แฟนขออยู่คนเดียว 3 วัน ไม่คุยกัน บอกว่าเป็นอะไรไม่รู้ ผมควรทำยังไงดี...???

ผม(เกย์)  =  เอ                   แฟน(เกย์)  =  บี                เพื่อนแฟน(หญิง)  =  ซี          
เพื่อนแฟน(ที่ผมคุยติดต่อเส้นทาง)(ชาย)  =  ดี                เพื่อนแฟน(เจ้าสาว)  =  อี
      วันพฤหัสที่ 17 พ.ย.  บีนั่งรถจากแม่ฮ่องสอนมาเชียงใหม่เพื่อเตรียมตัวจะไปงานแต่งเพื่อนที่เชียงราย  แต่คืนนี้จะนอนที่เชียงใหม่กับซีก่อนที่จะมาเชียงรายพร้อมกัน   ในตอนกลางคืนบีก็โทรมาหาเอ  แล้วก็บอกว่าขอไปนั่งดื่มชิวๆที่ท่าช้าง  แล้วบีก็ยื่นโทสับให้ซีคุยกับเอ   เอก็บอกว่า  เอไม่หึงไม่หวงหรอกนะที่บีจะไปไหนมาไหนกับเพื่อน  แต่ถ้าไปไหนหรือว่ากลับถึงห้องอะไรยังไงก็บอกด้วย  ซีก็บอกว่าได้ๆ  ถ้าบีไม่บอกเดี๋ยวซีจะแอบบอกเอง  สรุปแล้วคืนนั้นทั้งคืนเอก็ไม่ได้รับการติดต่อมาอีกเลย  เองอลปิดสายโทรเข้าจากบี  แต่บีก็ยังแชทเฟสมาตลอด  แต่ไม่ได้การตอบรับจากเอ  
      วันศุกร์  ที่  18  พ.ย.  บีกับซีก็นั่งรถมาเชียงราย  น่าจะช่วงบ่ายๆ  เพื่อมาช่วยกันเตรียมของในงานแต่งของอี  ส่วนเอนั่งดื่มกับเพื่อนที่ทำงาน
      วันเสาร์  ที่  19  พ.ย.  เอคิดอยากจะไปหาบี  แต่ก็ยังมีความงอลบีในเรื่องที่ไปไหนมาไหนไม่บอก  กลับถึงหอตอนไหนก็ไม่บอก   เอก็เลยติดต่อกับดี  และถามเส้นทางไปงานแต่ง  เพราะเอกับบีก็เคยคุยกันเรื่องจะไปงานแต่ง  และเอก็ได้รับการ์ดเชิญจากอีเช่นกัน   พอไปถึงงานแต่งบีก็เหมือนจะตกใจว่าเอมาได้ยังไง  เพราะที่เอไปก็บ่ายแล้ว  เพื่อนของบีก็จะกลับกันแล้ว  แล้วเพื่อนๆของบีก็ถามว่า  บีจะกลับเชียงใหม่วันนี้เลยไหม  หรือว่าจะอยู่กับเอก่อน  เพราะว่าเอกับบี  นานๆทีจะได้เจอกัน   เพราะอยู่ไกลกัน   บีบอกให้เพื่อนจองตั๋วรถให้แล้วบอกว่า  จะกลับวันนี้   ในหัวของเอเหมือนมีคนมาตบหน้าแบบจังๆ  มีดาววิ่งเต็มหัว  ในหัวคิดแต่ว่า  ทำไมและทำไม  ทำไมบีจะต้องกลับวันนี้  ทั้งๆที่นานๆทีได้เจอกัน  แล้วพรุ่งนี้ก็วันอาทิตย์  ซึ่งทั้งเอและบีก็ไม่ได้ทำงานอยู่แล้ว  ว่าจากเชียงรายไปแม่ฮ่องสอนมันใช้เวลานานไหม  มันก็นาน  แต่พรุ่งนี้วันอาทิตย์นะ  เดินทางวันพรุ่งนี้ก็ได้   หลังจากนั้นเอกับบีก็ขับรถออกจากงานแต่ง  เอก็ย้ำกับบีว่าจะกลับวันนี้จริงๆหรอ  ถึงยังไงก็กลับแม่ฮ่องสอนไม่ทันอยู่แล้ว  ถ้าไปก็ได้ไปนอนที่เชียงใหม่อยู่ดี (ไปถึงเชียงใหม่2ทุ่ม)  ย้ำแบบนี้ซ้ำๆ   แต่บีก็ยืนยัยจะกลับ  หลังจากพูดกันแปปเดียว  บรรยากาศภายในรถก็เงียบถึงเงียบมาก  จนไปถึงท่ารถเชียงราย ประมาณบ่ายสามโมงครึ่ง  แต่บีต้องขึ้นรถห้าโมงเย็น  เอก็ลงรถไปส่งบี  นั่งสักพักด้วยความเงียบ  เอก็ขอตัวกลับก่อน  เพราะไม่อยากจะร้องไห้ในที่สาธารณะ  คิดแต่ว่าทำไมทำไมบีจะต้องไปเชียงใหม่วันนี้  ไม่อยากอยู่กับเอหรอ  เออุตสาห์ขับรถมาหาตั้งไกล  คิดวนอยู่แค่นี้   ขับรถออกมาสักพัก  บีก็โทรมาบอกว่า  ขอโทษ   แล้วเอก็ถามว่าทำไมต้องกลับเชียงใหม่  บีก็ตอบว่าไม่รู้  ถามกี่ครั้ง  บีก็ตอบว่าไม่รู้แค่คำนี้คำเดียว  เอก็ยื่นคำขาดว่า  ถ้าไม่บอกก็จะเลิก  เพราะคำว่าไม่รู้คำเดียว  มันเป็นคำตอบที่งี่เง่าที่สุด  บีเลยตอบกลับมาว่า  อยากอยู่คนเดียวสัก3วัน  เอก็ไม่ยอม  ถ้าขออยู่คนเดียวก็เลิกไปเหอะ  เพราะเอก็ทำไม่ได้เหมอนกัน  มีแฟนแต่ไม่ได้คุยกับแฟนตั้ง3วัน เป็นอะไรที่เอทำได้ยากมาก  หลังจากนั้นบีก็ติดต่อไม่ได้อีกเลย ปิดโทรศัพท์   เอก็เลยติดต่อไปหาพี่สาวของบีเพื่อให้เขาติดต่อน้องเขาให้หน่อย เพราะเอเป็นห่วงมาก  พี่สาวเขาก็ติดต่อไม่ได้  เอก็โทรไปหาแม่ของบี   แม่ของบีก็ติดต่อบีไม่ได้เช่นกัน
           วันอาทิตย์  ที่  20  พ.ย.  เอก็ยังติดต่อบีไม่ได้  จนกระทั่งบ่ายสองโมง  บีแชทเฟสกลับมาบอกว่ากำลังจะออกไปกินข้าว  แล้วเอก็ถามบีว่าเป็นอะไร  บีก็ยืนยันคำเดิมว่า เป็นอะไรไม่รู้  แล้วเอก็พูดว่าแล้วเราล่ะ  จะเอายังไงจะคบหรือจะเลิก ถ้าจะคบที่เป็นแบบน้เอไม่โอเคนะ  บีตอบว่า  คบเหมือนเดิม  แล้วเอก็ถามบีว่าจะกลับแม่ฮ่องสอนกี่โมง   บีตอบว่า 5 โมง  เพราะก่อนที่จะไปเชียงรายจองตั๋วกลับไว้แล้ว  เอก็ยิ่งไม่เข้าใจว่าแล้วเมื่อวานทำไมรีบกลับเชียงใหม่  กลับเชียงใหม่บ่ายสองโมงวันนี้ยังยังทันเลย   บีก็ได้แค่ตอบว่า  ไม่รู้ๆๆๆๆๆๆๆๆ   เอแล้วก็ติดต่อไม่ได้อีกตามเคย
           วันจันทร์  ที่  21  พ.ย.  ได้คุยกันในแชทเฟส  บีบอกว่า   เอจุกจิกกับบีมากเกินไป  เอก็งงกันไปใหญ่  แล้วที่ผ่านมาล่ะ  เกือบ 3 ปี  ทำไมไม่เคยบอกว่าเอจุกจิก  แล้วมาวันนี้ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ   บีก็บอกว่าแล้วอีกอย่างเอไปหาที่งานแต่งทำไมไม่บอก เพราะบีไม่ชอบการเซอไพร์  เอก็คิดในในว่า  แล้วนี่ก็อีกประเด็น  ทุกทีบีไม่เคยบอกว่าไม่ชอบการเซอร์ไพร้  แต่วันนี้ทำไมมาระเบิดใส่เอแบบนี้  เอไม่เข้าใจ   แล้วก็ตกลงจะคบกันเหมือนเดิม   แต่ทุกการกระทำของบี  มันไม่เหมือนเดิมสักอย่าง  บีไม่โทรมาหาเอ  บีไม่สนใจอะไรเอเลย
