ตั้งใจไว้ก่อนสอบว่าถ้าคะแนนได้ตามเกณฑ์ที่ตั้งเป้าไว้ ก็จะมาแชร์วิธีวัตถุดิบการเตรียมตัวสอบ
แม้คะแนนเราจะไม่สูงเท่าคนเก่งๆในนี้หลายๆท่าน แต่ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นๆที่คาดหวังคะแนนในระดับเดียวกันค่ะ
กระทู้นี้จะขอแบ่งเป็นสองพาร์ทนะคะ
Part A.วิธีการฝึกฝนด้วยตนเอง รายละเอียดของข้อสอบในแต่ละพาร์ท เวปไซต์และหนังสือที่แนะนำ
Part B.รีวิวการสอบ ข้อสอบจริงที่เจอในแต่ละพาร์ท ขั้นตอนต่างๆตั้งแต่ต้นยันสอบเสร็จ
และสุดท้ายคือคือวัตถุดิบเตรียมสอบที่เราใช้
เราไปสอบมากลางเดือนตุลาคม (ปี2016 แบบAcademic) มีเวลาเตรียมตัวด้วยตัวเองเดือนครึ่ง(ราวๆห้าสัปดาห์)
Overall ได้ 7.5 คะแนนแยกคือ
L 7.5
R 9
W 6.5
S 6.5
เริ่มที่แนวทางข้อสอบกันเลยแล้วกัน
===Listening===
ข้อสอบจะมีสี่section จะได้ฟังทั้งสี่sectionต่อเนื่องกันประมาณครึ่งชั่วโมง ต้องฟังไปจดคำตอบไป
จากนั้นมีเวลาให้สิบนาที เพื่อลอกคำตอบที่จดไว้ลงกระดาษคำตอบของจริง (ใครจะเขียนลงกระดาษคำตอบจริงแต่แรกเลยก็ได้)
หน้าตาข้อสอบ
section 1.บทสนทนาเรื่องทั่วๆไประหว่างคนสองคน เช่น จองโรงแรม ซื้อตั๋ว สมัครงานทางโทรศัพท์
section 2.เป็นเสียงคนๆเดียว อธิบายรายละเอียดของสถานที่ สิ่งของ หรือเอกสารต่างๆ เช่น ตารางเวลาการโชว์ในสวนสัตว์ แผนที่ของสถานที่ท่องเที่ยว โปรแกรมเดินทางรถบัส
section 3.บทสนทนาแนวacademic เช่น นักเรียนสองคนคุยกันเรื่องรายงานที่จะส่ง อาจารย์คุยกับนักเรียนเรื่องการไปทำกิจกรรมนอกสถานที่
section 4.เป็นเสียงคนๆเดียว รายงานข้อมูลแนวacademic เช่น ผลวิจัยของการเก็บข้อมูลน้ำทะเล รูปแบบของธุรกิจในโลกยุคปัจจุบัน พฤติกรรมของสัตว์ป่าในเขตร้อน
ดูจากหัวข้อและตัวอย่างแล้ว โดยปรกติsectionที่ยากที่สุดก็คืออันที่สี่ แต่ก็แล้วแต่คนถนัดนะคะ
อย่างเราเองพลาดอันที่สามบ่อยกว่าสี่ เพราะโจทย์หลอกบ่อย พูดกันไปมาแล้วเปลี่ยนใจ ถ้าสมาธิไม่ดีพอก็จะตกหลุมพรางตอบผิดไป
เวลาทำข้อสอบซ้อมให้สังเกตดูว่าชอบผิดsectionไหน แล้วเน้นฝึกsectionนั้นเป็นพิเศษก็ได้
ข้อควรระวัง
-สมาธิ สำคัญมากที่สุดในพาร์ทนี้ เพราะ
เทปจะเล่นไปไม่มีหยุด เว้นจังหวะให้เตรียมอ่านคำถามล่วงหน้าแค่ไม่กี่วิ
ถ้า
หลุดไปแล้วต้องรีบตัดใจ ตั้งใจฟังต่อทันที อย่ามัวไปคิดถึงข้อที่ผ่านไปแล้ว
-มีเวลาให้เขียนคำตอบต่างหาก ฉะนั้นตอนฟัง ถ้าไม่แน่ใจเรื่องการสะกดคำ สามารถเขียนคำตอบคร่าวๆลงไปบนข้อสอบก่อนได้
ไม่ต้องไปเสียเวลานึก เดี๋ยวจะไม่ทันฟังข้อต่อไป
