1. สัญญลักษณ์ เชลซี ช่วง ปี ค.ศ. 1905-1952
โลโก้นี้คือโลโก้เริ่มแรกของทีมเชลซี โดยรูปผู้สูงอายุตรงกลางนั้น เป็นหนึ่งในขุนนางที่มีชื่อเสียงผู้หนึ่ง (ไม่เคยมีใครรู้ว่าขุนนางท่านนี้เป็นใคร) โลโก้นี้ไม่เคยใช้เพื่อเป็นสัญลักษณ์ บนอกเสื้อนักเตะมาก่อน อย่างไรก็ตาม แต่จะปรากฎในตารางการแข่งขันและในจอทีวีบอกสกอร์ในสนามเท่านั้น ทีมเชลซีจึงเรียกโลโก้นี้ว่า The Pensioner และเป็นชื่อเล่นของทีมเพื่อเป็นเกียรติ ในฐานะที่เป็นโลโก้แรกของทีมในปัจจุบัน
คำว่า Pensioner แปลตามพจนานุกรมเป๊ะๆ คือ ผู้มีสิทธิ รับบำนาญ ในอังกฤษสมัยก่อนนั้น คนที่มีสิทธิ์ได้รับบำนาญ คือขุนนาง หากเปรียบในสมัยนี้ คือข้าราชการนั่นเอง
2. สัญลักษณ์ เชลซี ช่วง ปี ค.ศ. 1952-1953
โลโก้ที่สองเริ่มใช้ตั้งแต่ยุคของ เท็ด เดร็คในปี 1952 อดีตผู้จัดการทีมผู้นี้เป็นผู้ปลุกกระแสให้คิดโลโก้ใหม่แทน The Pensioner และอีกจุดประสงค์หนึ่งก็คือเปลี่ยนชื่อเล่นทีมเป็น The Blues หากเราดูรูปให้ดี เราจะเห็นเป็นภาพอักษร CFC (Chelsea Football Club) ซ้อนกัน เพราะเหตุนี้ ในสมัยนั้น หากใครบอกว่าพวกเขาคือชาวสีน้ำเงินจะรู้ทันทีว่าเป็นแฟนบอลของทีมเชลซี ซึ่งชื่อเล่นใหม่นี้ก็ได้รับการยอมรับอย่างล้นหลาม จนเป็นสีศักดิ์สิทธิ์ของแฟนบอลเชลซีในช่วงนั้น
3. สัญลักษณ์ เชลซี ช่วงปี ค.ศ. 1953-1986
โลโก้ที่สามนี้เป็นโลโก้ที่โด่งดังมากที่สุดของเชลซี และยังเป็นโลโก้ที่ใช้กันมายาวนานถึง 33 ปี โลโก้ด้านนอกนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก แขนของเสื้อนอกของพระชั้นเหนือบิชอฟในเขตมณฑลเชลซี ส่วนสิงโตสีน้ำเงินถือไม้เท้าสีทองได้รับต้นแบบมาจากแขนเสื้อของ ขุนนางท่านหนึ่งนามว่า Earl Cadogan (Earl ไม่ใช่นามสกุล เป็นชื่อระดับชั้นขุนนาง ระดับเออร์ล) ซึ่งในสมัยนั้น ขุนนางผู้นี้เป็นประธานของทีมเชลซีรวมทั้งได้รับความเห็นชอบ จากขุนนางระดับสูงกว่าระดับบารอนให้ใช้โลโก้รูปสิงโตถือไม้เท้าได้
