กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเส้นทางเชื่อมโยงจากบ้านฮวก กิ่วหก ไปยัง สปป.ลาว
ระหว่างวันที่ 2-5 พฤศจิกายน พ.ศ.2559
ในวันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ.2559 พิธีเปิดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเส้นทางการท่องเที่ยวเชื่อมโยงจากบ้านฮวก-กิ่วหกไปยัง-สปป.ลาว ณ ข่วงวัฒนธรรม เทศบาลเมืองพะเยา โดยมีนายวีรวุฒิ ต๊ะปินตา ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดพะเยา เป็นประธานเปิด
เส้นทางการท่องเที่ยว ขาไปวันที่ 1 พะเยา-ภูซาง-ปากคอบ ทางเรือ ปากคอบ-ปากแบ่ง-หลวงพระบาง โดยพักค้างคืนที่หลวงพระบาง 2 คืน ขากลับวันที่ 3 ทางบก หลวงพระบาง-อุดมไชย โดยพักค้างคืนที่อุดมไชย 1 คืน ขากลับวันที่ 4 ทางบก อุดมไชย-ภูซาง-พะเยา รวมระยะเวลา 4 วัน 3 คืน
มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 35 คน ประกอบด้วยผู้แทนภาครัฐ ภาคเอกชน ชุมชน ผู้ประกอบการท่องเที่ยว และสื่อมวลชน
วัตุประสงค์เพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวข้ามแดนไทย-ลาว เชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยวของประเทศไทยกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ชุมชน ผู้ประกอบการ สื่อมวลชนที่เกี่ยวข้อง
แผนที่เส้นทางการเดินทาง

พิธีเปิด ณ ข่วงวัฒนธรรม เทศบาลเมืองพะเยา

เส้นทางการท่องเที่ยว ขาไปวันที่ 1 พะเยา-ภูซาง-ปากคอบ ทางเรือ ปากคอบ-ปากแบ่ง-หลวงพระบาง โดยพักค้างคืนที่หลวงพระบาง 2 คืน

บรรยากาศการล่องเรือเพื่อเดินทางสู่หลวงพระบาง
วันที่2 ตักบาตรข้าวเหนียวหลวงพระบาง -ตลาดเช้าหลวงพระบาง- พระธาตุจอมภูสี -พระราชวังหลวงพระบาง -วัดเชียงทอง-น้ำตกกวางสี-บ้านม้ง-พิธีบายศรี - พบปะพบปะผู้แทนภาครัฐบาลและ/หรือภาคธุรกิจท่องเที่ยวของเมืองหลวงพระบาง
ตักบาตรข้าวเหนียวหลวงพระบางทุกๆวันและทุกๆเช้า วิถีชีวิตของชาวหลวงพระบางคือการได้ทำบุญตักบาตรยามเช้าซึ่งจะมีพระ สามเณรนับร้อยรูป การตักบาตรของที่หลวงพระบาง ชาวบ้านจะใช้ข้าวเหนียวอย่างเดียว ส่วนกับข้าวชาวบ้านจะเอาไปถวายพระที่วัด

จากนั้นนำทุกท่านเดินสู่ตลาดเช้า จากที่ตักบาตรข้าวเหนียวใช้เวลา 5 นาที
ตลาดเช้าหลวงพระบาง (Luang Prabang morning market) หมายถึงตลาดที่ขายช่วงเช้าๆ ตลาดจะเริ่มตั้งแต่ตีห้าครึ่ง เรียกว่าเกือบสว่างดีก็ตั้งของขายกันเสร็จหมดแล้ว ตลาดเช้าของหลาวพระบางจะเน้นของของสด กบ เขียด ปลา เป็นๆ โดยเฉพาะผักต่างๆ ขายกันจำนวนมาก สังคมของหลวงพระบางเมืองมรดกโลกเมืองเล็กๆ ไม่มีห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ ผู้คนจึงต้องออกมาซื้อของสดไปกินวันต่อวัน นอกจากได้กินของสดๆ ทั้งผักปลาแล้ว ยังเป็นการอนุรักษ์ตลาดสดให้มีต่อไป ไม่ให้มันหายไปพร้อมกับห้างใหญ่ๆ ที่เปิดตามต่างจังหวัดในบ้านเรา