-การสะกดคำ จำนวนคำ เสียงลงท้าย S ES ED ชื่อเฉพาะต้องใช้ตัวอักษรใหญ่ และ หน้าที่ของคำอย่าง N, Adj, Adv เป็นเรื่องสำคัญ
แม้เราเข้าใจถูก แต่เขียนผิด/เขียนไม่ครบ ก็เท่ากับตอบผิด สามารถป้องกันได้ส่วนหนึ่งด้วยการดูบริบทของโจทย์ที่ให้มา
เช่น เป็นช่องว่างให้เติม แล้วคำข้างหน้าเขียนว่าmany คำในช่องก็น่าจะเป็นplural เป็นต้น
ส่วนเรื่องจำนวนคำ ห้ามเขียนเกินที่สั่ง เช่น ให้เขียนแค่คำเดียว (beach) ดันไปเขียน the beach ก็ผิด
-โจทย์หลอก ให้ฟังให้จบประโยคก่อน ถ้ารีบตอบ ตอนที่เขียนคำตอบอาจจะพลาดฟังส่วนที่ถูกไป
เช่น Aบอกว่าให้ไปหาอาจารย์กันวันที่1เถอะ แต่Bบอกว่าไม่ว่าง ไปกันวันที่2ดีกว่า สุดท้ายAบอกว่างั้นไปกันวันที่3
ข้อสอบที่ใช้ฝึก คือ Cambridge English official IELTS เล่ม 7-11 ลักษณะโจทย์จะเหมือนข้อสอบจริงเลย ความยากก็ใกล้เคียงค่ะ
ถ้าทำหมดแล้วอยากฝึกเพิ่ม สามารถฝึกจาก The Official Cambridge guide to IELTS ได้
(เรื่องของหนังสือที่ใช้,หน้าตาหนังสือ เดี๋ยวจะพูดละเอียดๆถึงอีกทีที่ด้านล่าง)
===Reading===
ข้อสอบจะมีสามsection
ต้องอ่านและเขียนคำตอบทั้งหมดในเวลาหนึ่งชั่วโมง
*ไม่มีเวลาให้เขียนคำตอบเพิ่มแบบพาร์ทฟัง*
บทความทั้งสามอันจะเรียงตามความยาก ถ้าแบ่งเวลา20นาทีเท่ากันหมดจะทำอันสุดท้ายไม่เสร็จ
ฉะนั้นให้แบ่งเวลา 15 20 22 นาทีตามลำดับ สามนาทีสุดท้ายเราใช้ทวนคำตอบและเช็คการสะกดคำ
หน้าตาข้อสอบ ชวนปวดหัวเช่นนี้
รูปแบบของคำถาม
มีมากมายหลายแบบ เวลาไปสอบได้ไม่ครบทุกประเภทแน่นอน แต่ถ้าเป็นไปได้ก็ควรฝึกไปทุกแบบเพื่อความชัวร์
-Multiple choice ถามตรงๆแล้วเลือกช๊อยส์ที่ข้อมูลตรงกับบทความค่ะ
-True False Not given สุดยอดแห่งคำถามดักควาย จะให้ประโยคมา แล้วต้องบอกว่าประโยคนี้ จริง ไม่จริง หรือ ไม่มีข้อมูล
โดยอ้างอิงจากบทความที่อ่านเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับความรู้รอบตัวของเรา
เช่น ในบทความบอกว่า กินอาหารมันๆทำให้เป็นโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด แล้วในโจทย์บอกว่า คนอ้วนมักเป็นโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด
ถ้าคิดต่อไปเองว่าอ้วนเพราะกินของมันๆเลยตอบ True ก็จะผิด เพราะที่ถูกคือ Not given เนื่องจากบทความไม่ได้พูดถึงรูปร่างของคนที่เป็นโรคนี้
-Yes No Not given จะคล้ายๆกับ True False Not given แต่จะเป็นการตีความความเห็นของคนเขียนบทความ ว่าเขาคิดอย่างไร
โดยอ้างอิงจากบทความที่อ่านเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับความรู้รอบตัวของเราเช่นเคย
