คือเรื่องมันมีอยู่ว่าผมเห็นแฟนผมลงรูปคู่กับเพื่อนผมซึ่งตอนนั่นยังไม่รู้จักกับแฟนผมน่ะ แล้วเพื่อนผมมันขี้อายไม่น่าจะมีอะไรแบบนี้555 ผมก็เลยไปแซวๆเล่นแต่ทางแฟนผมเขาซีเรียสสิครับ เพื่อนผมก็มาบอกว่าเทอลบโพสเพราะไม่ชอบให้ใครมาแซวมันไม่ดี ผมก็เลยฝากเพื่อนไปขอโทษตอนนั้นก็ไม่ได้อะไรมากมายแต่ส่องไปส่องมาชอบสิครับแต่ก็ไม่ได้บอกเพื่อนผมน่ะเลยตัดสินใจเพิ่มเพื่อนไป อีกวันนึงรับเลยครับ555แหม่ แต่ก็ยังไม่ได้จีบน่ะครับยังด้านไม่พอผมก็ไปไลค์ให้เทออยู่บ่อย มีอยู่วันนึงเทอมาถล่มไลค์คืนแบบรัวๆเลยในตอนนั้นผมทำอะไรไม่ถูกเลย ก็เลยไปแต๊งไลค์เขา(ในแชท)เพราะไม่กล้าไปโพสอะไรหน้าวอลเขา555 จากนั้นก็เริ่มคุยกันมาก็รู้สึกถูกใจกันด้วยมั้งครับ ตอนนั้นเราคุยกันมาได้เดือนหรือสองเดือนนี่แหละเทอก็มาถามผมว่าโสดมานานยังผมก็ตอบได้อย่างมั่นใจเลย "ไม่เคยมีแฟนครับ"เทอก็บอกเหมือนงงๆ แล้วก็บอกว่าเราโสดมา6เดือนล่ะซึ่งตอนนั้นผมโง่ๆมากไม่รู้นี่คือการอ่อยของ ผญ (เห็นเทอบอกว่าผมเป็นคนซื่อ ซื่อจนเกินไป)ผ่ายไปได้ไม่กีวันผมก็ไปดราม่าใส่เขาชุดใหญ่เลย555 ผมไปบอกกับเทอประมาณว่า"ผมไม่อยากรักใครเพราะอกหัก อยากจะรักใครด้วยใจจริงๆไม่อยากให้เขามาเสียความรู้สึกว่ารักเพราะอกหัก"

(เพิ่มเติมน่ะครับ ผมแอบชอบผญมาหลายคนเหมือนกันแต่ก็ได้น้องเพื่อนครบเลยครับT T)เทอบอกกับผมว่าอะไรไม่รู้เหมือนกันจำไม่ได้ หลังจากนั้นผมก็คุยกับเทอเหมือนปกติ(แต่รู้สึกจะหวานแปลกๆ)พอคุยกันได้4เดือนผมก็ขอเทอครบสำเร็จ><
.........................................................................................................................................................................................
เหมือนทุกอย่างจะราบรื่นน่ะครับแต่ไม่เลย ยิ่งคบกันมาสักพักก็เริ่มแสดงนิสัยจริงๆของทั้งคู่ออกมา แฟนผมเขาจะพูดตรงแบบทำร้ายจิตใจหน่อย ขี้งอน ชอบพูดถึงแฟนเก่าให้ผมฟังบ่อย ส่วนผมก็ปล่อยให้เทอรอเก้อ เล่นเกมเพลินบ้าง แต่เราก็ยอมรับข้อเสียของกันล่ะกันได้ แล้วก็เริ่มปรับตัวเขาหากัน ผมไม่ค่อยมีโอกาศได้เจอเทอเท่าไหร่น่ะครับเพราะทางที่บ้านเขายังไม่อยากให้เทอมีแฟน ส่วนที่ รร ก็มีกฎบ้าบอคือนักเรียนคนไหนเป็นแฟนกันถ้าเขารู้ให้เขียนไปลาออกทันที (นอก รร ด้วย)(ผมไปถามคนที่เรียนโรงเรียนนั้นบอกว่า ผอ.