[CR] แชร์ประสบการณ์งานแต่งงาน : คู่รักอวบอ้วน เรียบง่าย ดูดี ด้วยมือของเรา

สวัสดีค่ะจากคราวที่แล้วเราคู่รักจากเชียงใหม่เจ้า ได้แชร์ประสบการณ์ถ่ายพรีเวดดิ้ง งบน้อย ตามลิงค์นี้นะคะ
http://pantip.com/topic/35090671

มาครั้งนี้ได้ฤกษ์งามยามดีมาแชร์ประสบการณ์แต่งงาน ของพวกเรางบน้อย(อีกแล้ว) ไม่เกิน 1 แสนบาท?? จริงๆ ได้ติดต่ออีเว้นท์ให้มาเนรมิตงาน แต่ทางผู้ใหญ่ไม่ชอบรูปแบบงานหลายๆ อย่าง ที่สำคัญไม่อยากให้จัดงานใหญ่โตตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ เพราะจุดมุ่งหมายที่แท้จริงของการแต่งงานคือการเริ่มต้นชีวิตคู่ เราจึงเปลี่ยนจากคำพูดที่เค้าพูดว่า แต่งงานทั้งทีต้องให้ “เริ่ดหรู ดูดี ด้วยมืออาชีพ” เปลี่ยนมาเป็น แต่งงานทั้งทีให้ “เรียบง่าย ดูดี ด้วยมือของเรา” อีกทั้งเราทั้งสองคนไม่ชอบงานพิธีการสุดเกร็ง ไม่เป็นตัวของตัวเอง เรื่องท้าทายความสามารถของเราทั้งคู่จึงเกิดขึ้น เพราะทุกอย่างเราต้องคิดรูปแบบเอง ช่วยกันทำเอง เกือบทุกขั้นตอน



นี่คืองานแต่งงานครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิต เป็นโจทย์ที่หนักใจ และสร้างความตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย แต่ก็จับมือกันตะลุยไปให้สุดๆ  (ต้องออกตัวก่อนเลยว่าพวกเราไม่ได้ชำนาญเรื่องงานพิธีนะคะ อาจจะข้ามขั้นตอนหรือตัดทอนพิธีจึงอาจไม่ถูกต้องตามประเพณี ต้องขออภัยด้วยค่ะ เพราะผู้ใหญ่ ต้องการให้เรียบง่าย ไม่ต้องการพิธีรีตองมากมาย) แล้วงบไม่เกิน 1 แสนจะพอได้ยังไงกันนะ เราวางแผนจัดสรรแผนการใช้จ่าย คร่าวๆ ได้ดังนี้



50 % ค่าอาหารและสถานที่
25 % ค่าอุปกรณ์จัดงาน อาทิ เช่าชุดโต๊ะตั่งผูกข้อมือ ฉากแบล็คดร็อป บายศรี พวงมาลัยบ่าว-สาว บูเก้
ป้ายโลโก้ ป้ายชื่อบนเวที รูปหน้างาน ฯลฯ
10 % ค่าการ์ดเชิญ ของชำร่วย และช่างภาพ
10 % ค่าชุดบ่าว-สาว
5 % ค่าใช้จ่ายจิปาถะ ที่เราคาดไม่ถึง


จากนั้นหาข้อมูลจากเว็บไซต์ ปรึกษาผู้มีประสบการณ์ วางแผนงานแต่งงานสุดเรียบง่าย ประมาณ 5 เดือน สรุปได้ดังนี้

1.    หาฤกษ์วันและเวลา
ผู้ใหญ่ท่านแรกที่หาฤกษ์ให้คือ พ่อ ของเราเอง ฟันธงไปที่เดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นเดือนคู่ของประเพณีทางภาคเหนือ ระบุด้วยว่าจัดเฉพาะกลางวัน ไม่ต้องมีเลี้ยงฉลองกลางคืน ส่วนวัน ฤกษ์ตามพระ หรือ ฤกษ์สะดวกก็ได้ ซึ่งตอนแรกหลวงลุงเจ้าอาวาส ให้ฤกษ์วันเสาร์ที่ 7 ซึ่งเป็นวันหยุดยาว แต่เจ้าสาวติดสอบ เลยต้องเลื่อนกันยกใหญ่ และในที่สุดเป็นวันอาทิตย์ที่ 15 พฤษภาคม 2559 เวลา 09.59-14.00 น. เป็นฤกษ์ดีวันหัวเรียงหมอนด้วยค่ะ



