มีหลายคนสงสัย การไปกราบพระบรมศพฯ ใส่อะไรดี จะไหวไหม คนเยอะไหม รอนานไหม ขอตอบแบบคราวๆ ณ ตอนนี้นะคะ จากที่ได้ไปมาเมื่อวันที่ 16 พ.ย. 2559 ไปถึงสนามหลวงเกือบเที่ยง เพราะช่วงเช้าติดภาระกิจ และมีสิ่งที่แอบหวังแอบคิดเอาเอง จะขอเฉลยในช่วงท้ายนะคะ ไปถึงคนก็เยอะแล้วอยู่กันกลางสนามหลวงสังเกตบอลลูนสีขาว มีคำว่าท้ายแถว เดินดิ่งเข้าไปหาเลย ช่วงนี้จำนวนคนก็เกือบจะ1ใน3ของเต้นท์ที่อยู่ในสนามหลวงแล้ว จขกท.ไปคนเดียวเพราะมาดูลาดราวให้คนอื่นๆ และถ้าเกิดไม่ไหวถอดใจจะได้กลับเองก่อนไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลังกัน
1.เตรียมร่างกายให้พร้อมที่สุด เพราะระยะทางไกลนั่งรอยืนรอนาน หาอะไรไปปูนั่งก็ได้ เช่น ถุงดำ ลังกระดาษ เห็นมีคุณยายแก่ๆ ถือเก้าอี้พลาสติกเล็กๆ แบบที่เราไว้นั่งซักผ้า ส่วนตัวเองใช้ถุงพลาสติก ตัวเองมารู้อีกวันถัดมาตื่นนอนก้นระบมนิดๆ อาจเพราะ จขกท. น้ำหนักตัวมากและนั่งพื้นนาน
2.สัมภาระน้อยที่สุดก็ดี เพราะยืนๆนั่งๆ จากสัมภาระจะกลายเป็นภาระ มีเป้ก็สะดวกดี หลายคนมาทั้งกระเป๋าลากใบโตๆ กระเป๋าเสื้อผ้าใหญ่ คงมาถึงกันแล้วมุ่งหน้ามาเลย ไม่รู้เวลาขึ้นกราบกระเป๋าของพี่เค้าจะยังไง ส่วนตัวนำกระเป๋าผ้าใบใหญ่ใส่ได้ทุกสิ่ง เป็นกระเป๋าโดเรมอนได้เลย
3.กลางวันแดดร้อนจัด แต่ตลอดทางมีเต้นท์ มีพัดลมเป็นช่วงๆ พื้นสนามตอนนี้ลาดยางแล้วค่ะ มี จนท. คอยดูแลตลอด นำเครื่องฉีดละอองน้ำมาพ่น คลายร้อนได้เหมือนกัน แต่รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นผักโดนยาฆ่าแมลง ช่วงบ่าย 3 แดดส่องด้านข้างๆ เห็น จนท.มาดูพร้อมช่างคงมาติดผ้าใบเพิ่มให้ประชาชน จนท.และอาสาสมัครเดินดูแลประชาชนตลอด มีเด็กนักเรียนมาช่วยทั้งแจกน้ำ แจกอาหาร ดูแล้วเป็นภาพที่ประทับใจในความช่วยเหลือกันมากๆ
