หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
ระบบการศึกษาไทยจากประสบการณ์ตรง
กระทู้สนทนา
การศึกษา
ชีวิตวัยรุ่น
โรงเรียน
การเรียน
นักเรียน
สวัสดีครับ
วันนี้ผมมาขอพูดเกี่ยวกับระบบการศึกษาไทยนิดนึง (อันนี้เป็นกระทู้แรกของผมนะครับ ขออภัยในสิ่งที่เขียนด้วยนะครับ)ทุกๆวันนี้ทำไมระบบการศึกษาไทยมันถึงไม่ดีพอ????? ผมขอเล่าจากประสบการณ์ตรงที่ผมได้รับมา ซึ่งคุณอาจจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็แล้วแต่ ผมเรียนโรงเรียนเอกชนในกรุงเทพนี้แหละ เรียนเป็นอิงลิชโปรแกรม แต่ตอนนี้อยู่มหาวิทยาลัยแล้ว ด้วยความที่ว่าครอบครัวของผมมีฐานะปลานกลาง ไม่ได้เดือดร้อนอะไร และอยู่กินค่อนข้างสบาย ทำให้ผมเป็นคนค่อนข้างขี้เกียจและไม่ตั้งใจเรียน และไม่เห็นความสำคัญของการศึกษา ด้วยที่บุคลิกที่เป็นคนขี้เกียจ ไม่เอาไหน ไม่เปิดรับสิ่งต่างๆที่เข้ามา ติดเพื่อน ติดเกมส์ ติดความสุขความสบาย เวลาเรียนส่วนใหญ่ผมก็ไม่ค่อยเข้า พยายามหาทางโดดเรียนให้เยอะที่สุด ไม่เคยทำการบ้าน พอถึงเวลาส่งก็ลอกเพื่อนเอา เวลาสอบก็ไม่เคยอ่านหนังสือ ส่วนใหญ่ก็จะลอกกันซะส่วนใหญ่ ทำอะไรก็ขัดกับคนอื่นไปหมด คิดว่าการที่ต้องตื่นเช้าไปเรียนนี้เป็นอะไรที่ทรมานที่สุด และน่าเบื่อมากๆที่ต้องอยู่โรงเรียนทั้งวัน ก็เลยทำตัวอินดี้นิดๆ ออกแนวเกเรหน่อยๆ55
พอมาถึงช่วงม.6ที่ผมต้องเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว ซึ่งก็พึ่งจะมาคิดในสิ่งที่อยากเรียนนี้แหละ ซึ่งมหาลัยที่ผมอยากจะเข้าก็เข้ายากพอสมควร เป็นมหาลัยชั้นนำของประเทศและภาคอินเตอร์ เพราะว่ามันใกล้บ้านแล้วเพื่อนๆก็เข้าด้วย ช่วงนั้นก็เลยศึกษาหาข้อมูล ลองฝึกทำข้อสอบ ซึ่งมันเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด ซึ่งตอนนั้นผมแทบจะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย ทั้งๆที่เรียนภาคอิงลิชโปรแกรม เพราะความไม่ตั้งใจเรียนเนี้ยแหละ ก็ลองพยายามไปเรียนพิเศษ ฝึกทำแบบฝึกหัดบางเป็นเวลาหลายเดือน พอถึงเวลาสอบมันก็ไม่ทันอยู่ดี แต่ยังดีที่มหาลัยมีคอร์สเตรียมภาษาก่อนเข้ามหาลัย ซึ่งผมก็ใช้เวลาไปหนึ่งปีเต็ม กว่าจะเข้าได้ (ก็สมควรอยู่55+) ซึ่งช่วงเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา ชีวิตของเราก็เริ่มเปลี่ยนแปลง มีความรับผิดชอบมากขึ้น มีความคิด ใส่ใจต่อสิ่งรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นสังคม สิ่งแวดล้อม มันขัดเกลาอะไรเราหลายๆอย่าง อาจจะเป็นเพราะด้วยความที่ว่าผมอยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง อยากเรียนมหาลัยดีๆ อยากมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แต่ก็ยังมีท้อแท้บาง เหนื่อยบางตามภาษาคนทั่วไป