2.    จำนวนแขก
150-200 คน เน้นญาติผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย ผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ และเพื่อนสนิท



3.    อาหารและสถานที่
หลังจากศึกษาหาข้อมูล ค่าใช้จ่ายที่เยอะที่สุดในงานแต่งงานเกือบทุกคู่ คือค่าอาหารและสถานที่ ใช่แล้วค่ะ “เราเน้นกิน” ฮ่าๆๆ  นึกภาพตามนะคะ อาหารอร่อย ค่อยๆ บรรจงเสิร์ฟมาทีละจาน ให้แขกผู้มีเกียรติได้ละเมียดลิ้มรสชาติ ฟังเพลงเพราะๆ คงสร้างความประทับใจไม่น้อย พิมพ์ไปก็หิวไป เราและผู้ใหญ่มีความคิดเห็นตรงกันเลือกเป็นโต๊ะจีนค่ะ แม่แฟนใจดีมาก ตระเวนชิมอาหารตามร้านต่างๆ เพื่อให้ได้ร้านที่ดีที่สุด มีที่จอดรถให้แขกเข้ามาอย่างสะดวกสบาย ในที่สุดลงตัวที่ภัตรคารเจี่ยท้งเฮง สาขาฟ้าฮาม เชียงใหม่ ห้องจัดงานกว้างขวาง สวยงาม หรูหราเกินฝัน อาหารอร่อย พี่ผู้จัดการน่ารัก ใจเย็น พนักงานอัธยาศัยดี สมดั่งตั้งใจมากค่ะ



4.    รูปแบบพิธีการ
เมื่อจัดการเรื่องฤกษ์และจองสถานที่จัดงานเรียบร้อยแล้ว มาถึงเรื่องรูปแบบพิธีการ ทางแฟนเป็นคนกรุงเทพฯ เราเป็นลูกหลานคนเชียงใหม่ พบกับคนละครึ่งทางแบบเรียบง่าย จัดพิธีหมั้นเล็กๆ ในบ้านฝ่ายชาย วันเสาร์ที่ 26 มีนาคม 2559 (วันหัวเรียงหมอน) ไม่ต้องแห่ขันหมาก ทำพิธีสงฆ์ที่วัด พิธีในงานจะมีผูกข้อมือตามประเพณีทางเหนือ พิธีบนเวทีไม่ตัดเค้ก ไม่ดื่มแชมเปญ และไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายไม่ดื่มเหล้า ประหยัดได้เยอะเลยค่ะ



5.    สิ่งที่เราต้องลงมือทำเอง
โลโก้งานแต่งงาน ใช้โปรแกรม Illustrator ออกแบบตั้งแต่ต้นปี ใจไม่อยากได้ขอบทอง ตัวหนังสือภาษาอังกฤษตัวเขียนสีทองอ่านยากๆ เหมือนคนอื่นเค้า วาดการ์ตูนเวคเตอร์อ้วนๆ คาแรคเตอร์เราบ่าว-สาว ก็แล้วกันน่ารักดี



การ์ดเชิญ ทีแรกอยากได้ใหญ่ๆ เต็ม A5 ตามตัวเจ้าของงาน แต่ลดขนาดลงมานิดนึงตามขนาดซอง ในเมื่อพิมพ์ลงในกระดาษอาร์ตมัน ขนาด A3 จะลงได้ 4 ใบ ก็เลยออกแบบมา 4 แบบเลย แต่ด้านหลังพิมพ์รายละเอียดเหมือนกัน



ของชำร่วย เราเคยไปอบรมทำสบู่กลีเซอรีนและลองทำสบู่ใช้เองเป็นงานอดิเรก ก็เลยช่วยกันทำทั้งแบบเจล และแบบขนมเค้กแฟนซี แฟนครีเอทแพ็คเกจเอง สติกเกอร์ก็เอาอาร์ตโลโก้มาทำ เราช่วยกันงุ้งงิ้งๆ เถียงกันเสียงดังบ้าง ตามประสา




