เมื่องานประจำไม่ทำเงินได้มากพอ ก็ต้องหาเงินเพิ่มสิคะ รออะไร !!
ง่ายๆเลยจากของใกล้ตัว โละของเก่ามาขายซะ อะไรไม่ใช้แล้วบ้าง แต่ยังใช้งานได้ก็เอาลงเว็บขายของมือสอง
ขอยกตัวอย่าง สินค้าชิ้นแรกที่ลองโพสต์ขายเลยนะคะ
กล้องดิจิทัล DSLR (ตัวแรกที่มี)
กล้องตัวนี้ใช้ตั้งแต่ตอนเรียนถ่ายภาพ อายุก็ร่วม 7 ปีแล้วมั้ง ราคาก็ตกฮวบฮาบซิคะ แต่ไม่เป็นไรเพราะเราดูแลดี ใช้งานได้ปกติ
มีอุปกรณ์ครบครัน ที่สำคัญคือมีของแถมให้เค้าด้วย(ทีเด็ดมันอยู่ตรงนี้)
ขอเล่าแบบ Step by Step เลยแล้วกัน
1. เช็คสภาพสินค้าที่เรามี ใช้งานได้ปกติมั๊ย อุปกรณ์ครบรึป่าว และสืบหาราคาขายในช่วงเวลานี้ว่าอยู่ที่ราคาเท่าไหร่ เราก็ตั้งราคาให้เทียบเท่า
หรือลดหลั่นลงมาหน่อย (แถมออฟชั่นให้สินค้าไปหน่อย กรณีของดิฉันแถมตัว memory card และกระเป๋าใส่กล้อง)
2. ถ่ายภาพสินค้า หามุมดีๆในห้องซักมุม ถ่ายรูปให้ดูดีหน่อยค่ะ ไม่ใช่วางบนที่นอนหรือกองผ้า เพราะสินค้าจะดูด้อยราคาลงไปทันที (ไม่ใช่ถ่ายแต่สินค้า ถ่ายของแถมไปด้วย)
3. หาที่ลงประกาศขาย เดี๋ยวนี้เว็บไซต์ขายของมือสองมีเยอะ เว็บใหญ่ๆก็น่าจะเป็น Kaidee.com, PantipMarket.com หรือเว็บไซท์เฉพาะกลุ่มของสินค้าเฉพาะทาง แต่ ...... แหล่งที่ดิฉันโพสแล้วได้ประสิทธิผลแบบเร็วเกินคาดคือ กลุ่มขายของใน Facebook ค่ะ อาจเป็นเพราะสินค้าตรงกับความต้องการของผู้ซื้อพอดี โพสไปไม่ถึง ชั่วโมงอินบ็อกและไลน์นี่เด้งไม่หยุดเลยจริงๆ คือตอบไม่ทันเลย ถามมาเป็นยี่สิบกว่าราย ที่นี่ก็อยู่ที่เราแล้วค่ะว่าจะเลือกขายให้ลูกค้าคนไหน
*** Step นี้สำคัญมาก เรามีโอกาสเลือกลูกค้า ต้องยอมรับว่าขายในกลุ่มเฟสบุ๊กจะมีกระแสตอบรับเข้ามาเร็ว แต่ลูกค้าก็ต่อสินค้าแบบไม่ยั้งเหมือนกัน บางรายต่อไปแบบครึ่งนึงเลย ที่นี่เราก็ดึงเวลาโดยการคุยสนทนากับลูกค้าที่ให้ราคาสูงที่สุดสิค่ะ หรือต่อราคาลงน้อยที่สุดนั่นเอง ยื้อเวลาโดยการส่งภาพสินค้าเพิ่มให้ดูเพื่อประกอบการตัดสินใจ และพิจารณาดูว่าลูกค้าคนไหนดูจะเป็นมิตรทางการค้ากับเรามากที่สุด เลือกคนนั้นเลยค่ะ
4. ตกลงกันว่าจะโอนเงินมาหรือจะรับสินค้าด้วยตัวเอง (ยื่นหมูยื่นแมว) ถ้าลูกค้าโอนเงินมาให้เช็คดีๆนะคะว่าโอนมาจริงรึป่าว เดี๋ยวนี้คนจะโกงมีเยอะค่ะ ต้องระวัง ถ้าคนไหนดูลีลาเหลือเกิน ไม่โอนแล้วให้เราส่งก่อน ตัดปัญหาไปเลยค่ะ ไปดิวลูกค้าคนใหม่ง่ายกว่า
*** สิ่งสำคัญคือซื่อสัตย์กับลูกค้าด้วยนะคะ ถ้าสินค้ามีส่วนที่ชำรุด หรือพกพร่องตรงไหน ต้องบอกความจริงไป อย่าไปหลอกขายคนอื่น เดี๋ยวเค้าจะด่าเราไปยั้นบรรพบุรุษ !!