4.ชุดที่สวมใส่ขอความสุภาพเพราะถือว่าเป็นการให้เกียรติต่อสถานที่นะคะ สีดำล้วนๆจะดีที่สุด ไม่โป้ ไม่บาง มีแขน แต่งไปให้พร้อม (ถ้ามี) แต่มีให้ยืมนะคะถ้ายอมเสียเวลาไปยืมไปคืนก็โอเค เครื่องแต่งกายมีบูธที่ให้ยืมเสื้อผ้าอยู่โดยรอบคนที่ไม่มีจริงๆไม่ต้องกังวลมากไปนะคะไปยืมได้ ใส่ชุดที่สบายระบายเหงื่อได้ดีจะดีมากกว่า เพราะ จขกท.ไปช่วงกลางวัน มีช่วงท้ายก่อนการได้เข้าไปนั่งรอเก้าอี้บางคนความยาวกระโปรงพอดีเข่าเกินไป จนท.ไม่ให้ผ่านเสียเวลาไปยืมผ้าถุง อันนี้ก็ไม่รู้ว่าแล้วแต่ความเข้มของ จนท.แต่ละท่านด้วยไหม แต่บูธยืมชุดอยู่ในรั้วที่เราต่อแถวค่ะ ไม่ต้องกลัวว่าต้องออกไปตั้งต้นใหม่ มีลุงอยู่คนใส่เชื้ตขาวแขนสั้นสุดท้ายก็ถูกเรียกไปใส่เสื้อดำ
5.รองเท้า ใส่คัทชูได้ใส่มาเลยค่ะ แต่เอาที่สวมสบายเพราะเห็นหลายคนรองเท้ากัด จนท.เดินแจกปลาสเตอร์ มีคนใส่รองเท้าผ้าใบแต่สีดำล้วนๆ ลางคนใส่ส้นสูงสุดท้ายถอดรองเท้าเดินคงเมื่อยเพราะยืนนาน ส่วน จขกท.ใส่รองเท้าแตะแบบหุ้มเท้าเกือบหมดสีดำล้วน แต่หิ้วรองเท้าคัทชูคู่เบาๆเตี้ยๆ มาด้วย
6.น้ำ อาหาร ขนม ผลไม้ ยาดม แอมโมเนีย มีมาแจกตลอด หิวทานไปเลย เพราะรอหลายชั่วโมง ไม่ก็รับขนมเก็บไว้ก่อน มีคนเป็นลมเยอะเหมือนกัน อาจเพราะทานน้อย พักผ่อนน้อย อากาศอบอ้าว ส่วนตัวเองจิบน้ำบ่อยๆ ทานอาหารไปนิดหน่อย
7.ห้องน้ำมีอยู่รอบๆ สะอาดสะอ้านค่ะ เล็งจังหวะว่าใกล้ๆ สลับกะเพื่อนแล้วรีบไปได้ ตัวเองเข้าไปก่อนจะต่อแถวและอีกทีบ่าย 3 เพราะแถวชะงักนานมากคงเพราะมีพิธีประโคมย่ำยามในช่วงบ่าย
8.ตัวเองพกไป ร่มเล็กๆ ถุงพลาสติกรองนั่ง ทิชชูเปียก ลูกอม น้ำเกลือแร่ วิตามินซี ยา บัตรประชาชน ในช่วงท้ายที่ใกล้เข้าวังมีเก้าอี้ให้ทุกคนนั่งยาวเป็นกิโลๆ ทิชชูเปียกคือฮีโร่เลยนะคะ ได้นั่งพักเช็ดเนื้อเช็ดตัว สดชื่นขึ้นหลังจากรอมาหลายชั่วโมง ลูกอมก็ช่วยได้เยอะ
สรุปแล้วรอไป 7 ชม.กว่าๆ 3 ชม.แรกยืนๆนั่งๆในสนามหลวง 2 ชม.ต่อมายืนด้านรอบๆ 1 ชม.ได้นัางเก้าอี้แต่ขยับเรื่อยๆเหมือนกัน และอีกราวครึ่ง ชม.ที่นั่งพื้นในเขตวัง ในกำหนดไม่ได้วันไหน ช่วงไหนจะเยอะจะน้อย ถ้าไม่ติดทำพิธีหรือขบวนเสด็จคาดว่าน่าจะเร็วกว่านี้ แต่ทั้งนี้จากถามคนที่เคยมา ถามจนท. ถามจิตอาสา ถามพี่วินอาสาที่ไปส่ง.....ทุกคนบอกว่าวันนี้คนน้อย!!!!!! แต่ก้อไม่ได้คุยกับคนที่มาเช้าตรูหรือเกือบปิดเวลาอื่นอาจเร็วกว่านี้??
ด้วยความที่คนเยอะมากๆ บางทีแซงคิวกันบ้าง แย่งกันเข้าข้างใน กิริยาไม่สำรวม บลาๆๆๆ ทำใจค่ะ อย่าไปโกรธเลยมันไม่ใช่เวลา ทุกคนมาเพื่อกราบพ่อ คิดอย่างนี้จะปลงและไม่โกรธ
ลองไปมองดูผู้คนรอบๆ จะเพลินกว่า ตั้งแต่เด็ก 6 เดือนยันคนแก่วัย 70 กว่าๆ มาจากทุกภาค ทุกจังหวัด หลากหลายภาษา มีคนที่มาจากนิวยอร์คโดยไม่เคยกลับไทยหลายสิบปี มีลุงจากเมืองกาญฯ ที่มาแล้วเมื่อวานรอไม่ไหว11ชม.เพราะห่วงรถที่เอามาจอดจะหาย วันนี้ลุงกลับมาใหม่ มีฝรั่งตั้งใจมาเที่ยวแต่เปลี่ยนใจมาเดินแจกของและมาขอรอกราบพ่อ มีป้าผ่าตัดขาใส่เหล็กนั่งพื้นอย่างทรมานใจสู้มากจากสตูล (แกไม่นั่งวีลแชร์แกบอกยังเดินไหว) มีชาวบ้านจากหนองคายรอมาบัสฟรีเพราะมีงบจะใช้จ่ายน้อย มียายจากเชียงรายที่เคยได้รับเสด็จตั้งแต่สมเด็จย่ายายบอกยังไงก็ต้องมาให้ได้ และอีกมากมายบรรยายไม่หมด แต่ทุกคนล้วนมีความรักให้ในหลวง
ระหว่างเดินแถวเข้าไปในรั้ววังเห็นมหาปราสาทอยู่แค่เอิ้อม จนท.ก็ให้นั่งลงท่ามกลางเสียงสวดมนต์ที่เราคุ้นเคย ซักพักใหญ่รถขบวนพระที่นั่งก็เคลื่อนออกมา รถวิ่งช้ามากๆ ช้ามากจนเห็นพระพักตร์องค์สมเด็จพระเทพฯ ทรงโบกพระหัตร์ ทรงแย้มพระศวร เวลานั้นทั้งปลาบปลื้มและตื้นตันไปหมด น้ำตาซึมกันเกือบทุกคน และนี้ล่ะค่ะ คือสิ่งที่แอบคิดเองว่าช่วงเวลาที่มารอแถวจะได้มีบุญได้เห็นพระองค์ ซึ้งก็เป็นความจริง
ตอนที่ได้เดินเข้าไปภายในเพื่อกราบในหลวง สายตาจ้องอยู่แต่ที่พระโกฐ ความเหนื่อยล้า ความอ่อนเพลีย มันหายไปทั้งหมดจริงๆ ใจสั่น สมองตื้อ น้ำตาไหล คิดได้แค่ขอน้อมเสด็จองค์ท่านสู่สวรรคาลัย และจะทำตามสิ่งต่างๆ ที่ท่านได้สอนไว้
เมื่อได้ไปกราบพระบรมศพฯ ณ ท้องสนามหลวง
1.เตรียมร่างกายให้พร้อมที่สุด เพราะระยะทางไกลนั่งรอยืนรอนาน หาอะไรไปปูนั่งก็ได้ เช่น ถุงดำ ลังกระดาษ เห็นมีคุณยายแก่ๆ ถือเก้าอี้พลาสติกเล็กๆ แบบที่เราไว้นั่งซักผ้า ส่วนตัวเองใช้ถุงพลาสติก ตัวเองมารู้อีกวันถัดมาตื่นนอนก้นระบมนิดๆ อาจเพราะ จขกท. น้ำหนักตัวมากและนั่งพื้นนาน
2.สัมภาระน้อยที่สุดก็ดี เพราะยืนๆนั่งๆ จากสัมภาระจะกลายเป็นภาระ มีเป้ก็สะดวกดี หลายคนมาทั้งกระเป๋าลากใบโตๆ กระเป๋าเสื้อผ้าใหญ่ คงมาถึงกันแล้วมุ่งหน้ามาเลย ไม่รู้เวลาขึ้นกราบกระเป๋าของพี่เค้าจะยังไง ส่วนตัวนำกระเป๋าผ้าใบใหญ่ใส่ได้ทุกสิ่ง เป็นกระเป๋าโดเรมอนได้เลย
3.กลางวันแดดร้อนจัด แต่ตลอดทางมีเต้นท์ มีพัดลมเป็นช่วงๆ พื้นสนามตอนนี้ลาดยางแล้วค่ะ มี จนท. คอยดูแลตลอด นำเครื่องฉีดละอองน้ำมาพ่น คลายร้อนได้เหมือนกัน แต่รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นผักโดนยาฆ่าแมลง ช่วงบ่าย 3 แดดส่องด้านข้างๆ เห็น จนท.มาดูพร้อมช่างคงมาติดผ้าใบเพิ่มให้ประชาชน จนท.และอาสาสมัครเดินดูแลประชาชนตลอด มีเด็กนักเรียนมาช่วยทั้งแจกน้ำ แจกอาหาร ดูแล้วเป็นภาพที่ประทับใจในความช่วยเหลือกันมากๆ
