เกริ่นก่อนว่าเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ที่ผ่านมาได้รับคำชวนแบบกะทันหันมากจริงๆ
จากน้องน่ารักที่รู้จักกันให้ไปพักที่แคมป์เปิดใหม่ ณ จังหวัดเชียงใหม่ แถวแม่ริม
(ชวนวันที่ 14 ให้บินไปวันที่ 18 ซึ่งตอนนั้นตั๋วเชียงใหม่แพงมากนะคะ T T)
แต่หลังจากที่ได้เห็นรูปรีสอร์ทสไตล์แคมป์แล้วนั้น ตัดสินใจแบบไม่รอช้า ไปค่ะ!!
ตั๋วแพงดิฉันก็จะสู้ !! เพราะที่เห็นจากในรูปมันดูสวย ละมุนมากจริงๆ
แล้วช่วงที่ไปอากาศก็ประมาณ 22 องศาแล้ว ดังนั้นทริปนี้มันต้องดีมากแน่ๆ
หลังจากจองตั๋วเครื่องบินก็จัดแจงนัดเพื่อนที่เชียงใหม่เสร็จสรรพ
นั่งนับวันรอไปที่แคมป์ เชียงใหม่ พร้อมกับหาชุดสไตล์โบฮีเมี่ยน
ให้เข้ากับสถานที่แบบสุดๆ (คอสตูมและพรอพต้องแน่นนะคะ เดี๋ยวหลุดคอนเซปต์)
และแล้วก็มาถึงวันเดินทางลงสนามบิน
(ถ้าใครไม่มีรถจะใช้บริการเช่ารถหรือนั่งรถแท๊กซี่หรือ Grab ไปจากสนามบินก็ได้นะคะ
แต่เราไม่ทราบราคาเพราะเพื่อนมารับ) ระหว่างเดินทางไปก็แวะซื้อขนมไปตุน ซอฟเฟลกันยุง
และขาดไม่ได้คือมาม่าคัพ (ไม่รู้ทำไมเวลาอากาศเย็นๆชอบทานมาม่าคัพทุกที)
หลังจากแวะทานข้าวนู้นนี้ไปเรื่อย ก็ออกเดินทางไปที่ Camp Chiangmai กันเถอะ
เราไปถึงที่แคมป์ประมาณ 16.00 ซึ่งคิดว่าเป็นเวลาที่กำลังดี
ก็แดดแรงพอสมควรเพราะเป็นที่โล่งๆกว้าง แต่วิวสวยเลยละ เห็นทั้งทุ่งนาทั้งภูเขา
อยากมาเก็บภาพตอนแสงสวยๆ เราว่ามาประมาณนี้ก็กำลังดีนะ
แล้วพอ 17.00 พระอาทิตย์ก็ตกเขาไปแล้วอะ
เช็คอินที่ล๊อบบี้กันเลย ถึงสถานที่ไม่ใหญ่แต่ส่วนตัวคิดว่าตกแต่งและสร้างออกมาได้ดูดีเลยทีเดียว
เกริ่นมายาวไปดูรูปช่วงมีแสงกันเถอะ
มีเปลให้นอน ชมวิวภูเขา ทุ่งนา
ห้องมี 3 แบบ แบบเตียงเดี่ยว เตียงคู่ และห้องแบบครอบครัว
เราชอบสไตล์การตกแต่งและของที่เขาเลือกใช้มากเลย เหมือนหลุดออกมาจาก pinterest เป็นสไตล์แบบน้อยแต่ลงตัว
ช่วงตอนเย็นที่ยังมีแสงก็จะได้อารมณ์ของแคมป์อีกอารมณ์นึง
วิวของเต็นท์จะมีหลายมุม มุมที่ชอบที่สุดคือด้านที่เห็นภูเขาและทุ่งนา อากาศและแสงดี้ดี
*ห้องน้ำ*
ห้องน้ำเป็นแบบรวม แต่แยกชาย หญิง มีน้ำอุ่นให้ ไดร์เป่าผม ผ้าเชดตัว สบู่ให้ ครบครัน
ห้องน้ำไม่น่ากลัว ส่วนตัวมีน้ำอุ่นคือโอเคเลย ตอนนี้ทุกอย่างยังใหม่
