเจ้าหน้าที่ก็จะตรวจเอกสารตามคิวที่เรายืนรอค่ะ คือแม้ว่าเราจะคิว 7.15 น. หรือจะมีคนคิว 7.45 น. อยู่ในแถวก็ได้เข้าไปด้านในตามที่ต่อแถวค่ะ กรณีนี้คือเรามาเช้านะคะ ถ้ามาสายกว่านี้ไม่แน่ใจว่าจะเป็นไปตามนี้รึเปล่าค่ะ
จุดที่ 2 จุดฝากมือถือและสแกนกระเป๋า
พอมาถึงจุดนี้รปภก็จะให้เราปิดมือถือส่วนสายชาร์จและหูฟังถ้าท่านใดมีก้ต้องฝากด้วยนะคะและใช้บัตรประชาชนหนึ่งใบค่ะ เราจะได้รับสายข้อมือพร้อมเบอร์มาคล้องที่ข้อมือเพื่อแลกรับโทรศัพท์ขากลับค่ะ จริงๆแล้วเราสามารถนำกระเป๋าใบไม่ใหญ่มากเข้าไปได้นะคะก็ผ่านเครื่องสแกนกระเป๋าและเราเดินผ่านช่องตรวจวัตถุแปลกปลอมเหมือนเวลาไปสนามบินตามปกติค่ะ
จุดที่ 3 จุดรอตรวจเอกสารเบื้องต้น
พอเข้ามาถึงจุดนี้ก็จะมีเก้าอี้ให้นั่งรอหลายตัวเลยค่ะ มีห้องน้ำและน้ำดื่มให้ไปกดดื่มได้ค่ะ พอถึงจุดนี้เจ้าหน้าที่จะเรียกตามคิวที่นัดนะคะโดยคิวที่ 7.00 น. ก็โดนเรียกก่อนค่ะ โดยเอกสารที่ใช้เหมือนเดิมค่ะ คือ ใบ Confirmation และ พาสปอร์ตเล่มปัจจุบันเท่านั้น แต่สำหรับคนที่เคยได้วีซ่าอเมริกามาแล้วหมดอายุไปยังไม่ถึงสี่ปี ให้โชว์พาสปอร์ตเล่มที่มีหน้าวีซ่านั้นด้วยค่ะ ตัว จขกท พยายามเขยิบขึ้นไปนั่งด้านหน้าค่ะเวลาเค้าเรียก slot เรา เราจะได้ไปก่อนได้ค่ะ จากนั้นเวลาประมาณ 7.00 เจ้าหน้าที่ก็เรียกคิว 7.00-7.15 น. เราก็เดินไปคนแรกเลยค่ะ เจ้าหน้าที่รับเอกสารไปและส่งกลับให้เราพร้อมใส่แฟ้มพลาสติกมาและบอกให้เราจดหมายเลข EMS ไว้ค่ะ ทั้งนี้เอกสารที่เจ้าหน้าที่จัดไว้จะมีคลิปมาให้เรียบร้อยอย่าดึงออกนะคะ จดหมายเลข EMS ไว้เฉยๆ
จุดที่ 4 สแกนรอยนิ้วมือและตรวจเอกสารอีกครั้ง
เมื่อเข้าไปด้านในแล้วก็จะเป็นแถวยาวต่อเพื่อรอสแกนนิ้วค่ะ ด้านในก็มีห้องน้ำนะคะ
ระหว่างต่อคิวก็สังเกตดูว่าเจ้าหน้าที่จะถามอะไรบาง ส่วนนี้เจ้าหน้าที่จะเป็นคนไทยค่ะ น้องคนที่อยู่ด้านหน้าก็โดนถามว่าจะไปทำอะไร น้องตอบว่าไป exchange แล้วเจ้าหน้าที่ก็ถามต่อประมาณว่าไปที่ไหน ขอเอกสาร ทั้งนี้สังเกตดูแล้วพบว่าถูกถามตามแต่ละเคสค่ะ ส่วนตัวพอถึงคิวก็มีการให้สแกนนิ้วสี่นิ้วด้านซ้าย (ชี้ กลาง นาง ก้อย) และสี่นิ้วด้านขวา และสุดท้ายนิ้วโป้งของทั้งสองข้าง เจ้าหน้าที่ถามถึงองค์กรที่เราทำงานซึ่งเป็นองค์กรระหว่างประเทศแล้วถามถึงใบรับรองการทำงาน เมื่อยื่นให้เจ้าหน้าที่ก็นำไปรวมกับใบ confirmationและพาสปอร์ตค่ะ แต่เอกสารอื่นๆยังไม่ได้ใช้ค่ะ เมื่อเสร็จจากตรงนี้ทุกคนต้องไปเข้าคิวต่อไปช่อง 10 ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ฝรั่ง พูดไทยได้นะคะ ให้โชว์ใบ Confirmation แนบกระจก และสแกนนิ้วมือที่อาจจะไม่ชัดอีกครั้ง หลังจากนี้ก็ไปต่อคิวรอสัมภาษณ์ได้ค่ะ
จุดที่ 5 สัมภาษณ์
