สวัสดีครับกระทู้นี้ผมตั้งใจจะเอาเรื่องราวของผมมาแบ่งปันประสบการณ์ให้กับพี่น้องชาวไทยครับ หลาย ๆ ท่านคงจะได้เคยอ่าน หลักทรงงานของในหลวงน่ะครับ 32 ประการ มีประการหนึ่ง เศรษฐกิจพอเพียง ชึ่งท่าน ๆ หลาย ๆ คนคงจะชินและได้ยินบ่อย ผมเป็นพนักงานราชการ ประสบการณ์ทำงาน 9 ปีครับมีโอกาสที่เรียนรู้เกี่ยวกับโครงการต่าง ๆ เกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียงในระดับหนึ่ง และสามารถที่จะให้คำแนะนำแก่พี่น้องประชาชนทั่วไปได้ ค่าตอบแทนผมไม่เยอะครับ 16,XXX บาท (จบ ป.ตรี แต่ตำแหน่ง ปวส.) แต่ก่อนมีความประมาทในการดำเนินชีวิตครับ และยังไม่เข้าใจถึงหลักเศรษฐกิจอย่างแท้จริงครับ ได้แต่อ่าน 3 ห่วง 2 เงื่อนไข ( 3 ห่วง มี พอประมาณ มีเหตุมีผล มีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว 2 เงื่อนไข ความรู้ คุณธรรม )เราก็รู้ครับว่า 3 ห่วง 2 เงื่อนไขนี้มันคืออะไรหมายความว่าอย่างไร แต่เราปฏิบัติไหม ยอมรับว่าปฏิบัติแต่ไม่ค่อยจริงจังครับ เมื่อก่อนรายได้ดีครับขายของออนไลน์ กับ ภรรยาเปิดร้านเสริมสวย ( 16,XXX บาท+ 15,XXX + ขายของ 3X,XXX ) อยู่ในต่างจังหวัดค่าครองชีพไม่ค่อยสูงน่ะครับ แต่เราก็ไม่มีเงินเก็บเพราะขาดภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว มาฟังเรื่องราวของผมต่อน่ะครับ
เมื่อต้นปี 2559 ครับ ภรรยาของผมไปช่วยเหลือเพื่อนด้วยการกู้เงินนอกระบบมาให้เขาครับโดยที่ผมไม่รู้มาก่อนยอดก็ 1XX,XXX บาท เก็บรายวัน 24 วัน ๆล ะ 4,000 บาท ถือว่าเยอะน่ะครับอาชีพไหนหาเงินได้วันละ 4,000 และเขาส่งแค่ 8 วัน ก็หายเข้ากลีบเมฆ ทิ้งหนี้ให้เรา 68,000 บวกกับดอกเบี้ยอีกครับเราเลยหนักเลยจากที่ไม่เคยเป็นหนี้นอกระบบเราต้องพึ่งสถาบันทางการเงินกู้ทุกอย่างเอารถเข้าไฟแนนท์ เอาหลักทรัพย์เข้าไฟแนนซ์ต่าง ๆ เพื่อที่จะปลดหนี้ก้อนนี้ดอกเบี้ยนอกระบบโหดมากครับ มาเก็บในร้านทุกวัน ลูกค้าก็กลัว ๆ แล้วก็หาย รายได้ที่เสริมสวยที่เราจะต้องส่งก็ลดลงไปยอดขายของที่ผมเคยขายได้ก็ลดลงครับเพราะลูกค้าเงียบมาก หนักซ้ำเข้าไปอีก รถที่จอดอยู่หน้าบ้านดี ๆ เจอรถมาชนกันแล้วมาชนรถของเราพังอีกครับ ไม่ได้ใช้รถมา 54 วันในการทำงาน ( แต่ก็เรียกร้องได้กับ บ.