พอที่นี้ถึงเวลาเข้าไปสู่รั้วมหาลัยแล้ว กฎเกณฑ์อะไรต่างๆมันก็เข้มงวดขึ้น ซึ่งก็ต้องใช้เวลาปรับตัวกันบาง ด้วยความที่ว่ามหาลัยมันไม่เหมือนโรงเรียนอะซิ ผมก็เลยทำตัวเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว ไม่งั้นคงไปไม่รอด ผมอยากจะพูดถึงระบบที่มันต่างกัน จนทำให้ผมต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง ในโรงเรียน ไม่ว่าผมจะไม่ตั้งใจเรียนขนาดไหน ไม่ส่งการบ้าน กาข้อสอบบมั่วๆ ยังไงผมก็เรียนต่อไปได้และไม่โดนไล่ออก ถ้าตกก็แค่แก้ศูนย์ ลอกการบ้านส่งนิดๆหน่อยๆก็ผ่านแล้ว เกรดเฉลี่ยอะไรก็ไม่สนใจ แค่เรียนไปวันๆ แต่พอมาถึงมหาลัยเขาก็มีกฎมากมายที่ผมพึงรู้ตอนเข้า อย่างเช่น ถ้าเกรดต่ำกว่า2.00หลายๆเทอม ก็จะโดนไล่ออกนะ ขาดเรียนเกิน5ครั้ง หมดสิทธิสอบนะ ผมก็เลยเหมือนถูกขัดเกลาไปโดยปริยาย เพราะว่าสิ่งแวดล้อม สังคม ที่รายล้อมเรา กดดันเรา และทุกคนส่วนใหญ่ก็แข่งขันกัน ทั้งด้านการศึกษา กิจกรรม การพัฒนาตัวเอง ก็เลยทำให้เปลี่ยนความคิดการใหญ่เลยที่เดียว ผมกลายเป็นคนค่อนข้างมีความรับผิดชอบ แทบจะไม่ได้โดดเรียนเลย ค่อนข้างมีระเบียบวินัย มีวิสัยทัศน์การไกล อ่านหนังสือสอบและตั้งใจเรียน แต่ก็ไม่ได้ดีไปซะทีเดียว เพราะยังมีตัวตนเดิมอยู่บาง (แหะๆ) ระบบทางมหาวิทยาลัยของผมอาจจะไม่เหมือนที่อื่นที่ว่า แต่ละเทอมนั้นเราจะไม่ได้เรียนกับเพื่อนซะส่วนใหญ่ แบบเดินเรียนไปเรื่อยๆ ก็เลยทำให้ตั้งใจเรียนด้วยมั่ง เพราะจะเจอผู้คนไม่ซ้ำกันเลยแต่ละเทอม แต่ก็เหมือนเป็นการฝึกเข้าสังคม การร่วมมือความสมัคคี ได้สังคมที่กว้างขวางมากขึ้น รู้จักการทำงานเป็นทีม
สุดท้ายแล้วก็เข้าใจว่าที่มหาลัยต้องมีกฎเกณ์เข้มงวดก็เพราะว่าต้องการให้คนเรามีทักษะ ความสามารถ ที่สามารถเอาไปใช้ได้ในชิวิตจริง ทำงานจริงๆ มันไม่ใช้แค่เรียนๆเล่นๆไปวันๆแล้ว แล้วก็บอกตรงๆเลยว่าเพราะระบบที่มันต่างกัน ทั้งสิ่งแวดล้อม และสังคมด้วย ทำให้ความรู้จากการศึกษาของผมมันได้พัฒนาขึ้นไปจริงๆ ซึ่งผมก็อาจจะบอกได้ว่า ถ้ามหาลัยไม่เข้มงวดเหมือนโรงเรียนผมอาจจะเป็นคนไม่เอาไหนอยู่ก็ได้ มันอาจจะฟังดูเหมือนเป็นสิ่งที่บังคับจิตใจเรา แต่มันก็ยังดีที่ทำให้คนเป็นคนได้นะ แต่เราก็ต้องมีใจที่อยากจะพัฒนาตัวเอง ถึงจะประสบความสำเร็จได้ ทั้งหมดอยู่ที่ตัวเราเองเลย ขอบคุณครับที่อ่านจนจบ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