         วันอังคาร  ที่  22  พ.ย.  เหตุการณ์เหมือนวันจันทร์  ที่  21  พ.ย.  แบบนี้ซ้ำๆ  แต่เพิ่มที่ว่า  บีขอให้เอจุกจิกน้อยลง  เอก็ไม่โทรหาบี  ไม่อะไรกับบีเลย  เพราะกลัวบีว่าเอจุกจิก  มีแต่บีที่ทักแชทมา  เอก็ตอบ  ไม่ทักมา เอก็ไม่ตอบ    ตอนกลางคืนเอก็โทรไปหาแม่ของบีอีกครั้ง  ถามว่า  ตกลงแล้วบีเป็นอะไร  แม่บีก็ตอบว่า  บีก็บอกแม่เหมือนกันว่า  เป็นอะไรไม่รู้     เอก็ได้แต่คิดว่า  แล้วเอควรต้องทำยังไงๆๆๆๆๆ
         วันพุธ  ที่  23  พ.ย.  ก็เริ่มคุยกันดีขึ้นมานิดนึง  แต่ติดที่เพื่อนๆของบีมากระหน่ำใส่เอว่าทำไมเอไม่ยอมลดทิฐฐิบ้าง  บลาๆๆ   ตอนกลางคืนเอบอกว่าเอจะนอนละนะ  บีก็บอกว่า  บีก็จะนอนแล้วเหมือนกัน  (ประมาณ 22.00 น.)  ต่างคนต่างเหนื่อยกับงานและไม่สบาย และยังมาเหนื่อยกับเรื่องไม่เป็นเรื่องนี่อีก
        วันนี้  วันพฤหัสบดี  ที่  24  พ.ย.  เอได้แฮ็กเฟสบุ๊คของบี   เจอว่าเมื่อคืนบีคุยกับเพื่อในเฟสเชิงแบบว่า  น่ารักดี  แลกรูปกันถามกันหนุงหนิงๆ แล้วก็วิดีโอคอลคุยกันด้วย ถึงเวลา  01.30 น.  แล้วก็เจออีกแชท เป็นแชทกลุ่มเพื่อนของบี  คืนวันพฤหัสที่ 17 พ.ย. บีกับซีไปเที่ยวต่อกันที่ตะวันแดงฯเชียงใหม่อีก   ทำให้เอไม่มีคำพูดใดๆเลย  นอกจากแชทถามบีว่า  ตกลงจะเอายังไง   บีตอบว่า  ก็แค่คุยกันเฉยๆ  ไม่ได้มีอะไรกัน  เพิ่งคุยเมื่อคืนนี้เอง  บีรักเอคนเดียวนะ  และไม่คิดกับคนนี้ด้วย    เอก็ซัดกลับไปว่า  แล้วที่บอกจะนอนแล้ว เพราะไม่อยากคุยกับเอใช่ไหม  เลยหาคนคุยใหม่  ไหนบอกว่าไม่สบายแล้วจะนอนดึกทำไม  ไม่ได้คิดอะไรกับเขาหรอ  แล้วทำไมบอกเขาว่าน่ารักอย่างนั้นอย่างนี้  แลกรูปหน้าสดกัน  วิดีโอคอลหากัน  เพื่ออะไร   บีตอบมาสั้นๆ ว่า   ขอโทษ


###ตอนนี้  เอยังไม่รู้เลยครับว่าจะทำยังไงต่อไปดี  ด้วยคำว่า  เป็นอะไรไม่รู้จากเขา  เขาไม่พูดไม่จาเหมือนเดิม  ถ้าเลิกกันจริงๆ  เอก็คงอยู่ไม่ได้  ถ้ายังจะคบกันอยู่แล้วเป็นอย่างนี้  เอก็ไม่อยากทน   สภาพร่างกายและจิตในเอตอนนี้เหมือนร่างที่ไร้วิญญาณ  หงุดหงิดง่าย  โมโหง่าย  ซึมๆ เบลอๆ  ไปแล้วครับ   หรือว่าเวลาจะช่วยเยียวยาเราเอง???
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่