ไม้เท้า มีความหมาย หมายถึงความรู้ ศรัทธา จรรยาต่อพระผู้เป็นเจ้า ก็เหมือนกับพระระดับสูงมีไม้เท้าบอกระดับชั้น อีกทั้งในสมัยก่อน ศาสนจักรรุ่งเรืองมากกว่าอาณาจักร ทำให้สัญลักษณ์อื่นใดก็ตามจากศาสนจักรนั่นเป็นสิ่งต้องห้าม แต่ถึงกระนั้น เชลซีก็สามารถใช้ได้ โดยโลโก้นี้เสร็จสมบูรณ์และใช้เป็นครั้งแรกในปี 1960 ซึ่งเป็นอย่างที่เห็นในรูป ถึงแม้ว่า โลโก้นี้จะไม่ได้รับการยอมรับว่าเป็นโลโก้ประจำทีมโดยตรง แต่ทีมเชลซีก็นำมาใช้และทุกๆ คนก็เริ่มจะรู้จักและจำเชลซี ในฐานะสิงโตน้ำเงินก็เพราะโลโก้นี้
4. สัญลักษณ์ เชลซี ช่วงปี ค.ศ. 1986-2005
ในปี 1986 เชลซีได้ปรับสี่โลโก้ให้เป้นโลโก้เดียวทำให้สินค้าของเชลซีพัฒนาและขายได้ โดยเฉพาะเสื้อและลูกฟุตบอล ในขณะที่ยังใช้สัญลักษณ์สิงโตแลตัวอักษร CFC ยืนพื้นและไม่เปลี่ยนแปลง อีกทั้งสีน้ำเงินก็ใช้เป็นสีของทีมเชลซีมาตั้งแต่โลโก้แรก โดยโลโก้นี้ใช้มาถึง 19 ปี แฟนเชลซีจึงจำเชลซีว่าเป็นทีมสิงโตน้ำเงินโดยสมบูรณ์ถึงกระนั้นแฟนบอลและผู้สนับสนุนเชลซีกลับจำโลโก้นี้ได้มากกว่า โลโก้ที่สาม แต่เมื่อเวลาผ่านไป แฟนเชลซีกลับต้องการที่จะกลับไปใช้โลโก้แบบเก่า เพื่อจะนำทีมเชลซีสู่สมัยใหม่ การคิดค้นโลโก้ใหม่จึงเริ่มขึ้นอีกครั้ง
5. สัญลักษณ์ เชลซี ช่วงปี ค.ศ. 2006-ปัจจุบัน
เวลาล่วงเลยมาจนถึง พฤษภาคม ปี 2004 ทีมเชลซีจึงได้โลโก้ใหม่ โดยเอาโลโก้ที่สามเป็นหลัก คือ สิงโตสีน้ำเงิน ถือไม้เท้าสีน้ำเงิน บนพื้นหลังสีขาว ซึ่งความหมาย ของไม้เท้ายังไม่เปลี่ยนแปลง เพียงแต่เปลี่ยนสีตามสีของทีมเท่านั้น ซึ่ง ปีเตอร์ เคนยอน กล่าวว่า“ทีมเชลซีค้นหาโลโก้เพื่อบ่งบอกถึงตัวตนของเรามานานแสนนาน เรามีประวัติศาสตร์กับสิงโตและสีน้ำเงิน สองสิ่งนี้ล้วนแล้วแต่เกี่ยวกับ เชลซีทั้งสิ้น ทีมเชลซีก็มีอายุเกิน 100 ปีแล้ว แต่ทีมเชลซีก็จะใช้โลโก้นี้ตลอดไป”
ณ ตอนนี้ ทุกคนไม่ว่าจะเป็นใคร ทีมไหน ต่างจำสิงโตสีน้ำเงิน ในฐานะที่เป็นโลโก้ของทีมเชลซีไปหมดแล้ว ครั้นจะมีการเปลี่ยนก็ได้รับเสียงคัดค้าน จากแฟนบอลทั่วโลก ถึงแฟนบอลจะมีไม่เยอะเท่าแมนยู ฯ และลิเวอร์พูล แต่ก็ทำให้สโมสรไม่อาจขัดใจแฟนบอลได้ ทีมเชลซีจึงใช้สัญลักษณ์นี้มาจนถึงปัจจุบัน