ประกันภัยในภายหลัง แค่ 17,000 บาท ) จากที่เราตั้งใจไว้เงินเดือนผมคือส่งงวดรถ ส่งธนาคาร เงินของภรรยาเป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันชึ่งแต่ก่อนเราประคับประคองมา 5 ปีครับที่เราอยุ่ด้วยกัน มาบัดนี้มีหนี้ที่ผมไม่ได้ตั้งใจก่อขึ้นรับสภาพไม่ได้ครับเราเปลี่ยนจากนอกระบบมาเป็นในระบบแทน แน่นอนครับสิ่งที่ตามมาคือดอกเบี้ย มาเดือนกรกฏาคม 2559 พ่อตาประสบอุบัติเหตุอีกครับหนักเข้าไปกันใหญ่คือท่านทำงานได้ไม่เต็มที่และรถเป็นประกันชั้น 3 ที่จะต้องซ่อมเอง เป็นเหตุการณ์ในชีวิตที่เลวร้ายกับเรามาก กันยายน 59 ภรรยาผมขอหย่ากับผม ภาระทุกอย่างมารวมที่ผมหมดครับตอนนี้ ธนาคาร ไฟแนนซ์ที่ไปเอามาในส่วนที่เป็นชื่อผมก็ต้องยอมรับมันไปจากเงินเดือน และขายของที่มีตอนนี้ผมติดลบครับในแต่ละเดือนที่ไล่ดูแล้วผมติดลบเดือนละ 5,000 กว่าบาท คิดมากครับไหนจะหนี้ ไหนจะครอบครัว ลืมบอกไปครับผมมีลูก 2 คน นอนก็ร้องให้ครับคิดแต่ว่าทำไมต้องมาเจอกับเรา บ้านก็เช่าเขาครับตอนนั้นค่าเช่าบ้านก็ค้าง 3 เดือน หลังจากภรรยาผมขนของกลับบ้านมาดูแลพ่อแล้วผมเลยมาขออาศัยบ้านพักข้าราชการอยู่ครับ ท่านผู้ปกครองนิคมสร้างตนเอง ท่านได้ให้แนวทางผมว่า " ลวดลาย คุณก็มาปลูกผัก ปลูกอะไรในที่นี้สิ ผมให้บ้านพักหลัง 1 คุณจะได้ประหยัดค่าใช้จ่าย " ( ลวดลาย คือชื่อเล่นของผมครับ ) วันอังคารที่ 26 กรกฏาคม 2559 เงินเดือนออก ผมใช้หนี้จนหมดเหลือเงิน 800 บาทนี่คือจุดเริ่มต้นของคำว่าพอเพียงของผมครับ 800 ผมไถดินรอบ ๆ บริเวณบ้านเพื่อเตรียมที่จะปลูกผัก ยังคิดไม่ออกน่ะครับว่าจะปลูกอะไรดี แต่แล้วก็เจอเฟสที่เขาแชร์องค์ความรู้มาการปลูกผักปลูกกล้วย บ้างอะไรบ้าง ผมเลยทดลองทำก่อนอันดับแรกคือ ปลูกกล้วยแบบผ่าหน่อ เพราะมีกล้วยปากช่อง 50 แล้วเอามาผ่าหน่อปลูกแบบกลับหัว ในระหว่างที่กล้วยโต ผมชื้อต้นพริก 30 บาทครับ 20 กว่าต้นปลูก พร้อม ๆ กัน และก็ชะอม ผักกาดผักบุ้ง ผักสวนครัวต่าง ๆ และไปขอปลาดุกมาเลี้ยง 1200 ตัวครับ ส่วนค่าหัวอาหาร 480 บาทขอเซ็นต์ร้านค้ามาใช้เวลาว่างหลังเลิกงาน 16:30 -18:00 น. ของทุกวันทำแบบนี้เรื่อย ๆ ครับ ตอนแรก ๆก็เหมือนกับคนทั่วไป ปลูก ๆ ไป แต่พอผักเจริญเติบโต ทุกวันนี้ผมเก็บผักพร้อมน้ำตาไหลครับ เพราะว่าคำว่าพอเพียงของในหลวงที่พระองค์ท่านใช้เป็นทางสายกลางมอบให้เราทุกคนปฏิบัติตาม มันเห็นผลได้จริง ๆ ครับบัญชีครัวเรือนพระองค์ท่านก็สอน ให้เราทำรู้รายรับรายจ่าย ตัดในส่วนที่ไม่จำเป็นออก นึกถึงความมีเหตุผล และความจำเป็น ผมจดค่าใช้จ่ายสำหรับตัวผมเรื่องค่ากับข้าว สิงหาคม 450 บาท กันยายน 600 ตุลาคม 350 พฤศจิกายน 260 บาท (ยังไม่ได้ชื้อหมด) นี่ครับค่ากับข้าวที่ผมชื้อในแต่ละเดือน อะไรบ้างที่ผมชื้อ (น้ำปลา ซอสปรุงรส รสดี น้ำมันพืช กาแฟ น้ำมันหอย กระเทียม เนื้อหมู ไข่ ข้าวกล้อง ) อยากฟังต่อไหมผมทำยังไง
คุณเชื่อไหม..ผมเดินตามปณิธานของในหลวง ทำเศรษฐกิจพอเพียงในครัวเรือน ลงทุนแค่เดือนละ 900 บาท ลดค่ากับข้าวเดือนละ 2,200 บาท
เมื่อต้นปี 2559 ครับ ภรรยาของผมไปช่วยเหลือเพื่อนด้วยการกู้เงินนอกระบบมาให้เขาครับโดยที่ผมไม่รู้มาก่อนยอดก็ 1XX,XXX บาท เก็บรายวัน 24 วัน ๆล ะ 4,000 บาท ถือว่าเยอะน่ะครับอาชีพไหนหาเงินได้วันละ 4,000 และเขาส่งแค่ 8 วัน ก็หายเข้ากลีบเมฆ ทิ้งหนี้ให้เรา 68,000 บวกกับดอกเบี้ยอีกครับเราเลยหนักเลยจากที่ไม่เคยเป็นหนี้นอกระบบเราต้องพึ่งสถาบันทางการเงินกู้ทุกอย่างเอารถเข้าไฟแนนท์ เอาหลักทรัพย์เข้าไฟแนนซ์ต่าง ๆ เพื่อที่จะปลดหนี้ก้อนนี้ดอกเบี้ยนอกระบบโหดมากครับ มาเก็บในร้านทุกวัน ลูกค้าก็กลัว ๆ แล้วก็หาย รายได้ที่เสริมสวยที่เราจะต้องส่งก็ลดลงไปยอดขายของที่ผมเคยขายได้ก็ลดลงครับเพราะลูกค้าเงียบมาก หนักซ้ำเข้าไปอีก รถที่จอดอยู่หน้าบ้านดี ๆ เจอรถมาชนกันแล้วมาชนรถของเราพังอีกครับ ไม่ได้ใช้รถมา 54 วันในการทำงาน ( แต่ก็เรียกร้องได้กับ บ.ประกันภัยในภายหลัง แค่ 17,000 บาท ) จากที่เราตั้งใจไว้เงินเดือนผมคือส่งงวดรถ ส่งธนาคาร เงินของภรรยาเป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันชึ่งแต่ก่อนเราประคับประคองมา 5 ปีครับที่เราอยุ่ด้วยกัน มาบัดนี้มีหนี้ที่ผมไม่ได้ตั้งใจก่อขึ้นรับสภาพไม่ได้ครับเราเปลี่ยนจากนอกระบบมาเป็นในระบบแทน แน่นอนครับสิ่งที่ตามมาคือดอกเบี้ย มาเดือนกรกฏาคม 2559 พ่อตาประสบอุบัติเหตุอีกครับหนักเข้าไปกันใหญ่คือท่านทำงานได้ไม่เต็มที่และรถเป็นประกันชั้น 3 ที่จะต้องซ่อมเอง เป็นเหตุการณ์ในชีวิตที่เลวร้ายกับเรามาก กันยายน 