สวัสดีค่า เราชื่อปอยน้า อยู่ ม.5 ตอนนี้เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนโครงการ OEG อยู่ประเทศฝรั่งเศสค้า ตอนนี้เรามาอยู่ฝรั่งเศสได้ 3 เดือนแล้ว เราจะเล่าตั้งแต่ก่อนสอบยันปัจจุบันเลยละกัน 55555 คือเราอ่ะโดยส่วนตัวอยากมาฝรั่งเศสแต่แรกแล้วคือเราอยากได้ภาษาที่ 3 เราคิดว่ามันเท่อะ 55555 เลยแบบไม่มองประเทศอื่นเลยคือตอนแรกช่วงจะสอบเราเหมือนไม่ค่อยทันคนอื่นอ่ะ แบบยังไม่ค่อยรู้ว่ามีโครงการไหนอะไรยังไง แต่คือตอนนั้นดีที่มีเพื่อนในห้องเราอยากไปแลกเปลี่ยนฝรั่งเศส ช่วงนั้นคือเป็นช่วงท้ายๆที่จะปิดรับสมัคร ถ้าไม่ทันก็ต้องรอรอบหน้าซึ่งเราก็ไมรู้ว่าเมื่อไหร่ ตอนนั้นเพื่อนเราก็มาบอกแบบเออๆมีโครงการ OEG แบบดีอยู่นะไรงี้ เราเห็นโครงการไหนมีฝรั่งเศส เราไปหมดอ่ะเอาจริง 555555 ไปๆมาๆคือมันปิดรับแล้วเว้ย เราแบบไม่ยอมแพ้จ้า หาเบอร์แล้วโทรหาโครงการเลย โทรไปบอก 'พี่คือหนูอยากสมัครหนูพึ่งมาเห็นขอสมัครได้มั๊ย' พี่เค้าก็ให้นะคือใจดี (เรารู้สึกจะเป็นหลังปิดรับวันสองวันมั้งนะพี่เค้าเลยให้ แต่อย่าทำอะไรกระทันหันแบบเราเลยหาข้อมูลให้ชัวร์แล้วสมัครภายในวันที่กำหนดดีกว่าโน้ะ)
พอถึงวันสอบข้อเขียน คือเราเป็นคนที่ไม่อ่าน นส สอบอ่ะ (เอาอีกแล้วเรา 55555 น้องๆคนไหนอยากสอบอ่านไปก็ดีน้าอย่าขี้เกียจแบบเราเลย 555555) แต่ส่วนตัวสำหรับเรา เราว่าข้อสอบคือมันไม่ได้ยากแบบยากมากขนาดนั้น มันก็ปานกลางอะ เราเชื่อว่าทุกคนน่าจะทำได้นะ (ข้อสอบเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดเลยค่ะ)

พอเราผ่านรอบข้อเขียนเค้าก็จะประกาศผล ถ้าผ่านเราก็มีสิทธิไปค่าย excite camp (ค่าย excite คือเราต้องค้าง 2 วัน 1 คืน ภายในค่ายก็จะมีกิจกรรมต่างๆให้ทำเยอะแยะได้เพื่อนเพียบ! ละก็จะมีสัมภาษณ์ด้วยมั้งถ้าจำไม่ผิด) พอเราเข้าค่าย excite เสร็จหลังจากนั้นเค้าก็จะประกาศผล ทีนี้ถ้าเราผ่าน ก็คือเตรียมเลี้ยงเลย 55555 ตอนนั้นจำได้เรียนจารปิงอยู่ แทบโดนหนังสือเฟี้ยงใส่ คือห้องเงียบมากละเราแบบดีใจมั่กเลยเสียงดังไปหน่อยย

ตัดภาพมาวันบินเลยโน้ะ ไฟท์เราบินวันที่ 6 สิงหา
บรรยากาศวันนั้น คือถ่ายรูปแบบจัดเต็มเหมือนเราจะไป 10 ปี 55555

เรานั่งการบินไทยเป็นไฟท์ตรงเลย นั่งไป 11 ชม 15 นาทียาวๆ

คือโครงการเรามีแบบให้มาเรียนภาษาในปารีสก่อนจะไปหาโฮสจริงประมาณ 3 อาทิตย์ มันเป็นฟีลเหมือนซัมเมอร์เลยอะ พักอยู่กับโฮสชั่วคราว เรียนครึ่งวัน