สรุปนะครับ พัฒนาการของเชลซียุคเริ่มแรกจนถึงยุคสมัยที่3 ล้วนมากจากอิทธิพลของขุนนางชั้นสูงและผู้มั่งมี ร่ำรวย ของอังกฤษในการปกครองซะเป็นส่วนใหญ่ พวกขุนนางชั้นสูงหรือพวกตระกูลมั่งคั่งร่ำรวยต่างๆ ซึ่งมีอิทธิพลต่อสถาบันการเมืองการปกครองของอังกฤษ สโมสรเชลซีก็เป็นตัวแทนอีกประเภทหนึ่งที่บ่งบอกว่าการสร้างฐานอำนาจและอิทธิพลนอกเหนือจากทางเศรษฐกิจและทางทหาร การเมือง เป็นต้น เมื่อมายุคหลังๆบทบาทหรือขุนนางต่างๆถูกลดบทบาทหรือถูกจำกัด ประชาชนทั่วไปจึงเริ่มเข้าไปมีสิทธิมีเสียงในสโมสรมากขึ้น (แต่ยังคงมีอิทธิพลของขุนนางและตระกูลผู้ร่ำรวยไว้บ้าง) ทำให้สโมสรเริ่มเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปและเป็นตัวแทนของสโมสรในพื้นที่ลอนดอนแถบนั้น
ปล.เสริมนะครับ สิงโตในตัวแทนหรือความเชื่อของคนอังกฤษหมายถึงสัตว์ที่ทรงพลังและมีอำนาจ เพราะฉะนั้นเราจะพบเห็นสัญญาลักษณ์ประเภทนี้ต่างๆในประเทศอังกฤษ หรือแม้แต่งานราชการต่างๆ จะใช้สัตว์ประเภทนี้เป็นตัวแทนในการทำกิจกรรมและแสดงอัตลักษณ์ทางสังคมและวัฒนธรรม การเมือง เศรษฐกิจ สโมสรฟุตบอลก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ได้รับผลเช่นกันที่เอารูปสิงโตมาใช้ เช่น เชลซี แอสตันวิลล่า มิดเดิลสโบรส์
พัฒนาการของสัญญาลักษณ์เชลซี (มีสาระจ้า)
1. สัญญลักษณ์ เชลซี ช่วง ปี ค.ศ. 1905-1952
โลโก้นี้คือโลโก้เริ่มแรกของทีมเชลซี โดยรูปผู้สูงอายุตรงกลางนั้น เป็นหนึ่งในขุนนางที่มีชื่อเสียงผู้หนึ่ง (ไม่เคยมีใครรู้ว่าขุนนางท่านนี้เป็นใคร) โลโก้นี้ไม่เคยใช้เพื่อเป็นสัญลักษณ์ บนอกเสื้อนักเตะมาก่อน อย่างไรก็ตาม แต่จะปรากฎในตารางการแข่งขันและในจอทีวีบอกสกอร์ในสนามเท่านั้น ทีมเชลซีจึงเรียกโลโก้นี้ว่า The Pensioner และเป็นชื่อเล่นของทีมเพื่อเป็นเกียรติ ในฐานะที่เป็นโลโก้แรกของทีมในปัจจุบัน
คำว่า Pensioner แปลตามพจนานุกรมเป๊ะๆ คือ ผู้มีสิทธิ รับบำนาญ ในอังกฤษสมัยก่อนนั้น คนที่มีสิทธิ์ได้รับบำนาญ คือขุนนาง หากเปรียบในสมัยนี้ คือข้าราชการนั่นเอง
2. สัญลักษณ์ เชลซี ช่วง ปี ค.ศ. 1952-1953
โลโก้ที่สองเริ่มใช้ตั้งแต่ยุคของ เท็ด เดร็คในปี 1952 อดีตผู้จัดการทีมผู้นี้เป็นผู้ปลุกกระแสให้คิดโลโก้ใหม่แทน The Pensioner และอีกจุดประสงค์หนึ่งก็คือเปลี่ยนชื่อเล่นทีมเป็น The Blues หากเราดูรูปให้ดี เราจะเห็นเป็นภาพอักษร CFC (Chelsea Football Club) ซ้อนกัน เพราะเหตุนี้ ในสมัยนั้น หากใครบอกว่าพวกเขาคือชาวสีน้ำเงินจะรู้ทันทีว่าเป็นแฟนบอลของทีมเชลซี ซึ่งชื่อเล่นใหม่นี้ก็ได้รับการยอมรับอย่างล้นหลาม จนเป็นสีศักดิ์สิทธิ์ของแฟนบอลเชลซีในช่วงนั้น
