ก่อนหน้านี้เราเคยเดินทางมาถวายความอาลัยแล้ว 1 ครั้ง ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน
ช่วงนั้นใช้เวลาไม่นาน ประมาณ 2 ชม. มาในครั้งนี้ก็เลยคิดไว้ว่าจะมาในวันเสาร์ แต่เป็นช่วงเช้า
เราออกเดินทางจากบ้าน ถ.นวมินทร์ ตั้งแต่ ตี 2.15 มาถึงสนามหลวงก็ประมาณ ตี 3 และนี่คือภาพที่เห็นค่ะ คนเยอะมาก
เราได้นั่งแถวที่ 4 ถัดจากรั้วสนามหลวง โดยเจ้าหน้าที่บอกว่าให้นั่งทั้งหมด 6 แถว โดยจะเดินทีละ 3 แถวเป็นรูปตัว S
ไม่ต้องเตรียมกระดาษปูรองนั่งไปนะคะ เจ้าหน้าที่จัดไว้ให้ โดยมีเงื่อนไขคือ ถ้าลุกแล้วให้พับให้เรียบร้อย แล้วเอาไปวางไว้ด้านข้าง
และนี่คือของที่เราเตรียมไปค่ะ มีพาเวอร์แบงค์ 2 อัน แต่ใช้ไปอันเดียว ยากันยุง (ไม่ได้ใช้)
พัดลม (จำเป็นมากค่ะ) สเปรย์น้ำแร่ เอาไปฉีดให้ตื่น ลูกอม กระดาษทิชชู และกระเป๋าเงินค่ะ
น้ำดื่มไม่ได้เตรียมไปนะคะ มีแจกในแถวค่ะ
นั่งรอนอนรอตรงนี้จนถึง ตี 4.30 น. เจ้าหน้าที่ก็เรียกให้ลุกขึ้น เตรียมบัตรประชาชนให้พร้อมค่ะ
เพื่อที่จะเดินเข้าสู่ด้านในสนามหลวง เตรียมเปิดกระเป๋าให้ตรวจด้วยนะคะ
เราเริ่มเข้าด้านในตั้งแต่เวลา ตี 5 นะคะ ใช้ระยะทางและระยะเวลาเดินค่อนข้างมาก
แนะนำเลยค่ะไม่ควรใส่รองเท้าส้นสูง ควรเลือกรองเท้าที่ใส่สบายที่สุด เพราะเดินเยอะและเดินไกล
ใช้เวลาเดินด้านในประมาณครึ่งชั่วโมง ก็มายืนรอในเต้นท์เตรียมเข้าแถวนั่ง ตรงนี้ขอบอกว่าสาหัสมาก
เพราะต้องยืนท่ามกลางคนเป็นพัน ตรงนี้พัดและน้ำดื่มจำเป็นมากค่ะ
ประมาณเวลา 06.15 น. ก็ได้เข้าไปนั่งที่เก้าอี้ค่ะ เราได้นั่งโซน ซ
ซึ่งตรงจุดนี้ก็จะมีของมาแจกมากมายเลยค่ะ ทั้งน้ำ นม กาแฟ ข้าวต้ม ขนม อยากจะบอกว่าให้ทานแต่น้อยนะคะ
เพราะว่าห้องน้ำมีไม่เพียงพอค่ะ ถ้าต่อคิวต้องใช้เวลานานมาก เราทานแค่ข้าวเหนียวหมูฝอย และเก็บขนมปังไว้
ส่วนเพื่อนบอกร้อนขอเป็นไอศครีมค่ะ บริเวณนั้นมีที่ทิ้งขยะด้วย สามารถเดินมาทิ้งเองได้ ไม่ต้องรอจิตอาสาค่ะ
ระหว่างรอไปเรื่อยๆ (ติดพิธีฉันเช้า) ก็เดินไปเข้าห้องน้ำสักหน่อย รอเข้าห้องน้ำวันนั้นประมาณ 1 ชม. พอดี
ตอนรอเข้าห้องน้ำไม่ต้องกังวลนะคะ จะมีเจ้าหน้าที่คอยแจ้งว่าถึงแถวไหนแล้วเป็นระยะๆ ค่ะ
ตอนออกให้ขอบัตรออกจากเจ้าหน้าที่นะคะ เพื่อป้องกันการสวมรอย บัตรเป็นแบบนี้ค่ะ เปลี่ยนทุกวัน
ประมาณ 09.20 น. ก็เรียกให้พวกเราเดินไปเข้าแถวบริเวณด้านข้างวัดพระแก้วฯ ค่ะ