แต่แล้วแต่เรานะว่าจะมาเรียนหรือไม่เรียน คนที่เรียนก็จะได้บินมาก่อน 3 อาทิตย์ ในระหว่าง 3 อาทิตย์จะเป็นการเรียน ครึ่งวันเช้า บ่ายชิว อยากไปไหนก็ไปเรามีเพื่อนที่มาเรียนภาษาด้วยกันรวมเราแล้วก็ 8 คนค้า (โครงการเรามีฝรั่งเศส 11 คน อีก 3 คนบินตามมาทีหลังเพราะไม่เรียนภาษา)
เครื่องเราลงตอน 7.55 am ออกมาเจอป้ายนี้ ถ่ายซะหน่อย


พอเดินทางถึงสนามบิน CDG ปุ๊ป ก็จะมีคนของโครงการมารอรับไปส่งที่โรงเรียนสอนภาษา จากนั้นโฮสของแต่ละคนจะเป็นคนมารับที่โรงเรียนเองซึ่งแต่ละคนก็ได้ยานพาหนะแตกต่างกันไป ใครโชคดีโฮสอาจจะเรียกแทคซี่มารับ ส่วนโชคร้าย... เดิน+เมโทรจ้าซึ่งเรากับเพื่อนจัดอยู่ในกลุ่มโชคร้ายโน้ะ 55555 ร้ายกว่านั้นคือเรากับเพื่อนเป็น 2 คนที่น้ำหนักกระเป๋าเยอะที่สุดรวมๆแล้ว 'คนละ' 38 โล.... ละเส้นทางคือหฤโหดมากนะบอกเลย เราเดินไกลมากๆๆๆ แถมขึ้นลงบันไดเมโทรอีก (ไม่มีลิฟไม่มีบันไดเลื่อนนะจ้ะ ยกล้วนๆ) จังหวะนั้นแบบน่าจะเชื่อฟังรุ่นพี่ที่บอกว่า 'อย่าเอาของมาเยอะ!!!!' ไม่ไหวละจ้า พอขึ้นเมโทรได้ก็นั่งยาวๆละก็มีเปลี่ยนสาย 1 ครั้งระหว่างเปลี่ยนสายก็ยกกันอีกรัวๆ พอเรามาถึงสถานีบ้านโฮสเรา คือเราต้องเดินเข้าซอยอีก โฮสบอกว่าเดินอีกนิดนึงนะ ใกล้ถึงแล้ว เรากับเพื่อนนี่ดีใจมาก เดินไปเรื่อยๆเดินแล้วเดินอีกจนมาถึงอพาทเม้นโฮสเป็นอันเรียบร้อย(ที่อพาทเม้นมีลิฟค้า รอดไป) แต่ที่รู้สึกได้คืออพาทเม้นโฮสเรามันเหมือนจะสุดซอยอ่ะ ทานโทษนะคะไหนบอกเดินนิดเดียว...

เรามาถึงบ้านโฮสประมาณ 10.30 โฮสก็ชวนกินข้าวเช้าตอนนั้นเรากับเพื่อนแบบ jetlag อ่ะคือ งง เวลาอ่าวนี่ยังเช้าอยู่หรอ 55555 อะๆเค้าให้กินเราก็กิน กินเสร็จเราก็กลับเข้าห้องนอนตอนนั้นคือแบบหลับเลยแบบของไรไม่จัดเลยนะ เหนื่อยมากจริงๆ เราตื่นกันอีกทีคือแบบ 4 โมงเย็นได้ตื่นแล้วก็ยังไม่จัดกระเป๋านะ อยากออกไปเดินเล่นเลยขอโฮส โฮสเลยพาเราออกไปเดินเล่น พีคมากคือ! บ้านเราอยู่ใกล้หอไอเฟลมาก แบบมากๆ โฮสเราพาเดินแบบลัดเลาะนิดหน่อยเค้าบอกปอยหันหลังสิแบบ หอไอเฟลใหญ่เบ้อเริ่มอยู่ข้างหลังคือตอนนั้นแบบโอ้ยคือมันดีมากกก