3. สัญลักษณ์ เชลซี ช่วงปี ค.ศ. 1953-1986
โลโก้ที่สามนี้เป็นโลโก้ที่โด่งดังมากที่สุดของเชลซี และยังเป็นโลโก้ที่ใช้กันมายาวนานถึง 33 ปี โลโก้ด้านนอกนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก แขนของเสื้อนอกของพระชั้นเหนือบิชอฟในเขตมณฑลเชลซี ส่วนสิงโตสีน้ำเงินถือไม้เท้าสีทองได้รับต้นแบบมาจากแขนเสื้อของ ขุนนางท่านหนึ่งนามว่า Earl Cadogan (Earl ไม่ใช่นามสกุล เป็นชื่อระดับชั้นขุนนาง ระดับเออร์ล) ซึ่งในสมัยนั้น ขุนนางผู้นี้เป็นประธานของทีมเชลซีรวมทั้งได้รับความเห็นชอบ จากขุนนางระดับสูงกว่าระดับบารอนให้ใช้โลโก้รูปสิงโตถือไม้เท้าได้
ไม้เท้า มีความหมาย หมายถึงความรู้ ศรัทธา จรรยาต่อพระผู้เป็นเจ้า ก็เหมือนกับพระระดับสูงมีไม้เท้าบอกระดับชั้น อีกทั้งในสมัยก่อน ศาสนจักรรุ่งเรืองมากกว่าอาณาจักร ทำให้สัญลักษณ์อื่นใดก็ตามจากศาสนจักรนั่นเป็นสิ่งต้องห้าม แต่ถึงกระนั้น เชลซีก็สามารถใช้ได้ โดยโลโก้นี้เสร็จสมบูรณ์และใช้เป็นครั้งแรกในปี 1960 ซึ่งเป็นอย่างที่เห็นในรูป ถึงแม้ว่า โลโก้นี้จะไม่ได้รับการยอมรับว่าเป็นโลโก้ประจำทีมโดยตรง แต่ทีมเชลซีก็นำมาใช้และทุกๆ คนก็เริ่มจะรู้จักและจำเชลซี ในฐานะสิงโตน้ำเงินก็เพราะโลโก้นี้
4. สัญลักษณ์ เชลซี ช่วงปี ค.ศ. 1986-2005
ในปี 1986 เชลซีได้ปรับสี่โลโก้ให้เป้นโลโก้เดียวทำให้สินค้าของเชลซีพัฒนาและขายได้ โดยเฉพาะเสื้อและลูกฟุตบอล ในขณะที่ยังใช้สัญลักษณ์สิงโตแลตัวอักษร CFC ยืนพื้นและไม่เปลี่ยนแปลง อีกทั้งสีน้ำเงินก็ใช้เป็นสีของทีมเชลซีมาตั้งแต่โลโก้แรก โดยโลโก้นี้ใช้มาถึง 19 ปี แฟนเชลซีจึงจำเชลซีว่าเป็นทีมสิงโตน้ำเงินโดยสมบูรณ์ถึงกระนั้นแฟนบอลและผู้สนับสนุนเชลซีกลับจำโลโก้นี้ได้มากกว่า โลโก้ที่สาม แต่เมื่อเวลาผ่านไป แฟนเชลซีกลับต้องการที่จะกลับไปใช้โลโก้แบบเก่า เพื่อจะนำทีมเชลซีสู่สมัยใหม่ การคิดค้นโลโก้ใหม่จึงเริ่มขึ้นอีกครั้ง
5. สัญลักษณ์ เชลซี ช่วงปี ค.ศ. 2006-ปัจจุบัน