ตรงนี้จะมีเก้าอี้และจุดบอกเป็นระยะเว่า รอประมาณกีชั่วโมง จุดนี้จะมีเจ้าหน้าที่ตรวจเครื่องแต่งกาย
ถ้าไม่ถูกต้องสามารถรับบัตรจากเจ้าหน้าที่แล้วไปเปลี่ยนที่ฝั่งตรงข้ามได้ค่ะ (ทางที่ดีแต่งมาให้ถูกดีกว่าค่ะ)
หลังจากนั้นแถวก็เดินไปเรื่อยๆ ค่ะ ผ่านไปทางวัดพระแก้ว แล้วก็มาหยุดที่ประตูพิมานไชยศรี
เวลา 10.15 น. (เนื่องจากติดพิธีฉันเพล) หลังจากนั้นก็จะเข้าไปนั่งรอต่อในบริเวณพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท
และเราได้ขึ้นไปถวายความอาลัยเวลา 11.58 น. ค่ะ

สำหรับการเตรียมตัวในความคิดของเรานะคะ
1. ควรเตรียมของที่จำเป็นไปเท่านั้นค่ะ สำคัญคือ กระดาษทิชชู สำหรับพัดและน้ำดื่มมีแจกค่ะ
2. อย่าทานอะไรมากเกินไป ควรทานรองท้องเท่านั้น เพราะการเข้าห้องน้ำไม่ค่อยสะดวก
3. สำหรับผู้สูงอายุหรือมีโรคประจำตัวควรประเมินความพร้อมของร่างกาย เพราะอากาศค่อนข้างร้อน สถานที่แออัดค่ะ
ขนาดเราอายุ 37 ปี ยังแทบประคองตัวเองไม่ค่อยไหวค่ะ (อาจเป็นเพราะตื่นเช้า)
4. ถ้าจะเป็นลมสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้เลยนะคะ เค้าจะมีบัตรเข้า-ออกพื้นที่ให้เราค่ะ ไม่ต้องกลัวใครจะแซงคิว
5. ใส่รองเท้าที่สะดวกสบายที่สุดค่ะ เพราะเดินเยอะมากค่ะ
6. ถ้าเป็นไปได้มาช่วงเย็นวันธรรมดาจะดีที่สุด
วันที่เราไป กระทรวงวัฒนธรรมแจกสมุดภาพพระบรมฉายาลักษณ์และ 99 พระบรมราโชวาท
หากท่านใดสนใจสามารถไปรับได้ที่โรงละครแห่งชาติค่ะ และสามารถเดินมาชมพระมหาพิชัยราชรถ
ได้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนครค่ะ ภายในมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจมากมายเลยค่ะ
จาก ตี 3 - เที่ยงวัน การรอคอยเพื่อเข้าถวายความอาลัยพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ
ช่วงนั้นใช้เวลาไม่นาน ประมาณ 2 ชม. มาในครั้งนี้ก็เลยคิดไว้ว่าจะมาในวันเสาร์ แต่เป็นช่วงเช้า
เราออกเดินทางจากบ้าน ถ.นวมินทร์ ตั้งแต่ ตี 2.15 มาถึงสนามหลวงก็ประมาณ ตี 3 และนี่คือภาพที่เห็นค่ะ คนเยอะมาก
ไม่ต้องเตรียมกระดาษปูรองนั่งไปนะคะ เจ้าหน้าที่จัดไว้ให้ โดยมีเงื่อนไขคือ ถ้าลุกแล้วให้พับให้เรียบร้อย แล้วเอาไปวางไว้ด้านข้าง
พัดลม (จำเป็นมากค่ะ) สเปรย์น้ำแร่ เอาไปฉีดให้ตื่น ลูกอม กระดาษทิชชู และกระเป๋าเงินค่ะ
น้ำดื่มไม่ได้เตรียมไปนะคะ มีแจกในแถวค่ะ
เพื่อที่จะเดินเข้าสู่ด้านในสนามหลวง เตรียมเปิดกระเป๋าให้ตรวจด้วยนะคะ
