อยากจะตั้งเพื่อรวบรวมเรื่องราวของสาวๆ 2NE1 เกิร์ลกรุ๊ปอีกหนึ่งวงในตำนานที่เรา'รักมากๆ'ลงในกระทู้เอาไว้เตือนความทรงจำ เผื่อวันนึงคิดถึงจะได้กลับมาอ่าน
ท้าวความกันไป 10 กว่าปีก่อน ถึง YG จะมีศิลปินแนวหน้าหลายเบอร์ ทั้ง Jinusean, Gummy, Se7en, ฯลฯ แต่ก็มีข้อด้อยที่ YG มักถูกพูดถึงบ่อยๆคือ 'YG เป็นค่ายที่สร้างเกิร์ลกรุ๊ปไม่เป็น' นั่นนับเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ 'ยาง ฮยอนซอก' มีความตั้งใจที่อยากจะสร้างเกิร์ลกรุ๊ปมาแก้คำครหานี้
ปี 2008 ข่าวลือเกิร์ลกรุ๊ปวงใหม่ของ YG หรือ ณ เวลานั้นที่รู้จักกันในนามของ 'Bigbang เวอร์ชั่นหญิง' หรือชื่อเล่นที่คนทั่วไปเรียกว่า 'Sista' ก็มีมาเรื่อยๆ ผู้คนเริ่มให้ความสนใจและมีการขุดคุ้ยประวัติต่างๆของสมาชิกวง 5 คน อันประกอบไปด้วย
- พัค บม : นักร้อง R&B ของค่ายที่มีผลงานมาก่อนหน้านี้แล้ว
- ซานดาร่า ปาร์ค : นักแสดงที่เพิ่งเดบิ้วภายใต้ YG อดีตดาราสัญชาติเกาหลีที่มีชื่อเสียงในฟิลิปปินส์
- CL : แร็ปเปอร์หญิงที่ขึ้นแสดงงาน Gayo ปี 2008 ร่วมกับทีมแร็ปเปอร์ของค่าย
- กง มินจี : หลานสาวของนักเต้นชื่อดัง กง อ๊คจิน
- โบฮยอง (ปัจจุบันอยู่วง SPICA)
ปี 2009 - จุดเริ่มต้น
แผนการเดบิ้วถูกเปลี่ยนไปมาอยู่หลายครั้ง จนต้นปี 2009 ค่าย YG เปิดเผยข้อมูลว่าจะเดบิ้วเกิร์ลกรุ๊ปวงใหม่ด้วย 'สมาชิก 3 คน' ประกอบไปด้วย พัคบม ซีแอล และมินจี แต่ผ่านไปไม่ถึงเดือน ค่ายก็ออกมาเปิดเผยอีกครั้งว่า ซานดาร่า ได้เข้าร่วมฟอร์มวงและวงจะเดบิ้วด้วยสมาชิก 4 คน
[!!] เกิดอะไรขึ้นกับสมาชิก?
- โบฮยองถูกถอดออกจากการฟอร์มวงเนื่องจากประธานเล็งเห็นว่าคาแรกเตอร์ของเธอไม่เหมาะกับสไตล์ของวง(แต่ยางฮยอนซอกก็เป็นห่วงและคอยดูแลเธอจนเธอได้เข้าเป็นเด็กฝึกค่ายใหม่)
- ซานดาร่าถูกถอดออกเพราะค่ายเล็งเห็นว่าเธอเหมาะกับการเป็นนักแสดงมากกว่า แต่ซานดาร่าไม่ยอมแพ้และยืนกราน ค่ายให้เวลาเธอพิสูจน์ตัวเอง 1 เดือน โดยมีสมาชิกอีก 3 คอยให้ความช่วยเหลือ เธอทำสำเร็จและได้กลับเข้ามาในวงอีกครั้ง
'21' -> '2NE1'
เดิมทีค่ายประกาศชื่อวง '21' ออกมา แต่เพราะมันซ้ำกับนักร้องคนอื่นแล้ว จึงถูกเปลี่ยนเป็น '2NE1' ซึ่งย่อมาจาก 'ศตวรรษที่ 21' กับ ่ยุคใหม่' New Evolution วงจะเดบิ้วด้วยเพลงแนวฮิปฮอป&เร้กเก้
Lollipop

ผลงานแรกในนามของวงร่วมกับรุ่นพี่ Bigbang เป็นผลงานโฆษณา โดยเพลงประกอบโฆษณาที่วงก็ร่วมร้องด้วย สามารถขึ้นอันดับ 1 ในทุกชาร์ตเพลง และมียอดขายสูงสุดในเดือนนั้นอีกด้วย
