...Bromo & Kwah Ijen
สองภูเขาไฟแห่งชวาตะวันออก!! สถานที่ซึ่งแห่งหนึ่งมีผู้เปรียบไว้ว่าเป็นเสมือน "ลมหายใจของโลก" และอีกสถานที่หนึ่งมี "Blue Flame" ซึ่งมีเพียงไม่กี่แห่งบนโลกกลมๆใบนี้ ผมได้ยินและได้เห็นภาพของภูเขาไฟทั้งสองแห่งผ่านตามานานพอสมควร หวังว่าวันหนึ่งจะได้ไปเหยียบและเห็นด้วยสายตาตัวเอง กระทั่งกลางปี 59 "เธอ" ชักชวน (บังคับนะแหละ) ให้ไปที่นี่ โดยมีเพื่อนร่วมทริปขาโหดอีกสองคน พวกเราวางแผนการเดินทาง การท่องเที่ยว ตลอดจนเลือกที่จะใช้บริการไกด์ในพื้นที่เหมือนที่เพื่อนหลายคนทำ (แม้การไปเองจะประหยัดกว่า แต่การติดต่อไกด์ไว้กลับเป็นโชคดีของพวกผมเพราะดันเจอเรื่องไม่คาดฝัน!!! )
ก่อนเดินทาง... ผมรู้เพียงว่า ต้องนั่งเครื่องบินนาน ต้องตื่นเช้า ต้องเดินเยอะ ต้องนั่งรถข้ามเมืองหลายชั่วโมง... (มารู้ทีหลังอีกว่า ต้องอดข้าวและ "ต้องรอ" ด้วย ฮือๆๆๆ) แต่คิดว่าเรื่องแค่นี้ไม่สามารถหยุดความหื่นกระหายในการเดินทางของพวกผมและผู้ร่วมทริปได้... (จะว่าไปความหื่นผมมีมากพออยู่แล้วล่ะ จะเหลือก็เพียงความกระหาย ฮิฮิ)
แต่แล้ว... เพียงแค่เริ่มต้น ยังไม่ออกเดินทางเลยด้วยซ้ำ ก็มีบททดสอบมาให้ Test สภาพจิตใจกันแล้ว มีอะไร??? มันเกิดอะไรขึ้น???? ถ้าเพื่อนว่างๆ มีเวลาเหลือๆ ก็ลองมาติดตามดูครับ... ทั้งนี้จะพยายามสอดแทรกสาระ (หากมี 555) และข้อสังเกตบางอย่างไว้ด้วย เผื่อเพื่อนๆท่านใดยังไม่ทราบ ใครประสงค์เสพภาพถ่ายก็เลื่อนๆไปนะฮะ คือว่ามัน "ยาว"!!! (แต่สั้นกว่าสันหลังผมนะ คนอะไร ขี้เกียจจริงๆ)
ก่อนอื่นขอฝากรีวิวที่ผ่านมานะฮะ... เผื่อเรื่องใดเพื่อนๆสนใจหรือจะเป็นประโยชน์ เชิญกดเข้าไปชมได้!!
รีวิว (ที่พัก/อาหาร) นอนบ้านคนเมือง... ยามเยือนเมืองน่าน... ที่ "Brown"
http://pantip.com/topic/35825005
เที่ยวหน้าฝน...!!! วังเวียง + เวียงจันทน์ ไปกับเพื่อนก็ได้... ไปกับแฟนก็โดน!!!!
http://pantip.com/topic/35622265
Cr. กระทู้ชวนเที่ยว มีเรื่องเล่าเข้าพรรษา : หนีความวุ่นวาย ไปพักใจที่แม่แจ่ม + น่าน เบิกบานอุรา!!!
http://pantip.com/topic/35502266
รีวิวส่งการบ้าน... Hongkong First Time!!!! หลบฝน หลงทาง ตกเรือ สบายใจแฮ!!!
http://pantip.com/topic/33034254
ไปครับ... ออกเดินทางไปด้วยกัน!!