-จับคู่ประโยค ให้ประโยคมาแล้วไปจับคู่กับตัวเลือก ให้ได้ความหมายออกมาถูกต้องตามบทความ เน้นการรู้จักsynonym
-จับคู่หัวข้อกับแต่ละย่อหน้า จับใจความแต่ละย่อหน้าแล้วเลือกหัวข้อให้ถูกต้อง
-เติมคำในช่องว่าง เติมคำให้ได้ความหมายออกมาถูกต้องตามบทความ เน้นการรู้จักsynonym
-เติมคำในแผนภาพ ทำความเข้าใจกระบวนการในบทความ แล้วเติมคำในภาพให้ถูก
เช่น กระบวนการกรองน้ำโดยใช้แสงอาทิตย์ จะมีช่องว่างให้เติมว่าวัสดุในแต่ละชั้นกรองคืออะไร ก็เอาคำจากบทความมาตอบได้เลย
เพื่อให้คุ้นเคยกับรูปแบบข้อสอบก็ควรจะฝึกทำโดยจับเวลาไปด้วยค่ะ เราแบ่งเวลาในแต่ละบทความตามที่บอก 15 20 22 นาที
ตอนแรกๆก็ทำไม่ค่อยทัน โดยเฉพาะอันที่สอง แต่ฝึกหาวิธีที่เหมาะกับตัวเองจนเจอ ก็จะทำได้เร็วขึ้น
อย่าลืมว่าไม่มีเวลาให้เขียนคำตอบเพิ่มเหมือนพาร์ทฟัง ฉะนั้นซ้อมกับกระดาษคำตอบจริงเลยก็ดี
วิธีทำพาร์ทนี้ที่ลองใช้ มีสองแบบหลักๆ
-อ่านคำถาม แล้วอ่านบทความทั้งหมด ขีดเส้นเมนไอเดียหรือวงส่วนสำคัญไว้ (ชื่อคน ชื่อประเทศ ชื่อเฉพาะ ปี วันที่) เหมาะกับคนอ่านเร็ว
-อ่านคำถามผ่านๆ แล้วอ่านบทความข้ามๆ อ่านแค่ย่อหน้าละสองสามประโยค (เราอ่านสองประโยคแรกกับประโยคสุดท้าย) ให้พอรู้ว่าย่อหน้านี้พูดถึงอะไร
จากนั้นเริ่มทำข้อสอบโดยการอ่านคำถามแล้วกลับไปหาข้อมูลในย่อหน้าที่คิดว่ามีคำตอบ เป็นการหาคำตอบโดยไม่ต้องอ่านทั้งหมด
เราลองซ้อมทำทั้งสองแบบ พบว่าแบบที่สองแล้วเสร็จเร็วกว่า ก็เลยใช้วิธีแบบที่สอง ลองทำกันดูว่าถนัดแบบไหนค่ะ แต่ละคนจะไม่เหมือนกัน
ข้อควรระวัง
-ทำให้ทันและมีเวลาตรวจทาน บริหารเวลาให้ดี ตอนซ้อมเราสังเกตว่าถ้าได้ทวนแล้วแก้ จะถูกเพิ่มขึ้น
ตอนสอบจริงก็ได้ตรวจทานจนมั่นใจก่อนส่ง ช่วยให้มีความมั่นใจในการทำไรติ้งซึ่งเป็นพาร์ทต่อไป 55
-การสะกดคำเช่นเคย รวมไปถึงการตอบ True False Not given สามารถเขียนย่อเป็น T F NG ได้ค่ะ ไม่ต้องเขียนเต็มคำ
แต่ว่าระวังเขียนสลับ True False Not given กับ Yes No Not given นะ เช่นจะตอบ Y ดันไปเขียน T ก็ถือว่าผิด
-พวกข้อสอบประเภทจับคู่คำตอบ อ่านคำสั่งให้ดี บางทีโจทย์อนุญาติให้จับคู่ซ้ำกันได้
-จำนวนคำและการสะกดใช้เกณฑ์เดียวกับพาร์ทฟังเลย
-เขียนผิดแล้วไม่มีเวลาลบก็ขีดฆ่าคำที่ผิดทิ้งเอาได้
ข้อสอบที่ใช้ฝึก คือ Cambridge English official IELTS เล่ม 7-11 เช่นเดิม ส่วนตัวเราทำไม่หมด เลยไม่ได้ลองซ้อมจากเล่มอื่นเพิ่มเติม
ต่อไปเป็นพาร์ทWritingค่ะ