(ข้อมูล :
http://www.hotsia.com/Laos/Luang-Prabang/morning-market/)

พระธาตุจอมภูสี จุดสังเกตุง่ายๆของพระธาตุจอมภูสีนั้น คือ ถนนคนเดินกลางคืน พระธาตุจะอยู่เส้นถนนคนเดินหาไม่ยาก
ความหมายของคำว่า "พูสี" กันบ้าง ว่ามีความหมายอย่างไร คำว่า "พูสี" หมายถึง ภูเขาของพระฤาษี เดิมเขาลูกนี้ชื่อว่า "ภูสรวง" ต่อาก็มีฤาษีมาอาศัยอยู่บนเขาลูกนี้ ชาวบ้านจึงเรียกว่า "ภูฤาษี" หรือภูษี มาจนถึงปัจจุบัน แต่ยังมีนักโบราณคดีบางคนเชื่อว่า "ภูษี" อาจหมายถึง "พูสี" ซึ่งเป็นศรีของเมืองหลวงพระบาง
ส่วนพระธาตุจอมสี นั้นสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอนุรุท ประมาณ พ.ศ.2337 ตัวองค์พระธาตุจอมสี มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมเป็นทรงดอกบัวสี่เหลี่ยมทาสีทอง ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมยอดประดับด้วยเศวตฉัตรทองสำริด 7 ชั้น สูงประมาณ 21 เมตร ตั้งอยู่บนยอดเขาจุดสูงสุดของเมืองหลวงพระบาง
พระธาตุจอมสี มิได้เป็นสิ่งก่อสร้างแห่งเดียวบนยอดภูษี ยังมีสิ่งก่อสร้างทางพระพุทธศาสนาอีกหลายแห่งเช่น วัดถ้ำพูสี วัดป่าแค วัดศรีพุทธบาท วัดป่ารวก
(ข้อมูล :
http://luangprabang.sadoodta.com/)

จากพระธาตุภูสี เราขึ้นฝั่งแม่น้ำคาน แล้วมาลงฝั่งถนนคนเดิน จะพบกับพระราชวังหลวงพระบาง ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับทางขึ้นพระธาตุฝั่งถนนคนเดิน พระราชวังหลวงพระบาง เป็นการสร้างขึ้นมาใหม่โดยใช้สถานที่เดิม ออกแบบโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส เป็นสถาปัตยกรรมแบบฝรั่งเศส แต่เป็นการผสมผสานระหว่างฝรั่งเศสและลาว ซึ่งจะหันหน้าเข้าหาพระธาตุพูสีและถนนหน้าพระราชวังในตอนกลางคืนก็จะมีสินค้ามาวางขายมากมาย พระราชวังหลวงพระบางออกแบบโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส ลักษณะอาคารเป็นชั้นเดี่ยวยกพื้นสูงสถาปัตยกรรมแบบฝรั่งเศสแต่เป็นการผสมผสานระหว่างฝรั่งเศสและลาวด้านนอกอาคารเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์และเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ประทับอยู่ที่นี่จนสิ้นพระชนม์ต่อมาเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี พ.ศ.2518 พระราชวังหลวงพระบางได้ถูกเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์
(ข้อมูล :www.oceansmile.com)

จากพระราชวังหลวงพระบางใช้เวลา 5 นาที เดินทางสู่วัดเชียงทอง
ไฮไลท์ของการมาเยือนเมืองหลวงพระบางคงหนีไม่พ้นการได้มาเที่ยวชม "วัดเชียงทอง" ซึ่งเป็นวัดที่สำคัญและมีความงดงามที่สุดแห่งนี้ จนได้รับการยกย่องจากนักโบราณคดีว่าเป็นดั่งอัญมณีแห่งสถาปัตยกรรมลาว วัดเชียงทองถูกสร้างขึ้นในรัชสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช หลังจากสร้างวัดนี้ไม่นานพระองค์ก็ทรงย้ายเมืองหลวงไปยังนครเวียงจันทน์ และวัดนี้ยังได้รับการอุปถัมภ์ดูแลจากเจ้ามหาชีวิตสว่างวงศ์และเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวัฒนา

หลังจากที่เราเที่ยวในตัวเมืองหลวงพระบางพอสมวร จากนั้นได้นำทุกท่านเดินทางสู่ น้ำตกตาดกวางสี จากตัวเมืองหลวงพระบางเดินทางสู่ น้ำตก ใช้เวลา 45 นาที ที่ตั้ง: อยู่ห่างจากตัวเมืองหลวงพระบางไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 32 กิโลเมตร เมื่อถึงลานจอดรถต้องเดินเท้าขึ้นไปอีกประมาณ 300 เมตรจะถึงตัวน้ำตก
การเดินทาง: สามารถเหมารถ 3 ล้อหรือ 4 ล้อจากในตัวเมืองหลวงพระบาง หรือถ้าอยากสะดวกสบายไปกว่านั้นก็สามารถเช่ารถตู้ปรับอากาศ ซึ่งมีทั้งแบบเช่าเหมาคันหรือหากเดินทางมากันน้อยคนก็สามารถซื้อตั๋วโดยสารรถตู้ จากตัวแทนบริษัทท่องเที่ยวได้ทุกแห่ง ซึ่งก็จะต้องไปแชร์กับผู้ร่วมทางคนอื่นๆ ที่มีจุดหมายเดียวกัน
ตลอดเส้นทางเป็นถนนลาดยาง สามารถชมวิวทิวทัศน์ หมู่บ้านชนบทต่างๆ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที น้ำตกตาดกวางซี เป็นน้ำตกหินปูนขนาดใหญ่สูงราว 70 เมตร มีสายน้ำไหลอาบมาตามหน้าผาผ่านโขดหินน้อยใหญ่ รูปทรงแปลกตาลงสู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง มีน้ำตลอดปีแต่ในฤดูร้อนน้ำค่อนข้างน้อย สภาพป่ามีความร่มรื่น ด้านล่างมีสะพานและเส้นทางเดินชมรอบๆ น้ำตกและที่นั่งให้ชมวิวทิวทัศน์ รวมทั้งมีห้องสำหรับเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวสำหรับท่านที่ต้องการลงเล่นน้ำตกอีกด้วย แต่หากต้องการความเงียบสงบและเป็นส่วนตัวสามารถเดินลัดเลาะขึ้นไปยังน้ำตกชั้นบน เมื่อดื่มด่ำกับธรรมชาติและความสวยงามของตัวน้ำตกแล้ว บริเวณลานจอดรถด้านล่างมีร้านอาหารตามสั่งหลากหลายร้านไว้คอยบริการ (ข้อมูล :
http://www.louangprabang.net)

ตามเส้นทางสู่น้ำตกกวางสี จะได้พบกับวุถีชีวิตอันแท้จริงของบรรดาชนเผ่าในลาว โดยเฉพาะหมู่บ้านลาวเทิง เช่น หมู่บ้านท่าแป้น บ้านตาด บ้านอู้

จากนั้นนำท่านพบปะผู้แทนภาครัฐบาลและ/หรือภาคธุรกิจท่องเที่ยวของเมืองหลวงพระบาง
พร้อมชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมวรรณคดีล้านช้างตามแบบชนเผ่าหลวงพระบาง และงานบายศรีสู่ขวัญ เป็นการต้อนรับแขกที่มาเยี่ยมเยือน
วันที่3 อุดมไชย - น้ำตกตาดน้ำกัด - พบปะผู้แทนภาครัฐบาลและ/หรือภาคธุรกิจท่องเที่ยวของเมืองอุดมไชย
เดินทางสู่เมืองอุดมไชย ระยะทาง 207 กิโลเมตร

