ทริปนี้ชวนเดินทางสู่ซาปา ดินแดนหลังม่านหมอกแถบชายแดนเวียดนามตอนเหนือกันครับ ด้วยความที่เมืองนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่ซึ่งสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 1650 เมตร (เทียบได้กับขุนสถาน จ.แพร่, ภูโลมโล จ.เพชรบูรณ์) จึงทำให้มีอากาศที่เย็นตลอดทั้งปีและในแตกต่างกันไปในแต่ละเดือนอีกด้วย
ความที่อยู่ในพื้นที่หนาวเย็นและบางเดือนมีหิมะตกด้วยจึงทำให้บ้านเรือน สิ่งปลูกสร้าง ผู้คนและวัฒนธรรมของผู้คนที่นี่แตกต่างจากพื้นที่อื่นๆในแถบอาเซียน กลายเป็นความแปลกตาที่มีเพียงหนึ่งเดียวในแถบนี้ไปโดยปริยาย ช่วงเวลาที่เราไปกันนั้นเป็นช่วงต้นเดือนตุลาคม เป็นช่วงเวลาที่ฝนปรอยๆสลับกับมีกลุ่มหมอกห่มปกคลุมเมืองตลอดทั้งวัน จึงทำให้เมืองแห่งนี้ขาวโพลนและหนาวเย็นตลอดทั้งทริปที่เราอยู่ที่ซาปาครับ
ตลอดทริปนี้ ซาปาได้กลายเป็นอีกหนึ่งความทรงจำที่เราประทับใจและยกให้เป็นหมุดหมายสำคัญการเดินทางอีกแห่งของเรา ที่จะหาโอกาสมาเยียมเยือนให้ได้อีกในอนาคต ครับ
ซาปา บลังก้า : ซาปาในคืนวันแห่งสายหมอกและลมหนาว
ความที่อยู่ในพื้นที่หนาวเย็นและบางเดือนมีหิมะตกด้วยจึงทำให้บ้านเรือน สิ่งปลูกสร้าง ผู้คนและวัฒนธรรมของผู้คนที่นี่แตกต่างจากพื้นที่อื่นๆในแถบอาเซียน กลายเป็นความแปลกตาที่มีเพียงหนึ่งเดียวในแถบนี้ไปโดยปริยาย ช่วงเวลาที่เราไปกันนั้นเป็นช่วงต้นเดือนตุลาคม เป็นช่วงเวลาที่ฝนปรอยๆสลับกับมีกลุ่มหมอกห่มปกคลุมเมืองตลอดทั้งวัน จึงทำให้เมืองแห่งนี้ขาวโพลนและหนาวเย็นตลอดทั้งทริปที่เราอยู่ที่ซาปาครับ
ตลอดทริปนี้ ซาปาได้กลายเป็นอีกหนึ่งความทรงจำที่เราประทับใจและยกให้เป็นหมุดหมายสำคัญการเดินทางอีกแห่งของเรา ที่จะหาโอกาสมาเยียมเยือนให้ได้อีกในอนาคต ครับ