การสอบ IELTS กับ IDP / แชร์ขั้นตอนการเตรียมตัวสอบแต่ละพาร์ท / วัตถุดิบเตรียมสอบ
ตั้งใจไว้ก่อนสอบว่าถ้าคะแนนได้ตามเกณฑ์ที่ตั้งเป้าไว้ ก็จะมาแชร์วิธีวัตถุดิบการเตรียมตัวสอบ
แม้คะแนนเราจะไม่สูงเท่าคนเก่งๆในนี้หลายๆท่าน แต่ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นๆที่คาดหวังคะแนนในระดับเดียวกันค่ะ
กระทู้นี้จะขอแบ่งเป็นสองพาร์ทนะคะ
Part A.วิธีการฝึกฝนด้วยตนเอง รายละเอียดของข้อสอบในแต่ละพาร์ท เวปไซต์และหนังสือที่แนะนำ
Part B.รีวิวการสอบ ข้อสอบจริงที่เจอในแต่ละพาร์ท ขั้นตอนต่างๆตั้งแต่ต้นยันสอบเสร็จ
และสุดท้ายคือคือวัตถุดิบเตรียมสอบที่เราใช้
เราไปสอบมากลางเดือนตุลาคม (ปี2016 แบบAcademic) มีเวลาเตรียมตัวด้วยตัวเองเดือนครึ่ง(ราวๆห้าสัปดาห์)
Overall ได้ 7.5 คะแนนแยกคือ
L 7.5
R 9
W 6.5
S 6.5
เริ่มที่แนวทางข้อสอบกันเลยแล้วกัน
ข้อสอบจะมีสี่section จะได้ฟังทั้งสี่sectionต่อเนื่องกันประมาณครึ่งชั่วโมง ต้องฟังไปจดคำตอบไป
จากนั้นมีเวลาให้สิบนาที เพื่อลอกคำตอบที่จดไว้ลงกระดาษคำตอบของจริง (ใครจะเขียนลงกระดาษคำตอบจริงแต่แรกเลยก็ได้)
หน้าตาข้อสอบ
section 1.บทสนทนาเรื่องทั่วๆไประหว่างคนสองคน เช่น จองโรงแรม ซื้อตั๋ว สมัครงานทางโทรศัพท์
section 2.เป็นเสียงคนๆเดียว อธิบายรายละเอียดของสถานที่ สิ่งของ หรือเอกสารต่างๆ เช่น ตารางเวลาการโชว์ในสวนสัตว์ แผนที่ของสถานที่ท่องเที่ยว โปรแกรมเดินทางรถบัส
section 3.บทสนทนาแนวacademic เช่น นักเรียนสองคนคุยกันเรื่องรายงานที่จะส่ง อาจารย์คุยกับนักเรียนเรื่องการไปทำกิจกรรมนอกสถานที่
section 4.เป็นเสียงคนๆเดียว รายงานข้อมูลแนวacademic เช่น ผลวิจัยของการเก็บข้อมูลน้ำทะเล รูปแบบของธุรกิจในโลกยุคปัจจุบัน พฤติกรรมของสัตว์ป่าในเขตร้อน
ดูจากหัวข้อและตัวอย่างแล้ว โดยปรกติsectionที่ยากที่สุดก็คืออันที่สี่ แต่ก็แล้วแต่คนถนัดนะคะ
อย่างเราเองพลาดอันที่สามบ่อยกว่าสี่ เพราะโจทย์หลอกบ่อย พูดกันไปมาแล้วเปลี่ยนใจ ถ้าสมาธิไม่ดีพอก็จะตกหลุมพรางตอบผิดไป
เวลาทำข้อสอบซ้อมให้สังเกตดูว่าชอบผิดsectionไหน แล้วเน้นฝึกsectionนั้นเป็นพิเศษก็ได้
ข้อควรระวัง
-สมาธิ สำคัญมากที่สุดในพาร์ทนี้ เพราะเทปจะเล่นไปไม่มีหยุด เว้นจังหวะให้เตรียมอ่านคำถามล่วงหน้าแค่ไม่กี่วิ
ถ้าหลุดไปแล้วต้องรีบตัดใจ ตั้งใจฟังต่อทันที อย่ามัวไปคิดถึงข้อที่ผ่านไปแล้ว
-มีเวลาให้เขียนคำตอบต่างหาก ฉะนั้นตอนฟัง ถ้าไม่แน่ใจเรื่องการสะกดคำ สามารถเขียนคำตอบคร่าวๆลงไปบนข้อสอบก่อนได้
ไม่ต้องไปเสียเวลานึก เดี๋ยวจะไม่ทันฟังข้อต่อไป