เมื่อมาถึงจุดนี้เป็นเวลาประมาณ 7.15 น. เคาเตอร์สัมภาษณ์ก็เริ่มเปิดค่ะ คนแรกของคิว 7.00 น. ก็ได้เริ่มสัมภาษณ์ ทั้งนี้จะมีทั้งหมดสามเคาเตอร์ค่ะ ระหว่างรอก็เหมือนเคยค่ะแอบฟังคนข้างหน้า มีสองคนพ่อลูกเค้ามาสัมภาษณ์พร้อมกัน หลักๆคนสัมภาษณ์ก็จะถามว่าไปที่ไหน ไปกับใคร ไปยังไง เคยไปเที่ยวไหนมาแล้วบ้าง ทำอาชีพอะไร ใครเป็นออกเงินให้ในการเดินทางครั้งนี้ ส่วนผู้หญิงอีกคนก่อนหน้าเรามาคนเดียวเหมือนเรา ก็ถูกสัมภาษณ์ประมาณว่าจะไปไหนไปกับใคร ทำงานอะไร เคยไปอเมริกามามั๊ย ทำงานอะไร ทำงานมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เงินเดือนเท่าไหร่ ส่วนพอถึงคิวเรา เจ้าหน้าที่ก็พูดภาษาไทยก่อนเลยค่ะถามว่าจะไปทำอะไร เราตอบเป็นภาอังกฤษว่าไปเที่ยวค่ะ จากนั้นก็ถามว่าไปกับใครเราก็ตอบว่าไปกับคุณพ่อ แล้วหลังจากนั้นก็เริ่มพูดภาอังกฤษกันค่ะ ก็ถามว่าทำงานที่ไหน เราก็ตอบชื่อองค์กรไปพร้อมกับตำแหน่งที่ทำ เค้าถามว่าอยู่หน่วยงานไหน เริ่มทำงานที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่ และจะไปเที่ยวที่ไหนในอเมริกา และไปกี่วัน เราก็ตอบไปค่ะ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็บอกว่า Your visa is approved. You will receive your passport within one week. จบเสร็จสิ้นกระบวนการทั้งหมดเป็นเวลาประมาณ 7.30 น.
ขอสรุปนิดนึงนะคะ เราเตรียมเอกสารไปไม่มากค่ะ 1) ใบ confirmation DS160 2) พาสปอร์ตทุกเล่ม 3)สมุดธนาคารสองเล่ม 4) ใบรับรองการทำงาน และสลิปเงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือน 5) ใบจองโรงแรม 6)แผนการเที่ยวคร่าวๆ 7) ใบนัดหมาย 8) รูปถ่าย 2*2 นิ้ว ทั้งนี้เอกสารที่ใช้มีแค่ พาสปอร์ตเล่มปัจจุบันและใบ Confirmation เท่านั้นค่ะ ส่วนจดหมายรับรองการทำงานเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ดูพร้อมกับส่งคืนค่ะ
หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยนะคะ สำหรับท่านที่กำลังจะไปขอสัมภาษณ์วีซ่าอเมริกา
แชร์ประสบการณ์สัมภาษณ์วีซ่าอเมริกา (ไม่รวมการกรอกเอกสารและนัดหมายสัมภาษณ์ค่ะ)
จขกท นัดสัมภาษณ์เวลา 7.15 น. ค่ะ ติดตามจากกระทู้ท่านอื่นเค้าบอกว่านัดเช้าๆดีกว่าคิวจะได้ไม่สะสมซึ่งจริงค่ะ คิวเช้าสุดคือ 7.00 น. แต่เต็มเลยนัดได้ 7.15 น. ค่ะ ทีนี้อ่านมาจากหลายกระทู้เค้าบอกว่าไม่ต้องไปก่อนนานเพราะเค้าจะไม่ให้เข้า ซึ่งตอนแรกก็กะจะไปสายหน่อยค่ะ แต่บังเอิญตื่นเช้ามาก ไปถึงเวลาประมาณ 6.15 น. ก็มีคนมารอตัวเองเป็นคิวที่ 9 แล้วค่ะ
จุดที่ 1 หน้าสถานฑูต