จากผลงานโฆษณา ทำให้ความสนใจและความคาดหวังของผู้คนยิ่งทวีคูณมากขึ้น ไม่กี่เดือนต่อมา YG เดบิ้ว 2NE1 อย่างเป็นทางการ ด้วยเพลง Fire และขึ้นแสดงครั้งแรกในรายการ Inkigayo ทางช่อง SBS
เวทีเดบิ้วของ 2NE1 สร้างประวัติศาสตร์ด้วยเรทติ้งสูงถึง 14.93% เลยทีเดียว
แม้ตอนนั้น Fire จะเป็นเพียง Digital Single และจะขึ้นโปรโมทเพียงอาทิตย์ละ 1 รายการเท่านั้น แต่พวกเธอก็สามารถคว้ารางวัลรายการเพลงได้ใน 40 วันหลังเดบิ้ว ซึ่ง ณ เวลานั้น 2NE1 นับเป็นเกิร์ลกรุ๊ปที่ชนะรางวัลรายการเพลงได้เร็วที่สุดด้วย
2 เดือนต่อมา 2NE1 คัมแบคด้วยมินิอัลบั้มแรกพร้อมกับเพลงโปรโมทที่ชื่อว่า 'I Don't Care' เพลงนี้ตอกย้ำกระแสและลบคำสบประมาท 'One hit wonder' จนหมดสิ้น รวมถึงยอดปลายปี ยอดขายอัลบั้มนี้ก็นับเป็นอัลบั้มของเกิร์ลกรุ๊ปที่ยอดขายสูงที่สุดในปี 2009 ด้วย(อันดับ 2-3 เป็นของ SNSD)
เพลง I don't care ได้รับรางวัลเพลงแห่งปี โดยเป็นการคว้ารางวัลแดซังภายในระยะเวลาไม่ถึงปี ทำให้ 2NE1 ถือสถิติใหม่อีกครั้ง ในฐานะศิลปินที่ได้แดซังเร็วที่สุด
Strong Heart

รายการ Strong Heart นับเป็นการออกรายการวาไรตี้ครั้งแรกของวงหลังเดบิ้ว(6 เดือนหลังบิ้ว) โปรดิวซ์เซอร์รายการให้สัมภาษณ์ว่ากว่าเขาจะเชิญ 2NE1 มาได้ มันยากจริงๆ
2NE1 TV

รายการ 2NE1 TV นับเป็นรายการเรียลลิตี้ที่อยู่คู่วงมาตั้งแต่แรก ถึงแม้จะอยู่ในช่องเคเบิล แต่มันก็กระแสดีมากๆ เป็นผลที่ทำให้ความนิยมของ 2NE1 พุ่งสูงขึ้นแม้ไม่ได้ออกรายการอื่นมากนัก สิ้นปี 2009 มีการจัดทำโพลโหวตผ่านโฮมเพจ Datanews โดยชาวเน็ตโหวตให้ 2NE1 เป็นเกิร์ลกรุ๊ปแห่งปีประจำปี 2009 ด้วยคะแนนสูงถึง 41% (ฝ่ายชายเป็นของ 2PM)
ปี 2010 - ปีแห่งการต่อยอด
2NE1 เริ่มต้นด้วยเพลง Try To Follow Me เป็นการปล่อยเปล่าๆไม่มีการโปรโมท แต่เพลงก็สามารถทำการคิลชาร์ต และยังเป็นผลงานการออกแบบท่าเต้นของ CL และมินจีด้วย ทั้งคู่มีเวลาเพียง 3 วันก่อนถ่าย MV
แผนการโปรโมทแบบใหม่
จะเห็นว่า YG โปรโมท 2NE1 ไม่เหมือนชาวบ้านแต่แรก ปี 2010 ก็เป็นอีกปีที่เราต้องเจอ YG เริ่มการโปรโมทแบบใหม่และใช้มันกับ
รุกกี้อย่าง 2NE1 โดยเขาให้พวกเธอคัมแบคอัลบั้มเต็มอัลบั้มแรก 'To Anyone' พร้อมด้วย '3 เพลงโปรโมท' ในคราวเดียว
- Go Away
- Can't Nobody
- Clap Your Hands
ทั้ง 3 เพลงถูกปล่อยวันต่อวัน 3 วันติด แต่ทั้ง 3 เพลงก็ทำชาร์ตได้อย่างสวยงาม สามารถชนะรายการเพลงได้ครบทั้ง 3 เพลงด้วย นับเป็นศิลปินเดียวที่โปรโมททีเดียว 3 เพลงแล้วประสบความสำเร็จทั้ง 3 เพลง(แหงล่ะ ไม่มีใครเขาทำแล้ว)