-การสะกดคำ จำนวนคำ เสียงลงท้าย S ES ED ชื่อเฉพาะต้องใช้ตัวอักษรใหญ่ และ หน้าที่ของคำอย่าง N, Adj, Adv เป็นเรื่องสำคัญ
แม้เราเข้าใจถูก แต่เขียนผิด/เขียนไม่ครบ ก็เท่ากับตอบผิด สามารถป้องกันได้ส่วนหนึ่งด้วยการดูบริบทของโจทย์ที่ให้มา
เช่น เป็นช่องว่างให้เติม แล้วคำข้างหน้าเขียนว่าmany คำในช่องก็น่าจะเป็นplural เป็นต้น
ส่วนเรื่องจำนวนคำ ห้ามเขียนเกินที่สั่ง เช่น ให้เขียนแค่คำเดียว (beach) ดันไปเขียน the beach ก็ผิด
-โจทย์หลอก ให้ฟังให้จบประโยคก่อน ถ้ารีบตอบ ตอนที่เขียนคำตอบอาจจะพลาดฟังส่วนที่ถูกไป
เช่น Aบอกว่าให้ไปหาอาจารย์กันวันที่1เถอะ แต่Bบอกว่าไม่ว่าง ไปกันวันที่2ดีกว่า สุดท้ายAบอกว่างั้นไปกันวันที่3
ข้อสอบที่ใช้ฝึก คือ Cambridge English official IELTS เล่ม 7-11 ลักษณะโจทย์จะเหมือนข้อสอบจริงเลย ความยากก็ใกล้เคียงค่ะ
ถ้าทำหมดแล้วอยากฝึกเพิ่ม สามารถฝึกจาก The Official Cambridge guide to IELTS ได้
(เรื่องของหนังสือที่ใช้,หน้าตาหนังสือ เดี๋ยวจะพูดละเอียดๆถึงอีกทีที่ด้านล่าง)
ข้อสอบจะมีสามsection
ต้องอ่านและเขียนคำตอบทั้งหมดในเวลาหนึ่งชั่วโมง *ไม่มีเวลาให้เขียนคำตอบเพิ่มแบบพาร์ทฟัง*
บทความทั้งสามอันจะเรียงตามความยาก ถ้าแบ่งเวลา20นาทีเท่ากันหมดจะทำอันสุดท้ายไม่เสร็จ
ฉะนั้นให้แบ่งเวลา 15 20 22 นาทีตามลำดับ สามนาทีสุดท้ายเราใช้ทวนคำตอบและเช็คการสะกดคำ
หน้าตาข้อสอบ ชวนปวดหัวเช่นนี้
รูปแบบของคำถาม
มีมากมายหลายแบบ เวลาไปสอบได้ไม่ครบทุกประเภทแน่นอน แต่ถ้าเป็นไปได้ก็ควรฝึกไปทุกแบบเพื่อความชัวร์
-Multiple choice ถามตรงๆแล้วเลือกช๊อยส์ที่ข้อมูลตรงกับบทความค่ะ
-True False Not given สุดยอดแห่งคำถามดักควาย จะให้ประโยคมา แล้วต้องบอกว่าประโยคนี้ จริง ไม่จริง หรือ ไม่มีข้อมูล
โดยอ้างอิงจากบทความที่อ่านเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับความรู้รอบตัวของเรา
เช่น ในบทความบอกว่า กินอาหารมันๆทำให้เป็นโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด แล้วในโจทย์บอกว่า คนอ้วนมักเป็นโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด
ถ้าคิดต่อไปเองว่าอ้วนเพราะกินของมันๆเลยตอบ True ก็จะผิด เพราะที่ถูกคือ Not given เนื่องจากบทความไม่ได้พูดถึงรูปร่างของคนที่เป็นโรคนี้
-Yes No Not given จะคล้ายๆกับ True False Not given แต่จะเป็นการตีความความเห็นของคนเขียนบทความ ว่าเขาคิดอย่างไร
