คือผมรู้สึกว่าเด็กสมัยนี้หลายคนมาทำงานแต่ทำตัวเหมือนมาเรียน มาทำงานแบบชิลๆมันก็ดี แต่ชิลมากไปมันก็ไม่ใช่นะ
1.ไป-มาไม่ทักทาย อันนี้เอาจริงๆไม่ค่อยมีใครเค้าสนใจเท่าไหร่หรอก แต่ไอ่ประเภทที่นึกอยากจะมาก็มา นึกอยากจะสายก็สาย ไม่อยากมาก็หายไปดื้อๆเลยไม่แจ้งไม่อะไรทั้งนั้น น้องครับนี่ที่งานนะครับไม่ใช่เข้าฟังเลคเชอร์ที่มหาวิทยาลัย ป่วย/ขี้เกียจมาก็ฝากเพื่อนอัดเสียงก็ได้อะไรแบบนั้น การที่น้องไม่มากระทันหันมันทำให้คนอื่นเค้าวุ่นวายนะครับ การทำงานมันต้องเดินต่อเป็นสเตปๆ การที่น้องไม่มาหรือมาสายแล้วไม่เเจ้งมันกระทบตารางการทำงานของเพื่อนร่วมงานว่าตกลงนี่จะมากี่โมงหรือจะไม่มาเลย คนอื่นเค้ามีการวางแผนตารางการทำงานกันนะครับ และถ้าไม่มาแล้วไม่เเจ้งคนดูเเลเรื่องลาสายขาดนี่คนดูแลเค้าปวดหัวนะครับว่าตกลงน้องแค่ขี้เกียจมา ป่วย หรือเป็นอะไรตายไปแล้วรึเปล่า (อย่าคิดว่าเวอร์ มีจริงๆนะวุ่ยวายตามหากันยกใหญ่ติดต่ออะไรไม่ได้เลยนึกว่ามีอุบัติเหตุอะไรรึเปล่า สรุปเมาค้างไม่ตื่น) และเวลานายถามแล้วตอบไม่ได้ว่าน้องหายไปไหนเพราะน้องไม่แจ้งเค้าโดนด่านะครับ
2.มารยาทในการลาควรจะมีซะหน่อยนะครับ สิทธิ์ในการลาเป็นของน้องแต่กฎมีก็ต้องทำตาม ลาพักร้อนต้องลาล่วงหน้ากี่วัน ลาป่วยต้องส่งเอกสารอะไรบ้างหลังมาทำงานภายในกี่วัน ไม่ใช่ต้องให้คนดูแลคอยมาทวง ถ้าทำงานราชการคุณจะไปเที่ยวต่างประเทศคุณต้องทำเรื่องขอออกนอกประเทศล่วงหน้า 15 วัน ถึงจะไปแค่ 3 วันก็ต้องทำมันคือกฎ
3.การทำงานมันมีflowของมันอยู่ ในเมื่อตัวเองเป็นเด็กใหม่แน่นอนว่านั่นคือเป็นส่วนoperationล่างสุด ทำงานคิดเผื่อด้วยครับว่าขั้นตอนต่อจากเราเค้าจะทำงานได้มั้ย อย่าสักแต่ทำให้จบๆแล้วคนต่อไปต้องมานั่งแก้ พอสั่งแก้ก็ไม่พอใจอีก แต่ถ้าทำงานดีแต่ทำช้ามากกกกกกกกดองจนไม่รู้จะเรียกอะไรก็ไม่ไหวนะครับ คนต่อๆไปเค้าทำงานไม่ได้ ส่วนที่ดองงานแล้วยังทำงานห่วยอีกอันนี้ช่วยพิจารณาตัวเองด้วยครับ เพราะถ้ามาถึงมือพวกพี่HRกลัวมันจะกลายเป็นซองขาว
