ชีวิตพังๆก็เอาไปฝังทะเล ~~~
ผ่านไป 5 เดือนแล้ว ชีวิตยังพังเหมือนเดิม 555 อาศัยกระทู้รีวิวชาวบ้านเขาเป็นข้อมูลมาก็หลายครั้ง วันนี้เราเลยอยากมาแบ่งปันประสบการณ์ของเราบ้าง เผื่อเป็นประโยชน์ (หรือเปล่า??) กับคนอื่นสักนิด หรือใครจะมาส่องให้เปลืองสามจีเล่นก็ตามสบาย
เราออกเดินทางช่วงปลายเดือนมิถุนายน
หอบหิ้วผู้ร่วมเดินทางไปอีกสองหน่วย พร้อมเงินในกระเป๋าอีกนิดหน่อย
กระเตงกันมาถึงท่ารถตู้ตรงข้ามห้างพันธ์ทิพย์ งามวงศ์วาน ในเวลา 8.20 น. เพื่อไปอนุเสาวรีย์ จ่ายไปคนละ 25 บาท รถวิ่ง 30 นาทีก็ถึง
เราว่าอ่านรีวิวมาก็ตั้งแยะ แต่พอถึงเสาวรีย์ปุ๊ป งงเจ้าค่ะ ฝั่งไหนไปเซ็นจูรี่ ฝั่งไหนฮงหลีกันฮะ เห็นมีโต๊ะขายตั๋วเรียงๆกันไป แต่ไปจังหวัดอื่นอ้ะ ไม่ใช่พัทยา พอไปถาม 'พี่คะ ซื้อตั๋วพัทยาไปทางไหน' เขาก็อารมณ์ไม่เอ็นจอยกะเราเลย ตอบแค่ 'ตรงนี้ไม่มี!'
เง่อะ เกิดเป็นอีช้อยนี่ลำบากจิง ... เดินมั่วไปถึงท่ารถไปรังสิต (538) ถามแม่ค้าขายเสื้อแถวนั้น ถามคนขับรถตู้บ้าง ก็เจออยู่ซุ้มขายตั๋วอยู่ซุ้มนึง อยู่ตรงซอกๆแถวๆนั่นแหละ แต่เหมือนเขาจะวิ่งมาจากท่ารถตู้อันแท้จริงอีกทีมั้ง เพราะตอนขึ้นก็มีคนนั่งมาตั้งครึ่งคันแระ แถมได้นั่งเบาะหลังสุดอีก กระเด้งกระดอนเหมือนจอมยุทธ์ตอนที่ควบม้าเลยครับพี่น้อง ส่วนอีกคนต้องแยกไปนั่งข้างหน้ากะคนขับถือว่าสบายหน่อย เที่ยวนี้จ่ายไปคนละ 150 บาท
มีแวะเติมก๊าซด้วยยยย
รถวิ่งจนถึงที่หมายแหลมบาลีฮายเวลา 11.45 น. อย่างที่เห็นว่าเราทำการบ้านมาอย่างดีเยี่ยม เที่ยวเรือที่ออกรอบต่อไปคือ 12.00น. สะพานที่จะไปลงเรือก็ย๊าวววว ยาว ผีบ้าสามตัวนี่ก็วิ่งสิครับบ รอไร แถมพาคนบนรถตู้เขาวิ่งตามมาด้วย 5555 ขาก็หนัก พุงก็หนัก มันวิ่งไม่ค่อยจะไป
จ่ายตังแล้วลงเรือ เสียไปอีกคนละ 30 บาท หอบแฮ่กเลยค่ะ แต่เอ๊ะ ดูเวลาเหลืออีกตั้ง 5 นาที มองไปรอบๆ ก็เห็นคนไทยมั่ง ฝรั่งมั่ง เดินทอดน่องกันลงเรือนุ้งนิ้งๆ ไอ้เราก็มองหน้ากันเอง มองหน้าคนที่ขึ้นรถตู้มาด้วยกัน (ที่พาเขาวิ่งมาอ่ะแหละ) ประมาณว่า 'ตรูจะวิ่งทำไมฟร่ะ เหนื่อยโฮก ' 555555