เวลาล่วงเลยมาจนถึง พฤษภาคม ปี 2004 ทีมเชลซีจึงได้โลโก้ใหม่ โดยเอาโลโก้ที่สามเป็นหลัก คือ สิงโตสีน้ำเงิน ถือไม้เท้าสีน้ำเงิน บนพื้นหลังสีขาว ซึ่งความหมาย ของไม้เท้ายังไม่เปลี่ยนแปลง เพียงแต่เปลี่ยนสีตามสีของทีมเท่านั้น ซึ่ง ปีเตอร์ เคนยอน กล่าวว่า“ทีมเชลซีค้นหาโลโก้เพื่อบ่งบอกถึงตัวตนของเรามานานแสนนาน เรามีประวัติศาสตร์กับสิงโตและสีน้ำเงิน สองสิ่งนี้ล้วนแล้วแต่เกี่ยวกับ เชลซีทั้งสิ้น ทีมเชลซีก็มีอายุเกิน 100 ปีแล้ว แต่ทีมเชลซีก็จะใช้โลโก้นี้ตลอดไป”
ณ ตอนนี้ ทุกคนไม่ว่าจะเป็นใคร ทีมไหน ต่างจำสิงโตสีน้ำเงิน ในฐานะที่เป็นโลโก้ของทีมเชลซีไปหมดแล้ว ครั้นจะมีการเปลี่ยนก็ได้รับเสียงคัดค้าน จากแฟนบอลทั่วโลก ถึงแฟนบอลจะมีไม่เยอะเท่าแมนยู ฯ และลิเวอร์พูล แต่ก็ทำให้สโมสรไม่อาจขัดใจแฟนบอลได้ ทีมเชลซีจึงใช้สัญลักษณ์นี้มาจนถึงปัจจุบัน
สรุปนะครับ พัฒนาการของเชลซียุคเริ่มแรกจนถึงยุคสมัยที่3 ล้วนมากจากอิทธิพลของขุนนางชั้นสูงและผู้มั่งมี ร่ำรวย ของอังกฤษในการปกครองซะเป็นส่วนใหญ่ พวกขุนนางชั้นสูงหรือพวกตระกูลมั่งคั่งร่ำรวยต่างๆ ซึ่งมีอิทธิพลต่อสถาบันการเมืองการปกครองของอังกฤษ สโมสรเชลซีก็เป็นตัวแทนอีกประเภทหนึ่งที่บ่งบอกว่าการสร้างฐานอำนาจและอิทธิพลนอกเหนือจากทางเศรษฐกิจและทางทหาร การเมือง เป็นต้น เมื่อมายุคหลังๆบทบาทหรือขุนนางต่างๆถูกลดบทบาทหรือถูกจำกัด ประชาชนทั่วไปจึงเริ่มเข้าไปมีสิทธิมีเสียงในสโมสรมากขึ้น (แต่ยังคงมีอิทธิพลของขุนนางและตระกูลผู้ร่ำรวยไว้บ้าง) ทำให้สโมสรเริ่มเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปและเป็นตัวแทนของสโมสรในพื้นที่ลอนดอนแถบนั้น
ปล.เสริมนะครับ สิงโตในตัวแทนหรือความเชื่อของคนอังกฤษหมายถึงสัตว์ที่ทรงพลังและมีอำนาจ เพราะฉะนั้นเราจะพบเห็นสัญญาลักษณ์ประเภทนี้ต่างๆในประเทศอังกฤษ หรือแม้แต่งานราชการต่างๆ จะใช้สัตว์ประเภทนี้เป็นตัวแทนในการทำกิจกรรมและแสดงอัตลักษณ์ทางสังคมและวัฒนธรรม การเมือง เศรษฐกิจ สโมสรฟุตบอลก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ได้รับผลเช่นกันที่เอารูปสิงโตมาใช้ เช่น เชลซี แอสตันวิลล่า มิดเดิลสโบรส์