เมื่อ 14 พฤศจิกายน 2559 มีปรากกฎการทางดาราศาสตร์ที่สำคัญอย่างหนึ่งคือ พระจันทร์อยู่ใกล้โลกมากที่สุดในรอบ 68 ปี คือที่ 356,509 km ทำให้พระจันทร์มีขนาดใหญ่ขึ้น 14% และส่ว่างขึ้นราว 30%
จากปรากฎการณ์นี้จึงหาวิธีการถ่ายรูปพระจันทร์ให้น่าสนใจมากกว่าถ่ายแต่รูปพระจันทร์อย่างเดียว เลยเกิดความคิดที่จะถ่ายภาพพระจันทร์คู่กับสิ่งก่อสร้างเพื่อให้เกิดการเปรียบเทียบในด้านของขนาดสิ่งก่อนสร้าง กับขนาดของพระจันทร์ ซึ่งผมอยู่เชียงใหม่และคิดว่าถ่ายพระจันทร์คู่กับวัดพระธาตุดอยสุเทพ ซึ่งก่อนหน้าเคยได้ถ่ายภาพพระอาทิตย์คู่กับวัดพระธาตุดอยสุเทพ
เริ่มวางแผนการถ่ายโดยคำนวนหาจุดตกของพระจันทร์ด้วยโปรแกรม ซึ่งปัจจุบันมีโปรแกรมช่วยทั้งใน Desktop, iOs, Andriod สามารถหามาใช้งานได้ทั้งแบบฟรี และเสียเงิน และเมื่อได้จุดถ่ายคร่าวๆ แล้วก็ลองใช้ google street view ดูหน้างานคร่าวๆ ก่อนที่จะออกไปดูพื้นที่จริงอีกทีหนึ่ง
รายชื่อโปรแกรม
http://photoephemeris.com
http://www.photopills.com
http://www.sunsurveyor.com
http://suncalc.net
และอีกหลายๆโปรแกรมครับ
จุดที่วางไว้
มุมมอง street view
อุปกรณ์ที่ใช้ถ่ายภาพนั้นจะเป็นการใช้เลนส์ที่มีทางยาวโฟกัสสูงๆ เพื่อให้ภาพของวัดพระธาตุดอยสุเทพและพระจันทร์มีขนาดใหญ่ เพราะจากจุดที่ถ่ายนั้นระยะห่างจนไปถึงพระธาตุในทางอากาศนั้นอยู่ที่ประมาณ 5km ซึ่งหากมองด้วยตาปล่าวเราจะเห็นพระธาตุดอยสุเทพเล็กนิดเดียว อุปกรณ์ที่ผมใช้จะเป็น กล้อง Nikon D750 คู่กับเลนส์ Nikon 200-500mm และขาตั้งเพื่อป้องกันการสั่นไหวในขณะถ่ายภาพ
ภาพวัดพระธาตุดอยสุเทพ ที่ระยะ 500mm
การถ่ายภาพแนวนี้แนะนำไปก่อนเวลาอย่างน้อย 30นาที เพื่อดูทิศทาง และแนวการเดินของพระจันทร์อีกครั้งหนึ่ง เพราะการคำนวนอาจจะไม่ถูกต้อง 100% ต้องคอยไปสังเกตหน้างานอีกครั้ง เมื่อตั้งจุดถ่ายแล้วไม่แนะนำให้เปลี่ยนจุดถ่ายขณะพระจันทร์เข้าตำแหน่งที่ต้องการ สาเหตุเพราะเมื่อพระจันทร์จะเคลื่อนผ่านเร็วมาก อาจจะมีเวลาไม่ถึง 3 นาทีเมื่อพระจันทร์อยู่ในตำแหน่งที่ต้องการ
ภาพพระจันทร์ตกหลังพระธาตุเช้าวันที่ 15 พฤศจิกายน 2559
หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมพระจันทร์เมื่อเทียบกับวัดแล้วทำไมพระจันทร์ถึงมีขนาดใหญ่ ทั้งนี้สามารถอธิบายได้ด้วยเรื่องของขนาดเชิงมุมของวัตถุ ซึ่งพระจันทร์จะมีขนาดเชิมมุมอยู่ที่ประมาณ 0.5 องศา ดังนั้นหากวัดพระธาตุดอยสุเทพที่เป็นฉากหน้ามีขนาดเชิงมุมเล็กกว่า 0.5 องศาแล้วพระจันทร์ที่ทาบลงหลังวัดพระธาตุดอยสุเทพจะมีขนาดใหญ่กว่าพระธาตุ
ขนาดเชิงมุมมีหลักการจากพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ ที่หลายๆคนได้เรียนจนปวดหัวในสมัย ม.ปลาย นั้นก็คือ sine, cos, tan ครับ การที่พระจันทร์มีระยะทางห่างจากโลกราว 363,104กิโลเมตร และมีเส้นผ่านศูนย์กลางราว 3,474กิโลเมตร การคำนวนหามุมของพระจันทร์จะเป็นไปตามสูตร