สังกะสีก็ยังสวยงามไม่เป็นสนิม ไม่รู้ว่าถ้านานๆไปแล้วจะเป็นอย่างไรบ้าง แต่ตอนนี้คือดีงาม
ตกเย็นกันบ้าง ก็ได้ฟีลไปอีกแบบเลย ยิ่งพอยิ่งมืด ยิ่งฟิน ยิ่งโรแมนติคมาก
ใครมากับแฟนนี่ สวีทเว่อร์แน่ๆ แต่ใครมากับแก๊งเพื่อนก็ Time to party กันเลยละ
วันนี้เป็นวัน Grand Opening ทางแคมป์เลยมีอาหารมาเลี้ยงดูปูเสื่อ
แต่ลองถามราคาดูเขาก็บอกว่า สเต๊กก็จานละไม่ถึง 100 บาทนะ (มีความถูก)
นั่งโต๊ะไม้ ทานบาบีคิว อากาศเย็น ลมพัดโชย นั่งฟังเพลง Jazz
ซึ่งทางแคมป์เอาโปรเจคเตอร์มาขึงแบบหนังกลางแปลง แล้วแต่ละเพลงที่เลือกมาคือดี
ประมาณ 3 ทุ่มมีดนตรีสด ฟังเพลงสบายๆ จิบเบียร์ กินบาบีคิว อะไรจะสุขใจขนาดนั้นนนนนน
จะมีมุมให้ก่อกองไฟเพื่อผิงไฟ จิบเบียร์เย็นๆ หรือจะเป็นชาอุ่น นั่งเม้ามอยดีดกีตาร์ร้องเพลง
หรือปล่อยใจนั่งมองกองไฟ ก็ชิลล์สุด
มาดูเต็นท์ตอนกลางคืนกันบ้าง คนละฟีลกับตอนเย็นเลยมะ
ชอบมุมนี้ที่สุด นอนเปล ปล่อยอารมณ์ เรื่องงานเครียดๆก็ทิ้งไปให้หมดเลย ช่วงเวลานี้ขอพักผ่อนก่อนเถอะ
และเราก็นั่งตักตวงช่วงเวลาดีดีของค่ำคืนนี้ ชาร์ตพลังงานให้เต็มที่เพื่อไปสู้ศึกเมื่อกลับไปทำงานที่กรุงเทพอีกครั้ง T T
โดยรวมแล้วเราแทบไม่มีที่ติอะไรกับ แคมป์เชียงใหม่นี้ ไม่ใช่ว่าเพราะเป็นของคนรู้จัก
แต่เพราะเรารู้สึกว่ามันดีมากจริงๆ บรรยากาศดี อากาศดี แสงสี ตัวเต็นท์ทุกอย่างดูสบายตาไปหมด
และคืนนี้ขอตัวลาไปนอนก่อน เตรียมตัวไปขี่ช้างที่ โป่งแยง ในวันพรุ่งนี้ค่า (ทางแคมป์มีโปรขี่ช้าง+นอนเต็นท์)
ราตรีสวัสดิ์




ตอนเช้าตื่นมาทานอาหารเช้าเป็นข้าวต้มหมู อร่อยมากฟาดไปสองชาม
และมีข้าวเหนียวสังขยา ห่อใบตอง ซาลาเปา อาหารไม่รู้ว่าเปลี่ยนไปตามแต่ละวันหรือเปล่านะ
แล้วหลังจากนั้นก็ขับรถไปขี่ช้างกันที่โป่งแยงใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาทีไม่เกิน
ถึงแล้ว ปางช้าง โป่งแยง
มาถ่ายรูปกับน้องช้างกันหน่อย
หากใครกลัวความสูงควาญช้างแนะนำให้นั่งด้านขวาน่าจะเสียวน้อยกว่า
ช้างค่อยๆเดินเข้าไปในเส้นทางธรรมชาติ ร้อนมากกแนะนำให้เอาเสื้อหรือผ้ามาคลุมด้วยนะคะ
น้องช้างผมน้อยจัง
เดินเข้าไปเรื่อยๆจนไปถึงน้ำตก แวะแชะภาพสักหน่อยแล้วก็เดินกลับ