มีปม ซึ่งผมก็ไม่รู้อะไรมาก)ก็เลยไปหาไม่ได้ ไปได้เฉพาะวันที่มีกิจกรรมเพราะจะไม่มีครูเฝ้าเด็กจะทำงานทำซุ้มกันเอง(แฟนผมเรียนห้องพิเศษครับ เป็นหัวหน้าห้องด้วย เรียนได้ที่1ของสายชั้นอีกต่างหาก ซึ่งตากกับผมลิบลับเลย555)วิถีชีวิตของเราสองคนก็วนเหมือนเดิมทุกๆวัน ทะเลาะกันอยู่บ่อยพอสมควรเพราะเธอเครียดเรื่องเรียน ที่บ้าน งาน ผมก็เข้าใจน่ะก็คอยไปรับฟัง ไปปลอบเขา จนโดนบอกเลิกมาหลายรอบเหมือนกัน แต่ก็ผ่านไปด้วยดีแต่ว่ามันบ่อยไปสิครับผมโดนเทอบอกเลิกทุกครั้งที่เทอเครียด เราก็เลยทำข้อตกลงกันไว้ของผมก็มีว่าอย่าบอกเลิกอีกน่ะมันทำร้ายจิตใจประมาณนี้ เทอก็โอเค แต่พักหลังมานี่ก็เหมือนเดิมครับ บอกเลิกผมเหมือนเดิม(ตอนดีกันก็บอกว่าเทอรักผมมาก)เทอเคยบอกน่ะว่าถ้าบอกเลิกให้ยื้อไว้มันแค่อารมณ์ชั่ววูบ ผมก็เข้าใจเทอน่ะ(ผมไม่เคยทะเลาะกับเทอเลย- - ไม่เคยเถียงเลยสักครั้ง มีแต่เทอโกรธผมนี่แหละ)ล่าสุดมานี้ผมรู้สึกท้อแปลกรู้สึกว่าเทอเห็นผมเป็นของเล่น (เวลาเครียก็มาโกรธผมแล้วก็บอกเลิก พอผมยื้อก็มากบอกจะยื้อทำไม)ก็อยากให้ทุกท่านพอรู้เรื่องคร่าวๆน่ะครับ เข้าเรื่องที่อยากจะถามเลยแล้วกัน ผมควรจะทำยังไงต่อไปดีครับ ตอนนี้ผมรู้สึกแคว้งไปหมด สับสนทำอะไรไม่ถูกเลย ยอมรับว่าผมก็ยังรักเทอเหมือนเดิมเหมือนวันแรก ผมรู้สึกว่าเทอเอาแต่ตัวเองเป็นหลักไม่สนใจความรู้สึกผมเลย (ผมร้องไห้เพราะเธอมาหลายครั้งมากๆผมยอมรับในถานะลูกผชเลย)ล่าสุดเทอก็พูดถึงแฟนเก่า เขาก็ดีกว่าผมนั้นแหละ แฟนเก่าเทอทุกคนก็เหมือนกันผมเทียบกับพวกเขาไม่ได้หรอก บ้านผมไม่ได้รวยอู้ฟู่เหมือนใคร ของขวัญผมก็ไม่เคยให้เทอเลยสักครั้ง ตอนนี้มันเหมือนมาจุดที่ควรพอรึเปล่าก่อนที่มันจะสายไปกว่านี้จะได้ไม่ต้องเสียใจไปมากกว่านี้ อนาคตเราคงไปกันไม่ได้ ผมคงเป็นแบบที่เทอต้องการไม่ได้หรอก ผมอยากจะขอความคิดเห็นของหลายท่านมาประกอบการตัดสินใจหน่อน่ะครับ (ขอเป็นอุทาหรณ์ให้กับคนที่ชอบบอกเลิกแฟนบ่อยๆน่ะครับ ถึงเขาจะบอกว่าไม่เป็นไร แต่ในใจลึกมันก็รู้สึกผิดหวังรู้สึกท้อ ถ้าเวลานั้นมาถึงคำว่า"รัก"ที่คุณบอกก็จะกลายเป็นแค่ลมปากน่ะครับ)
รู้สึกท้อกับความรัก อยากรู้ควรจะทำยังไงต่อไปดี (โปรดอย่าเอาเรื่องตัวเองมาบอกหรือเปรียบเทียบน่ะครับไม่อยากรู้)
.........................................................................................................................................................................................
