คุณสมบัติผู้มีสิทธิ์ เป็นบุคคลสัญชาติไทย อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี ณ วันที่ 15 สิงหาคม 2559 และเป็นผู้ว่างงานหรือมีรายได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี ในปี 2558 โดยมีการตรวจสอบสถานะบุคคลและความถูกต้องของข้อมูลในเบื้องต้นจากกรมสรรพากร และกรมการปกครองแล้ว ทั้งนี้ ผู้ลงทะเบียนที่ตรวจสอบจากเว็บไซต์ของกรมสรรพากรแล้วไม่ปรากฎชื่อให้นำเอกสารหลักฐานที่ธนาคารผู้รับลงทะเบียนให้ไว้ไปติดต่อที่สาขาธนาคารที่ตนไปลงทะเบียนภายในวันที่ 15 ธันวาคม 2559 จำนวนกลุ่มเป้าหมาย ผู้มีรายได้น้อยที่ไม่ใช่เกษตรกรจำนวน 5.4 ล้านคน
เกณฑ์การช่วยเหลือ ใช้เส้นทางความยากจนที่คำนวณโดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นเกณฑ์ โดยกำหนดอัตราเงินช่วยเหลือ ซึ่งมีจำนวนผู้มีสิทธิ์และวงเงินงบประมาณที่ใช้ ดังนี้
ผู้ที่ไม่มีรายได้ หรือมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท / ปี อัตราเงินช่วยเหลือ (ให้เพียงครั้งเดียว) 3,000 บาท / คน ประมาณการจำนวนผู้มีสิทธิ์ 3.1 ล้านคน ประมาณการวงเงินที่ใช้ 9,300 ล้านบาท
ผู้มีรายได้ตั้งแต่ 30,001 บาท / ปี ขึ้นไป แต่ไม่เกิน 100,000 บาท /ปี อัตราเงินช่วยเหลือ (ให้เพียงครั้งเดียว) 1,500 บาท / คน ประมาณการจำนวนผู้มีสิทธิ์ 2.3 ล้านคน ประมาณการวงเงินที่ใช้ 3,450 ล้านบาท ประมาณการจำนวนผู้มีสิทธิ์ 5.4 ล้านคน และวงเงินที่ใช้ 12,750 ล้านบาท
วิธีการโอนเงิน ให้ ธ.ก.ส. ธ.ออมสิน และ ธ. กรุงไทย ดำเนินการโอนเงินเข้าบัญชีผู้มีรายได้น้อยที่ไม่ใช่เกษตรกรที่ลงทะเบียนตามโครงการฯ ไว้กับธนาคาร โดยจำแนกเป็น 2 กรณี ดังนี้
กรณีผู้มีสิทธิ์เป็นลูกค้าของธนาคาร : ให้ธนาคารโอนเข้าบัญชีของผู้มีสิทธิ์โดยตรง โดยให้ผู้มีสิทธิ์สามารถตรวจสอบเงินในบัญชีของตนภายใน 7 วัน
นับแต่วันที่ธนาคารแจ้งการโอนเงินหากไม่มีเงินโอนเข้าบัญชีให้ไปยืนยันสิทธิ์กับธนาคารที่ได้ลงทะเบียนไว้ และหากผู้สิทธิ์มีบัญชีเงินฝากมากกว่า 1 บัญชี ธนาคารจะทำการโอนเงินเข้าในบัญชีที่มีการเคลื่อนไหวล่าสุด
กรณีผู้มีสิทธิ์ไม่ได้เป็นลูกค้าของธนาคาร: ให้ผู้มีสิทธิ์ไปแสดงตัวและเปิดบัญชีเงินฝากที่สาขาธนาคารที่ไปลงทะเบียนตามโครงการฯ
และสามารถตรวจสอบเงินในบัญชีหลังจากเปิดบัญชีภายใน 7 วัน หากไม่มีเงินโอนเข้าบัญชีให้ไปยืนยันสิทธิกับธนาคารที่ได้ลงทะเบียนไว้
ทั้งนี้ ให้ธนาคารใช้หลักเกณฑ์การโอนเงินข้างต้นเพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการโอนเงินให้เกษตรกรผู้มีสิทธิ์ ตามมาตรการเพิ่มรายได้แก่เกษตรกรผู้มีรายได้น้อยด้วย