เดินทางสู่ ตาดน้ำกัด น้ำตกตาดน้ำกัด แขวงอุดมไชย เป็นแหล่งท่องเที่ยวหนึ่งที่ได้รับการพัฒนา หนึ่งที่รับการคุ้มครอง การท่องเที่ยวอย่างเป็นระบบซึ่งจะมีการปรับปรุงกำหนดเขตลิขสิทธิ์เขตพื้นที่อนุรักษ์ทั้งสร้างสิ่งอำนวย ความสะดวกและสิ่งบางส่วนให้เหมาะโดยรักษาสิ่งแวดล้อมของตาดน้ำกัดให้เหมือน เดิม น้ำตกตากน้ำกัดเป็นน้ำตกที่มีความสวยงามอีกแห่งหนึ่งแห่งแขวงอุดมชัย ซึ่งห่างจากเทศบาลแขวงประมาณ 20 กิโลเมตร อยู่เขตบ้านกัดและบ้านแฟนเมืองไซนอน อยู่ในเขตอนุรักษ์หัวน้ำกัด มีเนื้อที่กว่า 20 พัน เฮกตาร์ ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวจำนวนมากมาย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งนี้เพราะ สถานที่ดังกล่าวยังมีธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ที่สวยงาม กลมกลืนกับน้ำตกตาดที่โอบล้อมธรรมชาติ ป่าไม้นับร้อยปี จึงทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ นิยมชมชอบในการที่ได้มาเที่ยวน้ำตกตากน้ำกัดแห่งนี้ให้ได้ นับแต่นี้แขวงอุดมชัยจะทำการพัฒนาน้ำตกให้เป็น สถานที่เที่ยว 1 ในสามของแขวงอุดมชัย โดยทำเป็นแบบอนุรักษ์ โดยประสานสมทบกับภาคเอกชนและประชาชนในท้องถิ่น การพัฒนาน้ำตกตาดน้ำกัด จะเป็นการอนุรักษ์แอ่งน้ำ ให้สมบูรณ์ ซึ่งเป็นแหล่งทรัพยากรณ์อันต้นตอของการพัฒนา อันเป็นการสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนในท้องถิ่น และสร้างให้ประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมอนุรักษ์สถานที่ท่องเที่ยวและให้มีความ ยืนยงด้วยการโฆษณาให้เป็นแหล่งการท่องเที่ยวในอนาคต(ข้อมูล : www.tourluangprabang.com)
โครงการพัฒนาเชื่อมโยงด้านการท่องเที่ยวข้ามแดนไทย-ลาว
ระหว่างวันที่ 2-5 พฤศจิกายน พ.ศ.2559
ในวันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ.2559 พิธีเปิดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเส้นทางการท่องเที่ยวเชื่อมโยงจากบ้านฮวก-กิ่วหกไปยัง-สปป.ลาว ณ ข่วงวัฒนธรรม เทศบาลเมืองพะเยา โดยมีนายวีรวุฒิ ต๊ะปินตา ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดพะเยา เป็นประธานเปิด
เส้นทางการท่องเที่ยว ขาไปวันที่ 1 พะเยา-ภูซาง-ปากคอบ ทางเรือ ปากคอบ-ปากแบ่ง-หลวงพระบาง โดยพักค้างคืนที่หลวงพระบาง 2 คืน ขากลับวันที่ 3 ทางบก หลวงพระบาง-อุดมไชย โดยพักค้างคืนที่อุดมไชย 1 คืน ขากลับวันที่ 4 ทางบก อุดมไชย-ภูซาง-พะเยา รวมระยะเวลา 4 วัน 3 คืน
มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 35 คน ประกอบด้วยผู้แทนภาครัฐ ภาคเอกชน ชุมชน ผู้ประกอบการท่องเที่ยว และสื่อมวลชน
วัตุประสงค์เพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวข้ามแดนไทย-ลาว เชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยวของประเทศไทยกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ชุมชน ผู้ประกอบการ สื่อมวลชนที่เกี่ยวข้อง
แผนที่เส้นทางการเดินทาง
พิธีเปิด ณ ข่วงวัฒนธรรม เทศบาลเมืองพะเยา