จุดเริ่มต้นของการเดินทาง... แผนการเดิมที่วางไว้ ใครสนใจกดเข้าไปอ่าน ลอกกันได้นะฮะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้การเดินทางไป Bromo และ Kwah Ijen สามารถจัดทริปโดยเลือกไปสถานที่ใดก่อนก็ได้ จะไปเอง หรือจ้างไกด์ก็ได้ การจ้างไกด์สะดวกต่อการเดินทางและหาที่พัก โดยเฉพาะทริปที่มีเวลาเพียง 3 คืน 4 วัน เช่นพวกผม แม้ต้องจ่ายมากกว่าไปเองสักนิด ...แต่พวกผมเลือก "จ้างไกด์" (เพราะร่างกายเหนื่อยล้าจากงานประจำและต้องเตรียมหาชุดชิคๆชิวๆ ^_^) แต่สิ่งที่พวกผมได้มามากกว่านั้นและไม่เคยคิดมาก่อนคือ "ไกด์ช่วยแก้ปัญหาเรื่องที่พักและการเดินทางให้เราได้" แต่... เราเองก็ต้องมีแผนสองเอาไว้คุยและต่อรองกับไกด์ด้วยนะฮะ ไม่งั้นพี่ไกด์ก็คงจัดให้ตามที่เขา "สะดวกและได้ประโยชน์"
กรุ๊ปของผมวางแผนไว้ว่า ...ออกเดินทางเช้าวันที่ 28 ตุลาคม 2559 จากดอนเมือง-กัวลาลัมเปอร์ และต่อเครื่องบินจาก กัวลาลัมเปอร์-สุราบายา ในเวลาบ่ายๆ โดยถึงที่สุราบายาประมาณ 4 โมงเย็น (หางแดงเพิ่งเปิดบินตรงหลังพวกผมไปไม่กี่วัน ฮึ...) ตกลงให้ไกด์พาไปขึ้น "คาวาอีเจน" ทันที ใช้เวลาเดินทางอีกประมาณ 7-8 ชั่วโมง (เรียกว่ากะไม่หลับไม่นอนกันเลย ไม่ถามเรื่องสุขภาพซักคำ!!!) และต้องเดินขึ้นเขาตั้งแต่ตี 1 เพื่อลงไปในปล่องภูเขาไฟให้ทันเวลาตี 4 เพื่อดู "Blue Flame" (เอาจริงๆ มันก็คล้ายๆ Lucky Flame ที่บ้านเลยนะ ขอบอก!!!)
จากคาวาอีเจนเราจะตีรถกลับมาที่โบรโม่ โดยจะนอนที่โบรโม่สองคืน แม้ว่าคืนสุดท้ายต้องตื่นเช้าออกเดินทางกลับสุราบายาให้ทันไฟล์ 12.30 ... เราก็ยอม เพราะคิดว่านอนดูดาวในดงภูเขาไฟ ก็คงดีกว่าไปนอนโรงแรมในดงเด็กแว๊นส์อินโด!!! (อยากบอกว่า เวียนหัวกับการจราจรอินโดมาก วุ่นวาย สับสน ถนนเล็ก งงเต็กเพราะป้ายไม่มี พี่ๆใช้วิธีโบกแทนมีสัญญาณไฟ ฯลฯ)
... ย้อนกลับไป ณ เวลา 4 ทุ่มวันที่ 27 ตุลาคม 2559 ขณะกำลังเริ่มเก็บของเตรียมเดินทาง (เดี๋ยวนะ!!! จะไปตอนเช้า นี่เพิ่งมานั่งเก็บของ อยากไปจริงๆใช่มะ... พูด!!!) พวกเราได้รับแจ้งว่าเที่ยวบิน กัวลาลัมเปอร์-สุราบายา ถูก Retime ให้ออกเดินทางเวลาประมาณ 18 น. จากเดิม 15 น. (คุณพระ!!! เอามือทาบอก ตะหนกตกใจ... นั่นมันเวลาที่คาดว่าจะถึง ไม่ใช่เพิ่งออกบินนะแม่สาวน้อย) เวลาที่เปลี่ยนทำให้เราไม่สามารถไปดู Blue Flame ซึ่งมีเพียง 2 ที่ในโลกได้ทัน (มีคนบอกมา จำไม่ได้ว่าใคร อย่าถาม!!! บางทีอาจเป็นภูริ แห่ง view finder ^^") ในเวลานั้นคงจะมีเพียงประตูทะลุมิติของพี่โดเรมอนที่จะพาเราไปถึงฝั่งฝันได้ (อย่าคิดใช้คอปเตอร์ไม้ไผ่ มันไกลกว่าที่คิด เกรงแบตจะหมด!!!) แต่... ความหวังยังคงมีให้พวกเราเสมอ เหมือนแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ เมื่อไฟล์ถัดจากเราไปยังไม่ถูก Retime... เราจึงตกลงกันว่าเราจะยอมเสี่ยงไปขอเปลี่ยนไฟล์ โดยมีข้อแม้ว่าเราจะต้องไปที่เคาเตอร์แต่เช้า เพราะหากไปสายไฟล์อาจเต็ม!!! นัดเจอกันดอนเมืองตี 5 นะเจ้าคะ!!! (ไม่นัดตี 3 ไปเลยล่ะฮะ... กว่าจะตกลงกันได้ก็ปาไปจะเที่ยงคืนแล้ว คงได้นอนแค่สาม ชม. อย่านอนเลยดีกว่า // ค้อนเบาๆ ชิๆ)