โดยอ้างอิงจากบทความที่อ่านเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับความรู้รอบตัวของเราเช่นเคย
-จับคู่ประโยค ให้ประโยคมาแล้วไปจับคู่กับตัวเลือก ให้ได้ความหมายออกมาถูกต้องตามบทความ เน้นการรู้จักsynonym
-จับคู่หัวข้อกับแต่ละย่อหน้า จับใจความแต่ละย่อหน้าแล้วเลือกหัวข้อให้ถูกต้อง
-เติมคำในช่องว่าง เติมคำให้ได้ความหมายออกมาถูกต้องตามบทความ เน้นการรู้จักsynonym
-เติมคำในแผนภาพ ทำความเข้าใจกระบวนการในบทความ แล้วเติมคำในภาพให้ถูก
เช่น กระบวนการกรองน้ำโดยใช้แสงอาทิตย์ จะมีช่องว่างให้เติมว่าวัสดุในแต่ละชั้นกรองคืออะไร ก็เอาคำจากบทความมาตอบได้เลย
เพื่อให้คุ้นเคยกับรูปแบบข้อสอบก็ควรจะฝึกทำโดยจับเวลาไปด้วยค่ะ เราแบ่งเวลาในแต่ละบทความตามที่บอก 15 20 22 นาที
ตอนแรกๆก็ทำไม่ค่อยทัน โดยเฉพาะอันที่สอง แต่ฝึกหาวิธีที่เหมาะกับตัวเองจนเจอ ก็จะทำได้เร็วขึ้น
อย่าลืมว่าไม่มีเวลาให้เขียนคำตอบเพิ่มเหมือนพาร์ทฟัง ฉะนั้นซ้อมกับกระดาษคำตอบจริงเลยก็ดี
วิธีทำพาร์ทนี้ที่ลองใช้ มีสองแบบหลักๆ
-อ่านคำถาม แล้วอ่านบทความทั้งหมด ขีดเส้นเมนไอเดียหรือวงส่วนสำคัญไว้ (ชื่อคน ชื่อประเทศ ชื่อเฉพาะ ปี วันที่) เหมาะกับคนอ่านเร็ว
-อ่านคำถามผ่านๆ แล้วอ่านบทความข้ามๆ อ่านแค่ย่อหน้าละสองสามประโยค (เราอ่านสองประโยคแรกกับประโยคสุดท้าย) ให้พอรู้ว่าย่อหน้านี้พูดถึงอะไร
จากนั้นเริ่มทำข้อสอบโดยการอ่านคำถามแล้วกลับไปหาข้อมูลในย่อหน้าที่คิดว่ามีคำตอบ เป็นการหาคำตอบโดยไม่ต้องอ่านทั้งหมด
เราลองซ้อมทำทั้งสองแบบ พบว่าแบบที่สองแล้วเสร็จเร็วกว่า ก็เลยใช้วิธีแบบที่สอง ลองทำกันดูว่าถนัดแบบไหนค่ะ แต่ละคนจะไม่เหมือนกัน
ข้อควรระวัง
-ทำให้ทันและมีเวลาตรวจทาน บริหารเวลาให้ดี ตอนซ้อมเราสังเกตว่าถ้าได้ทวนแล้วแก้ จะถูกเพิ่มขึ้น
ตอนสอบจริงก็ได้ตรวจทานจนมั่นใจก่อนส่ง ช่วยให้มีความมั่นใจในการทำไรติ้งซึ่งเป็นพาร์ทต่อไป 55
-การสะกดคำเช่นเคย รวมไปถึงการตอบ True False Not given สามารถเขียนย่อเป็น T F NG ได้ค่ะ ไม่ต้องเขียนเต็มคำ
แต่ว่าระวังเขียนสลับ True False Not given กับ Yes No Not given นะ เช่นจะตอบ Y ดันไปเขียน T ก็ถือว่าผิด
-พวกข้อสอบประเภทจับคู่คำตอบ อ่านคำสั่งให้ดี บางทีโจทย์อนุญาติให้จับคู่ซ้ำกันได้
-จำนวนคำและการสะกดใช้เกณฑ์เดียวกับพาร์ทฟังเลย
-เขียนผิดแล้วไม่มีเวลาลบก็ขีดฆ่าคำที่ผิดทิ้งเอาได้
ข้อสอบที่ใช้ฝึก คือ Cambridge English official IELTS เล่ม 7-11 เช่นเดิม ส่วนตัวเราทำไม่หมด เลยไม่ได้ลองซ้อมจากเล่มอื่นเพิ่มเติม
ต่อไปเป็นพาร์ทWritingค่ะ