แนะนำเลยค่ะไม่ควรใส่รองเท้าส้นสูง ควรเลือกรองเท้าที่ใส่สบายที่สุด เพราะเดินเยอะและเดินไกล
ใช้เวลาเดินด้านในประมาณครึ่งชั่วโมง ก็มายืนรอในเต้นท์เตรียมเข้าแถวนั่ง ตรงนี้ขอบอกว่าสาหัสมาก
เพราะต้องยืนท่ามกลางคนเป็นพัน ตรงนี้พัดและน้ำดื่มจำเป็นมากค่ะ
ซึ่งตรงจุดนี้ก็จะมีของมาแจกมากมายเลยค่ะ ทั้งน้ำ นม กาแฟ ข้าวต้ม ขนม อยากจะบอกว่าให้ทานแต่น้อยนะคะ
เพราะว่าห้องน้ำมีไม่เพียงพอค่ะ ถ้าต่อคิวต้องใช้เวลานานมาก เราทานแค่ข้าวเหนียวหมูฝอย และเก็บขนมปังไว้
ส่วนเพื่อนบอกร้อนขอเป็นไอศครีมค่ะ บริเวณนั้นมีที่ทิ้งขยะด้วย สามารถเดินมาทิ้งเองได้ ไม่ต้องรอจิตอาสาค่ะ
ตอนรอเข้าห้องน้ำไม่ต้องกังวลนะคะ จะมีเจ้าหน้าที่คอยแจ้งว่าถึงแถวไหนแล้วเป็นระยะๆ ค่ะ
ตอนออกให้ขอบัตรออกจากเจ้าหน้าที่นะคะ เพื่อป้องกันการสวมรอย บัตรเป็นแบบนี้ค่ะ เปลี่ยนทุกวัน
ตรงนี้จะมีเก้าอี้และจุดบอกเป็นระยะเว่า รอประมาณกีชั่วโมง จุดนี้จะมีเจ้าหน้าที่ตรวจเครื่องแต่งกาย
ถ้าไม่ถูกต้องสามารถรับบัตรจากเจ้าหน้าที่แล้วไปเปลี่ยนที่ฝั่งตรงข้ามได้ค่ะ (ทางที่ดีแต่งมาให้ถูกดีกว่าค่ะ)
เวลา 10.15 น. (เนื่องจากติดพิธีฉันเพล) หลังจากนั้นก็จะเข้าไปนั่งรอต่อในบริเวณพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท
และเราได้ขึ้นไปถวายความอาลัยเวลา 11.58 น. ค่ะ
1. ควรเตรียมของที่จำเป็นไปเท่านั้นค่ะ สำคัญคือ กระดาษทิชชู สำหรับพัดและน้ำดื่มมีแจกค่ะ
2. อย่าทานอะไรมากเกินไป ควรทานรองท้องเท่านั้น เพราะการเข้าห้องน้ำไม่ค่อยสะดวก
3. สำหรับผู้สูงอายุหรือมีโรคประจำตัวควรประเมินความพร้อมของร่างกาย เพราะอากาศค่อนข้างร้อน สถานที่แออัดค่ะ
ขนาดเราอายุ 37 ปี ยังแทบประคองตัวเองไม่ค่อยไหวค่ะ (อาจเป็นเพราะตื่นเช้า)
4. ถ้าจะเป็นลมสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้เลยนะคะ เค้าจะมีบัตรเข้า-ออกพื้นที่ให้เราค่ะ ไม่ต้องกลัวใครจะแซงคิว
5. ใส่รองเท้าที่สะดวกสบายที่สุดค่ะ เพราะเดินเยอะมากค่ะ
6. ถ้าเป็นไปได้มาช่วงเย็นวันธรรมดาจะดีที่สุด
วันที่เราไป กระทรวงวัฒนธรรมแจกสมุดภาพพระบรมฉายาลักษณ์และ 99 พระบรมราโชวาท
หากท่านใดสนใจสามารถไปรับได้ที่โรงละครแห่งชาติค่ะ และสามารถเดินมาชมพระมหาพิชัยราชรถ
ได้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนครค่ะ ภายในมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจมากมายเลยค่ะ