สวัสดีครับ วันนี้ผม นาย Tutorton จะพาไปชิมอาหารบุฟเฟ่ต์ราคาถูกที่สนามบินดอนเมือง
นั่นก็คือ ห้องอาหาร The Bridge ซึ่งตั้งอยู่ที่ รร.อมารีดอนเมือง แอร์พอร์ต
หลังจากมีกระทู้ SR ไปแล้วรอบนึง แล้วมีคนตามไปกิน ปรากฎว่าไม่ค่อยเหมือนในริวิวเท่าไร
ผมเลยมาริวิวแบบ CR ให้ดูละกันว่าเปรียบเทียบแล้วเป็นยังไง
กินเอง ชิมเอง จ่ายเอง ชิมมันทุกเมนู ลองตัดสินกันดูว่าคุ้มไม่คุ้มกันเอาเองนะครับ
เรื่องรสชาตินี่ก็แล้วแต่ลิ้นคนละกัน ลองดูเมนูต่าง ๆ เปรียบเทียบกับ SR ดูครับ
รูปถ่ายด้วยกล้องมือถือ J7 ตัวแรก อาจจะมีปัญหา เบลอบ้างเล็กน้อย ไม่ชัดบ้าง
อันนี้ต้องขออภัยไว้ล่วงหน้า เนื่องจากมีปัญหากับเจ้านิ้วนางของผมนิดหน่อย
โอเครครับ ตามไปดูกันเลยดีกว่า ว่ามีอะไรกินกันบ้าง

สำหรับการมาที่ห้องอาหารนี้ ไม่ยากก็จะตั้งอยู่ที่ อมารี ดอนเมือง
โดยสามารถเดินมาจากเทอร์มินัล 1 ผ่านสะพานลอยที่อยู่ชั้น 2

ทางเดียวกันกับไปสถานีรถไฟดอนเมืองเลยครับ เดินผ่านมาสองประตู
จนสุดทางเดินก่อนเข้าตัวโรงแรมก็จะพบละครับ

ภาพแรกที่เห็นก็เป็นห้องอาหารเล็ก ๆ ขนาดไม่ใหญ่มากครับ
มีบริการบุฟเฟ่ต์ ช่วงเวลา 11.00-14.30 น. นอกนั้นก็เป็นเมนูตามสั่งครับ

ที่นั่งมีบริเวณสองฝั่ง คือ ฝั่งที่ติดกับทางที่เราเดินทะลุเข้ามา

กับอีกบริเวณนึง คือเดินทะลุไลน์อาหารไป ซึ่งจะมีโต๊ะขนาดใหญ๋ เยอะกว่าอีกฝั่งนึง

โดยบนโต๊ะใหญ่ ๆ นี่มีบริการ ปลํ๊กไฟ แบบหลายหัวเลย รองรับกลุ่มที่มาเป็นหมู่คณะ
แถมมีป้ายไว้ให้ถ่ายรูปเก๋ ๆ ซึ่ง แต่ละโต๊ะแบบก็จะต่างกันไปนะครับ

ราคาสำหรับบุฟเฟ่ต์ 1 ท่านอยู่ที่ 170 บาทเน็ต รวมน้ำ รวมภาษีหมดแล้วนะครับ
สามารถขอพนักงานเดินดูอาหารก่อนตัดสินใจว่าจะทานได้นะครับ ผมก็เดินดูจนหมด
แล้วค่อยแจ้งพนักงานว่า 1 ที่ครับ จ่ายหลังรับประทานเสร็จกันนะครับ
ไลน์อาหารก็จะมีอยู่สองฝั่งด้วยกันครับ ไปดูกันครับว่ามีอะไรบ้าง

เริ่มทีละมุมละกันนะ ผมจะกินทุกเมนูเลย อ้อ ตอนผมมาใช้บริการเป็นเวลาประมาณ 14.00 กว่า ๆ
ซึ่งก็ใกล้เวลาปิดแล้ว แต่เท่าที่สังเกตุ อาหารยังถือว่าเยอะอยู่เลยนะครับ
ไปดูกับข้าวฝั่งขวากันก่อนดีกว่า ซึ่งปกติจะมีอยู่ด้วยกัน 4 เมนู เปลี่ยนไปแล้วแต่วัน
เริ่มต้นด้วย แกงจืดลูกชิ้นกุ้งครับ