... ตี 5 หน้าเคาเตอร์หางแดง ดอนเมือง!!! ลุ้นกันอยู่สักพัก หน่วยรบแนวหน้าของเราก้าวเข้าประชิดแนวเคาเตอร์ รัวคำถามสาดไปที่แม่สาวน้อยเสื้อแดง... อีกฝ่ายก้มหน้าหลบน้ำลาย!! ..ไม่ใช่ๆๆ ก้มหน้าคีย์ข้อมูล ครู่หนึ่งจึงแจ้งว่าเราสามารถเปลี่ยนไฟล์ได้ แถมยังไม่มีประกาศ Retime ด้วย (รู้สึกยินดีเหมือนได้กินเครปป้าเฉื่อยโดยไม่ต้องรอ) ไฟล์นี้จะถึงสุราบายาประมาณ 5 โมงเศษๆ บวกเวลาเดินทางแล้ว หากเราเดินเร็วๆ ฟิตๆ ไม่พัก เราจะทันดูเจ้าไฟสีฟ้าทันแน่นอน (เราคิดกันเอง แต่ใครเคยไปลองของจริง จะเข้าใจว่า มันไม่ใช่!!! ทำไมไม่มีใครบอกณเดชเลย!!! Y_Y)
... เราใช้บริการหางแดง ออกเดินทางประมาณ 8.30 ถึงกัวลาลัมเปอร์ราว 10 โมงเศษ ตามเวลาท้องถิ่น แต่วิบากกรรมยังไม่จบสิ้น.. ขณะที่เรานั่งรอเวลาก็ได้รับทราบว่า เที่ยวบินก่อนหน้าเราโดน Retime ไปเวลา 18 เศษ เหลือแค่ไฟล์ที่เราเปลี่ยนมา ตอนนี้ได้แต่ภาวนาขอให้เรา "รอด"
เรามีเวลาค่อนข้าง "มาก" เลยมาฝากท้องที่ร้านนี้... อาหารดี รสชาติใช้ได้ ราคาพอประมาณ บรรยากาศในร้าน... สะอาด มีคนมาใช้บริการเรื่อยๆ มีสาวๆหมวยๆ หน้าตาดีๆมาให้ชุ่มชื่นหัวใจเป็นระยะๆครับ ^^" (ขากลับผมได้ทานไก่ทอด MB Marry Brown อร่อยเลิศกว่า KFC มีดีกว่า Old town.. ไม่ต้องเชื่อครับ แต่ขอเชิญทดลองด้วยตนเอง)
... จานแรกที่สั่งเหมือนก๋วยเตี๋ยวไก่ อร่อยดี มีเผ็ดนิดๆ เหมาะกับผู้ชื่นชอบความมีรสชาติในชีวิต!!!
ถ้าเน้นอร่อย อยู่ท้อง... ขอแนะนำ นาซิ ลามัค (ถ้าจำไม่ผิด) สัมผัสได้ว่าเหมือนข้าวหุงด้วยกะทิ กินกับไก่ทอด ปลาแห้ง และน้ำยำคล้ายพริกเผา รสกลมกล่อม ไม่เผ็ด แต่มวลสารเนื้อสัตว์ค่อยข้างน้อย บุคคลผู้ใดต้องการโปรตีนเพิ่ม กรุณาพกถั่วโก๋แก่มากินแกล้ม จะช่วยได้มาก ^^"
กินน้ำ กินท่า.. ให้ใจสบาย คลายอุรา รอฟังเสียงเรียกเช็คอินอย่างสบายใจ...
แต่ว่า.. ว่า... ว่า... (กรุณาทำเสียงเอคโค่ เพื่ออรรถรส) ขณะที่เรานั่งรอเวลาก็ได้รับทราบว่า เที่ยวบินเราโดน Retime ไปเวลา 18 เศษ เหมือนกัน สรุปว่าวันนั้นทุกไฟล์ที่บินไปสุราบายาถูกเปลียนเวลาหมด!! เป็นอันแน่นอนแล้วว่า... ถ้าไปตามแผนเดิมเราจะพลาด Blue Flame (ไม่นะพี่ชาย.. ฉันเสียตังค์ค่าตั๋วมาแล้ว!!)
... พวกเราสุมหัวกันพักใหญ่ๆ จึงได้ข้อสรุปว่า เราจะไม่ยอม "พลาด" ตกลงกันว่าจะวางทริปใหม่เป็น "โบรโม่-คาวาอีเจน-โบรโม่" โดยเปลี่ยนที่นอนในคืนที่สอง หากเราติดต่อเองคงลำบากเพราะเป็นวันหยุด นักท่องเที่ยวเยอะ... นี่คือข้อดีของการยอมเสียเงินจ้างไกด์!!! หาไวไฟดีลกับไกด์นานพอควรกว่าจะตกลงกันได้ และไกด์ยอมตามที่เราร้องขอ!!