Don't Stop The Music เพลงโฆษณาต่างประเทศชิ้นแรกของวง และยังเป็นโฆษณาสินค้าของประเทศไทยด้วย
ปี 2010 นับเป็นปีของการต่อยอด 2NE1 ยังคงสามารถรักษามาตรฐานและคว้ารางวัลได้อีกปี โดยปี 2010 ได้รับรางวัลอัลบั้มแห่งปีจากอัลบั้ม To Anyone และวงก็ได้รับรางวัลศิลปินแห่งปีด้วย
ปี 2011 - Queen of All-Kill
YG ยังคงทดลองการโปรโมทใหม่ๆเหมือนอย่างเคย และแน่นอนว่าวงที่โดนใช้ทดลองก็ยังคงเป็น 2NE1 เช่นเดิม
เพลงในมินิอัลบั้มที่ 2 ของ 2NE1 ถูกปล่อยทีละ 1 เพลงแบบเดือนต่อเดือน ผลจากการคิลชาร์ตต่อเนื่องทำให้ 2NE1 ได้รับฉายา Queen of all kill นับแต่นั้นมา ทุกเพลงในอัลบั้มนี้เป็นที่รู้จักครบทุกเพลง และยอดรวมดิจิตอลของอัลบั้มนี้ก็สูงมากจนถือสถิติอัลบั้มเกิร์ลกรุ๊ปที่ยอดดิจิตอลสูงที่สุดด้วย
Don't Cry เพลงโซโล่ของพัคบมเป็นเพลงที่ทำ Perfect all kill ได้นานที่สุดในปีนั้น
Lonely อีกหนึ่งเพลงที่ได้ Certificate Perfect all kill จาก iChart เพลงนี้เป็นเพลงที่ตั้งใจว่าจะปล่อยเฉยๆ และไม่มีการโปรโมท กลับเอามาขึ้นไลฟ์ในรายการเพลงเพื่อตอบแทนแฟนๆสำหรับการตอบรับที่ดี (เรื่องตลกของ MV นี้คือการที่ค่ายหมดกับค่าเสื้อผ้าของสาวๆไปมากกว่าค่า production ทั้งหมดเสียอีก)
I Am The Best เพลงที่คนติดภาพว่า 'แบบนี้แหละ 2NE1' เพลงนี้เป็นอีกเพลงที่ได้ Certificate Perfect All Kill จาก iChart และยังได้รับรางวัลแดซังเพลงแห่งปีด้วย
Ugly ด้วยความที่เพลงอื่นๆในอัลบั้มล้วนดังไม่แพ้กัน มีกี่คนเล่าที่รู้ว่าจริงๆแล้วเพลงนี้นี่แหละ ที่เป็นเพลงโปรโมทหลักของอัลบั้มนี้ Ugly เป็นเพลงที่ถูกสร้างมาจากความเจ็บปวดของสมาชิก ในยุคที่ 2NE1 เดบิ้วออกมาเป็นปืนใหญ่ท่ามกลางสวนดอกไม้ ทำให้ 2NE1 ถูกโจมตีเรื่องหน้าตาอย่างหนัก CL บ่นกับเท็ดดี้(โปรดิวเซอร์) จึงเกิดเป็นเพลงนี้ขึ้นมา
2NE1 เริ่มจัดคอนเสิร์ตเดี่ยวของวงในปีนี้ โดยคอนเสิร์ตแรกชื่อว่า 2NE1 1st live concert Nolza! มันถูกจัดขึ้นที่ Olympic Stadium ในวันที่ 26-28 พฤศจิกายน และบัตรก็ขายหมดเกลี้ยงภายในเวลาเพียง 2 นาที
ตามมาติดๆด้วย Japan Tour ครั้งแรก บัตร 70,000 กว่าใบถูกขายหมดเกลี้ยงภายในเวลาอันรวดเร็ว และมีการขอร้องให้เพิ่มรอบเนื่องจากมีคนมารอซื้อบัตรมากถึง 3 แสนคนเลย
Highlight ที่สุดของปีคือการคว้ารางวัล Best New Band in the world จาก MTV Iggy อเมริกามาครอง เป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์เกาหลี