รออยู่สักพักก็มีคนมาต่อแถวยาวออกไปพอสมควรค่ะ ประมาณสัก 6.30 น. รปภก็เดินมาแจ้งว่าถ้าใครมีมือถือสองเครื่องหรือตัวพาวเวอร์แบงก์ ให้นำไปฝากไว้ที่อื่น เพราะด้านในจะรับฝากมือถือแค่เครื่องเดียวค่ะ จริงๆท่านที่ศึกษามาก็จะทราบเพราะในใบนัดหมายก็มีเขียนไว้ชัดเจนนะคะ แต่คนที่รอคิวถัดจาก จขกท ก็ยังนำพาวเวอร์แบงก์มาเลยต้องออกจากแถวแล้วเสียเวลาเดินไปฝาก พอกลับมาใหม่ก็ต้องไปต่อแถวด้านหลังค่ะ
ก่อนหน้านี้เจ้าของกระทู้คิดว่าคิว 7.00 น. จะได้เข้าไปด้านในก่อน โดยคิว 7.15 น. จะต้องรอด้านนอกจนกว่าคิว 7.00 น. จะเข้าไปหมด แต่เมื่อเวลาประมาณ 6.45 น. มีเจ้าหน้าที่เดินมาเดินมาโดยให้ผู้สมัครวีซ่าแบบถาวร คู่หมั้น แยกไปอีกแถวนึงด้านขวาแล้วเข้าด้านในก่อนนะคะ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะขอให้เตรียมเอกสารสองอย่างเท่านั้นนะคะ คือใบ DS-160 Confirmation กับ พาสปอร์ตโดยเปิดหน้าที่มีรูปและข้อมูลเท่านั้น และเจ้าหน้าที่ก็จะตรวจเอกสารตามคิวที่เรายืนรอค่ะ คือแม้ว่าเราจะคิว 7.15 น. หรือจะมีคนคิว 7.45 น. อยู่ในแถวก็ได้เข้าไปด้านในตามที่ต่อแถวค่ะ กรณีนี้คือเรามาเช้านะคะ ถ้ามาสายกว่านี้ไม่แน่ใจว่าจะเป็นไปตามนี้รึเปล่าค่ะ
จุดที่ 2 จุดฝากมือถือและสแกนกระเป๋า
พอมาถึงจุดนี้รปภก็จะให้เราปิดมือถือส่วนสายชาร์จและหูฟังถ้าท่านใดมีก้ต้องฝากด้วยนะคะและใช้บัตรประชาชนหนึ่งใบค่ะ เราจะได้รับสายข้อมือพร้อมเบอร์มาคล้องที่ข้อมือเพื่อแลกรับโทรศัพท์ขากลับค่ะ จริงๆแล้วเราสามารถนำกระเป๋าใบไม่ใหญ่มากเข้าไปได้นะคะก็ผ่านเครื่องสแกนกระเป๋าและเราเดินผ่านช่องตรวจวัตถุแปลกปลอมเหมือนเวลาไปสนามบินตามปกติค่ะ
จุดที่ 3 จุดรอตรวจเอกสารเบื้องต้น
พอเข้ามาถึงจุดนี้ก็จะมีเก้าอี้ให้นั่งรอหลายตัวเลยค่ะ มีห้องน้ำและน้ำดื่มให้ไปกดดื่มได้ค่ะ พอถึงจุดนี้เจ้าหน้าที่จะเรียกตามคิวที่นัดนะคะโดยคิวที่ 7.00 น. ก็โดนเรียกก่อนค่ะ โดยเอกสารที่ใช้เหมือนเดิมค่ะ คือ ใบ Confirmation และ พาสปอร์ตเล่มปัจจุบันเท่านั้น แต่สำหรับคนที่เคยได้วีซ่าอเมริกามาแล้วหมดอายุไปยังไม่ถึงสี่ปี ให้โชว์พาสปอร์ตเล่มที่มีหน้าวีซ่านั้นด้วยค่ะ ตัว จขกท พยายามเขยิบขึ้นไปนั่งด้านหน้าค่ะเวลาเค้าเรียก slot เรา เราจะได้ไปก่อนได้ค่ะ จากนั้นเวลาประมาณ 7.00 เจ้าหน้าที่ก็เรียกคิว 7.00-7.15 น. เราก็เดินไปคนแรกเลยค่ะ เจ้าหน้าที่รับเอกสารไปและส่งกลับให้เราพร้อมใส่แฟ้มพลาสติกมาและบอกให้เราจดหมายเลข EMS ไว้ค่ะ ทั้งนี้เอกสารที่เจ้าหน้าที่จัดไว้จะมีคลิปมาให้เรียบร้อยอย่าดึงออกนะคะ จดหมายเลข EMS ไว้เฉยๆ
จุดที่ 4 สแกนรอยนิ้วมือและตรวจเอกสารอีกครั้ง
เมื่อเข้าไปด้านในแล้วก็จะเป็นแถวยาวต่อเพื่อรอสแกนนิ้วค่ะ ด้านในก็มีห้องน้ำนะคะ
