เมื่อผู้ค้ำกลายเป็นลูกหนี้แทนผู้กู้..............
เมื่อปี 2554 พวกเราได้รวมกลุ่มกันกู้เงินจาก ธกส.(8200 เงินทุนหมุนเวียน) ภายในอำเภอ ได้มีการเซ็นค้ำเงินกู้กันภายในกลุ่ม 7 คน (เซ็นหวัน) และทาง ธกส ได้แจ้งว่าต้องทำประกันเงินกู้ไว้ถึงจะปล่อยกู้ได้
แต่เมื่อปลายปี 2559 ผู้ค้ำทั้ง 6 คน ได้รับแจ้งจาก หัวหน้า ธกส ว่า ให้เข้ามาติดต่อคุยเรื่องหนี้ที่เกิดขึ้น เพราะว่า 1 ใน 7 คน ได้เสียชีวิต เมื่อปลายปี 2557 โดยที่ยัง ไม่ได้ชำระหนี้ คืนให้กับ ธกส เลยแม้แต่บาทเดียวและจะยื่นเรื่องส่งฟ้องศาลหากผู้ค้ำไม่มาพบ (เงินกู้ 44000 ดอกเบี้ย22000) และผู้ตายไม่ได้ต่อประกันเงินกู้เลยหลังจากได้เงินกู้ไป เมื่อปี 2554
ผู้ตายไม่มีสมบัติอะไรเลย ไม่มีมรดกตกทอด ความซวยเข้ามาหาผู้ค้ำ ทั้ง 6 คนแล้ว ต้องชำระหนี้แทนผู้ตายทั้งหมด โดย ผู้ค้ำทั้ง 6 ยินยอมชำระเงินจำนวน เกือบ 60000 คืน ธกส แทนผู้ตาย
ที่อยากจะบอก คือ
1.ธกส ส่งเอกสารให้ผู้กู้(ผู้ตาย) โดยแจ้งยอดหนี้แล้ว แต่ไม่มีการติดต่อจากผู้กู้เลย ตั้งแต่ปี 2555 ถึงปีที่ผู้กู้ได้ตายลงคือ ปี2557 ถามว่า ทำไม ธกส ถึงละเลยในการทวงถามหนี้จากผู้กู้ ถึง 3 ปี โดยที่ไม่การพักหนี้ให้ผู้กู้ และ ไม่มีเอกสารส่งถึงผู้ค้ำทั้ง6คนเลยแม้แต่ใบเดียว ยิ่งกว่านั้น หลังจากที่ผู้กู้ตายลงแล้ว นับจากปี 2557-2559 ระยะเวลา 2 ปี ทาง ธกส ก้ไม่ได้ติดต่อผู้ค้ำเลยว่าจะต้องตกเป็นผู้ชดใช้หนี้ให้กับผู้ตาย โดยที่ ดอกเบี้ยเงินกู้ที่ผู้ตายทำไว้ยังคงเบ่งบานงอกงามอยู่ตลอดเวลา
ทาง ธกส ตอบมาว่า ที่ไม่ส่งเอกสารให้กับผู้ค้ำ เพราะว่าตามหลักนั้น ธกส จะส่งเอกสารแจ้งให้ผู้ค้ำทราบก็ต่อเมื่อ จะส่งเรื่องฟ้องศาลก่อน 1 เดือน ส่วนเรื่องผู้กู้ ส่งเอกสารไปแล้ว ถ้าผู้กู้ไม่มาติดต่อก็ไม่ตามอีกเลยครับ (ไม่มาก็ปล่อยให้ดอกเบ่งบานสะพรั่งไป )
2. ไหนว่าบังคับผู้กู้ให้ทำประกันเงินกู้ไว้ ส่วนตัวผมทำต่อทุกปี แล้วทำไมถึงละเลยไม่มีการบังคับผู้กู้ทำประกันเงินกู้ไว้ในกรณีที่ตาย
ทาง ธกส ตอบว่า บังคับทำปีแรกครับ ปีต่อไปถ้าไม่ทำประกัน ก็ไม่เป็นไร