ถ้าเราไม่ได้เข้าฝึกตอนรด.ปี 1 เทอม 1 เราจะสามารถเป็นรด.ปี 2 ได้หรือไม่
คือตอนรดปี 1 เทอม 1 ผมไม่ได้ไปเข้าค่ายฝึกที่ต้องไปฝึกกับโรงเรียนอื่นเพราะว่าตอนนั้นผมที่อยู่ปวช 3 กำลังฝึกงานอยู่และครูก็บอกว่าคนที่ไม่ได้ไปในตอนนั้นต้องรอปีหน้าถึงจะไปเข้าซ่อมได้แต่ถึงตอนนั้นผมจะได้เ
สมาชิกหมายเลข 8571262
ลูกรักกีฬาแบดมินตัน เรียนมหาลัยสาขาไหนไม่ตกงาน
คือลูกชายเรียนมัธยมปลาย(ม.4)แต่รักในกีฬาแบดมินตันมากๆ ที่สุด ตอนนี้ถามลูกอยากเรียนต่อสาขาไหน ลูกไม่กล้าตอบ เพราะว่าแม่เขาไม่อยากให้เรียนสายกีฬากลัวจบมาไม่มีงานทำ ดูลูกแล้วสับสนมากๆ ขอคำแนะนำจากผู้รู้ท
สมาชิกหมายเลข 6470608
มหาลัยหลักสูตรออนไลน์มหาลัยไหนตอบโจทย์กว่ากันคะระหว่งหอการค้ากับเกริก
มหาลัยในฝันเราคือหอการค้าค่ะ แต่พอมาตอนนี้กลับลังเลระหว่างเกริกกับหอการค้า ด้วยเรื่องค่าเทอม สิ่งแวดล้อมในมอ อีกอย่างเราเป็นintrovertด้วยคือเข้าสังคมไม่เก่ง กลัวการเข้าสังคมสุดๆ อยากขอความคิดเห็นว่ามอ
สมาชิกหมายเลข 7859314
ขอคำแนะนำหรือจะเข้ามาให้กำลังใจกันก็ได้นะคะ🥺
สวัสดีค่ะคือตอนนี้เรากำลังกังวลอยู่ 2 เรื่อง 1.) คือ เรากำลังกังวลเรื่องการเปลี่ยนแปลงตัวเองค่ะ เปิดเทอมนี้ก็จะขึ้นม 5 แล้วเรามีปัญหาเรื่องความไม่มั่นใจในตัวเองค่ะ อีกอย่างก็จะเข้ามหาลัยแล้วเลยอยากจ
สมาชิกหมายเลข 6956205
แนะนำ Series BL หน่อยครับ
ไม่รู้อะ ช่วงนี้เครียดกับมหาลัย ก็เลยอยากหาอะไรคลายเครียด เลยอยากลองดูอะไรแบบนี้ เพราะเห็นขึ้นฟีด IG บ่อย ก็เลยประเดิม revenge love ก่อน เท่านั้นแหละ ยังคิดหมกมุ่นไม่หยุดเลย ดูจบแล้วรู้สึกว่ามันไม่ได้
สมาชิกหมายเลข 9049235
ติดมหาลัยธรรมศาสตร์แต่ไม่มีเงินเรียนทำไงดี
ฐานะทางบ้านไม่ได้ดีและคนเขาก็ไม่ได้อยากให้เราเรียนต่อเพราะเขาไม่มีเงินส่ง ผมเลยตั้งใจจะสอบให้ติดจุฬาเพราะเห็นจากในเพจเขาเขียนว่า“เรื่องเงินต้องไม่เป็นอุปสรรคต่อการเรียน” เลยตั้งใจทั้งทำงาน
สมาชิกหมายเลข 8790770
เพื่อนในมหาวิทยาลัย
คือเราพึ่งขึ้นปี1เเล้วเจอเพื่อนคนหนึ่งในรอบค่ายก่อนเข้ามหาวิทยารับชื่อเอ แล้วในช่วงเปิดเทอมเราได้เจอบีและซีตอนแรกเราคิดว่าจะไม่ได้เจอเอแล้ว แต่ก็ได้มาเจอกันในวันปฐมนิเทศวันนั้นเอได้ขอนั่งติดรถมาด้วยบอ