ถัดมาเป็นหอยแมลงภู่ คิดว่าน่าจะนึ่งนะครับ มาพร้อมกับน้ำจิ้มซีฟู้ด

ติดกันเลยก็จะเป็นแกงเผ็ดเป็ดย่าง ลองตัก ๆ ดู เนื้อเหลือเยอะเลยนะ

กับข้าวถาดสุดท้ายที่ติดกัน ก็จะเป็น ผัดผักรวมมิตรครับ

แล้วก็ข้าวหอมมะลิ อยู่ในหม้อครับ เปิดมาเต็มหม้อเลย สงสัยไม่ค่อยมีคนกิน

เอาละมาแหละ จานแรกของผม ข้าวสวยร้อน ๆ กับกับข้าวทั้งสี่อย่างเมื่อกี้
แกงเผ็ดเป็ดย่าง ใช้ได้ หอมเครื่องแกงนิด ๆ ผ่าน ๆ
ผัดผัก กลาง ๆ ทั่ว ๆ ไป อร่อยมั้ย ก็กินได้ครับ

โดยปกติผมไม่ค่อยกินหอย แต่เห็นขนาดมันแล้ว
เลยตักมาลองสักหน่อย ตัวใหญ่จริงครับ ดูในรูปเอา
มากับน้ำจิ้มซีฟู้ด ไม่เผ็ดมาก กำลังดี ถือว่าผ่านครับ

แกงจืดลูกชิ้นกุ้งนี่ ก็ใช้ได้นะ ลูกชิ้นทานแล้ว ไม่ค่อยแป้งเท่าไหร่
แต่ยังห่างไกลกับลูกชิ้นกุ้งในตำนานของอาม่าผม 555

เสร็จไปหนึ่งจาน เดินกลับไปดูไลน์อาหารกันต่อ ถัดจากหม้อหุงข้าวก็จะเป็นนี่เลย
ขนมจีน พร้อม น้ำยาสองชนิด พนักงานบอกจะวนหมุนไปเช่นกัน
วันนี้เป็นน้ำยา กับแกงเขียวหวานครับ

ถัดไปก็เป็นเครื่องเคียง ผัก แคบหมู และถั่วด้วยครับ
ชอบอะไรก็จัดกันไป ส่วนนี้ผมตักไปแค่ แคบหมู ถั่ว ผักดอง แค่นั้น

เลยถัดไปนิดนึงจะเป็นถาดยำหมู น่าจะเป็นหมูย่างนะ ผมว่า

ไปครับ ชิมกันจานที่สองวันนี้
ขนมจีนน้ำยากับแกงเขียวหวาน กลาง ๆ กินได้ ไม่ถึงกับว้าว
แคบหมูนี่กรอบใช้ได้เลย ใครชอบแนะนำ ๆ
ส่วนยำหมู รสชาติใช้ได้ครับ ผ่าน ๆ

กินไปสองจาน เพิ่งนึกได้ ว่าลืมดื่มน้ำ
เดินไปดู มีตู้น้ำแข็งและน้ำให้บริการอยู่คือ น้ำเปล่า โค้ก สไปรท์ น้ำส้ม
และโค้กซีโร่ สำหรับคนกลัวแคลอรี่

หมดฝั่งขวาไป วนมาฝั่งขวาบ้าง ครับมีกับข้าวอีกสองอย่าง
อย่างแรกเป็นสตูว์หมูครับ

เมนูถัดมาเป็น หมูอบซอสพริกไทยดำ เนื้อเน้น ๆ ชิ้นใหญ่ ๆ ไม่ค่อยมีมัน

หม้อข้าง ๆ เป็นซุปกิมจิแหะ มาไงไม่รู้เมนูนี้ เดี๋ยวเค้าไม่รู้ว่าเป็นนานาชาติ

แล้วก็มีข้าวผัดไข่ อีกหนึ่งเมนูครับ

จัดมาจานที่สาม ผมเป็นคนกินไม่ค่อยเยอะ เลยตักมาพอทาน
ไม่งั้นเดี๋ยวจะชิมไม่หมดทุกเมนู
สตูว์หมู ร้อนๆ รสชาติโอเครดีครับ
หมูอบซอสพริกไทยดำ เนื้อเน้น ๆ กลิ่นพริกไทยดำ ไม่ค่อยเท่าไร่
ข้าวผัดไข่ ผมว่าจืด ๆ แถมดูเหมือนข้าวผัดผักไงมะรู้

ส่วนซุปกิมจิ รสชาติไม่เข้มมาก แต่ได้กลิ่นอายเกาหลีดี
อร่อยใช้ได้ ตักมาซดจนหมดเลย ถ้วยนี้