จำไว้ว่าครั้งนึงวงการ KPOP เคยมีอีกหนึ่งควีนนามว่า 2NE1
อยากจะตั้งเพื่อรวบรวมเรื่องราวของสาวๆ 2NE1 เกิร์ลกรุ๊ปอีกหนึ่งวงในตำนานที่เรา'รักมากๆ'ลงในกระทู้เอาไว้เตือนความทรงจำ เผื่อวันนึงคิดถึงจะได้กลับมาอ่าน
ท้าวความกันไป 10 กว่าปีก่อน ถึง YG จะมีศิลปินแนวหน้าหลายเบอร์ ทั้ง Jinusean, Gummy, Se7en, ฯลฯ แต่ก็มีข้อด้อยที่ YG มักถูกพูดถึงบ่อยๆคือ 'YG เป็นค่ายที่สร้างเกิร์ลกรุ๊ปไม่เป็น' นั่นนับเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ 'ยาง ฮยอนซอก' มีความตั้งใจที่อยากจะสร้างเกิร์ลกรุ๊ปมาแก้คำครหานี้
ปี 2008 ข่าวลือเกิร์ลกรุ๊ปวงใหม่ของ YG หรือ ณ เวลานั้นที่รู้จักกันในนามของ 'Bigbang เวอร์ชั่นหญิง' หรือชื่อเล่นที่คนทั่วไปเรียกว่า 'Sista' ก็มีมาเรื่อยๆ ผู้คนเริ่มให้ความสนใจและมีการขุดคุ้ยประวัติต่างๆของสมาชิกวง 5 คน อันประกอบไปด้วย
- พัค บม : นักร้อง R&B ของค่ายที่มีผลงานมาก่อนหน้านี้แล้ว
- ซานดาร่า ปาร์ค : นักแสดงที่เพิ่งเดบิ้วภายใต้ YG อดีตดาราสัญชาติเกาหลีที่มีชื่อเสียงในฟิลิปปินส์
- CL : แร็ปเปอร์หญิงที่ขึ้นแสดงงาน Gayo ปี 2008 ร่วมกับทีมแร็ปเปอร์ของค่าย
- กง มินจี : หลานสาวของนักเต้นชื่อดัง กง อ๊คจิน
- โบฮยอง (ปัจจุบันอยู่วง SPICA)
ปี 2009 - จุดเริ่มต้น
แผนการเดบิ้วถูกเปลี่ยนไปมาอยู่หลายครั้ง จนต้นปี 2009 ค่าย YG เปิดเผยข้อมูลว่าจะเดบิ้วเกิร์ลกรุ๊ปวงใหม่ด้วย 'สมาชิก 3 คน' ประกอบไปด้วย พัคบม ซีแอล และมินจี แต่ผ่านไปไม่ถึงเดือน ค่ายก็ออกมาเปิดเผยอีกครั้งว่า ซานดาร่า ได้เข้าร่วมฟอร์มวงและวงจะเดบิ้วด้วยสมาชิก 4 คน
[!!] เกิดอะไรขึ้นกับสมาชิก?
- โบฮยองถูกถอดออกจากการฟอร์มวงเนื่องจากประธานเล็งเห็นว่าคาแรกเตอร์ของเธอไม่เหมาะกับสไตล์ของวง(แต่ยางฮยอนซอกก็เป็นห่วงและคอยดูแลเธอจนเธอได้เข้าเป็นเด็กฝึกค่ายใหม่)
- ซานดาร่าถูกถอดออกเพราะค่ายเล็งเห็นว่าเธอเหมาะกับการเป็นนักแสดงมากกว่า แต่ซานดาร่าไม่ยอมแพ้และยืนกราน ค่ายให้เวลาเธอพิสูจน์ตัวเอง 1 เดือน โดยมีสมาชิกอีก 3 คอยให้ความช่วยเหลือ เธอทำสำเร็จและได้กลับเข้ามาในวงอีกครั้ง
'21' -> '2NE1'
เดิมทีค่ายประกาศชื่อวง '21' ออกมา แต่เพราะมันซ้ำกับนักร้องคนอื่นแล้ว จึงถูกเปลี่ยนเป็น '2NE1' ซึ่งย่อมาจาก 'ศตวรรษที่ 21' กับ ่ยุคใหม่' New Evolution วงจะเดบิ้วด้วยเพลงแนวฮิปฮอป&เร้กเก้
ผลงานแรกในนามของวงร่วมกับรุ่นพี่ Bigbang เป็นผลงานโฆษณา โดยเพลงประกอบโฆษณาที่วงก็ร่วมร้องด้วย สามารถขึ้นอันดับ 1 ในทุกชาร์ตเพลง และมียอดขายสูงสุดในเดือนนั้นอีกด้วย
