คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
จากประสบการณ์ทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนของผมนะครับ ย้อนหลังไป 20 กว่าปีก่อน จนถึงปัจจุบัน ที่ไม่ได้เป็นมนุษย์เงินเดือนแล้ว
ทำให้ผมเข้าใจว่า ความมั่นคง ไม่ได้หมายถึง งานประจำ ทำงานง่าย, รายได้พอประมาณ, อยู่ได้เรื่อยๆ กลับกัน ผมคิดว่า ถ้าใครคิดว่างานดังกล่าว เป็นงานที่มั่นคงมากเท่าไหร่ นานวันเข้า มันจะไม่มั่นคงครับ และกว่าจะรู้สึกตัวว่ามันไม่มั่นคง มันก็สายเกินไปเสียแล้ว คือ ไม่เกล้าเสี่ยง เพราะไม่รู้จะเอาอะไรมาเสี่ยง อยู่แบบสบาย ๆ มานาน จนกลัว .... ทำงานยากขึ้นไม่ได้ เพราะเคยแต่ทำงานง่าย ๆ ....
ทำให้ผมเข้าใจว่า ความมั่นคง ไม่ได้หมายถึง งานประจำ ทำงานง่าย, รายได้พอประมาณ, อยู่ได้เรื่อยๆ กลับกัน ผมคิดว่า ถ้าใครคิดว่างานดังกล่าว เป็นงานที่มั่นคงมากเท่าไหร่ นานวันเข้า มันจะไม่มั่นคงครับ และกว่าจะรู้สึกตัวว่ามันไม่มั่นคง มันก็สายเกินไปเสียแล้ว คือ ไม่เกล้าเสี่ยง เพราะไม่รู้จะเอาอะไรมาเสี่ยง อยู่แบบสบาย ๆ มานาน จนกลัว .... ทำงานยากขึ้นไม่ได้ เพราะเคยแต่ทำงานง่าย ๆ ....
แสดงความคิดเห็น
ขอความเห็นหน่อยครับ ใจนึงก็อยากมั่นคง อีกใจนึงก็อยากเสี่ยงกับโอกาสที่เข้ามา
ผมเป็นพนักงานประจำ มีสวัสดิการมีประกันสังคม โดยที่ทำงานปัจจุบันนั้นมีให้ทุกอย่างครับ
มีรถเช่า+คนขับรถ1คน, มีคู่บัดดี้ทำงานอีก1คน, มีค่าที่พัก(พักได้ในระดับโรงแรมเกรดดีๆทุกคืน), ค่าน้ำมัน,ค่าโทรศัพท์
และสิ่งอื่นๆที่จำเป็นในการทำงานครบถ้วน รายได้ก็ไม่น้อยไม่มากพออยู่ได้
ส่วนในช่วงที่ไม่ได้หาลูกค้า ผมก็ต้องกลับมาประจำอยู่ที่ออฟฟิศครับ (4เดือนต่อปี)
ทำงานแบบสบายๆและมั่นคงเพราะเป็นพนักงานประจำ
ส่วนงานที่ใหม่ที่ผมไปคุยมานั้น เป็นงานสายเดิมครับ แต่แตกต่างกันที่รายละเอียด
ที่ใหม่จ้างผมเป็น Outsource คือจ่ายเงินจ้างก้อนเดียวแล้วเอาไปบริหารจัดการในการทำงานเอง
โดยหลักๆที่ผมต้องแบ่งส่วนคือ ค่าที่พัก(คำนวนแล้วถ้าจะให้คุ้มต้องเช่าอยู่รายเดือน),ค่าน้ำมัน,ค่าเช่ารถ(ต้องขับรถเอง),ค่าโทรศัพท์
ส่วนที่เหลือมาคำนวนเป็นเงินเดือนของผม ก็จะได้มากกว่าที่เดิมอยู่ราวๆ20% (ทำงานคนเดียว ไม่มีคู่บัดดี้และคนขับรถ)
แต่ว่าผมมีรถกระบะเก่าๆอยู่คันนึง คาดว่าจะซ่อมบำรุงแล้วเอาไปใช้ทำงานครับ(ไม่อยากซื้อใหม่)
ในส่วนของค่าเช่ารถจึงตัดออกไปกลายเป็นเงินของผมแทน ในกรณีนี้ถ้าผมไม่เช่ารถ ผมจะมีรายได้มากกว่าเดิมราวๆ 50%
(แต่ก็ต้องเอาเงินตรงนี้มาซ่อมบำรุงรถตามสภาพด้วย)
เนื่องด้วยที่เป็น Outsource ผมจึงมีงานแค่ช่วงที่เดินทางหาลูกค้าเท่านั้น
ช่วงเวลา4เดือนนั้นผมจะว่างเฉยๆ (แต่ได้เงินเดือนที่คำนวนจากเงินก้อนแล้ว)
ในช่วงเวลา4เดือนนี้ ที่ว่างผมมองว่าเป็นโอกาสที่จะหาอะไรทำเป็นของตัวเอง
ตอนนี้คิดๆไว้ว่าจะลองขับรถกระบะรับจ้างทั่วไป หรือไม่ก็รับของมาขายตามตลาดนัด
เผื่อจะมีโอกาสที่ดีเหมือนคนอื่นๆเขาบ้าง
สรุปโดยภาพรวมนะครับ
ที่ปัจจุบัน = มั่นคง, ทำงานง่าย, รายได้พอประมาณ, อยู่ได้เรื่อยๆ
ที่ใหม่ = มีความเสี่ยง, ทำงานยากขึ้น, รายได้ดีขึ้น, มีโอกาสได้ลองทำอะไรเป็นของตัวเอง
ส่วนตัวผม 50/50ครับ อยากสอบถามความคิดเห็นของพี่น้องชาว Pantip ทุกท่านว่า ถ้าเป็นคุณ จะเลือกแบบไหน