เส้นทางการท่องเที่ยว ขาไปวันที่ 1 พะเยา-ภูซาง-ปากคอบ ทางเรือ ปากคอบ-ปากแบ่ง-หลวงพระบาง โดยพักค้างคืนที่หลวงพระบาง 2 คืน
บรรยากาศการล่องเรือเพื่อเดินทางสู่หลวงพระบาง
วันที่2 ตักบาตรข้าวเหนียวหลวงพระบาง -ตลาดเช้าหลวงพระบาง- พระธาตุจอมภูสี -พระราชวังหลวงพระบาง -วัดเชียงทอง-น้ำตกกวางสี-บ้านม้ง-พิธีบายศรี - พบปะพบปะผู้แทนภาครัฐบาลและ/หรือภาคธุรกิจท่องเที่ยวของเมืองหลวงพระบาง
ตักบาตรข้าวเหนียวหลวงพระบางทุกๆวันและทุกๆเช้า วิถีชีวิตของชาวหลวงพระบางคือการได้ทำบุญตักบาตรยามเช้าซึ่งจะมีพระ สามเณรนับร้อยรูป การตักบาตรของที่หลวงพระบาง ชาวบ้านจะใช้ข้าวเหนียวอย่างเดียว ส่วนกับข้าวชาวบ้านจะเอาไปถวายพระที่วัด
จากนั้นนำทุกท่านเดินสู่ตลาดเช้า จากที่ตักบาตรข้าวเหนียวใช้เวลา 5 นาที
ตลาดเช้าหลวงพระบาง (Luang Prabang morning market) หมายถึงตลาดที่ขายช่วงเช้าๆ ตลาดจะเริ่มตั้งแต่ตีห้าครึ่ง เรียกว่าเกือบสว่างดีก็ตั้งของขายกันเสร็จหมดแล้ว ตลาดเช้าของหลาวพระบางจะเน้นของของสด กบ เขียด ปลา เป็นๆ โดยเฉพาะผักต่างๆ ขายกันจำนวนมาก สังคมของหลวงพระบางเมืองมรดกโลกเมืองเล็กๆ ไม่มีห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ ผู้คนจึงต้องออกมาซื้อของสดไปกินวันต่อวัน นอกจากได้กินของสดๆ ทั้งผักปลาแล้ว ยังเป็นการอนุรักษ์ตลาดสดให้มีต่อไป ไม่ให้มันหายไปพร้อมกับห้างใหญ่ๆ ที่เปิดตามต่างจังหวัดในบ้านเรา
(ข้อมูล :http://www.hotsia.com/Laos/Luang-Prabang/morning-market/)
พระธาตุจอมภูสี จุดสังเกตุง่ายๆของพระธาตุจอมภูสีนั้น คือ ถนนคนเดินกลางคืน พระธาตุจะอยู่เส้นถนนคนเดินหาไม่ยาก
ความหมายของคำว่า "พูสี" กันบ้าง ว่ามีความหมายอย่างไร คำว่า "พูสี" หมายถึง ภูเขาของพระฤาษี เดิมเขาลูกนี้ชื่อว่า "ภูสรวง" ต่อาก็มีฤาษีมาอาศัยอยู่บนเขาลูกนี้ ชาวบ้านจึงเรียกว่า "ภูฤาษี" หรือภูษี มาจนถึงปัจจุบัน แต่ยังมีนักโบราณคดีบางคนเชื่อว่า "ภูษี" อาจหมายถึง "พูสี" ซึ่งเป็นศรีของเมืองหลวงพระบาง
ส่วนพระธาตุจอมสี นั้นสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอนุรุท ประมาณ พ.ศ.2337 ตัวองค์พระธาตุจอมสี มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมเป็นทรงดอกบัวสี่เหลี่ยมทาสีทอง ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมยอดประดับด้วยเศวตฉัตรทองสำริด 7 ชั้น สูงประมาณ 21 เมตร ตั้งอยู่บนยอดเขาจุดสูงสุดของเมืองหลวงพระบาง
พระธาตุจอมสี มิได้เป็นสิ่งก่อสร้างแห่งเดียวบนยอดภูษี ยังมีสิ่งก่อสร้างทางพระพุทธศาสนาอีกหลายแห่งเช่น วัดถ้ำพูสี วัดป่าแค วัดศรีพุทธบาท วัดป่ารวก
(ข้อมูล : http://luangprabang.sadoodta.com/)