... แต่!!!!! เคราะห์ยังคงซ้ำ กรรมยังคงซัด ฟ้าคงกลัวเราจะไม่ประทับใจกับทริปนี้ เลยดลบันดาลให้ไฟล์ของเรา "ดีเลย์" เป็นออกจากกัวลาลัมเปอร์ 20 น. ในใจผมคิด เออ.. เอาเข้าไป แน่จริงๆออกตีหนึ่งเลยไม๊เล่า??? เดี๋ยวเปลี่ยนแผนเที่ยวมาเลย์แทนเลยดีกว่า (คิดๆแล้วแค้นสุดขีด สุดฤทธิ์สุดเดช อารมณ์เจ๊ใหม่ เจริญปุระ มากๆ ณ เวลานั้น -*-)
... เรามีเวลานานถึง 9 ชม.
นานขนาดว่าออกสนามบินไปเที่ยวในกัวลาฯ ได้เลยละครับ แต่เนื่องจากไม่ได้นอนและต้องการเก็บแรงอันน้อยนิดไว้ใช้ที่อินโดฯ เราจึงหาที่ว่างๆวางสัมภาระ นั่งพักผ่อน ได้สำรวจโซนเช็คอินมาบอกเพือนๆคร่าวๆ ดังนี้...
1 มีที่ว่างตรงไหน นั่งไปเหอะ ไม่มีคนไล่ ต้องนั่งกับพื้น ไม่มีเก้าอี้ แต่มีห้องน้ำ มีร้านอาหาร ร้านขายของ ขายน้ำ ไม่ต้องกลัวอด หากชอบความสงบให้หันหน้าเข้าสนามบิน ไปทางด้านขวามือจะไม่ค่อยมีคน ส่วนทางด้านซ้ายเป็นที่ตั้งร้านอาหารคนจะพลุกพล่าน... แต่จะมีความสุขกับการนั่งมองและนินทาชาวบ้าน (ต๊ายยย พวกเราเป็นคนแบบนี้เหรอเนี่ย!!)
2 มีไวไฟให้ใช้ทั่วสนามบิน สัญญาณแรงทะลุ 4G
3 อยากบอกว่า ตม. กัวลาฯ ช้ามากกกก สวนทางสัญญาณ 4G จะเข้าจะออกให้เผื่อเวลาตรงนี้ไว้เลยขาละ 20 นาที
4 มีธนาคาร CIMB ให้แลกเงิน อยู่ทางขวามือโซนสงบที่บอกข้างต้น
5 มีขนมปังการ์ดีเนียขายที่ร้านขายของ มีหลากหลายและอร่อยนะฮะ ขอบอก (จงลืมฟาร์มเฮ้าท์และเลอแปงใน 7-11 ไปซะ!!!!)
6 ร้านอาหารรับเงินริงกิต บางร้านรับเครดิตด้วย เช่น Old Town ดังนั้นถามก่อน.. ไม่มีเงินกรุณาไปแลก (ผมแลกเงิน US ติดไปด้วย เผื่อต้องใช้แลกเงิน)
7 หากอยากชาร์ตแบตสิ่งของต่างๆ กรุณาเดินหาตามเสา มีปลั๊กตรงไหนจัดไปครับ!!! (ถ้าเข้าไปด้านในผ่าน ตม. จะมีจุดให้ชาร์ตไฟเป็นการเฉพาะ)
8 ผ่าน ตม. เข้ามาจะเป็นโซนดิวตี้ฟรี มีร้านขายของ ขายน้ำ มีห้องน้ำ มีที่นั่ง มีที่ชาร์ตไฟอุปกรณ์ (ต้องเดินหาสักนิด แต่มีป้ายบอก) แต่น้ำที่ซื้อตรงนี้... แม้ผ่านการตรวจแล้ว ทว่าว่าก่อนเข้า Gate มีการตรวจ "อีกรอบ" น้ำที่หนูๆตุนกันมาถ้าดื่มไม่หมดต้องทิ้งนะจ๊ะ (คุณหลอกดาว!!!)
9 ใน Gate มีเป็นบางจุดที่มี Drinking Fountain ขาไปไม่มี แต่ขากลับมี เลยเอาขวดเปล่าไปรองน้ำไว้ทานได้
10 เข้า Gate ไปแล้วมีที่นั่งมากมาย พวกเรานั่งรอจนคนไม่มีอย่างที่เห็น วังเวงนักเชียว!!!!