จากผลงานโฆษณา ทำให้ความสนใจและความคาดหวังของผู้คนยิ่งทวีคูณมากขึ้น ไม่กี่เดือนต่อมา YG เดบิ้ว 2NE1 อย่างเป็นทางการ ด้วยเพลง Fire และขึ้นแสดงครั้งแรกในรายการ Inkigayo ทางช่อง SBS
เวทีเดบิ้วของ 2NE1 สร้างประวัติศาสตร์ด้วยเรทติ้งสูงถึง 14.93% เลยทีเดียว
แม้ตอนนั้น Fire จะเป็นเพียง Digital Single และจะขึ้นโปรโมทเพียงอาทิตย์ละ 1 รายการเท่านั้น แต่พวกเธอก็สามารถคว้ารางวัลรายการเพลงได้ใน 40 วันหลังเดบิ้ว ซึ่ง ณ เวลานั้น 2NE1 นับเป็นเกิร์ลกรุ๊ปที่ชนะรางวัลรายการเพลงได้เร็วที่สุดด้วย
2 เดือนต่อมา 2NE1 คัมแบคด้วยมินิอัลบั้มแรกพร้อมกับเพลงโปรโมทที่ชื่อว่า 'I Don't Care' เพลงนี้ตอกย้ำกระแสและลบคำสบประมาท 'One hit wonder' จนหมดสิ้น รวมถึงยอดปลายปี ยอดขายอัลบั้มนี้ก็นับเป็นอัลบั้มของเกิร์ลกรุ๊ปที่ยอดขายสูงที่สุดในปี 2009 ด้วย(อันดับ 2-3 เป็นของ SNSD)
เพลง I don't care ได้รับรางวัลเพลงแห่งปี โดยเป็นการคว้ารางวัลแดซังภายในระยะเวลาไม่ถึงปี ทำให้ 2NE1 ถือสถิติใหม่อีกครั้ง ในฐานะศิลปินที่ได้แดซังเร็วที่สุด
รายการ Strong Heart นับเป็นการออกรายการวาไรตี้ครั้งแรกของวงหลังเดบิ้ว(6 เดือนหลังบิ้ว) โปรดิวซ์เซอร์รายการให้สัมภาษณ์ว่ากว่าเขาจะเชิญ 2NE1 มาได้ มันยากจริงๆ
รายการ 2NE1 TV นับเป็นรายการเรียลลิตี้ที่อยู่คู่วงมาตั้งแต่แรก ถึงแม้จะอยู่ในช่องเคเบิล แต่มันก็กระแสดีมากๆ เป็นผลที่ทำให้ความนิยมของ 2NE1 พุ่งสูงขึ้นแม้ไม่ได้ออกรายการอื่นมากนัก สิ้นปี 2009 มีการจัดทำโพลโหวตผ่านโฮมเพจ Datanews โดยชาวเน็ตโหวตให้ 2NE1 เป็นเกิร์ลกรุ๊ปแห่งปีประจำปี 2009 ด้วยคะแนนสูงถึง 41% (ฝ่ายชายเป็นของ 2PM)
ปี 2010 - ปีแห่งการต่อยอด
2NE1 เริ่มต้นด้วยเพลง Try To Follow Me เป็นการปล่อยเปล่าๆไม่มีการโปรโมท แต่เพลงก็สามารถทำการคิลชาร์ต และยังเป็นผลงานการออกแบบท่าเต้นของ CL และมินจีด้วย ทั้งคู่มีเวลาเพียง 3 วันก่อนถ่าย MV
แผนการโปรโมทแบบใหม่
จะเห็นว่า YG โปรโมท 2NE1 ไม่เหมือนชาวบ้านแต่แรก ปี 2010 ก็เป็นอีกปีที่เราต้องเจอ YG เริ่มการโปรโมทแบบใหม่และใช้มันกับรุกกี้อย่าง 2NE1 โดยเขาให้พวกเธอคัมแบคอัลบั้มเต็มอัลบั้มแรก 'To Anyone' พร้อมด้วย '3 เพลงโปรโมท' ในคราวเดียว
- Go Away
- Can't Nobody
- Clap Your Hands
ทั้ง 3 เพลงถูกปล่อยวันต่อวัน 3 วันติด แต่ทั้ง 3 เพลงก็ทำชาร์ตได้อย่างสวยงาม สามารถชนะรายการเพลงได้ครบทั้ง 3 เพลงด้วย นับเป็นศิลปินเดียวที่โปรโมททีเดียว 3 เพลงแล้วประสบความสำเร็จทั้ง 3 เพลง(แหงล่ะ ไม่มีใครเขาทำแล้ว)