ไปมุมสุดอีกฝั่งบ้าง เป็นซูชิ ญี่ปุ่นแหะ บอกแล้วว่านานาชาติ
ดูจะค่อนข้างต่างกับ SR รีวิวพอควร แต่ก็ยังมี หน้าตาดูธรรมดา เหมือนซูชิ 5 บาททั่ว ๆไป

จานที่สี่ละ จัดมาชิมดู ซูชิชิ้นค่อนข้างเล็ก
วัตถุดิบผมว่าดีกว่าพวก 5 บาทนะ แต่เนื่องจากชิ้นมันเล็ก
คงรับรสได้ไม่มาก ก็พอกินได้ แต่ที่ชอบคือ
เค้าใช้วาซาบิสดนี่สิ กินปรี๊ดขึ้นสมองใช้ได้เลย

ยังไม่หมดของคาวนะ ยังมีมุมสลัดเล็ก ๆ อยู่
ผักไม่มาก ไม่มาย มีไม่กี่ชนิด และน้ำสลัดอยู่สองประเภท

แถมใกล้ ๆ สลัด ก็มีหม้อเป็นซุปผักขม เขียวมาเชียว

เฮลตี้ ๆ กินผักกันบ้าง ตั้งมาชิมอย่างละหน่อย
น้ำสลัดทั้งสองชนิดก็ทั่ว ๆ ไป ทานได้
ซุปผักขม อร่อยดีครับ

หมดของหวานแหละ นั่งพักหายใจกันสักนิดนึง
ที่นี่มีไวไฟให้เล่นด้วยนะ สามารถขอพาสเวิร์ดกับพนักงานได้เลย
ลองเช็คความเร็วดู หูๆๆๆ 30 กว่า MB เลยเร็วใช้ได้

หมดของคาวแล้วไปต่อของหวานกันบ้าง
ส่อง ๆ ดูก็จะมี ขนมไทยกะเค้ก

เค้กมีอยู่ประมาณสามชนิด เดาจากสีก็
เค้กชาเขียว เค้กชาไทย แล้วก็ เค้กช๊อกโกแลต

ขนมไทย วันนี้มี กล้วยบวชชี กับ เฉาก๊วย

จัดมาชิมให้หมดสิครับ
เค้กชาเขียว อร่อยครับ ผิดคาด รสชาติดีกว่าเค้กตามตลาดนัดเยอะครับ
เค้กชาไทย อันนี้กลาง ๆ ผมว่าไม่ค่อยหอม
เค้กช๊อกโกแลต อันนี้ผมว่าจืดไปหน่อย ไม่ค่อยได้กลิ่นช๊อคโกแลตเท่าไหร่
โดยรวม ถือว่าเนื้อเค้กดี อร่อย ใช้ได้ ไม่แข็งเหมือนตามตลาดนะ

ต่อด้วย กล้วยบวชชี อันนี้ผมว่าเด็ด ถูกปากมาก กล้วยหวาน น้ำกะทิหอม
ได้ยินคุณยายโต๊ะข้าง ๆ ก็ชมเหมือนกัน ในชามนี่สองชิ้นสุดท้ายของวันนี้เลยนะ

เฉาก๊วย ตัวเนื้อเหนียวนิด ๆ แต่ไม่เท่าชากังราว อร่อยใช้ได้
ใส่น้ำแข็งเย็น ๆ นะ แหล่ม ๆ

ผมนั่งทานจนประมาณเกือบสองโมงครึ่งกว่า ๆ เค้าถึงทยอยเก็บ
ทานเสร็จก็เดินไปจ่ายตังค์ที่เคาน์เตอร์ครับ 170 บาทเน็ต รวมทุกอย่างแล้ว
กินเอง ชิมเอง จ่ายเองครับ 555

บริเวณ เคาน์เตอร์ ก็จะมีเค้ก เบเกอรี่ สลัดขายอยู่นะครับ

แอบซูม ๆ ราคามาให้ดูนิดหน่อยอันนี้เค้กครับ หน้าตาน่าทานเลย ราคานี่ต่อชิ้นนะครับ

มีสลัดเป็นกล่องด้วย ราคาใช้ได้ไม่แพง

แล้วก็มีแซนด์วิช และของหวาน ราคาไม่แรง ประมาณ 40 บาททั้งนั้นเลย

ส่วนบนเคาน์เตอร์ก็จะมีพวกเบเกอรี่ไว้ซื้อติดกระเป๋าไปเป็นเสบียงเวลาหิว

ด้านหลังบาร์มีแปะราคาเครื่องดื่มอยู่ กืถือว่าไม่แพงมากนะ