เด็กน่อยย ลูกใครหว่า
ในเรือมีเสื้อชูชีพให้ค่ะ แนะนำว่าให้ใส่เลยไม่ต้องกลัวเด๋อ ปลอดภัยไว้ก่อน ขนาดเสื้อนี่มีราล่า เรายังใส่เลย ที่บอกไว้เพราะเรารู้สึกว่าบางคนอายกับเรื่องพวกนี้ไง ไม่เอา ไม่ใส่ อายย อย่าค่ะ! หยิบมาใส่ซะดีๆ อย่าหาว่าอีช้อยไม่เตือน
รูปคลื่นในทะเล บางอันถ่ายออกมาเหมือนนมเลยค่ะ
เรือวิ่งประมาณ 45 นาที ก็ถึงท่าเรือหน้าบ้าน ทางบ้านพักที่เราจองเขามีบริการรับส่งถึงท่าเรือเลย เราเลยสบายหน่อย โทรเรียกเขามารับ ระหว่างนั้นก็เข้าเซเว่นตุนขนมรอ รถที่มารับ
รถที่มารับคล้ายๆสองแถว แต่คันเล็กกว่ามาก สีขาวๆน่ารักดี เราจะเห็นรถแบบนี้บนเกาะเยอะพวกบ้านพักเขาคงจะนิยมใช้กัน พี่แกซิ่งได้ใจ
13.00 น. ถึงที่พักแล้วค่ะ เราจองที่พักชื่อ check in kohlarn ตอนแรกอยากได้บ้านที่มันติดทะเลแล้วมีระเบียงยื่นออกไปอ้ะค่ะ แนวบ้านฟ้าใส ประมาณนี้ แต่เต็มหมดเลยค่ะ แล้วไปเจออันนี้เห็นแล้วโอเค ถูกใจ จัดไปค่ะ
ที่พักคืนละ 1500 บาท เพิ่มเตียง(ที่นอน)เสริม อีก 500 รวมเป็น 2000 บาทถ้วน ไม่มีอาหารเช้าค่ะ แต่ได้มอเตอร์ไซค์ มา 1 คัน ที่พักเกาะล้านส่วนใหญ่จะให้โอนเงินทั้งหมดนะคะ ไม่มีมัดจำ ที่นี่ก็ด้วยจ่ายหมดเบยทีเดียวจบ
สภาพห้องเป็นปูนเปลือยๆ เท่ดีเหมือนกัน ห้องสะอาด แอร์เย็น เตียงนุ่ม ของก็ใหม่นะ
แต่ติดที่ว่าไม่ใกล้หาดไง ต้องแวนซ์เอาเน้อ
ตู้เย็นมีน้ำให้ 3 ขวด โอวันติน กระติกน้ำร้อน แชมพู ผ้าเช็ดตัว มีให้ปกติ เราชอบนะตอนสอบถามข้อมูลการจอง พี่แกมีรายละเอียดให้อ่านแบบเยอะมาก อ่านให้เข้าใจ ตรงกัน จะได้ไม่มีปัญหา ไม่เสียเวลาทั้งสองฝ่ายเนอะ
เก็บข้าวของ หยิบกุญแจ แล้วบิดไปหาไรกินกันก่อน หิวมากก เรามากันสามคน แต่ที่นี่ไม่ให้ซ้อนสาม ถ้าโดนจับมาไม่มีใครช่วยเด้อ เราเลยต้องขี่เทียวรับเทียวส่งกันถึงสองรอบ เราไปกันแถวท่าเรือหน้าบ้าน ถนนเส้นนั้น มีร้านอาหารและที่พักเต็มไปหมด ที่ๆอยากไปก็อยู่แถวนั้น หลังจากวนไปมา ก็ได้ร้านนี้ แถ่นแท้นนนน อาหารทะเล
ไก่ทะเลจ่ะ ... โถ่ ก็มันดูแล้วราคาย่อมหน่อยนี่นา
มีอีกแต่ไม่ได้ถ่ายแล้ว หิวมื้อนี้จ่ายไป 440 บาท
