[CR] คนเดียว ก็ไปเที่ยวกาญได้ 2 วัน 1 คืน @Mida resort Kanchanaburi



ฮัลโหลวววว ชาวบลูแพลนเน็ต มารีวิวเที่ยวอีกแล้วจ้าา ครั้งนี้เราจะพาไปเที่ยวกาญจนบุรีนะจ๊ะ เชื่อว่าหลายคนเคยไปเที่ยวจังหวัดนี้มาแล้ว แต่ครั้งนี้เราจะไปเที่ยวฉบับ No Friends ลุยเดี่ยวกันไปเล้ยยย เที่ยวกาญครั้งนี้ จขกท.ไป 2 วัน 1 คืน ค่ะ และอย่างที่บอกค่ะว่าครั้งนี้จขกท.พักที่ไมด้า รีสอร์ทกาญจนบุรี เนื่องจากเห็นกระทู้รีวิวมาเยอะมากกกกก เห็นแล้วอดใจไม่ไหวเลยต้องจัดสักหน่อย5555 แล้วมาดูกันว่าเที่ยวเมืองกาญคนเดียวแค่ 2 วัน ไปทำอะไรบ้าง Let's go!
ปล.รูปทั้งหมดไม่ได้ผ่านการแต่งใดๆ ดังนั้นภาพโคตรเรียล แดดคือแดดจ้าาา

- 15 Nov 2016 -
ครั้งนี้ จขกท.เดินทางด้วยรถไฟทั้งขาไปและขากลับเลยจ้า รถไฟฟรีด้วยนะ อิอิ ขอเริ่มต้นการเดินทางจากกรุงเทพ-กาญจนบุรีนะคะ ไปกาญครั้งนี้จขกท.วางแผนไว้ว่าวันแรกจะไปลงที่ถ้ำกระแซเพื่อไปเก็บรูปที่ทางรถไฟสายมรณะ จากนั้นค่อยไปเที่ยวเมืองมัลลิกาอันโด่งดังต่อเลย
จขกท.เดินทางมาถึงสถานีรถไฟหัวลำโพงตอน 05.45 น. ค่ะ เสร็จแล้วก็รีบเรียกแท๊กซี่เพื่อไปขึ้นรถไฟที่สถานีธนบุรีอย่างด่วนจี๋ เพราะถ้าเราจะไปกาญจนบุรีด้วยรถไฟ ต้องมาขึ้นที่สถานีธนบุรีเท่านั้นนะคะ มาถึงปุ๊บก็รีบรับตั๋ว ธนบุรี-กาญจนบุรี ไปแบบฟรีๆเลยจ้า ซึ่งรถไฟขบวนนี้จะออกจากธนบุรีตอน 07.50 น. ค่ะ ซึ่งจะถึงกาญจนบุรีตอน 10.25 น.

แต่ถ้าหากใครต้องการนั่งรถไฟจนสุดสายให้บอกกับคนซื้อตั๋วว่าไป ธนบุรี-น้ำตกนะคะ เพราะขบวนนี้จะสิ้นสุดที่สถานีน้ำตกค่ะ ซึ่งจขกท.ก็พลาดมาแล้ว เพราะสถานีถ้ำกระแซมันต้องเลยสถานีกาญจนบุรีค่ะ ถ้านั่งเกินสถานีกาญจนบุรีต้องเสียค่าตั๋วเพิ่มตอนที่คนตรวจตั๋วรถไฟมาตรวจนะคะ แต่ว่าพี่คนตรวจตั๋วใจดีเลยไม่คิดเพิ่มค่าาา โชคดีไปอี๊กกก

เพื่อนร่วมทาง...