11 อันนี้แถม... สนามบินที่ Juanda อินโดฯ ตอนผมไปไม่อนุญาตให้นำขาตั้งกล้อง ไม้เท้า ขึ้นเครื่องนะครับ ต้องโหลด... ดีที่เพื่อนร่วมทริปซื้อน้ำหนักไว้ มิฉะนั้นคงต้องเสียเงินแน่ๆ ท่านใดจะไปลองหาทางแก้ปัญหาจุดนี้ไว้ด้วยเด้อออออ..
ตัดภาพมาที่สนามบิน Juanda สุราบายา อินโดฯ..
เราติดต่อไกด์ผ่าน Arif และได้ไกด์ร่วมทริปคือ Pepy... นิสัยดี เป็นกันเอง ขับรถดี ตามใจ และโอเครมากสำหรับกรุ๊ปผม!!!
เราบอกหิว... Pepy พาเราไปทาน "มะตะบะ" ข้างทาง ด้วยความหิวเราจึงเลือกตัวท๊อปสุดครับ "มะตะบะหน้าชีส" ถ้าถามว่าเป็นไง??? ...แผ่นใหญ่ ร้อน สดใหม่ อร่อย เลี่ยน และเยอะ!!! เรียกว่าขณะนั่งรถขึ้นโบรโม่ตอนตีสองตีสามอาหารยังไม่ย่อยเลยทีเดียว 555
เอาละครับ... ถึง อินโดฯ ซะที Bromo รออยู่!!!
[CR] ...ไปด้วยกัน ไปได้ไกล!!! Bromo & Kwah Ijen **ประสบการณ์ดีๆ ที่มาพร้อมการดีเลย์ 9 ชม.
สองภูเขาไฟแห่งชวาตะวันออก!! สถานที่ซึ่งแห่งหนึ่งมีผู้เปรียบไว้ว่าเป็นเสมือน "ลมหายใจของโลก" และอีกสถานที่หนึ่งมี "Blue Flame" ซึ่งมีเพียงไม่กี่แห่งบนโลกกลมๆใบนี้ ผมได้ยินและได้เห็นภาพของภูเขาไฟทั้งสองแห่งผ่านตามานานพอสมควร หวังว่าวันหนึ่งจะได้ไปเหยียบและเห็นด้วยสายตาตัวเอง กระทั่งกลางปี 59 "เธอ" ชักชวน (บังคับนะแหละ) ให้ไปที่นี่ โดยมีเพื่อนร่วมทริปขาโหดอีกสองคน พวกเราวางแผนการเดินทาง การท่องเที่ยว ตลอดจนเลือกที่จะใช้บริการไกด์ในพื้นที่เหมือนที่เพื่อนหลายคนทำ (แม้การไปเองจะประหยัดกว่า แต่การติดต่อไกด์ไว้กลับเป็นโชคดีของพวกผมเพราะดันเจอเรื่องไม่คาดฝัน!!! )
ก่อนเดินทาง... ผมรู้เพียงว่า ต้องนั่งเครื่องบินนาน ต้องตื่นเช้า ต้องเดินเยอะ ต้องนั่งรถข้ามเมืองหลายชั่วโมง... (มารู้ทีหลังอีกว่า ต้องอดข้าวและ "ต้องรอ" ด้วย ฮือๆๆๆ) แต่คิดว่าเรื่องแค่นี้ไม่สามารถหยุดความหื่นกระหายในการเดินทางของพวกผมและผู้ร่วมทริปได้... (จะว่าไปความหื่นผมมีมากพออยู่แล้วล่ะ จะเหลือก็เพียงความกระหาย ฮิฮิ)
แต่แล้ว... เพียงแค่เริ่มต้น ยังไม่ออกเดินทางเลยด้วยซ้ำ ก็มีบททดสอบมาให้ Test สภาพจิตใจกันแล้ว มีอะไร??? มันเกิดอะไรขึ้น???? ถ้าเพื่อนว่างๆ มีเวลาเหลือๆ ก็ลองมาติดตามดูครับ... ทั้งนี้จะพยายามสอดแทรกสาระ (หากมี 555) และข้อสังเกตบางอย่างไว้ด้วย เผื่อเพื่อนๆท่านใดยังไม่ทราบ ใครประสงค์เสพภาพถ่ายก็เลื่อนๆไปนะฮะ คือว่ามัน "ยาว"!!! (แต่สั้นกว่าสันหลังผมนะ คนอะไร ขี้เกียจจริงๆ)
ก่อนอื่นขอฝากรีวิวที่ผ่านมานะฮะ... เผื่อเรื่องใดเพื่อนๆสนใจหรือจะเป็นประโยชน์ เชิญกดเข้าไปชมได้!!