กรอบระยะเวลาดำเนินการ วันที่ 1 ธันวาคม 2559 ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2559
ถ้ามีคนโปรยเงินลงมาจากฟากฟ้า คนจนจะเอาไปซื้อของกินของใช้
ขั้นตอน วิธีการรับเงิน ใครได้ใครไม่ได้ เงินมาจากกไหน? ในคลิปจะบอกโดยละเอียดครับ
รายละเอียด มติครม. แจกเงินให้คนจนคนละ 3,000 บาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ มีดังต่อไปนี้
เกณฑ์การช่วยเหลือ ใช้เส้นทางความยากจนที่คำนวณโดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นเกณฑ์ โดยกำหนดอัตราเงินช่วยเหลือ ซึ่งมีจำนวนผู้มีสิทธิ์และวงเงินงบประมาณที่ใช้ ดังนี้
ผู้ที่ไม่มีรายได้ หรือมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท / ปี อัตราเงินช่วยเหลือ (ให้เพียงครั้งเดียว) 3,000 บาท / คน ประมาณการจำนวนผู้มีสิทธิ์ 3.1 ล้านคน ประมาณการวงเงินที่ใช้ 9,300 ล้านบาท
ผู้มีรายได้ตั้งแต่ 30,001 บาท / ปี ขึ้นไป แต่ไม่เกิน 100,000 บาท /ปี อัตราเงินช่วยเหลือ (ให้เพียงครั้งเดียว) 1,500 บาท / คน ประมาณการจำนวนผู้มีสิทธิ์ 2.3 ล้านคน ประมาณการวงเงินที่ใช้ 3,450 ล้านบาท ประมาณการจำนวนผู้มีสิทธิ์ 5.4 ล้านคน และวงเงินที่ใช้ 12,750 ล้านบาท
วิธีการโอนเงิน ให้ ธ.ก.ส. ธ.ออมสิน และ ธ. กรุงไทย ดำเนินการโอนเงินเข้าบัญชีผู้มีรายได้น้อยที่ไม่ใช่เกษตรกรที่ลงทะเบียนตามโครงการฯ ไว้กับธนาคาร โดยจำแนกเป็น 2 กรณี ดังนี้
กรณีผู้มีสิทธิ์เป็นลูกค้าของธนาคาร : ให้ธนาคารโอนเข้าบัญชีของผู้มีสิทธิ์โดยตรง โดยให้ผู้มีสิทธิ์สามารถตรวจสอบเงินในบัญชีของตนภายใน 7 วัน
นับแต่วันที่ธนาคารแจ้งการโอนเงินหากไม่มีเงินโอนเข้าบัญชีให้ไปยืนยันสิทธิ์กับธนาคารที่ได้ลงทะเบียนไว้ และหากผู้สิทธิ์มีบัญชีเงินฝากมากกว่า 1 บัญชี ธนาคารจะทำการโอนเงินเข้าในบัญชีที่มีการเคลื่อนไหวล่าสุด
กรณีผู้มีสิทธิ์ไม่ได้เป็นลูกค้าของธนาคาร: ให้ผู้มีสิทธิ์ไปแสดงตัวและเปิดบัญชีเงินฝากที่สาขาธนาคารที่ไปลงทะเบียนตามโครงการฯ
และสามารถตรวจสอบเงินในบัญชีหลังจากเปิดบัญชีภายใน 7 วัน หากไม่มีเงินโอนเข้าบัญชีให้ไปยืนยันสิทธิกับธนาคารที่ได้ลงทะเบียนไว้
ทั้งนี้ ให้ธนาคารใช้หลักเกณฑ์การโอนเงินข้างต้นเพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการโอนเงินให้เกษตรกรผู้มีสิทธิ์ ตามมาตรการเพิ่มรายได้แก่เกษตรกรผู้มีรายได้น้อยด้วย กรอบระยะเวลาดำเนินการ วันที่ 1 ธันวาคม 2559 ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2559
ถ้ามีคนโปรยเงินลงมาจากฟากฟ้า คนจนจะเอาไปซื้อของกินของใช้
ขั้นตอน วิธีการรับเงิน ใครได้ใครไม่ได้ เงินมาจากกไหน? ในคลิปจะบอกโดยละเอียดครับ