สมาชิกหมายเลข 7856366
หากผมกู้กยศในระดับปวส. แล้วซิ่วย้ายมาเรียน ป.ตรี ผมจะกู้กยศได้เต็มหลักสูตรมั้ยครับ
ตอนนี้ผมเรียนปวสปี1 เทอม1อยู่ครับ แต่ผมจะซิ่วออกหลังจบ เทอม1 อยากรู้ว่าผมยังสามารถไปยื่นกู้ที่มหาลัยอื่นได้มั้ยครับ แล้วผมจะกู้ได้เต็มหลักสูตรรึเปล่าครับ
สมาชิกหมายเลข 7744420
อยากขอคำแนะนำในการหางานหลังเรียนจบสำหรับคนที่จบช้ากว่าเพื่อนค่ะ
ตอนนี้เราอายุ23แต่ยังเรียนไม่จบค่ะ เนื่องจากท้องในปีสุดท้าย เราท้องตอนเทอม2ของปี3 เราเลือกที่จะดรอปเรียนและเลี้ยงลูกเองจนครบ1ขวบ ไม่กล้าพาไปฝากเนสเซอรี่ เพราะลูกยังเล็กเกินไปกลัวเขาดูแลไม่ดี หรือไม่ก็
สมาชิกหมายเลข 9040573
กู้กยศ.
ถ้าเรายู่ปี1มหาลัยนึงละเราเรียนไปหนึ่งเทอมละก็กู้กยศแล้วเราอยากย้ายไปมหาลัยใหม่คณะใหม่ได้มั้ยคะถ้าได้ต้องทำยังไง
สมาชิกหมายเลข 8667517
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
การศึกษา
ชีวิตวัยรุ่น
โรงเรียน
การเรียน
นักเรียน
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ :
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
ระบบการศึกษาไทยจากประสบการณ์ตรง
พอมาถึงช่วงม.6ที่ผมต้องเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว ซึ่งก็พึ่งจะมาคิดในสิ่งที่อยากเรียนนี้แหละ ซึ่งมหาลัยที่ผมอยากจะเข้าก็เข้ายากพอสมควร เป็นมหาลัยชั้นนำของประเทศและภาคอินเตอร์ เพราะว่ามันใกล้บ้านแล้วเพื่อนๆก็เข้าด้วย ช่วงนั้นก็เลยศึกษาหาข้อมูล ลองฝึกทำข้อสอบ ซึ่งมันเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด ซึ่งตอนนั้นผมแทบจะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย ทั้งๆที่เรียนภาคอิงลิชโปรแกรม เพราะความไม่ตั้งใจเรียนเนี้ยแหละ ก็ลองพยายามไปเรียนพิเศษ ฝึกทำแบบฝึกหัดบางเป็นเวลาหลายเดือน พอถึงเวลาสอบมันก็ไม่ทันอยู่ดี แต่ยังดีที่มหาลัยมีคอร์สเตรียมภาษาก่อนเข้ามหาลัย ซึ่งผมก็ใช้เวลาไปหนึ่งปีเต็ม กว่าจะเข้าได้ (ก็สมควรอยู่55+) ซึ่งช่วงเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา ชีวิตของเราก็เริ่มเปลี่ยนแปลง มีความรับผิดชอบมากขึ้น มีความคิด ใส่ใจต่อสิ่งรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นสังคม สิ่งแวดล้อม มันขัดเกลาอะไรเราหลายๆอย่าง อาจจะเป็นเพราะด้วยความที่ว่าผมอยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง อยากเรียนมหาลัยดีๆ อยากมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แต่ก็ยังมีท้อแท้บาง เหนื่อยบางตามภาษาคนทั่วไป