รีวิว (ที่พัก/อาหาร) นอนบ้านคนเมือง... ยามเยือนเมืองน่าน... ที่ "Brown" http://pantip.com/topic/35825005
เที่ยวหน้าฝน...!!! วังเวียง + เวียงจันทน์ ไปกับเพื่อนก็ได้... ไปกับแฟนก็โดน!!!! http://pantip.com/topic/35622265
Cr. กระทู้ชวนเที่ยว มีเรื่องเล่าเข้าพรรษา : หนีความวุ่นวาย ไปพักใจที่แม่แจ่ม + น่าน เบิกบานอุรา!!! http://pantip.com/topic/35502266
รีวิวส่งการบ้าน... Hongkong First Time!!!! หลบฝน หลงทาง ตกเรือ สบายใจแฮ!!! http://pantip.com/topic/33034254
ไปครับ... ออกเดินทางไปด้วยกัน!!
จุดเริ่มต้นของการเดินทาง... แผนการเดิมที่วางไว้ ใครสนใจกดเข้าไปอ่าน ลอกกันได้นะฮะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
... ย้อนกลับไป ณ เวลา 4 ทุ่มวันที่ 27 ตุลาคม 2559 ขณะกำลังเริ่มเก็บของเตรียมเดินทาง (เดี๋ยวนะ!!! จะไปตอนเช้า นี่เพิ่งมานั่งเก็บของ อยากไปจริงๆใช่มะ... พูด!!!) พวกเราได้รับแจ้งว่าเที่ยวบิน กัวลาลัมเปอร์-สุราบายา ถูก Retime ให้ออกเดินทางเวลาประมาณ 18 น. จากเดิม 15 น. (คุณพระ!!! เอามือทาบอก ตะหนกตกใจ... นั่นมันเวลาที่คาดว่าจะถึง ไม่ใช่เพิ่งออกบินนะแม่สาวน้อย) เวลาที่เปลี่ยนทำให้เราไม่สามารถไปดู Blue Flame ซึ่งมีเพียง 2 ที่ในโลกได้ทัน (มีคนบอกมา จำไม่ได้ว่าใคร อย่าถาม!!! บางทีอาจเป็นภูริ แห่ง view finder ^^") ในเวลานั้นคงจะมีเพียงประตูทะลุมิติของพี่โดเรมอนที่จะพาเราไปถึงฝั่งฝันได้ (อย่าคิดใช้คอปเตอร์ไม้ไผ่ มันไกลกว่าที่คิด เกรงแบตจะหมด!!!) แต่... ความหวังยังคงมีให้พวกเราเสมอ เหมือนแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ เมื่อไฟล์ถัดจากเราไปยังไม่ถูก Retime... เราจึงตกลงกันว่าเราจะยอมเสี่ยงไปขอเปลี่ยนไฟล์ โดยมีข้อแม้ว่าเราจะต้องไปที่เคาเตอร์แต่เช้า เพราะหากไปสายไฟล์อาจเต็ม!!! นัดเจอกันดอนเมืองตี 5 นะเจ้าคะ!!! (ไม่นัดตี 3 ไปเลยล่ะฮะ... กว่าจะตกลงกันได้ก็ปาไปจะเที่ยงคืนแล้ว คงได้นอนแค่สาม ชม. อย่านอนเลยดีกว่า // ค้อนเบาๆ ชิๆ)
... ตี 5 หน้าเคาเตอร์หางแดง ดอนเมือง!!! ลุ้นกันอยู่สักพัก หน่วยรบแนวหน้าของเราก้าวเข้าประชิดแนวเคาเตอร์ รัวคำถามสาดไปที่แม่สาวน้อยเสื้อแดง... อีกฝ่ายก้มหน้าหลบน้ำลาย!! ..ไม่ใช่ๆๆ ก้มหน้าคีย์ข้อมูล ครู่หนึ่งจึงแจ้งว่าเราสามารถเปลี่ยนไฟล์ได้ แถมยังไม่มีประกาศ Retime ด้วย (รู้สึกยินดีเหมือนได้กินเครปป้าเฉื่อยโดยไม่ต้องรอ) ไฟล์นี้จะถึงสุราบายาประมาณ 5 โมงเศษๆ บวกเวลาเดินทางแล้ว หากเราเดินเร็วๆ ฟิตๆ ไม่พัก เราจะทันดูเจ้าไฟสีฟ้าทันแน่นอน (เราคิดกันเอง แต่ใครเคยไปลองของจริง จะเข้าใจว่า มันไม่ใช่!!! ทำไมไม่มีใครบอกณเดชเลย!!! Y_Y)
... เราใช้บริการหางแดง ออกเดินทางประมาณ 8.30 ถึงกัวลาลัมเปอร์ราว 10 โมงเศษ ตามเวลาท้องถิ่น แต่วิบากกรรมยังไม่จบสิ้น.. ขณะที่เรานั่งรอเวลาก็ได้รับทราบว่า เที่ยวบินก่อนหน้าเราโดน Retime ไปเวลา 18 เศษ เหลือแค่ไฟล์ที่เราเปลี่ยนมา ตอนนี้ได้แต่ภาวนาขอให้เรา "รอด"
เรามีเวลาค่อนข้าง "มาก" เลยมาฝากท้องที่ร้านนี้... อาหารดี รสชาติใช้ได้ ราคาพอประมาณ บรรยากาศในร้าน... สะอาด มีคนมาใช้บริการเรื่อยๆ มีสาวๆหมวยๆ หน้าตาดีๆมาให้ชุ่มชื่นหัวใจเป็นระยะๆครับ ^^" (ขากลับผมได้ทานไก่ทอด MB Marry Brown อร่อยเลิศกว่า KFC มีดีกว่า Old town.. ไม่ต้องเชื่อครับ แต่ขอเชิญทดลองด้วยตนเอง)
... จานแรกที่สั่งเหมือนก๋วยเตี๋ยวไก่ อร่อยดี มีเผ็ดนิดๆ เหมาะกับผู้ชื่นชอบความมีรสชาติในชีวิต!!!