บรรยากาสข้างทางสวยสมคำล่ำลือจริงๆค่ะ อากาศบริสุทธิ์หาได้จากเส้นทางนี้เลยยย

11.40 น.
ถึงแล้วจ้าาา ถ้ำกระแซ จุดหมายปลายทางแรกที่จขกท.ตั้งใจมา สำหรับสถานีถ้ำกระแซนี้จะมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอยู่สองที่นั่นคือ ถ้ำกระแซที่จะมีองค์พระใหญ่อยู่ในถ้า(จขกท.ไม่ได้เข้าไปค่ะ เนื่องจากชาวต่างชาติเยอะมากกก หาทางเข้าไม่ได้เลยTT) และเส้นทางรถไฟสายมรณะ ที่เป็นเส้นทางรถไฟเชื่อมระหว่างไทย-พม่า ซึ่งทุกคนคงจะรู้อยู่แล้วว่าเส้นทางรถไฟนี้เป็นเส้นทางที่ทำยากสุดๆที่นึงเลย จนแรงงานที่ทำเส้นทางนี้ต้องเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก จึงถูกเรียกว่า ทางรถไฟสายมรณะ


หลังจากเก็บบรรยากาส(ที่โคตรร้อน)ที่ทางรถไฟสายมรณะเสร็จแล้ว สถานที่ที่จขกท.จะไปต่อนั่นคือ เมืองมัลลิกา...แต่ จะไปยังไงล่ะ ไม่มีรถส่วนตัวด้วย ไปหาถามกับคนแถวๆนี้ละกัน จขกท.เข้าไปถามแม่ค้าร้านเครื่องดื่มแถวนั้น พี่เขาบอกว่าต้องเดินออกไปข้างนอกถนนใหญ่เพื่อไปหารถแถวนั้นเอา ประเด็นคือถนนใหญ่กับตรงถ้ำนี้มันแบบ...ยิ้มอย่างไกล ซวยละคะ กูจะไปยังไงงงงTT แต่สวรรค์ก็ส่งคนมาช่วย เพราะจู่ๆก็มีพี่ผู้หญิงคนนึงที่นั่งอยู่ที่ร้านเครื่องดื่มถามว่า " จะไปเมืองมัลลิกาหรอ? พี่ก็กำลังจะไปเหมือนกัน ติดรถไปกับพี่มั้ยรถยังว่างอยู่ แต่ต้องขออนุญาตเจ้ใหญ่ก่อน " เท่านั้นแหละค่ะ อีนี่ก็รีบเดินตามพี่เขากับเพื่อนไปที่รถตู้เพื่อขอเจ้ใหญ่(เจ้เอ๋)ก่อน และแล้วจขกท.ก็ได้ไปเมืองมัลลิกาโดยขอติดรถตู้ไปกับพวกพี่ๆเขาค้าาาา ฮือออ ปริ่มในน้ำใจพี่เขามากจริงๆ

ขอบคุณพี่เหมียว พี่โอ๋ พี่พูนและเจ้เอ๋ด้วยนะคะที่พาหนไปด้วย รักเลยยยย

นั่งรถตู้มากับพวกพี่ๆได้สักพักก็มาถึงเมืองมัลลิกาแล้วเจ้าค่ะ เนื่องจากถ้ำกระแซและเมืองมัลลิกาตั้งอยู่ใน อ.ไทรโยคเหมือนกัน เลยใช้เวลาไม่มากนัก
มาถึงปุ๊บจขกท.ก็รีบทำเวลาเลยค่ะ เรียกได้ว่าวิ่งเที่ยวเลยทีเดียว เนื่องจากกลัวไม่ทันรถกลับไปที่ไมด้าเจ้าค่ะ ไปวิ่งเที่ยวในเมืองมัลลิกากันเล้ยย