3.ผมมีความประสงค์ที่จะขอถอนค้ำประกัน หัวหน้าบอกว่า ถอนไม่ได้ครับ เซ็นต์ค้ำเมื่อปี54 ครั้งเดียว ครอบคลุมจนกว่าผู้กู้ทุกคนจะชำระหนี้ที่กู้ยืมไปหมดแล้วเท่านั้น ตอนนี้เหลือผู้กู้ที่ยังไม่ได้ใช้คืน ธกส อีก 3 คน นับตั้งแต่ปี 54 หากมีใครตายลงไป ภาระก็คงตกกับผู้รับมรดก แค่ถ้าไม่มีมรดก หนี้ทั้งหมดจะถูกยัดให้ผู้ค้ำชำระแทน
ผมคิดว่ามีทางเดียวที่จะป้องกันไม่ให้เราตกเป็นผู้รับกรรมนี้ได้ ต้องให้ผู้กู้สมัครประกันสินเชื่อกับทางธนาคารไว้ แต่ต้องเรียกผู้กู้มาทำสัญญากรมธรรณ์ที่ธกส. จนป่านนี้หัวหน้าเขายังไม่ได้ทำอะไรเลย ผมในฐานะผู้ค้ำคงต้องตามเรื่องเอง
สรุป ระยะเวลา 2554-2559 5 ปี ผู้ค้ำไม่สามารถรู้เลยว่า ผู้กู้ที่เราเซ็นต์ค้ำให้นั้น เขาไม่ชำระเงินคืนให้กับทาง ธกส เลย แม้แต่บาทเดียว และทาง ธกส ก็ไม่มีเอกสารแจ้งผู้ค้ำด้วย จนกว่าจะส่งเรื่องฟ้องศาลก่อนหน้า เพียง 1 เดือนนะครับ ไหนใครค้ำอะไรให้กับ ธกส บ้าง เข้าไปเช็คๆกันหน่อยก้ดีนะ
เมื่อผู้ค้ำกลายเป็นลูกหนี้ที่ต้องชำระเงินแทนผู้กู้ ธกส.
เมื่อปี 2554 พวกเราได้รวมกลุ่มกันกู้เงินจาก ธกส.(8200 เงินทุนหมุนเวียน) ภายในอำเภอ ได้มีการเซ็นค้ำเงินกู้กันภายในกลุ่ม 7 คน (เซ็นหวัน) และทาง ธกส ได้แจ้งว่าต้องทำประกันเงินกู้ไว้ถึงจะปล่อยกู้ได้
แต่เมื่อปลายปี 2559 ผู้ค้ำทั้ง 6 คน ได้รับแจ้งจาก หัวหน้า ธกส ว่า ให้เข้ามาติดต่อคุยเรื่องหนี้ที่เกิดขึ้น เพราะว่า 1 ใน 7 คน ได้เสียชีวิต เมื่อปลายปี 2557 โดยที่ยัง ไม่ได้ชำระหนี้ คืนให้กับ ธกส เลยแม้แต่บาทเดียวและจะยื่นเรื่องส่งฟ้องศาลหากผู้ค้ำไม่มาพบ (เงินกู้ 44000 ดอกเบี้ย22000) และผู้ตายไม่ได้ต่อประกันเงินกู้เลยหลังจากได้เงินกู้ไป เมื่อปี 2554
ผู้ตายไม่มีสมบัติอะไรเลย ไม่มีมรดกตกทอด ความซวยเข้ามาหาผู้ค้ำ ทั้ง 6 คนแล้ว ต้องชำระหนี้แทนผู้ตายทั้งหมด โดย ผู้ค้ำทั้ง 6 ยินยอมชำระเงินจำนวน เกือบ 60000 คืน ธกส แทนผู้ตาย
ที่อยากจะบอก คือ