Don't Stop The Music เพลงโฆษณาต่างประเทศชิ้นแรกของวง และยังเป็นโฆษณาสินค้าของประเทศไทยด้วย
ปี 2010 นับเป็นปีของการต่อยอด 2NE1 ยังคงสามารถรักษามาตรฐานและคว้ารางวัลได้อีกปี โดยปี 2010 ได้รับรางวัลอัลบั้มแห่งปีจากอัลบั้ม To Anyone และวงก็ได้รับรางวัลศิลปินแห่งปีด้วย
ปี 2011 - Queen of All-Kill
YG ยังคงทดลองการโปรโมทใหม่ๆเหมือนอย่างเคย และแน่นอนว่าวงที่โดนใช้ทดลองก็ยังคงเป็น 2NE1 เช่นเดิม
เพลงในมินิอัลบั้มที่ 2 ของ 2NE1 ถูกปล่อยทีละ 1 เพลงแบบเดือนต่อเดือน ผลจากการคิลชาร์ตต่อเนื่องทำให้ 2NE1 ได้รับฉายา Queen of all kill นับแต่นั้นมา ทุกเพลงในอัลบั้มนี้เป็นที่รู้จักครบทุกเพลง และยอดรวมดิจิตอลของอัลบั้มนี้ก็สูงมากจนถือสถิติอัลบั้มเกิร์ลกรุ๊ปที่ยอดดิจิตอลสูงที่สุดด้วย
Don't Cry เพลงโซโล่ของพัคบมเป็นเพลงที่ทำ Perfect all kill ได้นานที่สุดในปีนั้น
Lonely อีกหนึ่งเพลงที่ได้ Certificate Perfect all kill จาก iChart เพลงนี้เป็นเพลงที่ตั้งใจว่าจะปล่อยเฉยๆ และไม่มีการโปรโมท กลับเอามาขึ้นไลฟ์ในรายการเพลงเพื่อตอบแทนแฟนๆสำหรับการตอบรับที่ดี (เรื่องตลกของ MV นี้คือการที่ค่ายหมดกับค่าเสื้อผ้าของสาวๆไปมากกว่าค่า production ทั้งหมดเสียอีก)
I Am The Best เพลงที่คนติดภาพว่า 'แบบนี้แหละ 2NE1' เพลงนี้เป็นอีกเพลงที่ได้ Certificate Perfect All Kill จาก iChart และยังได้รับรางวัลแดซังเพลงแห่งปีด้วย
Ugly ด้วยความที่เพลงอื่นๆในอัลบั้มล้วนดังไม่แพ้กัน มีกี่คนเล่าที่รู้ว่าจริงๆแล้วเพลงนี้นี่แหละ ที่เป็นเพลงโปรโมทหลักของอัลบั้มนี้ Ugly เป็นเพลงที่ถูกสร้างมาจากความเจ็บปวดของสมาชิก ในยุคที่ 2NE1 เดบิ้วออกมาเป็นปืนใหญ่ท่ามกลางสวนดอกไม้ ทำให้ 2NE1 ถูกโจมตีเรื่องหน้าตาอย่างหนัก CL บ่นกับเท็ดดี้(โปรดิวเซอร์) จึงเกิดเป็นเพลงนี้ขึ้นมา
2NE1 เริ่มจัดคอนเสิร์ตเดี่ยวของวงในปีนี้ โดยคอนเสิร์ตแรกชื่อว่า 2NE1 1st live concert Nolza! มันถูกจัดขึ้นที่ Olympic Stadium ในวันที่ 26-28 พฤศจิกายน และบัตรก็ขายหมดเกลี้ยงภายในเวลาเพียง 2 นาที
ตามมาติดๆด้วย Japan Tour ครั้งแรก บัตร 70,000 กว่าใบถูกขายหมดเกลี้ยงภายในเวลาอันรวดเร็ว และมีการขอร้องให้เพิ่มรอบเนื่องจากมีคนมารอซื้อบัตรมากถึง 3 แสนคนเลย
Highlight ที่สุดของปีคือการคว้ารางวัล Best New Band in the world จาก MTV Iggy อเมริกามาครอง เป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์เกาหลี