จากพระธาตุภูสี เราขึ้นฝั่งแม่น้ำคาน แล้วมาลงฝั่งถนนคนเดิน จะพบกับพระราชวังหลวงพระบาง ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับทางขึ้นพระธาตุฝั่งถนนคนเดิน พระราชวังหลวงพระบาง เป็นการสร้างขึ้นมาใหม่โดยใช้สถานที่เดิม ออกแบบโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส เป็นสถาปัตยกรรมแบบฝรั่งเศส แต่เป็นการผสมผสานระหว่างฝรั่งเศสและลาว ซึ่งจะหันหน้าเข้าหาพระธาตุพูสีและถนนหน้าพระราชวังในตอนกลางคืนก็จะมีสินค้ามาวางขายมากมาย พระราชวังหลวงพระบางออกแบบโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส ลักษณะอาคารเป็นชั้นเดี่ยวยกพื้นสูงสถาปัตยกรรมแบบฝรั่งเศสแต่เป็นการผสมผสานระหว่างฝรั่งเศสและลาวด้านนอกอาคารเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์และเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ประทับอยู่ที่นี่จนสิ้นพระชนม์ต่อมาเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี พ.ศ.2518 พระราชวังหลวงพระบางได้ถูกเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์
(ข้อมูล :www.oceansmile.com)
จากพระราชวังหลวงพระบางใช้เวลา 5 นาที เดินทางสู่วัดเชียงทอง
ไฮไลท์ของการมาเยือนเมืองหลวงพระบางคงหนีไม่พ้นการได้มาเที่ยวชม "วัดเชียงทอง" ซึ่งเป็นวัดที่สำคัญและมีความงดงามที่สุดแห่งนี้ จนได้รับการยกย่องจากนักโบราณคดีว่าเป็นดั่งอัญมณีแห่งสถาปัตยกรรมลาว วัดเชียงทองถูกสร้างขึ้นในรัชสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช หลังจากสร้างวัดนี้ไม่นานพระองค์ก็ทรงย้ายเมืองหลวงไปยังนครเวียงจันทน์ และวัดนี้ยังได้รับการอุปถัมภ์ดูแลจากเจ้ามหาชีวิตสว่างวงศ์และเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวัฒนา
หลังจากที่เราเที่ยวในตัวเมืองหลวงพระบางพอสมวร จากนั้นได้นำทุกท่านเดินทางสู่ น้ำตกตาดกวางสี จากตัวเมืองหลวงพระบางเดินทางสู่ น้ำตก ใช้เวลา 45 นาที ที่ตั้ง: อยู่ห่างจากตัวเมืองหลวงพระบางไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 32 กิโลเมตร เมื่อถึงลานจอดรถต้องเดินเท้าขึ้นไปอีกประมาณ 300 เมตรจะถึงตัวน้ำตก
การเดินทาง: สามารถเหมารถ 3 ล้อหรือ 4 ล้อจากในตัวเมืองหลวงพระบาง หรือถ้าอยากสะดวกสบายไปกว่านั้นก็สามารถเช่ารถตู้ปรับอากาศ ซึ่งมีทั้งแบบเช่าเหมาคันหรือหากเดินทางมากันน้อยคนก็สามารถซื้อตั๋วโดยสารรถตู้ จากตัวแทนบริษัทท่องเที่ยวได้ทุกแห่ง ซึ่งก็จะต้องไปแชร์กับผู้ร่วมทางคนอื่นๆ ที่มีจุดหมายเดียวกัน