1.ธกส ส่งเอกสารให้ผู้กู้(ผู้ตาย) โดยแจ้งยอดหนี้แล้ว แต่ไม่มีการติดต่อจากผู้กู้เลย ตั้งแต่ปี 2555 ถึงปีที่ผู้กู้ได้ตายลงคือ ปี2557 ถามว่า ทำไม ธกส ถึงละเลยในการทวงถามหนี้จากผู้กู้ ถึง 3 ปี โดยที่ไม่การพักหนี้ให้ผู้กู้ และ ไม่มีเอกสารส่งถึงผู้ค้ำทั้ง6คนเลยแม้แต่ใบเดียว ยิ่งกว่านั้น หลังจากที่ผู้กู้ตายลงแล้ว นับจากปี 2557-2559 ระยะเวลา 2 ปี ทาง ธกส ก้ไม่ได้ติดต่อผู้ค้ำเลยว่าจะต้องตกเป็นผู้ชดใช้หนี้ให้กับผู้ตาย โดยที่ ดอกเบี้ยเงินกู้ที่ผู้ตายทำไว้ยังคงเบ่งบานงอกงามอยู่ตลอดเวลา
ทาง ธกส ตอบมาว่า ที่ไม่ส่งเอกสารให้กับผู้ค้ำ เพราะว่าตามหลักนั้น ธกส จะส่งเอกสารแจ้งให้ผู้ค้ำทราบก็ต่อเมื่อ จะส่งเรื่องฟ้องศาลก่อน 1 เดือน ส่วนเรื่องผู้กู้ ส่งเอกสารไปแล้ว ถ้าผู้กู้ไม่มาติดต่อก็ไม่ตามอีกเลยครับ (ไม่มาก็ปล่อยให้ดอกเบ่งบานสะพรั่งไป )
2. ไหนว่าบังคับผู้กู้ให้ทำประกันเงินกู้ไว้ ส่วนตัวผมทำต่อทุกปี แล้วทำไมถึงละเลยไม่มีการบังคับผู้กู้ทำประกันเงินกู้ไว้ในกรณีที่ตาย
ทาง ธกส ตอบว่า บังคับทำปีแรกครับ ปีต่อไปถ้าไม่ทำประกัน ก็ไม่เป็นไร
3.ผมมีความประสงค์ที่จะขอถอนค้ำประกัน หัวหน้าบอกว่า ถอนไม่ได้ครับ เซ็นต์ค้ำเมื่อปี54 ครั้งเดียว ครอบคลุมจนกว่าผู้กู้ทุกคนจะชำระหนี้ที่กู้ยืมไปหมดแล้วเท่านั้น ตอนนี้เหลือผู้กู้ที่ยังไม่ได้ใช้คืน ธกส อีก 3 คน นับตั้งแต่ปี 54 หากมีใครตายลงไป ภาระก็คงตกกับผู้รับมรดก แค่ถ้าไม่มีมรดก หนี้ทั้งหมดจะถูกยัดให้ผู้ค้ำชำระแทน
ผมคิดว่ามีทางเดียวที่จะป้องกันไม่ให้เราตกเป็นผู้รับกรรมนี้ได้ ต้องให้ผู้กู้สมัครประกันสินเชื่อกับทางธนาคารไว้ แต่ต้องเรียกผู้กู้มาทำสัญญากรมธรรณ์ที่ธกส. จนป่านนี้หัวหน้าเขายังไม่ได้ทำอะไรเลย ผมในฐานะผู้ค้ำคงต้องตามเรื่องเอง
สรุป ระยะเวลา 2554-2559 5 ปี ผู้ค้ำไม่สามารถรู้เลยว่า ผู้กู้ที่เราเซ็นต์ค้ำให้นั้น เขาไม่ชำระเงินคืนให้กับทาง ธกส เลย แม้แต่บาทเดียว และทาง ธกส ก็ไม่มีเอกสารแจ้งผู้ค้ำด้วย จนกว่าจะส่งเรื่องฟ้องศาลก่อนหน้า เพียง 1 เดือนนะครับ ไหนใครค้ำอะไรให้กับ ธกส บ้าง เข้าไปเช็คๆกันหน่อยก้ดีนะ