ถ้าเน้นอร่อย อยู่ท้อง... ขอแนะนำ นาซิ ลามัค (ถ้าจำไม่ผิด) สัมผัสได้ว่าเหมือนข้าวหุงด้วยกะทิ กินกับไก่ทอด ปลาแห้ง และน้ำยำคล้ายพริกเผา รสกลมกล่อม ไม่เผ็ด แต่มวลสารเนื้อสัตว์ค่อยข้างน้อย บุคคลผู้ใดต้องการโปรตีนเพิ่ม กรุณาพกถั่วโก๋แก่มากินแกล้ม จะช่วยได้มาก ^^"
กินน้ำ กินท่า.. ให้ใจสบาย คลายอุรา รอฟังเสียงเรียกเช็คอินอย่างสบายใจ...
แต่ว่า.. ว่า... ว่า... (กรุณาทำเสียงเอคโค่ เพื่ออรรถรส) ขณะที่เรานั่งรอเวลาก็ได้รับทราบว่า เที่ยวบินเราโดน Retime ไปเวลา 18 เศษ เหมือนกัน สรุปว่าวันนั้นทุกไฟล์ที่บินไปสุราบายาถูกเปลียนเวลาหมด!! เป็นอันแน่นอนแล้วว่า... ถ้าไปตามแผนเดิมเราจะพลาด Blue Flame (ไม่นะพี่ชาย.. ฉันเสียตังค์ค่าตั๋วมาแล้ว!!)
... พวกเราสุมหัวกันพักใหญ่ๆ จึงได้ข้อสรุปว่า เราจะไม่ยอม "พลาด" ตกลงกันว่าจะวางทริปใหม่เป็น "โบรโม่-คาวาอีเจน-โบรโม่" โดยเปลี่ยนที่นอนในคืนที่สอง หากเราติดต่อเองคงลำบากเพราะเป็นวันหยุด นักท่องเที่ยวเยอะ... นี่คือข้อดีของการยอมเสียเงินจ้างไกด์!!! หาไวไฟดีลกับไกด์นานพอควรกว่าจะตกลงกันได้ และไกด์ยอมตามที่เราร้องขอ!!
... แต่!!!!! เคราะห์ยังคงซ้ำ กรรมยังคงซัด ฟ้าคงกลัวเราจะไม่ประทับใจกับทริปนี้ เลยดลบันดาลให้ไฟล์ของเรา "ดีเลย์" เป็นออกจากกัวลาลัมเปอร์ 20 น. ในใจผมคิด เออ.. เอาเข้าไป แน่จริงๆออกตีหนึ่งเลยไม๊เล่า??? เดี๋ยวเปลี่ยนแผนเที่ยวมาเลย์แทนเลยดีกว่า (คิดๆแล้วแค้นสุดขีด สุดฤทธิ์สุดเดช อารมณ์เจ๊ใหม่ เจริญปุระ มากๆ ณ เวลานั้น -*-)
... เรามีเวลานานถึง 9 ชม.
นานขนาดว่าออกสนามบินไปเที่ยวในกัวลาฯ ได้เลยละครับ แต่เนื่องจากไม่ได้นอนและต้องการเก็บแรงอันน้อยนิดไว้ใช้ที่อินโดฯ เราจึงหาที่ว่างๆวางสัมภาระ นั่งพักผ่อน ได้สำรวจโซนเช็คอินมาบอกเพือนๆคร่าวๆ ดังนี้...