4.Dead lineในเอกสาร ไม่ใช่Dead lineของน้องเสมอไปนะครับ ดูลำดับขั้นตอนการทำงานด้วย ทำงานเผื่อเวลาให้ขั้นตอนต่อจากน้องทำงานด้วยครับ เช่น เอกสารขอให้ตอบกลับภายในวันที่ 30 แต่เอกสารตอบกลับต้องให้CEOเซ็น!! แบบนี้น้องจะส่งให้หัวหน้าวันที่ 30 ตอนบ่ายสามไม่ได้!!!! มันไม่ใช่หัวหน้าเซ็นแล้วไปถึงCEOเลยซะที่ไหนล่ะครับน้อง มันมีอีกหลายขั้นตอนต้องทำ น้องเล่นส่งวันที่ 30 เป๊ะ ไอ่ขั้นตอนต่อๆไปมันก็วิ่งกันขาขวิดสิครับ
5.กฎมีไว้แหกพี่เข้าใจ แต่แหกมันทุกข้ออันนี้พี่ไม่เข้าใจ#เสียงสูง
6.จะเถียงอะไรดูด้วยครับว่าตัวเองถูกหรือเปล่า ผมไม่คิดว่าเด็กที่แรงๆเถียงๆนี่แย่นะ แต่จะเถียงกลับน่ะดูด้วยครับว่าตัวเองถูกแน่นอน ระเบียบ กฎ กติกา มีอย่าเถียงข้างๆคูๆ อันนั้นเรียกแถครับ
7.การแต่งตัว บ้านน้องรวย น้องมีเงินน้องจะใส่จะใช้เเบรนด์อะไรก็ได้ครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้มีแต่พวกขี้เผือกและขี้อิจฉาเท่านั้นที่จะแขวะน้อง ไม่ใช่ทุกคน แต่ช่วยแต่งตัวให้ถูกระเบียบและกาละเทศะหน่อย!! กางเกงยีนส์ขาด เสื้อรัดติ้ว อันนี้ไว้ใส่ไปเที่ยวเนอะ ขอล่ะ ถึงน้องไม่ได้ทำในแผนกที่ต้องเจอแขก แต่ไม่ได้แปลว่าแขกของบริษัทจะไม่เจอน้องนะครับ เข้าห้องน้ำ ออกไปพักไรงี้มันก็ต้องสวนกันบ้างล่ะ
เจออะไรมาก็มาแชร์ๆกัน
เพิ่มหน่อยเดี๋ยวจะหาว่าเหมารวม ไม่ได้เป็นทุกคนหรอกครับ แต่เกือบครึ่งหรือเกินครึ่งทำตัวแบบนี้กันจริงๆ
น้องๆครับนี่ที่ทำงานนะครับไม่ใช่มหาวิทยาลัย
1.ไป-มาไม่ทักทาย อันนี้เอาจริงๆไม่ค่อยมีใครเค้าสนใจเท่าไหร่หรอก แต่ไอ่ประเภทที่นึกอยากจะมาก็มา นึกอยากจะสายก็สาย ไม่อยากมาก็หายไปดื้อๆเลยไม่แจ้งไม่อะไรทั้งนั้น น้องครับนี่ที่งานนะครับไม่ใช่เข้าฟังเลคเชอร์ที่มหาวิทยาลัย ป่วย/ขี้เกียจมาก็ฝากเพื่อนอัดเสียงก็ได้อะไรแบบนั้น การที่น้องไม่มากระทันหันมันทำให้คนอื่นเค้าวุ่นวายนะครับ การทำงานมันต้องเดินต่อเป็นสเตปๆ การที่น้องไม่มาหรือมาสายแล้วไม่เเจ้งมันกระทบตารางการทำงานของเพื่อนร่วมงานว่าตกลงนี่จะมากี่โมงหรือจะไม่มาเลย คนอื่นเค้ามีการวางแผนตารางการทำงานกันนะครับ และถ้าไม่มาแล้วไม่เเจ้งคนดูเเลเรื่องลาสายขาดนี่คนดูแลเค้าปวดหัวนะครับว่าตกลงน้องแค่ขี้เกียจมา ป่วย หรือเป็นอะไรตายไปแล้วรึเปล่า (อย่าคิดว่าเวอร์ มีจริงๆนะวุ่ยวายตามหากันยกใหญ่ติดต่ออะไรไม่ได้เลยนึกว่ามีอุบัติเหตุอะไรรึเปล่า สรุปเมาค้างไม่ตื่น) และเวลานายถามแล้วตอบไม่ได้ว่าน้องหายไปไหนเพราะน้องไม่แจ้งเค้าโดนด่านะครับ