เหมือนทุกอย่างจะราบรื่นน่ะครับแต่ไม่เลย ยิ่งคบกันมาสักพักก็เริ่มแสดงนิสัยจริงๆของทั้งคู่ออกมา แฟนผมเขาจะพูดตรงแบบทำร้ายจิตใจหน่อย ขี้งอน ชอบพูดถึงแฟนเก่าให้ผมฟังบ่อย ส่วนผมก็ปล่อยให้เทอรอเก้อ เล่นเกมเพลินบ้าง แต่เราก็ยอมรับข้อเสียของกันล่ะกันได้ แล้วก็เริ่มปรับตัวเขาหากัน ผมไม่ค่อยมีโอกาศได้เจอเทอเท่าไหร่น่ะครับเพราะทางที่บ้านเขายังไม่อยากให้เทอมีแฟน ส่วนที่ รร ก็มีกฎบ้าบอคือนักเรียนคนไหนเป็นแฟนกันถ้าเขารู้ให้เขียนไปลาออกทันที (นอก รร ด้วย)(ผมไปถามคนที่เรียนโรงเรียนนั้นบอกว่า ผอ.มีปม ซึ่งผมก็ไม่รู้อะไรมาก)ก็เลยไปหาไม่ได้ ไปได้เฉพาะวันที่มีกิจกรรมเพราะจะไม่มีครูเฝ้าเด็กจะทำงานทำซุ้มกันเอง(แฟนผมเรียนห้องพิเศษครับ เป็นหัวหน้าห้องด้วย เรียนได้ที่1ของสายชั้นอีกต่างหาก ซึ่งตากกับผมลิบลับเลย555)วิถีชีวิตของเราสองคนก็วนเหมือนเดิมทุกๆวัน ทะเลาะกันอยู่บ่อยพอสมควรเพราะเธอเครียดเรื่องเรียน ที่บ้าน งาน ผมก็เข้าใจน่ะก็คอยไปรับฟัง ไปปลอบเขา จนโดนบอกเลิกมาหลายรอบเหมือนกัน แต่ก็ผ่านไปด้วยดีแต่ว่ามันบ่อยไปสิครับผมโดนเทอบอกเลิกทุกครั้งที่เทอเครียด เราก็เลยทำข้อตกลงกันไว้ของผมก็มีว่าอย่าบอกเลิกอีกน่ะมันทำร้ายจิตใจประมาณนี้ เทอก็โอเค แต่พักหลังมานี่ก็เหมือนเดิมครับ บอกเลิกผมเหมือนเดิม(ตอนดีกันก็บอกว่าเทอรักผมมาก)เทอเคยบอกน่ะว่าถ้าบอกเลิกให้ยื้อไว้มันแค่อารมณ์ชั่ววูบ ผมก็เข้าใจเทอน่ะ(ผมไม่เคยทะเลาะกับเทอเลย- - ไม่เคยเถียงเลยสักครั้ง มีแต่เทอโกรธผมนี่แหละ)ล่าสุดมานี้ผมรู้สึกท้อแปลกรู้สึกว่าเทอเห็นผมเป็นของเล่น (เวลาเครียก็มาโกรธผมแล้วก็บอกเลิก พอผมยื้อก็มากบอกจะยื้อทำไม)ก็อยากให้ทุกท่านพอรู้เรื่องคร่าวๆน่ะครับ เข้าเรื่องที่อยากจะถามเลยแล้วกัน ผมควรจะทำยังไงต่อไปดีครับ ตอนนี้ผมรู้สึกแคว้งไปหมด สับสนทำอะไรไม่ถูกเลย ยอมรับว่าผมก็ยังรักเทอเหมือนเดิมเหมือนวันแรก ผมรู้สึกว่าเทอเอาแต่ตัวเองเป็นหลักไม่สนใจความรู้สึกผมเลย (ผมร้องไห้เพราะเธอมาหลายครั้งมากๆผมยอมรับในถานะลูกผชเลย)ล่าสุดเทอก็พูดถึงแฟนเก่า เขาก็ดีกว่าผมนั้นแหละ แฟนเก่าเทอทุกคนก็เหมือนกันผมเทียบกับพวกเขาไม่ได้หรอก บ้านผมไม่ได้รวยอู้ฟู่เหมือนใคร ของขวัญผมก็ไม่เคยให้เทอเลยสักครั้ง ตอนนี้มันเหมือนมาจุดที่ควรพอรึเปล่าก่อนที่มันจะสายไปกว่านี้จะได้ไม่ต้องเสียใจไปมากกว่านี้ อนาคตเราคงไปกันไม่ได้ ผมคงเป็นแบบที่เทอต้องการไม่ได้หรอก ผมอยากจะขอความคิดเห็นของหลายท่านมาประกอบการตัดสินใจหน่อน่ะครับ (ขอเป็นอุทาหรณ์ให้กับคนที่ชอบบอกเลิกแฟนบ่อยๆน่ะครับ ถึงเขาจะบอกว่าไม่เป็นไร แต่ในใจลึกมันก็รู้สึกผิดหวังรู้สึกท้อ ถ้าเวลานั้นมาถึงคำว่า"รัก"ที่คุณบอกก็จะกลายเป็นแค่ลมปากน่ะครับ)