1 มีที่ว่างตรงไหน นั่งไปเหอะ ไม่มีคนไล่ ต้องนั่งกับพื้น ไม่มีเก้าอี้ แต่มีห้องน้ำ มีร้านอาหาร ร้านขายของ ขายน้ำ ไม่ต้องกลัวอด หากชอบความสงบให้หันหน้าเข้าสนามบิน ไปทางด้านขวามือจะไม่ค่อยมีคน ส่วนทางด้านซ้ายเป็นที่ตั้งร้านอาหารคนจะพลุกพล่าน... แต่จะมีความสุขกับการนั่งมองและนินทาชาวบ้าน (ต๊ายยย พวกเราเป็นคนแบบนี้เหรอเนี่ย!!)
2 มีไวไฟให้ใช้ทั่วสนามบิน สัญญาณแรงทะลุ 4G
3 อยากบอกว่า ตม. กัวลาฯ ช้ามากกกก สวนทางสัญญาณ 4G จะเข้าจะออกให้เผื่อเวลาตรงนี้ไว้เลยขาละ 20 นาที
4 มีธนาคาร CIMB ให้แลกเงิน อยู่ทางขวามือโซนสงบที่บอกข้างต้น
5 มีขนมปังการ์ดีเนียขายที่ร้านขายของ มีหลากหลายและอร่อยนะฮะ ขอบอก (จงลืมฟาร์มเฮ้าท์และเลอแปงใน 7-11 ไปซะ!!!!)
6 ร้านอาหารรับเงินริงกิต บางร้านรับเครดิตด้วย เช่น Old Town ดังนั้นถามก่อน.. ไม่มีเงินกรุณาไปแลก (ผมแลกเงิน US ติดไปด้วย เผื่อต้องใช้แลกเงิน)
7 หากอยากชาร์ตแบตสิ่งของต่างๆ กรุณาเดินหาตามเสา มีปลั๊กตรงไหนจัดไปครับ!!! (ถ้าเข้าไปด้านในผ่าน ตม. จะมีจุดให้ชาร์ตไฟเป็นการเฉพาะ)
8 ผ่าน ตม. เข้ามาจะเป็นโซนดิวตี้ฟรี มีร้านขายของ ขายน้ำ มีห้องน้ำ มีที่นั่ง มีที่ชาร์ตไฟอุปกรณ์ (ต้องเดินหาสักนิด แต่มีป้ายบอก) แต่น้ำที่ซื้อตรงนี้... แม้ผ่านการตรวจแล้ว ทว่าว่าก่อนเข้า Gate มีการตรวจ "อีกรอบ" น้ำที่หนูๆตุนกันมาถ้าดื่มไม่หมดต้องทิ้งนะจ๊ะ (คุณหลอกดาว!!!)
9 ใน Gate มีเป็นบางจุดที่มี Drinking Fountain ขาไปไม่มี แต่ขากลับมี เลยเอาขวดเปล่าไปรองน้ำไว้ทานได้
10 เข้า Gate ไปแล้วมีที่นั่งมากมาย พวกเรานั่งรอจนคนไม่มีอย่างที่เห็น วังเวงนักเชียว!!!!
11 อันนี้แถม... สนามบินที่ Juanda อินโดฯ ตอนผมไปไม่อนุญาตให้นำขาตั้งกล้อง ไม้เท้า ขึ้นเครื่องนะครับ ต้องโหลด... ดีที่เพื่อนร่วมทริปซื้อน้ำหนักไว้ มิฉะนั้นคงต้องเสียเงินแน่ๆ ท่านใดจะไปลองหาทางแก้ปัญหาจุดนี้ไว้ด้วยเด้อออออ..
ตัดภาพมาที่สนามบิน Juanda สุราบายา อินโดฯ..
เราติดต่อไกด์ผ่าน Arif และได้ไกด์ร่วมทริปคือ Pepy... นิสัยดี เป็นกันเอง ขับรถดี ตามใจ และโอเครมากสำหรับกรุ๊ปผม!!!
เราบอกหิว... Pepy พาเราไปทาน "มะตะบะ" ข้างทาง ด้วยความหิวเราจึงเลือกตัวท๊อปสุดครับ "มะตะบะหน้าชีส" ถ้าถามว่าเป็นไง??? ...แผ่นใหญ่ ร้อน สดใหม่ อร่อย เลี่ยน และเยอะ!!! เรียกว่าขณะนั่งรถขึ้นโบรโม่ตอนตีสองตีสามอาหารยังไม่ย่อยเลยทีเดียว 555
เอาละครับ... ถึง อินโดฯ ซะที Bromo รออยู่!!!