พอที่นี้ถึงเวลาเข้าไปสู่รั้วมหาลัยแล้ว กฎเกณฑ์อะไรต่างๆมันก็เข้มงวดขึ้น ซึ่งก็ต้องใช้เวลาปรับตัวกันบาง ด้วยความที่ว่ามหาลัยมันไม่เหมือนโรงเรียนอะซิ ผมก็เลยทำตัวเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว ไม่งั้นคงไปไม่รอด ผมอยากจะพูดถึงระบบที่มันต่างกัน จนทำให้ผมต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง ในโรงเรียน ไม่ว่าผมจะไม่ตั้งใจเรียนขนาดไหน ไม่ส่งการบ้าน กาข้อสอบบมั่วๆ ยังไงผมก็เรียนต่อไปได้และไม่โดนไล่ออก ถ้าตกก็แค่แก้ศูนย์ ลอกการบ้านส่งนิดๆหน่อยๆก็ผ่านแล้ว เกรดเฉลี่ยอะไรก็ไม่สนใจ แค่เรียนไปวันๆ แต่พอมาถึงมหาลัยเขาก็มีกฎมากมายที่ผมพึงรู้ตอนเข้า อย่างเช่น ถ้าเกรดต่ำกว่า2.00หลายๆเทอม ก็จะโดนไล่ออกนะ ขาดเรียนเกิน5ครั้ง หมดสิทธิสอบนะ ผมก็เลยเหมือนถูกขัดเกลาไปโดยปริยาย เพราะว่าสิ่งแวดล้อม สังคม ที่รายล้อมเรา กดดันเรา และทุกคนส่วนใหญ่ก็แข่งขันกัน ทั้งด้านการศึกษา กิจกรรม การพัฒนาตัวเอง ก็เลยทำให้เปลี่ยนความคิดการใหญ่เลยที่เดียว ผมกลายเป็นคนค่อนข้างมีความรับผิดชอบ แทบจะไม่ได้โดดเรียนเลย ค่อนข้างมีระเบียบวินัย มีวิสัยทัศน์การไกล อ่านหนังสือสอบและตั้งใจเรียน แต่ก็ไม่ได้ดีไปซะทีเดียว เพราะยังมีตัวตนเดิมอยู่บาง (แหะๆ) ระบบทางมหาวิทยาลัยของผมอาจจะไม่เหมือนที่อื่นที่ว่า แต่ละเทอมนั้นเราจะไม่ได้เรียนกับเพื่อนซะส่วนใหญ่ แบบเดินเรียนไปเรื่อยๆ ก็เลยทำให้ตั้งใจเรียนด้วยมั่ง เพราะจะเจอผู้คนไม่ซ้ำกันเลยแต่ละเทอม แต่ก็เหมือนเป็นการฝึกเข้าสังคม การร่วมมือความสมัคคี ได้สังคมที่กว้างขวางมากขึ้น รู้จักการทำงานเป็นทีม
สุดท้ายแล้วก็เข้าใจว่าที่มหาลัยต้องมีกฎเกณ์เข้มงวดก็เพราะว่าต้องการให้คนเรามีทักษะ ความสามารถ ที่สามารถเอาไปใช้ได้ในชิวิตจริง ทำงานจริงๆ มันไม่ใช้แค่เรียนๆเล่นๆไปวันๆแล้ว แล้วก็บอกตรงๆเลยว่าเพราะระบบที่มันต่างกัน ทั้งสิ่งแวดล้อม และสังคมด้วย ทำให้ความรู้จากการศึกษาของผมมันได้พัฒนาขึ้นไปจริงๆ ซึ่งผมก็อาจจะบอกได้ว่า ถ้ามหาลัยไม่เข้มงวดเหมือนโรงเรียนผมอาจจะเป็นคนไม่เอาไหนอยู่ก็ได้ มันอาจจะฟังดูเหมือนเป็นสิ่งที่บังคับจิตใจเรา แต่มันก็ยังดีที่ทำให้คนเป็นคนได้นะ แต่เราก็ต้องมีใจที่อยากจะพัฒนาตัวเอง ถึงจะประสบความสำเร็จได้ ทั้งหมดอยู่ที่ตัวเราเองเลย ขอบคุณครับที่อ่านจนจบ