59 ภรรยาผมขอหย่ากับผม ภาระทุกอย่างมารวมที่ผมหมดครับตอนนี้ ธนาคาร ไฟแนนซ์ที่ไปเอามาในส่วนที่เป็นชื่อผมก็ต้องยอมรับมันไปจากเงินเดือน และขายของที่มีตอนนี้ผมติดลบครับในแต่ละเดือนที่ไล่ดูแล้วผมติดลบเดือนละ 5,000 กว่าบาท คิดมากครับไหนจะหนี้ ไหนจะครอบครัว ลืมบอกไปครับผมมีลูก 2 คน นอนก็ร้องให้ครับคิดแต่ว่าทำไมต้องมาเจอกับเรา บ้านก็เช่าเขาครับตอนนั้นค่าเช่าบ้านก็ค้าง 3 เดือน หลังจากภรรยาผมขนของกลับบ้านมาดูแลพ่อแล้วผมเลยมาขออาศัยบ้านพักข้าราชการอยู่ครับ ท่านผู้ปกครองนิคมสร้างตนเอง ท่านได้ให้แนวทางผมว่า " ลวดลาย คุณก็มาปลูกผัก ปลูกอะไรในที่นี้สิ ผมให้บ้านพักหลัง 1 คุณจะได้ประหยัดค่าใช้จ่าย " ( ลวดลาย คือชื่อเล่นของผมครับ ) วันอังคารที่ 26 กรกฏาคม 2559 เงินเดือนออก ผมใช้หนี้จนหมดเหลือเงิน 800 บาทนี่คือจุดเริ่มต้นของคำว่าพอเพียงของผมครับ 800 ผมไถดินรอบ ๆ บริเวณบ้านเพื่อเตรียมที่จะปลูกผัก ยังคิดไม่ออกน่ะครับว่าจะปลูกอะไรดี แต่แล้วก็เจอเฟสที่เขาแชร์องค์ความรู้มาการปลูกผักปลูกกล้วย บ้างอะไรบ้าง ผมเลยทดลองทำก่อนอันดับแรกคือ ปลูกกล้วยแบบผ่าหน่อ เพราะมีกล้วยปากช่อง 50 แล้วเอามาผ่าหน่อปลูกแบบกลับหัว ในระหว่างที่กล้วยโต ผมชื้อต้นพริก 30 บาทครับ 20 กว่าต้นปลูก พร้อม ๆ กัน และก็ชะอม ผักกาดผักบุ้ง ผักสวนครัวต่าง ๆ และไปขอปลาดุกมาเลี้ยง 1200 ตัวครับ ส่วนค่าหัวอาหาร 480 บาทขอเซ็นต์ร้านค้ามาใช้เวลาว่างหลังเลิกงาน 16:30 -18:00 น. ของทุกวันทำแบบนี้เรื่อย ๆ ครับ ตอนแรก ๆก็เหมือนกับคนทั่วไป ปลูก ๆ ไป แต่พอผักเจริญเติบโต ทุกวันนี้ผมเก็บผักพร้อมน้ำตาไหลครับ เพราะว่าคำว่าพอเพียงของในหลวงที่พระองค์ท่านใช้เป็นทางสายกลางมอบให้เราทุกคนปฏิบัติตาม มันเห็นผลได้จริง ๆ ครับบัญชีครัวเรือนพระองค์ท่านก็สอน ให้เราทำรู้รายรับรายจ่าย ตัดในส่วนที่ไม่จำเป็นออก นึกถึงความมีเหตุผล และความจำเป็น ผมจดค่าใช้จ่ายสำหรับตัวผมเรื่องค่ากับข้าว สิงหาคม 450 บาท กันยายน 600 ตุลาคม 350 พฤศจิกายน 260 บาท (ยังไม่ได้ชื้อหมด) นี่ครับค่ากับข้าวที่ผมชื้อในแต่ละเดือน อะไรบ้างที่ผมชื้อ (น้ำปลา ซอสปรุงรส รสดี น้ำมันพืช กาแฟ น้ำมันหอย กระเทียม เนื้อหมู ไข่ ข้าวกล้อง ) อยากฟังต่อไหมผมทำยังไง