หลังจากนั้นก็ถ่ายรูปถ่ายไรกันไป ก็ประมาณนี้ค้า วันแรกของเรา มันไม่ค่อยพิเศษอะไรมากเพราะคือมาถึงก็เหนื่อยแล้ว
วันนี้เราเริ่มเรียนภาษาวันแรก พอไปถึงที่โรงเรียนเค้าจะให้เราสอบวัดระดับ (คือตอนเราอยู่ไทยเราไม่ได้อยู่ศิลป์ฝรั่งเศสนะ เราอยู่ English Program ) ก็เลยสอบได้ระดับ a1 (มี 6 ระดับ a1 a2 b1 b2 c1 c2) ภาษาชาวบ้านก็ระดับต่ำสุดเนียแหละ 55555 ในขณะที่เพื่อนเราคนอื่นที่เรียนสายภาษามา a2 เป็นส่วนมาก b1 ก็มีนะ 2 คนคือมันเก่งมาก ตัดภาพมาที่เราต่อ ส่วนเรื่องการเรียนการสอนในห้อง จะสอนพวกแกรมม่าทั่วไป ถ้าเป็นคลาส a1 แบบเราก็เหมือนเริ่มเรียนใหม่ ปูพื้นฐานไปเลย เราเรียน 9.00 - 13.00 จะแบ่งเป็น 2 คาบคาบละ 2 ชม. เท่ากับเรามีครู 2 คน ซึ่งก็สอนคล้ายๆกันเราก็งงเหมือนกันแต่ก็เรียนต่อไป พอเรียนจบแต่ละเรื่อง ก็จะมีเทสเล็กๆให้ทำ แบบว่าดูว่าเราเข้าใจจริงหรือเปล่า ส่วนการบ้านก็แล้วแต่วันค่ะว่าครูเค้าจะให้หรือป่าว เพื่อนๆในคลาสเราก็มีหลายชาติเลย มี คนไทย 4 คน คือเรา แล้วก็เพื่อนที่มาด้วยกัน 3 คน (แต่ 3 คนนี้อยู่ม.4 หมด ม.5 เค้าไปคลาสสูงกว่านี้กันหมด 555555) ญี่ปุ่น อเมริกา อียิป จีน สเปน ซึ่งอายุคือแตกต่างกันสุดๆ มีตั้งแต่ 16 ยัน 44 .....

ช่วงเวลาที่เราเรียนภาษาเสร็จแล้วมีเวลาเที่ยวตอนบ่าย เรากับเพื่อนๆได้มีโอกาสไปหลายที่มากๆ ไม่ใช่แค่ Landmark นะคือเราค้นพบว่ามันมีที่สวยๆอีกเยอะมากๆ ที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนในเนต
Jardin du Luxembourg
Montmartre

ที่นี่เป็นที่นึงที่เราชอบมาก คือมันชิคอ้ะ มีศิลปินต่างๆมาตั้งรูปที่ตัวเองวาดขาย แถมมีวาดรูปให้ด้วย ส่วนเรื่องราคานี่ โอโห้แพงสุดๆ แต่รูปเค้าสวยจริงๆ
Le Grand Rax
grand rax เป็นโรงหนังที่ใหญ่สุดในยุโรป แต่เราไม่ได้มาดูหนังนะ เราเข้าไปดูแบบว่าเบื้องหลังอะไรแบบนี้ คือมันแบบดีมากอ่ะ (พูดแล้วขนลุก 555555)

ตรงทางเข้าจะมีลายเซ็นใส่กรอบของแบบดาราดังๆเต็มเลย เช่น นักแสดงเรื่อง Captain America , Jamesbond , Iron Man , Thor , Taken , Maze Runner , Deadpool , Hunger Games , Sherlock Holmes มีของ Selena Gomez อันนี้คือส่วนนึงนะ มีอีกเยอะเข้าไปก็ตะลึงละเจอแบบนี้