ไม่เคยนั่งช้างมาก่อนก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีนะ เสียวๆด้วยว่าช้างจะงอแง
ไม่เดินไปตามทางวิ่งหนีลงเขาไปเลยหรือเปล่า เพราะตัวของเราก็ค่อนข้างงอแง
เดี๋ยวหยุด เดี๋ยวตดให้ดม หวาดเสียวกันเลยทีเดียว
หากใครรู้สึกว่ากิจกรรมการขี่ช้างมันธรรมดาเกินไป
ทางแคมป์รู้สึกเขาจะดีลพวกกิจกรรมแอดเวนเจอร์
โหนสลิงอะไรไว้ด้วย ลองไปดูในเพจเขาเองแล้วกันนะ
สำหรับวันนี้จบทริปไปแบบฟินๆ แฮปปี้มาก ไม่เคยนอนแคมป์มาก่อน ดีงามมาก
ด้วยอากาศและการตกแต่ง แสงไฟต่างๆ มันสบายตา สบายใจบอกไม่ถูก
และรู้สึกเหมือนได้มาพักผ่อนที่ต่างจังหวัดจริงๆเพราะรอบข้างไม่มีอะไรเลย
ให้รบกวนสายตา หากใครยังไม่เคยมานอนเราแนะนำให้มานะ ราคาไม่แพง แล้วก็ฟินจริง
หากใครต้องการดูข้อมูลเพิ่มเติม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ https://www.facebook.com/ISGroupThailand/?fref=ts
สำหรับวันนี้ สวัดดี สวีดัด
สำหรับที่เป็น Sr เพราะว่าน้องเขาให้เต็นท์นอนและเลี้ยงอาหารเป็นอย่างดี
นอกนั้นเราออกเองหมดนะคะ ไม่ได้อวยเกินจริงแต่รู้สึกฟินจริงๆ
ใครไม่เชื่อก็ลองไปดูกันเองเน้อออ




[SR] อากาศหนาวแล้ววว มานอนเต็นท์ ดูดาว ปิ้งบาบีคิว - ขี่ช้าง @Camp Chiangmai กันเถอะะะ
เกริ่นก่อนว่าเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ที่ผ่านมาได้รับคำชวนแบบกะทันหันมากจริงๆ
จากน้องน่ารักที่รู้จักกันให้ไปพักที่แคมป์เปิดใหม่ ณ จังหวัดเชียงใหม่ แถวแม่ริม
(ชวนวันที่ 14 ให้บินไปวันที่ 18 ซึ่งตอนนั้นตั๋วเชียงใหม่แพงมากนะคะ T T)
แต่หลังจากที่ได้เห็นรูปรีสอร์ทสไตล์แคมป์แล้วนั้น ตัดสินใจแบบไม่รอช้า ไปค่ะ!!
ตั๋วแพงดิฉันก็จะสู้ !! เพราะที่เห็นจากในรูปมันดูสวย ละมุนมากจริงๆ
แล้วช่วงที่ไปอากาศก็ประมาณ 22 องศาแล้ว ดังนั้นทริปนี้มันต้องดีมากแน่ๆ
หลังจากจองตั๋วเครื่องบินก็จัดแจงนัดเพื่อนที่เชียงใหม่เสร็จสรรพ
นั่งนับวันรอไปที่แคมป์ เชียงใหม่ พร้อมกับหาชุดสไตล์โบฮีเมี่ยน
ให้เข้ากับสถานที่แบบสุดๆ (คอสตูมและพรอพต้องแน่นนะคะ เดี๋ยวหลุดคอนเซปต์)
และแล้วก็มาถึงวันเดินทางลงสนามบิน
(ถ้าใครไม่มีรถจะใช้บริการเช่ารถหรือนั่งรถแท๊กซี่หรือ Grab ไปจากสนามบินก็ได้นะคะ
แต่เราไม่ทราบราคาเพราะเพื่อนมารับ) ระหว่างเดินทางไปก็แวะซื้อขนมไปตุน ซอฟเฟลกันยุง