ยิ่งใหญ่อลังการมากเจ้าค่ะ

การเข้าไปในเมืองมัลลิกา ต้องเสียค่าเข้า 150 บาท/คน (ราคานี้อยู่ในช่วงโปรโมชั่นนะคะ) ค่าชุดไทยผู้หญิง 200 บาท ผู้ชาย 100 บาท โดยผู้หญิงจะมีสไบและโจงกระเบนพร้อมเครื่องประดับและร่มให้ด้วยค่ะ พร๊อบเยอะจริงๆ แต่สำหรับนักท่องเที่ยวคนไหนที่มาไม่ทันหรือไม่อยากใส่ชุดไทยก็ได้นะคะ สามารถเข้าไปได้เลยโดยไม่ต้องเปลี่ยนชุดค่ะ สำหรับการเปลี่ยนชุดนั้น จะมีห้องเปลี่ยนชุดและพนักงานคอยช่วยเปลี่ยนให้ค่ะ ซึ่งค่อนข้างมั่วนิดนึง คือชายหญิงรวมกัน แต่ผู้หญิงจะเข้ามาเปลี่ยนหลังตู้ล๊อกเกอร์ ส่วนผู้ชายก็เปลี่ยนในห้องนั่นแหละค่ะ สำหรับช้าวของของเราทางมัลลิกาก็มีตู้ล๊อกเกอร์ไว้ให้เก็ลพวกกระเป๋า เสื้อผ้าด้วยค่ะ เปลี่ยนชุดเสร็จกลายเป็นแม่มณีเรียบร้อยแล้วก็เดินสวยๆเข้าประตูเมืองเลยเจ้าค่ะ








ขอแชะสักหน่อยเถอะนะเจ้าคะ อิอิ

บรรยากาสภายในเมืองมัลลิกาถือว่าโอเคมากค่ะ ตึกรามบ้านช่องสวยดี บริเวณกว้างใหญ่มากจริงๆ ผู้คนในนี้ก็พูดจาเพราะ ขอรับ/เจ้าค่ะ ให้ฟีลเหมือนย้อนยุคมาใน ร.ศ. 124 เลยจริงๆ ในนี้ถ้าใครอยากซื้อของกินต้องไปแลกเหรียญที่แบงก์สยามกัมมาจลหรือจุดรับแลกเหรียญข้างๆจุดขายตั๋วที่ตั้งอยู่ข้างนอกก่อนนะคะ  สำหรับจขกท.นั้น ก็พลาดในหลายที่เลยค่ะ ไม่ได้แวะกินสักร้านเลย แถมไม่ได้ไปชมในส่วนของโรงครัวด้วย เสียใจมากจริงๆTT สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่นี้จขกท.ให้ 8/10 เลยเจ้าค่ะ ดีงามมากกก แต่การบริการค่อนข้างบกพร่องนิดนึงนะเจ้าค่ะ ยิ้ม

หลังจากออกจากเมืองมัลลิกามาแล้ว จขกท.ก็ต้องรีบกลับเข้าตัวเมืองกาญเลยค่ะ เพราะไมด้าอยู่ในตัวเมือง สำหรับใครที่จะมาเมืองมัลลิกาแต่ต้องกลับไปพักที่ตัวเมืองเหมือนจขกท.ก็สามารถมารอรถที่หน้าเมืองมัลลิกาได้นะคะ รถที่จะกลับไปที่ตัวเมืองคือรถสังขละบุรี-กาญฯ รถคันสีแดง ค่ารถ 30 บาท/คน ใช้เวลาประมาณ 30-40 นาทีมั้งคะ จำไม่ค่อยได้แต่ก็ประมาณนี้แหละค่ะ5555

การไปไมด้ารีสอร์ทนั้น ถ้าไม่ได้นำรถส่วนตัวมาให้นั่งรถเอราวัณไปลงได้ค่ะ โดยซื้อตั๋วที่บขส. ราคา 40 บาท ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.จะถึงไมด้ารีสอร์ทค่ะ

นี่ไงรถเอราวัณณณ รอบสุดท้ายของวันคือรอบ 17.50 น. ค่ะ ซึ่งจขกท.ก็ได้ไปรอบนี้ นั่งรอวนไปค่ะ