มีให้ไปดูเบื้องหลังการถ่ายทำของเรื่องคิงคองด้วยนะเว้ย ฉากที่มันปีนขึ้นตึกอ่ะ เหมือนเค้าจะให้เรานั่งเก้าอี้ละเป็นกระจกใส่ใหญ่ๆกั้นแล้วมีเอฟเฟคสั่นๆไรงี้ ดีๆ มีให้เราเข้าไปยืนในสตูดิโอถ่ายอยู่ๆพื้นสั่นแบบแผ่นดินไหว พอออกมาจากห้องอีกที กลายเป็นเราไปอยู่ในหนังฉากแผ่นดินไหวอ่ะ เออตลกดี หน้านี่เอ๋อตามๆกันไป มีให้เราภาคเสียงตัวละครด้วยนะ 55555
Musée d'Orsay
Musée du Louvre
*พิพิธภัณฑ์ที่ใครๆก็ต้องมาเมื่อมาปารีส ลูฟเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่มากๆตั้งแต่เราเคยเห็นมาเห็นเค้าพูดกันว่าเดินทั้งวันยังเดินไม่หมดเลยตอนแรกเราก็ไม่อะไรนะ โอโห้ คือแบบนี่เรื่องจริง เราไปแบบตั้งแต่ 10-11 โมงเดินยันเย็นยังเดินได้แค่ 3 ชั้น คือใหญ่จริงเลยแบบยอมแพ้
แต่ไหนๆก็จะกลับแล้วสิ่งที่เราอยากเห็นมากที่สุดก็คืออ 'Monalisa' เราเลยรีบเปิดแผนที่หา กว่าเราจะเจอนี่ก็เหนื่อยเลยแหละ แถมคนก็เยอะมากๆอีก กว่าเราจะฝ่าด่านชาวจีนเข้าไปได้นี่เล่นเอาปาดเหงื่อกันเลยทีเดียว 555555
Tour Eiffel

ระหว่างทางที่เราเดินไป ก็เจอร้านชูโรสร้านนึงทำให้เรากับเพื่อนต้องหยุดชะงักเพราะมันแบบตะลึงตามาก 55555 รู้สึกจะมี 10 ชิ้น ประมาณ 9€ ค้า
คือมันมีเรื่องพีคมากตอนเรากำลังเดินไปกินไปอยู่
คือเรากับเพื่อนๆ 8 คน + กับพี่จากโครงการที่มาคุมเรากับเพื่อน 3 วัน รวมกันแล้วมีชูโรส 2 ชุด พี่คนคุมถือ 1 อัน อยูข้างหน้า เราถือ 1 อันอยู่ข้างหลัง ตอนแรกพวกเราก็เดินๆกินไป ซักพัก มี ผญ 2 คนเดินส่วนมา หน้าตาประหนึ่งว่าเป็นแบบแขกขาว เค้าเดินส่วนมาละพูดว่า 'ขออันนึง' ละหยิบไปเลย พวกเราแบบอ้าปากค้างรัวๆ คือแบบ มึ๊งงงง อะไรมันจะขนาดนั๊นนน คือทุกคนคงเคยได้ยินแหละว่าปารีสแบบว่าขโมยเยอะนะระวังๆเวลามาเที่ยว ซึ้งเราก็ไม่คิดว่ามันจะเกิดกับของกินเช่นกัน นี่ก็คือบทเรียนแรกของพวกเราถึงจะเป็นของกิน หลังจากนั้นทุกคนก็ระวังมากขึ้น 100 เท่าา

เราเอารูปหอไอเฟลตอนกลางคืนมาฝากค้า คือสวยมากๆยิ่งถ้ามาเห็นด้วยตัวเอง คือตอนกลางวันไม่เปิดไฟว่าสวยแล้ว ตอนกลางคืนนี่สุดติ่งไปเลย