บ้าใบ้ไดอารี่ บทที่ 1 : เกาะล้าน @ Check in Kohlarn
ผ่านไป 5 เดือนแล้ว ชีวิตยังพังเหมือนเดิม 555 อาศัยกระทู้รีวิวชาวบ้านเขาเป็นข้อมูลมาก็หลายครั้ง วันนี้เราเลยอยากมาแบ่งปันประสบการณ์ของเราบ้าง เผื่อเป็นประโยชน์ (หรือเปล่า??) กับคนอื่นสักนิด หรือใครจะมาส่องให้เปลืองสามจีเล่นก็ตามสบาย
เราออกเดินทางช่วงปลายเดือนมิถุนายน
หอบหิ้วผู้ร่วมเดินทางไปอีกสองหน่วย พร้อมเงินในกระเป๋าอีกนิดหน่อย
กระเตงกันมาถึงท่ารถตู้ตรงข้ามห้างพันธ์ทิพย์ งามวงศ์วาน ในเวลา 8.20 น. เพื่อไปอนุเสาวรีย์ จ่ายไปคนละ 25 บาท รถวิ่ง 30 นาทีก็ถึง
เราว่าอ่านรีวิวมาก็ตั้งแยะ แต่พอถึงเสาวรีย์ปุ๊ป งงเจ้าค่ะ ฝั่งไหนไปเซ็นจูรี่ ฝั่งไหนฮงหลีกันฮะ เห็นมีโต๊ะขายตั๋วเรียงๆกันไป แต่ไปจังหวัดอื่นอ้ะ ไม่ใช่พัทยา พอไปถาม 'พี่คะ ซื้อตั๋วพัทยาไปทางไหน' เขาก็อารมณ์ไม่เอ็นจอยกะเราเลย ตอบแค่ 'ตรงนี้ไม่มี!'
เง่อะ เกิดเป็นอีช้อยนี่ลำบากจิง ... เดินมั่วไปถึงท่ารถไปรังสิต (538) ถามแม่ค้าขายเสื้อแถวนั้น ถามคนขับรถตู้บ้าง ก็เจออยู่ซุ้มขายตั๋วอยู่ซุ้มนึง อยู่ตรงซอกๆแถวๆนั่นแหละ แต่เหมือนเขาจะวิ่งมาจากท่ารถตู้อันแท้จริงอีกทีมั้ง เพราะตอนขึ้นก็มีคนนั่งมาตั้งครึ่งคันแระ แถมได้นั่งเบาะหลังสุดอีก กระเด้งกระดอนเหมือนจอมยุทธ์ตอนที่ควบม้าเลยครับพี่น้อง ส่วนอีกคนต้องแยกไปนั่งข้างหน้ากะคนขับถือว่าสบายหน่อย เที่ยวนี้จ่ายไปคนละ 150 บาท
มีแวะเติมก๊าซด้วยยยย
รถวิ่งจนถึงที่หมายแหลมบาลีฮายเวลา 11.45 น. อย่างที่เห็นว่าเราทำการบ้านมาอย่างดีเยี่ยม เที่ยวเรือที่ออกรอบต่อไปคือ 12.00น. สะพานที่จะไปลงเรือก็ย๊าวววว ยาว ผีบ้าสามตัวนี่ก็วิ่งสิครับบ รอไร แถมพาคนบนรถตู้เขาวิ่งตามมาด้วย 5555 ขาก็หนัก พุงก็หนัก มันวิ่งไม่ค่อยจะไป
จ่ายตังแล้วลงเรือ เสียไปอีกคนละ 30 บาท หอบแฮ่กเลยค่ะ แต่เอ๊ะ ดูเวลาเหลืออีกตั้ง 5 นาที มองไปรอบๆ ก็เห็นคนไทยมั่ง ฝรั่งมั่ง เดินทอดน่องกันลงเรือนุ้งนิ้งๆ ไอ้เราก็มองหน้ากันเอง มองหน้าคนที่ขึ้นรถตู้มาด้วยกัน (ที่พาเขาวิ่งมาอ่ะแหละ) ประมาณว่า 'ตรูจะวิ่งทำไมฟร่ะ เหนื่อยโฮก ' 555555