4.ชุดที่สวมใส่ขอความสุภาพเพราะถือว่าเป็นการให้เกียรติต่อสถานที่นะคะ สีดำล้วนๆจะดีที่สุด ไม่โป้ ไม่บาง มีแขน แต่งไปให้พร้อม (ถ้ามี) แต่มีให้ยืมนะคะถ้ายอมเสียเวลาไปยืมไปคืนก็โอเค เครื่องแต่งกายมีบูธที่ให้ยืมเสื้อผ้าอยู่โดยรอบคนที่ไม่มีจริงๆไม่ต้องกังวลมากไปนะคะไปยืมได้ ใส่ชุดที่สบายระบายเหงื่อได้ดีจะดีมากกว่า เพราะ จขกท.ไปช่วงกลางวัน มีช่วงท้ายก่อนการได้เข้าไปนั่งรอเก้าอี้บางคนความยาวกระโปรงพอดีเข่าเกินไป จนท.ไม่ให้ผ่านเสียเวลาไปยืมผ้าถุง อันนี้ก็ไม่รู้ว่าแล้วแต่ความเข้มของ จนท.แต่ละท่านด้วยไหม แต่บูธยืมชุดอยู่ในรั้วที่เราต่อแถวค่ะ ไม่ต้องกลัวว่าต้องออกไปตั้งต้นใหม่ มีลุงอยู่คนใส่เชื้ตขาวแขนสั้นสุดท้ายก็ถูกเรียกไปใส่เสื้อดำ
5.รองเท้า ใส่คัทชูได้ใส่มาเลยค่ะ แต่เอาที่สวมสบายเพราะเห็นหลายคนรองเท้ากัด จนท.เดินแจกปลาสเตอร์ มีคนใส่รองเท้าผ้าใบแต่สีดำล้วนๆ ลางคนใส่ส้นสูงสุดท้ายถอดรองเท้าเดินคงเมื่อยเพราะยืนนาน ส่วน จขกท.ใส่รองเท้าแตะแบบหุ้มเท้าเกือบหมดสีดำล้วน แต่หิ้วรองเท้าคัทชูคู่เบาๆเตี้ยๆ มาด้วย
6.น้ำ อาหาร ขนม ผลไม้ ยาดม แอมโมเนีย มีมาแจกตลอด หิวทานไปเลย เพราะรอหลายชั่วโมง ไม่ก็รับขนมเก็บไว้ก่อน มีคนเป็นลมเยอะเหมือนกัน อาจเพราะทานน้อย พักผ่อนน้อย อากาศอบอ้าว ส่วนตัวเองจิบน้ำบ่อยๆ ทานอาหารไปนิดหน่อย
7.ห้องน้ำมีอยู่รอบๆ สะอาดสะอ้านค่ะ เล็งจังหวะว่าใกล้ๆ สลับกะเพื่อนแล้วรีบไปได้ ตัวเองเข้าไปก่อนจะต่อแถวและอีกทีบ่าย 3 เพราะแถวชะงักนานมากคงเพราะมีพิธีประโคมย่ำยามในช่วงบ่าย
8.ตัวเองพกไป ร่มเล็กๆ ถุงพลาสติกรองนั่ง ทิชชูเปียก ลูกอม น้ำเกลือแร่ วิตามินซี ยา บัตรประชาชน ในช่วงท้ายที่ใกล้เข้าวังมีเก้าอี้ให้ทุกคนนั่งยาวเป็นกิโลๆ ทิชชูเปียกคือฮีโร่เลยนะคะ ได้นั่งพักเช็ดเนื้อเช็ดตัว สดชื่นขึ้นหลังจากรอมาหลายชั่วโมง ลูกอมก็ช่วยได้เยอะ
สรุปแล้วรอไป 7 ชม.กว่าๆ 3 ชม.แรกยืนๆนั่งๆในสนามหลวง 2 ชม.ต่อมายืนด้านรอบๆ 1 ชม.ได้นัางเก้าอี้แต่ขยับเรื่อยๆเหมือนกัน และอีกราวครึ่ง ชม.ที่นั่งพื้นในเขตวัง ในกำหนดไม่ได้วันไหน ช่วงไหนจะเยอะจะน้อย ถ้าไม่ติดทำพิธีหรือขบวนเสด็จคาดว่าน่าจะเร็วกว่านี้ แต่ทั้งนี้จากถามคนที่เคยมา ถามจนท. ถามจิตอาสา ถามพี่วินอาสาที่ไปส่ง.....ทุกคนบอกว่าวันนี้คนน้อย!!!!!! แต่ก้อไม่ได้คุยกับคนที่มาเช้าตรูหรือเกือบปิดเวลาอื่นอาจเร็วกว่านี้??