ทั้งหมดนี้ก็เป็นแค่ส่วนนึงในช่วง 3 อาทิตย์ที่เราเรียนภาษาและได้เที่ยวอยู่ในปารีสค้า หลังจากนี้ทั้งหมดจะเป็นเกี่ยวกับการเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนแบบจริงจัง Homesick, Culture Shock จัดเต็ม 55555
**เรามีทำวิดีโอด้วยนะเกี่ยวกับช่วงที่อยู่ในปารีส
กดดูตามนี้ได้เลยค้า
เด็กไทยในฝรั่งเศส ♡
พอถึงวันสอบข้อเขียน คือเราเป็นคนที่ไม่อ่าน นส สอบอ่ะ (เอาอีกแล้วเรา 55555 น้องๆคนไหนอยากสอบอ่านไปก็ดีน้าอย่าขี้เกียจแบบเราเลย 555555) แต่ส่วนตัวสำหรับเรา เราว่าข้อสอบคือมันไม่ได้ยากแบบยากมากขนาดนั้น มันก็ปานกลางอะ เราเชื่อว่าทุกคนน่าจะทำได้นะ (ข้อสอบเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดเลยค่ะ)
พอเราผ่านรอบข้อเขียนเค้าก็จะประกาศผล ถ้าผ่านเราก็มีสิทธิไปค่าย excite camp (ค่าย excite คือเราต้องค้าง 2 วัน 1 คืน ภายในค่ายก็จะมีกิจกรรมต่างๆให้ทำเยอะแยะได้เพื่อนเพียบ! ละก็จะมีสัมภาษณ์ด้วยมั้งถ้าจำไม่ผิด) พอเราเข้าค่าย excite เสร็จหลังจากนั้นเค้าก็จะประกาศผล ทีนี้ถ้าเราผ่าน ก็คือเตรียมเลี้ยงเลย 55555 ตอนนั้นจำได้เรียนจารปิงอยู่ แทบโดนหนังสือเฟี้ยงใส่ คือห้องเงียบมากละเราแบบดีใจมั่กเลยเสียงดังไปหน่อยย
ตัดภาพมาวันบินเลยโน้ะ ไฟท์เราบินวันที่ 6 สิงหา
บรรยากาศวันนั้น คือถ่ายรูปแบบจัดเต็มเหมือนเราจะไป 10 ปี 55555
เรานั่งการบินไทยเป็นไฟท์ตรงเลย นั่งไป 11 ชม 15 นาทียาวๆ
คือโครงการเรามีแบบให้มาเรียนภาษาในปารีสก่อนจะไปหาโฮสจริงประมาณ 3 อาทิตย์ มันเป็นฟีลเหมือนซัมเมอร์เลยอะ พักอยู่กับโฮสชั่วคราว เรียนครึ่งวัน
เครื่องเราลงตอน 7.55 am ออกมาเจอป้ายนี้ ถ่ายซะหน่อย
พอเดินทางถึงสนามบิน CDG ปุ๊ป ก็จะมีคนของโครงการมารอรับไปส่งที่โรงเรียนสอนภาษา จากนั้นโฮสของแต่ละคนจะเป็นคนมารับที่โรงเรียนเองซึ่งแต่ละคนก็ได้ยานพาหนะแตกต่างกันไป ใครโชคดีโฮสอาจจะเรียกแทคซี่มารับ ส่วนโชคร้าย... เดิน+เมโทรจ้าซึ่งเรากับเพื่อนจัดอยู่ในกลุ่มโชคร้ายโน้ะ 55555 ร้ายกว่านั้นคือเรากับเพื่อนเป็น 2 คนที่น้ำหนักกระเป๋าเยอะที่สุดรวมๆแล้ว 'คนละ' 38 โล.... ละเส้นทางคือหฤโหดมากนะบอกเลย เราเดินไกลมากๆๆๆ แถมขึ้นลงบันไดเมโทรอีก (ไม่มีลิฟไม่มีบันไดเลื่อนนะจ้ะ ยกล้วนๆ) จังหวะนั้นแบบน่าจะเชื่อฟังรุ่นพี่ที่บอกว่า 'อย่าเอาของมาเยอะ!!!!' ไม่ไหวละจ้า พอขึ้นเมโทรได้ก็นั่งยาวๆละก็มีเปลี่ยนสาย 1 ครั้งระหว่างเปลี่ยนสายก็ยกกันอีกรัวๆ พอเรามาถึงสถานีบ้านโฮสเรา คือเราต้องเดินเข้าซอยอีก โฮสบอกว่าเดินอีกนิดนึงนะ ใกล้ถึงแล้ว เรากับเพื่อนนี่ดีใจมาก เดินไปเรื่อยๆเดินแล้วเดินอีกจนมาถึงอพาทเม้นโฮสเป็นอันเรียบร้อย(ที่อพาทเม้นมีลิฟค้า รอดไป) แต่ที่รู้สึกได้คืออพาทเม้นโฮสเรามันเหมือนจะสุดซอยอ่ะ ทานโทษนะคะไหนบอกเดินนิดเดียว...