พรีเซนท์เทชั่นในงาน ตอนแรกจะไม่ทำแต่เพื่อนบอกว่าแกเรียนมัลติมีเดียร์มาก็โชว์ฝีมือหน่อยสิ จะได้รู้ว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใคร เรียนจบที่ไหน ทำมาหากินอะไร ก็เลยทำตามแรงยุ จ้างเค้าทำก็หลายพันอยู่นะ จัดแจงใช้กล้องมือถือเก่าๆ ของตัวเองถ่ายทำ ตัดต่อเองด้วยโปรแกรมโหลดฟรีตามกูเกิ้ลนี่แหละ กว่าจะเสร็จใช้เวลาไป 2 วัน เย้ๆ





6.    สิ่งที่ต้องเตรียมในงาน
เนื่องจากวันที่เราจัดงานอากาศร้อนถึงร้อนมากที่สุด ใช้ดอกไม้จริงเหี่ยวแน่ เลยวางคอนเซ็ปตั้งแต่แรกใช้ดอกไม้สดเท่าที่จำเป็น เลือกใช้ดอกไม้ปลอมไม่ต้องเยอะ ก็สวยมินิมอลนะเออ เป็นจริงตามคาด งานก่อนหน้าเราดอกไม้ฟูเต็มงานเลยแต่น่าเสียดายเฉาเกือบหมด




ชุดโต๊ะตั่งผูกข้อมือ พร้อมฉากแบล็คดร็อป เราเสิร์ชหาในกูเกิ้ลหาร้านที่ไม่ใช้ดอกไม้สด แอบหายาก ตื่นเต้นดีใจหาเจอจนได้แถมราคาไม่แพงเลย รีบติดต่อ ตกลงรายละเอียด โอนค่ามัดจำ พอถึงวันจัดงานเวลากระชั้นชิด พี่เจ้าของร้านและทีมงาน บังใบ ดีไซน์ ก็มารอตบยุงอยู่นานกว่าจะเข้ามาจัดได้ก็เกือบเที่ยงคืน เรา แฟนและน้องสาวแฟนจากรุงเทพฯ ก็มายืนให้กำลังใจ ดึกดื่นพี่เค้าก็ไม่หวั่น



บายศรี พวงมาลัยบ่าว-สาว และบูเก้ อันนี้หาได้แบบเฉียดฉิว เพราะคลาดกับพี่ที่จัดดอกไม้หลายจ้าว เพื่อนสาวสมัยเรียนออกแบบฯ แนะนำน้องชายผู้น่ารักให้รู้จัก จัดตามงบได้ ฝีมือดีทีเดียว มาช่วยชีวิตพวกเราจริงๆ น้องบอกว่านี่ขนาดจัดในห้องแอร์ดอกไม้ยังสู้อากาศร้อนไม่ไหว กว่าจะมาถึงงานความงดงามอาจจะลดลงไปแต่เราก็พอใจมากค่ะ



7.    ชุดบ่าว-สาว
ด้วยความอาร์ตทั้งคู่ คิดอยู่หลายตลบ อ้วนๆ แบบนี้ จะใส่ชุดแบบไหนดีน้า แฟนเราอยากใส่ชุดลำลอง ชุดแฟนซี 5555 ส่วนตัวไม่ชอบชุดเจ้าสาวยาวๆ ลากพื้นเลยค่ะ ลองใส่แล้วเหมือนรถถัง จัดงานกลางวันขอเป็นแบบเดรสสั้น สั่งซื้อเฟสบุ๊คร้านสาวอวบบอกเลยถูกมากๆ พอดีตัวเราเลย แถมใส่เข้ากับผ้าใบสีชมพูด้วย เรื่องแต่งหน้าตอนแรกอยากแต่งเองค่ะ แต่พี่ร้านทำผมใกล้บ้านบอกว่ามาๆ เดี๋ยวช่วยแต่งหน้าเขียนคิ้วให้ ผมเราสั้นก็ไม่ต้องทำมากติดหมวกเก๋ๆ ก็พอแล้ว สวยแบบประหยัดตามคอนเซป ส่วนแฟนเราไม่ขอเมคอัพ ขอแค่ใส่สูทเรียบๆ กับชุดเล่นบีบีกันก็พอ เอาซี่...... ด้วยคอนเซป คสช.=ความสุขชั้นนน