ด้วยความที่คนเยอะมากๆ บางทีแซงคิวกันบ้าง แย่งกันเข้าข้างใน กิริยาไม่สำรวม บลาๆๆๆ ทำใจค่ะ อย่าไปโกรธเลยมันไม่ใช่เวลา ทุกคนมาเพื่อกราบพ่อ คิดอย่างนี้จะปลงและไม่โกรธ
ลองไปมองดูผู้คนรอบๆ จะเพลินกว่า ตั้งแต่เด็ก 6 เดือนยันคนแก่วัย 70 กว่าๆ มาจากทุกภาค ทุกจังหวัด หลากหลายภาษา มีคนที่มาจากนิวยอร์คโดยไม่เคยกลับไทยหลายสิบปี มีลุงจากเมืองกาญฯ ที่มาแล้วเมื่อวานรอไม่ไหว11ชม.เพราะห่วงรถที่เอามาจอดจะหาย วันนี้ลุงกลับมาใหม่ มีฝรั่งตั้งใจมาเที่ยวแต่เปลี่ยนใจมาเดินแจกของและมาขอรอกราบพ่อ มีป้าผ่าตัดขาใส่เหล็กนั่งพื้นอย่างทรมานใจสู้มากจากสตูล (แกไม่นั่งวีลแชร์แกบอกยังเดินไหว) มีชาวบ้านจากหนองคายรอมาบัสฟรีเพราะมีงบจะใช้จ่ายน้อย มียายจากเชียงรายที่เคยได้รับเสด็จตั้งแต่สมเด็จย่ายายบอกยังไงก็ต้องมาให้ได้ และอีกมากมายบรรยายไม่หมด แต่ทุกคนล้วนมีความรักให้ในหลวง
ระหว่างเดินแถวเข้าไปในรั้ววังเห็นมหาปราสาทอยู่แค่เอิ้อม จนท.ก็ให้นั่งลงท่ามกลางเสียงสวดมนต์ที่เราคุ้นเคย ซักพักใหญ่รถขบวนพระที่นั่งก็เคลื่อนออกมา รถวิ่งช้ามากๆ ช้ามากจนเห็นพระพักตร์องค์สมเด็จพระเทพฯ ทรงโบกพระหัตร์ ทรงแย้มพระศวร เวลานั้นทั้งปลาบปลื้มและตื้นตันไปหมด น้ำตาซึมกันเกือบทุกคน และนี้ล่ะค่ะ คือสิ่งที่แอบคิดเองว่าช่วงเวลาที่มารอแถวจะได้มีบุญได้เห็นพระองค์ ซึ้งก็เป็นความจริง
ตอนที่ได้เดินเข้าไปภายในเพื่อกราบในหลวง สายตาจ้องอยู่แต่ที่พระโกฐ ความเหนื่อยล้า ความอ่อนเพลีย มันหายไปทั้งหมดจริงๆ ใจสั่น สมองตื้อ น้ำตาไหล คิดได้แค่ขอน้อมเสด็จองค์ท่านสู่สวรรคาลัย และจะทำตามสิ่งต่างๆ ที่ท่านได้สอนไว้