หลังจากนั้นก็ถ่ายรูปถ่ายไรกันไป ก็ประมาณนี้ค้า วันแรกของเรา มันไม่ค่อยพิเศษอะไรมากเพราะคือมาถึงก็เหนื่อยแล้ว
วันนี้เราเริ่มเรียนภาษาวันแรก พอไปถึงที่โรงเรียนเค้าจะให้เราสอบวัดระดับ (คือตอนเราอยู่ไทยเราไม่ได้อยู่ศิลป์ฝรั่งเศสนะ เราอยู่ English Program ) ก็เลยสอบได้ระดับ a1 (มี 6 ระดับ a1 a2 b1 b2 c1 c2) ภาษาชาวบ้านก็ระดับต่ำสุดเนียแหละ 55555 ในขณะที่เพื่อนเราคนอื่นที่เรียนสายภาษามา a2 เป็นส่วนมาก b1 ก็มีนะ 2 คนคือมันเก่งมาก ตัดภาพมาที่เราต่อ ส่วนเรื่องการเรียนการสอนในห้อง จะสอนพวกแกรมม่าทั่วไป ถ้าเป็นคลาส a1 แบบเราก็เหมือนเริ่มเรียนใหม่ ปูพื้นฐานไปเลย เราเรียน 9.00 - 13.00 จะแบ่งเป็น 2 คาบคาบละ 2 ชม. เท่ากับเรามีครู 2 คน ซึ่งก็สอนคล้ายๆกันเราก็งงเหมือนกันแต่ก็เรียนต่อไป พอเรียนจบแต่ละเรื่อง ก็จะมีเทสเล็กๆให้ทำ แบบว่าดูว่าเราเข้าใจจริงหรือเปล่า ส่วนการบ้านก็แล้วแต่วันค่ะว่าครูเค้าจะให้หรือป่าว เพื่อนๆในคลาสเราก็มีหลายชาติเลย มี คนไทย 4 คน คือเรา แล้วก็เพื่อนที่มาด้วยกัน 3 คน (แต่ 3 คนนี้อยู่ม.4 หมด ม.5 เค้าไปคลาสสูงกว่านี้กันหมด 555555) ญี่ปุ่น อเมริกา อียิป จีน สเปน ซึ่งอายุคือแตกต่างกันสุดๆ มีตั้งแต่ 16 ยัน 44 .....
ช่วงเวลาที่เราเรียนภาษาเสร็จแล้วมีเวลาเที่ยวตอนบ่าย เรากับเพื่อนๆได้มีโอกาสไปหลายที่มากๆ ไม่ใช่แค่ Landmark นะคือเราค้นพบว่ามันมีที่สวยๆอีกเยอะมากๆ ที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนในเนต
ที่นี่เป็นที่นึงที่เราชอบมาก คือมันชิคอ้ะ มีศิลปินต่างๆมาตั้งรูปที่ตัวเองวาดขาย แถมมีวาดรูปให้ด้วย ส่วนเรื่องราคานี่ โอโห้แพงสุดๆ แต่รูปเค้าสวยจริงๆ
grand rax เป็นโรงหนังที่ใหญ่สุดในยุโรป แต่เราไม่ได้มาดูหนังนะ เราเข้าไปดูแบบว่าเบื้องหลังอะไรแบบนี้ คือมันแบบดีมากอ่ะ (พูดแล้วขนลุก 555555)
ตรงทางเข้าจะมีลายเซ็นใส่กรอบของแบบดาราดังๆเต็มเลย เช่น นักแสดงเรื่อง Captain America , Jamesbond , Iron Man , Thor , Taken , Maze Runner , Deadpool , Hunger Games , Sherlock Holmes มีของ Selena Gomez อันนี้คือส่วนนึงนะ มีอีกเยอะเข้าไปก็ตะลึงละเจอแบบนี้