18.50 น.
รถเอราวัณมาจอดที่หน้าไมด้าเป็นที่เรียบร้อย แต่ก็ใช่ว่าจะถึงไมด้าจริงๆ เพราะมันเป็นแค่ปากทางเข้าเท่านั้นเองจ้าา ต้องโทรบอกให้พนักงานโรงแรมมารับ เพราะมันอยู่เข้าไปข้างในลึกๆอีกค่ะ นั่งรถเข้ามาสักพักก็รีบเช็คอินกันเลยย ที่นี่ให้เช็คอินได้ตอนบ่ายสองค่ะ และเช็คเอาท์ตอนเที่ยง สำหรับคืนนี้จขกท.จองที่พักแบบเต๊นท์ติดแอร์ริมแม่น้ำแควกันเลยทีเดียว ราคาห้อง 1890 บาท/2 คน รวมค่าอาหารเช้าด้วยจ้า คือถ้ามา2คนนี่คุ้มนะ เพราะบรรยากาศโคตรได้ใจสายธรรมชาติเลย ไม่แพงด้วย แต่นี่มาคนเดียวเลยต้องยอมจ่ายแพงหน่อยค่ะ จะร้องงงTT
ได้กุญแจมาละ รีบไปสำรวจเต๊นท์ทันทีเลยค่ะ



มีครบค่ะ แอร์ ทีวี ตู้เย็น ตู้เซฟ บลาๆ ห้องพักใช้ได้เลยทีเดียว ตอนกลางคืนเสียงจิ้งหรีดเรไรคลอเบาๆ ผสมกับเสียงสายน้ำของแม่น้ำแควอื้อหือออ ฟินสุดฤทธิ์

06.00 น.
ตื่นเช้ามารับเอาอากาศอันบริสุทธิ์ให้เต็มปอด แล้วตระเวนถ่ายรูปเล่นให้เต็มที่ค่ะ เนื่องจากเมื่อคืนมาถึงค่ำเลยไม่ได้ถ่ายวิวแม่น้ำแคว กะว่าจะตื่นมาถ่ายตอนเช้า ปรากฎว่า....หายค่ะ แม่น้ำหายไปหมดเลย ก๊อดดด ไปถามพี่พนักงานเค้าบอกว่าแม่น้ำที่นี่จะถูกปล่อยจากเขื่อนศรีนครินทร์ตอนบ่ายๆ ถ้าตอนเช้าก็จะไม่มีน้ำแบบนี้แหละ อืมม จ้าาา กูเอา river view เพื่อ? แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ ได้ฟินตอนกลางคืนก็พอแล้ว










check out ออกจากรีสอร์ทเสร็จแล้วจขกท.ก็ขอให้พี่พนักงานขับรถออกไปส่งที่ทางเข้าเลยค่ะ เพราะวันนี้จขกท.วางแผนจะไป 3 ที่ คือ สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก พิพิธภัณฑ์รถไฟไทย-พม่า และที่สุดท้ายที่ห้ามพลาดคือสะพานข้ามแม่น้ำแคว
ขากลับก็เหมือนเดิมค่ะ ต้องมารอรถเอราวัณ-กาญจนบุรี ที่หน้าไมด้าค่ะ ค่ารถขากลับ 35 บาท (แอบถูกกว่าตอนมานะคะ) ก้าวขาลงจากรถปุ๊บก็รีบไปหาพี่วินมอไซค์เลยค่ะ เพื่อที่จะไปสองที่แรกคือสุสานกับพิพิธภัณฑ์ นั่งมอไซค์จากบขส.มาถึงสุสานประมาณ 5 นาทีค่ะ ค่ารถจ่ายไปอีก 25 บาท จ่ายไปค่ะ






ที่นี่จะเป็นสุสานของทหารที่เป็นแรงงานสร้างรถไฟสายมรณะ เข้ามาแล้วทั้งสงบทั้งหดหู่บอกไม่ถูก ที่นี่อาจจะไม่ใช่สถานที่ที่สวยงามมากนัก เป็นแค่สุสานธรรมดาๆ แต่ถ้าได้มาเยือนเมืองกาญก็อยากให้มานะคะ มาเปลี่ยนบรรยากาศเที่ยวสุสานก็ดีไปอีกแบบ ยิ้ม
ชื่อสินค้า:   KANCHANABURI
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่