และขาดไม่ได้คือมาม่าคัพ (ไม่รู้ทำไมเวลาอากาศเย็นๆชอบทานมาม่าคัพทุกที)
หลังจากแวะทานข้าวนู้นนี้ไปเรื่อย ก็ออกเดินทางไปที่ Camp Chiangmai กันเถอะ
เราไปถึงที่แคมป์ประมาณ 16.00 ซึ่งคิดว่าเป็นเวลาที่กำลังดี
ก็แดดแรงพอสมควรเพราะเป็นที่โล่งๆกว้าง แต่วิวสวยเลยละ เห็นทั้งทุ่งนาทั้งภูเขา
อยากมาเก็บภาพตอนแสงสวยๆ เราว่ามาประมาณนี้ก็กำลังดีนะ
แล้วพอ 17.00 พระอาทิตย์ก็ตกเขาไปแล้วอะ
เช็คอินที่ล๊อบบี้กันเลย ถึงสถานที่ไม่ใหญ่แต่ส่วนตัวคิดว่าตกแต่งและสร้างออกมาได้ดูดีเลยทีเดียว
เกริ่นมายาวไปดูรูปช่วงมีแสงกันเถอะ
มีเปลให้นอน ชมวิวภูเขา ทุ่งนา
ห้องมี 3 แบบ แบบเตียงเดี่ยว เตียงคู่ และห้องแบบครอบครัว
เราชอบสไตล์การตกแต่งและของที่เขาเลือกใช้มากเลย เหมือนหลุดออกมาจาก pinterest เป็นสไตล์แบบน้อยแต่ลงตัว
ช่วงตอนเย็นที่ยังมีแสงก็จะได้อารมณ์ของแคมป์อีกอารมณ์นึง
วิวของเต็นท์จะมีหลายมุม มุมที่ชอบที่สุดคือด้านที่เห็นภูเขาและทุ่งนา อากาศและแสงดี้ดี
*ห้องน้ำ*
ห้องน้ำเป็นแบบรวม แต่แยกชาย หญิง มีน้ำอุ่นให้ ไดร์เป่าผม ผ้าเชดตัว สบู่ให้ ครบครัน
ห้องน้ำไม่น่ากลัว ส่วนตัวมีน้ำอุ่นคือโอเคเลย ตอนนี้ทุกอย่างยังใหม่
สังกะสีก็ยังสวยงามไม่เป็นสนิม ไม่รู้ว่าถ้านานๆไปแล้วจะเป็นอย่างไรบ้าง แต่ตอนนี้คือดีงาม
ตกเย็นกันบ้าง ก็ได้ฟีลไปอีกแบบเลย ยิ่งพอยิ่งมืด ยิ่งฟิน ยิ่งโรแมนติคมาก
ใครมากับแฟนนี่ สวีทเว่อร์แน่ๆ แต่ใครมากับแก๊งเพื่อนก็ Time to party กันเลยละ
วันนี้เป็นวัน Grand Opening ทางแคมป์เลยมีอาหารมาเลี้ยงดูปูเสื่อ
แต่ลองถามราคาดูเขาก็บอกว่า สเต๊กก็จานละไม่ถึง 100 บาทนะ (มีความถูก)
นั่งโต๊ะไม้ ทานบาบีคิว อากาศเย็น ลมพัดโชย นั่งฟังเพลง Jazz
ซึ่งทางแคมป์เอาโปรเจคเตอร์มาขึงแบบหนังกลางแปลง แล้วแต่ละเพลงที่เลือกมาคือดี
ประมาณ 3 ทุ่มมีดนตรีสด ฟังเพลงสบายๆ จิบเบียร์ กินบาบีคิว อะไรจะสุขใจขนาดนั้นนนนนน
จะมีมุมให้ก่อกองไฟเพื่อผิงไฟ จิบเบียร์เย็นๆ หรือจะเป็นชาอุ่น นั่งเม้ามอยดีดกีตาร์ร้องเพลง
หรือปล่อยใจนั่งมองกองไฟ ก็ชิลล์สุด
มาดูเต็นท์ตอนกลางคืนกันบ้าง คนละฟีลกับตอนเย็นเลยมะ
ชอบมุมนี้ที่สุด นอนเปล ปล่อยอารมณ์ เรื่องงานเครียดๆก็ทิ้งไปให้หมดเลย ช่วงเวลานี้ขอพักผ่อนก่อนเถอะ