มีให้ไปดูเบื้องหลังการถ่ายทำของเรื่องคิงคองด้วยนะเว้ย ฉากที่มันปีนขึ้นตึกอ่ะ เหมือนเค้าจะให้เรานั่งเก้าอี้ละเป็นกระจกใส่ใหญ่ๆกั้นแล้วมีเอฟเฟคสั่นๆไรงี้ ดีๆ มีให้เราเข้าไปยืนในสตูดิโอถ่ายอยู่ๆพื้นสั่นแบบแผ่นดินไหว พอออกมาจากห้องอีกที กลายเป็นเราไปอยู่ในหนังฉากแผ่นดินไหวอ่ะ เออตลกดี หน้านี่เอ๋อตามๆกันไป มีให้เราภาคเสียงตัวละครด้วยนะ 55555
*พิพิธภัณฑ์ที่ใครๆก็ต้องมาเมื่อมาปารีส ลูฟเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่มากๆตั้งแต่เราเคยเห็นมาเห็นเค้าพูดกันว่าเดินทั้งวันยังเดินไม่หมดเลยตอนแรกเราก็ไม่อะไรนะ โอโห้ คือแบบนี่เรื่องจริง เราไปแบบตั้งแต่ 10-11 โมงเดินยันเย็นยังเดินได้แค่ 3 ชั้น คือใหญ่จริงเลยแบบยอมแพ้
แต่ไหนๆก็จะกลับแล้วสิ่งที่เราอยากเห็นมากที่สุดก็คืออ 'Monalisa' เราเลยรีบเปิดแผนที่หา กว่าเราจะเจอนี่ก็เหนื่อยเลยแหละ แถมคนก็เยอะมากๆอีก กว่าเราจะฝ่าด่านชาวจีนเข้าไปได้นี่เล่นเอาปาดเหงื่อกันเลยทีเดียว 555555
ระหว่างทางที่เราเดินไป ก็เจอร้านชูโรสร้านนึงทำให้เรากับเพื่อนต้องหยุดชะงักเพราะมันแบบตะลึงตามาก 55555 รู้สึกจะมี 10 ชิ้น ประมาณ 9€ ค้า
คือมันมีเรื่องพีคมากตอนเรากำลังเดินไปกินไปอยู่ คือเรากับเพื่อนๆ 8 คน + กับพี่จากโครงการที่มาคุมเรากับเพื่อน 3 วัน รวมกันแล้วมีชูโรส 2 ชุด พี่คนคุมถือ 1 อัน อยูข้างหน้า เราถือ 1 อันอยู่ข้างหลัง ตอนแรกพวกเราก็เดินๆกินไป ซักพัก มี ผญ 2 คนเดินส่วนมา หน้าตาประหนึ่งว่าเป็นแบบแขกขาว เค้าเดินส่วนมาละพูดว่า 'ขออันนึง' ละหยิบไปเลย พวกเราแบบอ้าปากค้างรัวๆ คือแบบ มึ๊งงงง อะไรมันจะขนาดนั๊นนน คือทุกคนคงเคยได้ยินแหละว่าปารีสแบบว่าขโมยเยอะนะระวังๆเวลามาเที่ยว ซึ้งเราก็ไม่คิดว่ามันจะเกิดกับของกินเช่นกัน นี่ก็คือบทเรียนแรกของพวกเราถึงจะเป็นของกิน หลังจากนั้นทุกคนก็ระวังมากขึ้น 100 เท่าา
เราเอารูปหอไอเฟลตอนกลางคืนมาฝากค้า คือสวยมากๆยิ่งถ้ามาเห็นด้วยตัวเอง คือตอนกลางวันไม่เปิดไฟว่าสวยแล้ว ตอนกลางคืนนี่สุดติ่งไปเลย
ทั้งหมดนี้ก็เป็นแค่ส่วนนึงในช่วง 3 อาทิตย์ที่เราเรียนภาษาและได้เที่ยวอยู่ในปารีสค้า หลังจากนี้ทั้งหมดจะเป็นเกี่ยวกับการเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนแบบจริงจัง Homesick, Culture Shock จัดเต็ม 55555
**เรามีทำวิดีโอด้วยนะเกี่ยวกับช่วงที่อยู่ในปารีส กดดูตามนี้ได้เลยค้า