เด็กน่อยย ลูกใครหว่า
ในเรือมีเสื้อชูชีพให้ค่ะ แนะนำว่าให้ใส่เลยไม่ต้องกลัวเด๋อ ปลอดภัยไว้ก่อน ขนาดเสื้อนี่มีราล่า เรายังใส่เลย ที่บอกไว้เพราะเรารู้สึกว่าบางคนอายกับเรื่องพวกนี้ไง ไม่เอา ไม่ใส่ อายย อย่าค่ะ! หยิบมาใส่ซะดีๆ อย่าหาว่าอีช้อยไม่เตือน
รูปคลื่นในทะเล บางอันถ่ายออกมาเหมือนนมเลยค่ะ
เรือวิ่งประมาณ 45 นาที ก็ถึงท่าเรือหน้าบ้าน ทางบ้านพักที่เราจองเขามีบริการรับส่งถึงท่าเรือเลย เราเลยสบายหน่อย โทรเรียกเขามารับ ระหว่างนั้นก็เข้าเซเว่นตุนขนมรอ รถที่มารับ
รถที่มารับคล้ายๆสองแถว แต่คันเล็กกว่ามาก สีขาวๆน่ารักดี เราจะเห็นรถแบบนี้บนเกาะเยอะพวกบ้านพักเขาคงจะนิยมใช้กัน พี่แกซิ่งได้ใจ
13.00 น. ถึงที่พักแล้วค่ะ เราจองที่พักชื่อ check in kohlarn ตอนแรกอยากได้บ้านที่มันติดทะเลแล้วมีระเบียงยื่นออกไปอ้ะค่ะ แนวบ้านฟ้าใส ประมาณนี้ แต่เต็มหมดเลยค่ะ แล้วไปเจออันนี้เห็นแล้วโอเค ถูกใจ จัดไปค่ะ
ที่พักคืนละ 1500 บาท เพิ่มเตียง(ที่นอน)เสริม อีก 500 รวมเป็น 2000 บาทถ้วน ไม่มีอาหารเช้าค่ะ แต่ได้มอเตอร์ไซค์ มา 1 คัน ที่พักเกาะล้านส่วนใหญ่จะให้โอนเงินทั้งหมดนะคะ ไม่มีมัดจำ ที่นี่ก็ด้วยจ่ายหมดเบยทีเดียวจบ
สภาพห้องเป็นปูนเปลือยๆ เท่ดีเหมือนกัน ห้องสะอาด แอร์เย็น เตียงนุ่ม ของก็ใหม่นะ
แต่ติดที่ว่าไม่ใกล้หาดไง ต้องแวนซ์เอาเน้อ
ตู้เย็นมีน้ำให้ 3 ขวด โอวันติน กระติกน้ำร้อน แชมพู ผ้าเช็ดตัว มีให้ปกติ เราชอบนะตอนสอบถามข้อมูลการจอง พี่แกมีรายละเอียดให้อ่านแบบเยอะมาก อ่านให้เข้าใจ ตรงกัน จะได้ไม่มีปัญหา ไม่เสียเวลาทั้งสองฝ่ายเนอะ
เก็บข้าวของ หยิบกุญแจ แล้วบิดไปหาไรกินกันก่อน หิวมากก เรามากันสามคน แต่ที่นี่ไม่ให้ซ้อนสาม ถ้าโดนจับมาไม่มีใครช่วยเด้อ เราเลยต้องขี่เทียวรับเทียวส่งกันถึงสองรอบ เราไปกันแถวท่าเรือหน้าบ้าน ถนนเส้นนั้น มีร้านอาหารและที่พักเต็มไปหมด ที่ๆอยากไปก็อยู่แถวนั้น หลังจากวนไปมา ก็ได้ร้านนี้ แถ่นแท้นนนน อาหารทะเล
ไก่ทะเลจ่ะ ... โถ่ ก็มันดูแล้วราคาย่อมหน่อยนี่นา
มีอีกแต่ไม่ได้ถ่ายแล้ว หิวมื้อนี้จ่ายไป 440 บาท