และเราก็นั่งตักตวงช่วงเวลาดีดีของค่ำคืนนี้ ชาร์ตพลังงานให้เต็มที่เพื่อไปสู้ศึกเมื่อกลับไปทำงานที่กรุงเทพอีกครั้ง T T
โดยรวมแล้วเราแทบไม่มีที่ติอะไรกับ แคมป์เชียงใหม่นี้ ไม่ใช่ว่าเพราะเป็นของคนรู้จัก
แต่เพราะเรารู้สึกว่ามันดีมากจริงๆ บรรยากาศดี อากาศดี แสงสี ตัวเต็นท์ทุกอย่างดูสบายตาไปหมด
และคืนนี้ขอตัวลาไปนอนก่อน เตรียมตัวไปขี่ช้างที่ โป่งแยง ในวันพรุ่งนี้ค่า (ทางแคมป์มีโปรขี่ช้าง+นอนเต็นท์)
ราตรีสวัสดิ์
ตอนเช้าตื่นมาทานอาหารเช้าเป็นข้าวต้มหมู อร่อยมากฟาดไปสองชาม
และมีข้าวเหนียวสังขยา ห่อใบตอง ซาลาเปา อาหารไม่รู้ว่าเปลี่ยนไปตามแต่ละวันหรือเปล่านะ
แล้วหลังจากนั้นก็ขับรถไปขี่ช้างกันที่โป่งแยงใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาทีไม่เกิน
ถึงแล้ว ปางช้าง โป่งแยง
มาถ่ายรูปกับน้องช้างกันหน่อย
หากใครกลัวความสูงควาญช้างแนะนำให้นั่งด้านขวาน่าจะเสียวน้อยกว่า
ช้างค่อยๆเดินเข้าไปในเส้นทางธรรมชาติ ร้อนมากกแนะนำให้เอาเสื้อหรือผ้ามาคลุมด้วยนะคะ
น้องช้างผมน้อยจัง
เดินเข้าไปเรื่อยๆจนไปถึงน้ำตก แวะแชะภาพสักหน่อยแล้วก็เดินกลับ
ไม่เคยนั่งช้างมาก่อนก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีนะ เสียวๆด้วยว่าช้างจะงอแง
ไม่เดินไปตามทางวิ่งหนีลงเขาไปเลยหรือเปล่า เพราะตัวของเราก็ค่อนข้างงอแง
เดี๋ยวหยุด เดี๋ยวตดให้ดม หวาดเสียวกันเลยทีเดียว
หากใครรู้สึกว่ากิจกรรมการขี่ช้างมันธรรมดาเกินไป
ทางแคมป์รู้สึกเขาจะดีลพวกกิจกรรมแอดเวนเจอร์
โหนสลิงอะไรไว้ด้วย ลองไปดูในเพจเขาเองแล้วกันนะ
สำหรับวันนี้จบทริปไปแบบฟินๆ แฮปปี้มาก ไม่เคยนอนแคมป์มาก่อน ดีงามมาก
ด้วยอากาศและการตกแต่ง แสงไฟต่างๆ มันสบายตา สบายใจบอกไม่ถูก
และรู้สึกเหมือนได้มาพักผ่อนที่ต่างจังหวัดจริงๆเพราะรอบข้างไม่มีอะไรเลย
ให้รบกวนสายตา หากใครยังไม่เคยมานอนเราแนะนำให้มานะ ราคาไม่แพง แล้วก็ฟินจริง
หากใครต้องการดูข้อมูลเพิ่มเติม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สำหรับวันนี้ สวัดดี สวีดัด
สำหรับที่เป็น Sr เพราะว่าน้องเขาให้เต็นท์นอนและเลี้ยงอาหารเป็นอย่างดี
นอกนั้นเราออกเองหมดนะคะ ไม่ได้อวยเกินจริงแต่รู้สึกฟินจริงๆ
ใครไม่เชื่อก็ลองไปดูกันเองเน้อออ