ปล. กระทู้นี้หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้คนอ่านได้บ้างนะคะ หรือลองมาแชร์ประสบการณ์การขายของมือสองกัน
จากลูกค้า มาเป็นแม่ค้าออนไลน์(เทคนิคขายของมือ 2)
ง่ายๆเลยจากของใกล้ตัว โละของเก่ามาขายซะ อะไรไม่ใช้แล้วบ้าง แต่ยังใช้งานได้ก็เอาลงเว็บขายของมือสอง
ขอยกตัวอย่าง สินค้าชิ้นแรกที่ลองโพสต์ขายเลยนะคะ
กล้องดิจิทัล DSLR (ตัวแรกที่มี)
กล้องตัวนี้ใช้ตั้งแต่ตอนเรียนถ่ายภาพ อายุก็ร่วม 7 ปีแล้วมั้ง ราคาก็ตกฮวบฮาบซิคะ แต่ไม่เป็นไรเพราะเราดูแลดี ใช้งานได้ปกติ
มีอุปกรณ์ครบครัน ที่สำคัญคือมีของแถมให้เค้าด้วย(ทีเด็ดมันอยู่ตรงนี้)
ขอเล่าแบบ Step by Step เลยแล้วกัน
1. เช็คสภาพสินค้าที่เรามี ใช้งานได้ปกติมั๊ย อุปกรณ์ครบรึป่าว และสืบหาราคาขายในช่วงเวลานี้ว่าอยู่ที่ราคาเท่าไหร่ เราก็ตั้งราคาให้เทียบเท่า
หรือลดหลั่นลงมาหน่อย (แถมออฟชั่นให้สินค้าไปหน่อย กรณีของดิฉันแถมตัว memory card และกระเป๋าใส่กล้อง)
2. ถ่ายภาพสินค้า หามุมดีๆในห้องซักมุม ถ่ายรูปให้ดูดีหน่อยค่ะ ไม่ใช่วางบนที่นอนหรือกองผ้า เพราะสินค้าจะดูด้อยราคาลงไปทันที (ไม่ใช่ถ่ายแต่สินค้า ถ่ายของแถมไปด้วย)
3. หาที่ลงประกาศขาย เดี๋ยวนี้เว็บไซต์ขายของมือสองมีเยอะ เว็บใหญ่ๆก็น่าจะเป็น Kaidee.com, PantipMarket.com หรือเว็บไซท์เฉพาะกลุ่มของสินค้าเฉพาะทาง แต่ ...... แหล่งที่ดิฉันโพสแล้วได้ประสิทธิผลแบบเร็วเกินคาดคือ กลุ่มขายของใน Facebook ค่ะ อาจเป็นเพราะสินค้าตรงกับความต้องการของผู้ซื้อพอดี โพสไปไม่ถึง ชั่วโมงอินบ็อกและไลน์นี่เด้งไม่หยุดเลยจริงๆ คือตอบไม่ทันเลย ถามมาเป็นยี่สิบกว่าราย ที่นี่ก็อยู่ที่เราแล้วค่ะว่าจะเลือกขายให้ลูกค้าคนไหน
*** Step นี้สำคัญมาก เรามีโอกาสเลือกลูกค้า ต้องยอมรับว่าขายในกลุ่มเฟสบุ๊กจะมีกระแสตอบรับเข้ามาเร็ว แต่ลูกค้าก็ต่อสินค้าแบบไม่ยั้งเหมือนกัน บางรายต่อไปแบบครึ่งนึงเลย ที่นี่เราก็ดึงเวลาโดยการคุยสนทนากับลูกค้าที่ให้ราคาสูงที่สุดสิค่ะ หรือต่อราคาลงน้อยที่สุดนั่นเอง ยื้อเวลาโดยการส่งภาพสินค้าเพิ่มให้ดูเพื่อประกอบการตัดสินใจ และพิจารณาดูว่าลูกค้าคนไหนดูจะเป็นมิตรทางการค้ากับเรามากที่สุด เลือกคนนั้นเลยค่ะ
4. ตกลงกันว่าจะโอนเงินมาหรือจะรับสินค้าด้วยตัวเอง (ยื่นหมูยื่นแมว) ถ้าลูกค้าโอนเงินมาให้เช็คดีๆนะคะว่าโอนมาจริงรึป่าว เดี๋ยวนี้คนจะโกงมีเยอะค่ะ ต้องระวัง ถ้าคนไหนดูลีลาเหลือเกิน ไม่โอนแล้วให้เราส่งก่อน ตัดปัญหาไปเลยค่ะ ไปดิวลูกค้าคนใหม่ง่ายกว่า
*** สิ่งสำคัญคือซื่อสัตย์กับลูกค้าด้วยนะคะ ถ้าสินค้ามีส่วนที่ชำรุด หรือพกพร่องตรงไหน ต้องบอกความจริงไป อย่าไปหลอกขายคนอื่น เดี๋ยวเค้าจะด่าเราไปยั้นบรรพบุรุษ !!
ปล. กระทู้นี้หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้คนอ่านได้บ้างนะคะ หรือลองมาแชร์ประสบการณ์การขายของมือสองกัน