ระหว่างต่อคิวก็สังเกตดูว่าเจ้าหน้าที่จะถามอะไรบาง ส่วนนี้เจ้าหน้าที่จะเป็นคนไทยค่ะ น้องคนที่อยู่ด้านหน้าก็โดนถามว่าจะไปทำอะไร น้องตอบว่าไป exchange แล้วเจ้าหน้าที่ก็ถามต่อประมาณว่าไปที่ไหน ขอเอกสาร ทั้งนี้สังเกตดูแล้วพบว่าถูกถามตามแต่ละเคสค่ะ ส่วนตัวพอถึงคิวก็มีการให้สแกนนิ้วสี่นิ้วด้านซ้าย (ชี้ กลาง นาง ก้อย) และสี่นิ้วด้านขวา และสุดท้ายนิ้วโป้งของทั้งสองข้าง เจ้าหน้าที่ถามถึงองค์กรที่เราทำงานซึ่งเป็นองค์กรระหว่างประเทศแล้วถามถึงใบรับรองการทำงาน เมื่อยื่นให้เจ้าหน้าที่ก็นำไปรวมกับใบ confirmationและพาสปอร์ตค่ะ แต่เอกสารอื่นๆยังไม่ได้ใช้ค่ะ เมื่อเสร็จจากตรงนี้ทุกคนต้องไปเข้าคิวต่อไปช่อง 10 ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ฝรั่ง พูดไทยได้นะคะ ให้โชว์ใบ Confirmation แนบกระจก และสแกนนิ้วมือที่อาจจะไม่ชัดอีกครั้ง หลังจากนี้ก็ไปต่อคิวรอสัมภาษณ์ได้ค่ะ
จุดที่ 5 สัมภาษณ์
เมื่อมาถึงจุดนี้เป็นเวลาประมาณ 7.15 น. เคาเตอร์สัมภาษณ์ก็เริ่มเปิดค่ะ คนแรกของคิว 7.00 น. ก็ได้เริ่มสัมภาษณ์ ทั้งนี้จะมีทั้งหมดสามเคาเตอร์ค่ะ ระหว่างรอก็เหมือนเคยค่ะแอบฟังคนข้างหน้า มีสองคนพ่อลูกเค้ามาสัมภาษณ์พร้อมกัน หลักๆคนสัมภาษณ์ก็จะถามว่าไปที่ไหน ไปกับใคร ไปยังไง เคยไปเที่ยวไหนมาแล้วบ้าง ทำอาชีพอะไร ใครเป็นออกเงินให้ในการเดินทางครั้งนี้ ส่วนผู้หญิงอีกคนก่อนหน้าเรามาคนเดียวเหมือนเรา ก็ถูกสัมภาษณ์ประมาณว่าจะไปไหนไปกับใคร ทำงานอะไร เคยไปอเมริกามามั๊ย ทำงานอะไร ทำงานมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เงินเดือนเท่าไหร่ ส่วนพอถึงคิวเรา เจ้าหน้าที่ก็พูดภาษาไทยก่อนเลยค่ะถามว่าจะไปทำอะไร เราตอบเป็นภาอังกฤษว่าไปเที่ยวค่ะ จากนั้นก็ถามว่าไปกับใครเราก็ตอบว่าไปกับคุณพ่อ แล้วหลังจากนั้นก็เริ่มพูดภาอังกฤษกันค่ะ ก็ถามว่าทำงานที่ไหน เราก็ตอบชื่อองค์กรไปพร้อมกับตำแหน่งที่ทำ เค้าถามว่าอยู่หน่วยงานไหน เริ่มทำงานที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่ และจะไปเที่ยวที่ไหนในอเมริกา และไปกี่วัน เราก็ตอบไปค่ะ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็บอกว่า Your visa is approved. You will receive your passport within one week. จบเสร็จสิ้นกระบวนการทั้งหมดเป็นเวลาประมาณ 7.30 น.
ขอสรุปนิดนึงนะคะ เราเตรียมเอกสารไปไม่มากค่ะ 1) ใบ confirmation DS160 2) พาสปอร์ตทุกเล่ม 3)สมุดธนาคารสองเล่ม 4) ใบรับรองการทำงาน และสลิปเงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือน 5) ใบจองโรงแรม 6)แผนการเที่ยวคร่าวๆ 7) ใบนัดหมาย 8) รูปถ่าย 2*2 นิ้ว ทั้งนี้เอกสารที่ใช้มีแค่ พาสปอร์ตเล่มปัจจุบันและใบ Confirmation เท่านั้นค่ะ ส่วนจดหมายรับรองการทำงานเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ดูพร้อมกับส่งคืนค่ะ
หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยนะคะ สำหรับท่านที่กำลังจะไปขอสัมภาษณ์วีซ่าอเมริกา