2.มารยาทในการลาควรจะมีซะหน่อยนะครับ สิทธิ์ในการลาเป็นของน้องแต่กฎมีก็ต้องทำตาม ลาพักร้อนต้องลาล่วงหน้ากี่วัน ลาป่วยต้องส่งเอกสารอะไรบ้างหลังมาทำงานภายในกี่วัน ไม่ใช่ต้องให้คนดูแลคอยมาทวง ถ้าทำงานราชการคุณจะไปเที่ยวต่างประเทศคุณต้องทำเรื่องขอออกนอกประเทศล่วงหน้า 15 วัน ถึงจะไปแค่ 3 วันก็ต้องทำมันคือกฎ
3.การทำงานมันมีflowของมันอยู่ ในเมื่อตัวเองเป็นเด็กใหม่แน่นอนว่านั่นคือเป็นส่วนoperationล่างสุด ทำงานคิดเผื่อด้วยครับว่าขั้นตอนต่อจากเราเค้าจะทำงานได้มั้ย อย่าสักแต่ทำให้จบๆแล้วคนต่อไปต้องมานั่งแก้ พอสั่งแก้ก็ไม่พอใจอีก แต่ถ้าทำงานดีแต่ทำช้ามากกกกกกกกดองจนไม่รู้จะเรียกอะไรก็ไม่ไหวนะครับ คนต่อๆไปเค้าทำงานไม่ได้ ส่วนที่ดองงานแล้วยังทำงานห่วยอีกอันนี้ช่วยพิจารณาตัวเองด้วยครับ เพราะถ้ามาถึงมือพวกพี่HRกลัวมันจะกลายเป็นซองขาว
4.Dead lineในเอกสาร ไม่ใช่Dead lineของน้องเสมอไปนะครับ ดูลำดับขั้นตอนการทำงานด้วย ทำงานเผื่อเวลาให้ขั้นตอนต่อจากน้องทำงานด้วยครับ เช่น เอกสารขอให้ตอบกลับภายในวันที่ 30 แต่เอกสารตอบกลับต้องให้CEOเซ็น!! แบบนี้น้องจะส่งให้หัวหน้าวันที่ 30 ตอนบ่ายสามไม่ได้!!!! มันไม่ใช่หัวหน้าเซ็นแล้วไปถึงCEOเลยซะที่ไหนล่ะครับน้อง มันมีอีกหลายขั้นตอนต้องทำ น้องเล่นส่งวันที่ 30 เป๊ะ ไอ่ขั้นตอนต่อๆไปมันก็วิ่งกันขาขวิดสิครับ
5.กฎมีไว้แหกพี่เข้าใจ แต่แหกมันทุกข้ออันนี้พี่ไม่เข้าใจ#เสียงสูง
6.จะเถียงอะไรดูด้วยครับว่าตัวเองถูกหรือเปล่า ผมไม่คิดว่าเด็กที่แรงๆเถียงๆนี่แย่นะ แต่จะเถียงกลับน่ะดูด้วยครับว่าตัวเองถูกแน่นอน ระเบียบ กฎ กติกา มีอย่าเถียงข้างๆคูๆ อันนั้นเรียกแถครับ
7.การแต่งตัว บ้านน้องรวย น้องมีเงินน้องจะใส่จะใช้เเบรนด์อะไรก็ได้ครับ[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ แต่ช่วยแต่งตัวให้ถูกระเบียบและกาละเทศะหน่อย!! กางเกงยีนส์ขาด เสื้อรัดติ้ว อันนี้ไว้ใส่ไปเที่ยวเนอะ ขอล่ะ ถึงน้องไม่ได้ทำในแผนกที่ต้องเจอแขก แต่ไม่ได้แปลว่าแขกของบริษัทจะไม่เจอน้องนะครับ เข้าห้องน้ำ ออกไปพักไรงี้มันก็ต้องสวนกันบ้างล่ะ
เจออะไรมาก็มาแชร์ๆกัน
เพิ่มหน่อยเดี๋ยวจะหาว่าเหมารวม ไม่ได้เป็นทุกคนหรอกครับ แต่เกือบครึ่งหรือเกินครึ่งทำตัวแบบนี้กันจริงๆ