8.    พิธีการและพิธีกร
งานพิธีการผูกข้อมือได้ติดต่อพ่อหนานมาแต่ท่านมาไม่ทันฤกษ์ น้องสาวภรรยาตากล้องเลยสวมบทบาทพิธีกรจำเป็น เก่งมากๆ ค่ะ ขอบคุณอย่างสุดซึ้ง และที่สนุกสุดๆ ก็เป็นพิธีการบนเวทีนี่หล่ะค่ะ จากตอนผูกข้อมือเรียบร้อยๆ เปลี่ยนชุดเป็นนายพรานกับกินนรี 2016 เราเดินมาจากด้านหลังห้อง แฟนใส่ชุดพราง(ลายที่เขาชอบใส่เวลาเล่นบีบีกัน)และเราใส่ปีกนก เข้ากั๊นเข้ากัน 555 สร้างความเซอร์ไพรส์ และเสียงเฮฮา เป็นชุดเหนือความคาดหมายที่ไม่มีใครคาดคิดว่างานแต่งงาน บ่าว-สาวจะกล้าใส่ (เคยอายกันที่ไหน)



พิธีกรบนเวที คือคุณเพื่อนและภรรยา ที่บินตรงจากกรุงเทพฯ เพื่อเพื่อนเพี้ยนๆ แบบพวกเราโดยเฉพาะ



9.    ช่างภาพ
เพื่อนตากล้องคนเดิมจากถ่ายพรีเวดดิ้งมาถ่ายให้ เป็นเพื่อนเจ้าบ่าวสมัยเรียนประถม เป็นเพื่อนเราตั้งแต่เรียนออกแบบ-ปริญญาตรี



10    นักร้องบนเวที
พี่สาวแสนสวยและหลานสาวอาสามาร้องเพลงให้ตลอดทั้งงาน แถมเลือกเพลงมาขับกล่อมแต่ละเพลงถูกใจสุดๆ น้ำเสียงเพราะสะกดใจผู้ร่วมงาน จนผู้ใหญ่ส่งทิปมาให้เป็นกำลังใจมากมาย



11    พิธีรับไหว้ และส่งตัวเข้าห้องหอ
เมื่อเสร็จงานฉลองมงคลสมรสที่ร้านแล้ว เราก็รีบกลับมาบ้านเพื่อทำพิธีรับไหว้ และส่งตัวเข้าหอ น้าๆ สนุกสนานหัวเราะเฮฮา บ้างจัดแจงปูที่นอน ช่วยกันเตรียมดอกไม้ โปรยเงินขวัญถุงเต็มที่นอนเลย



อ่านเพลินเลยจนมาถึงช่วงท้าย เห็นมั้ยคะว่าการแต่งงานไม่จำเป็นต้องแพง หรูไปซะทุกอย่าง อยู่ที่การวางแผนอย่างรอบคอบ การทำอะไรด้วยตัวเองได้จะสร้างความประทับใจแก่แขกร่วมงาน และที่สำคัญสร้างความภาคภูมิใจ ของบ่าว-สาวที่ครั้งหนึ่งในชีวิตเราได้จัดงานด้วยความตั้งใจ สุดท้ายขอขอบพระคุณ คุณพ่อ-คุณแม่แฟน ที่คอยสนันสนุนและให้กำลังใจ จนงานสำเร็จลุล่วงด้วยดี ขอบคุณที่ติดตามอ่าน บ๊ายบายค่ะ
ชื่อสินค้า:   งานแต่งงานที่ทำเอง(เกือบ)ทุกอย่าง
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  แต่งงาน พิธีแต่งงาน สถานที่จัดเลี้ยง ภาพถ่าย
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่