ตลอดเส้นทางเป็นถนนลาดยาง สามารถชมวิวทิวทัศน์ หมู่บ้านชนบทต่างๆ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที น้ำตกตาดกวางซี เป็นน้ำตกหินปูนขนาดใหญ่สูงราว 70 เมตร มีสายน้ำไหลอาบมาตามหน้าผาผ่านโขดหินน้อยใหญ่ รูปทรงแปลกตาลงสู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง มีน้ำตลอดปีแต่ในฤดูร้อนน้ำค่อนข้างน้อย สภาพป่ามีความร่มรื่น ด้านล่างมีสะพานและเส้นทางเดินชมรอบๆ น้ำตกและที่นั่งให้ชมวิวทิวทัศน์ รวมทั้งมีห้องสำหรับเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวสำหรับท่านที่ต้องการลงเล่นน้ำตกอีกด้วย แต่หากต้องการความเงียบสงบและเป็นส่วนตัวสามารถเดินลัดเลาะขึ้นไปยังน้ำตกชั้นบน เมื่อดื่มด่ำกับธรรมชาติและความสวยงามของตัวน้ำตกแล้ว บริเวณลานจอดรถด้านล่างมีร้านอาหารตามสั่งหลากหลายร้านไว้คอยบริการ (ข้อมูล :http://www.louangprabang.net)
ตามเส้นทางสู่น้ำตกกวางสี จะได้พบกับวุถีชีวิตอันแท้จริงของบรรดาชนเผ่าในลาว โดยเฉพาะหมู่บ้านลาวเทิง เช่น หมู่บ้านท่าแป้น บ้านตาด บ้านอู้
จากนั้นนำท่านพบปะผู้แทนภาครัฐบาลและ/หรือภาคธุรกิจท่องเที่ยวของเมืองหลวงพระบาง
พร้อมชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมวรรณคดีล้านช้างตามแบบชนเผ่าหลวงพระบาง และงานบายศรีสู่ขวัญ เป็นการต้อนรับแขกที่มาเยี่ยมเยือน
วันที่3 อุดมไชย - น้ำตกตาดน้ำกัด - พบปะผู้แทนภาครัฐบาลและ/หรือภาคธุรกิจท่องเที่ยวของเมืองอุดมไชย
เดินทางสู่เมืองอุดมไชย ระยะทาง 207 กิโลเมตร
เดินทางสู่ ตาดน้ำกัด น้ำตกตาดน้ำกัด แขวงอุดมไชย เป็นแหล่งท่องเที่ยวหนึ่งที่ได้รับการพัฒนา หนึ่งที่รับการคุ้มครอง การท่องเที่ยวอย่างเป็นระบบซึ่งจะมีการปรับปรุงกำหนดเขตลิขสิทธิ์เขตพื้นที่อนุรักษ์ทั้งสร้างสิ่งอำนวย ความสะดวกและสิ่งบางส่วนให้เหมาะโดยรักษาสิ่งแวดล้อมของตาดน้ำกัดให้เหมือน เดิม น้ำตกตากน้ำกัดเป็นน้ำตกที่มีความสวยงามอีกแห่งหนึ่งแห่งแขวงอุดมชัย ซึ่งห่างจากเทศบาลแขวงประมาณ 20 กิโลเมตร อยู่เขตบ้านกัดและบ้านแฟนเมืองไซนอน อยู่ในเขตอนุรักษ์หัวน้ำกัด มีเนื้อที่กว่า 20 พัน เฮกตาร์ ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวจำนวนมากมาย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งนี้เพราะ สถานที่ดังกล่าวยังมีธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ที่สวยงาม กลมกลืนกับน้ำตกตาดที่โอบล้อมธรรมชาติ ป่าไม้นับร้อยปี จึงทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ นิยมชมชอบในการที่ได้มาเที่ยวน้ำตกตากน้ำกัดแห่งนี้ให้ได้ นับแต่นี้แขวงอุดมชัยจะทำการพัฒนาน้ำตกให้เป็น สถานที่เที่ยว 1 ในสามของแขวงอุดมชัย โดยทำเป็นแบบอนุรักษ์ โดยประสานสมทบกับภาคเอกชนและประชาชนในท้องถิ่น การพัฒนาน้ำตกตาดน้ำกัด จะเป็นการอนุรักษ์แอ่งน้ำ ให้สมบูรณ์ ซึ่งเป็นแหล่งทรัพยากรณ์อันต้นตอของการพัฒนา อันเป็นการสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนในท้องถิ่น และสร้างให้ประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมอนุรักษ์สถานที่ท่องเที่ยวและให้มีความ ยืนยงด้วยการโฆษณาให้เป็นแหล่งการท่องเที่ยวในอนาคต(ข้อมูล : www.tourluangprabang.com)