cr:wikipedia

cr:wikipedia
ความสูงของพระธาตุดอยสุเทพอยู่ที่ ประมาณ 11ศอก ถ้าตีเป็นเมตรก็จะประมาณ 5.5m

ซึ่งหากคำนวนระยะเชิงมุมของพระธาตุดอยสุเทพจะได้ดังนี้
ความสูงพระธาตุ 5.5m
ระยะทางแนวราบ 3km (ระยะประมาณจาก google) จากจุดที่ตั้งกล้องถ่าย
เมื่อคำนวนจะได้ระยะเชิงมุมของพระธาตุดอยสุเทพเท่ากับ 0.08 องศา แต่หากใครเคยขึ้นไปบนวัดพระธาตะดอยสุเทพ ตัวองค์พระธาตุจะยกสูงจากพื้นขึ้นไปอีกราว 3 เมตร ทำให้ความสูงของพระธาตุเมื่อวัดจากพื้นจะอยู่ที่ประมาณ 8.5 m เมื่อคำนวนระยะเชิงมุมก็จะได้เท่ากับ 0.17 องศา
ขนาดเชิงมุมของพระจันทร์
เส้นผ่านศูนย์กลางของพระจันทร์ 3,474km
ระยะจากโลกถึงพระจันทร์ 363,104km (วันที่ 14 พฤศจิกายน 2559)
เมื่อคำนวนจะได้ระยะเชิงมุมของพระจันทร์เท่ากับ 0.54 องศา
ซึ่งดูจากมุมแล้วขนาดของพระธาตุจะมีขนาดเล็กกว่าพระจันทร์ราวๆ 2-3 เท่าครับ
เมื่อระยะเชิงมุมของพระธาตุมีขนาดเล็กกว่าดังนั้นเมื่อสองอย่างมาเจอกันพระธาตุดอยสุเทพจึงมีขนาดเล็กกว่าพระจันทร์

ปล. ตัวอย่างคร่าวๆ ไม่ได้อิง scale จริง
สังเกตที่จุด A คือจุดที่เราถ่ายรูปครับ ถ้าเราใกล้สิ่งก่อสร้างที่จะถ่ายมากมุมตรงจุด A ก็จะกว้างขึ้น และเมื่อกว้างกว่ามุมของพระจันทร์แล้ว ตัวสิ่งก่อสร้างก็จะใหญ่กว่าพระจันทร์ ส่วนถ้าเรายิ่งห่างจากสิ่งก่อสร้างมาก มุมที่จุด A จะเล็กลง และเมื่อมุมที่จุด A เล็กลงกว่ามุมของพระจันทร์แล้วตัวสิ่งก่อสร้างก็จะใหญ่กว่าพระจันทร์ครับ
รูปพระจันทร์เมื่อเทียบกับพระธาตุดอยสะเก็ด เย็นวันที่ 14 พฤศจิกายน 2559 ระยะห่างระหว่างจุดที่ถ่าย และพระธาตุในแนวราบประมาณ 700m ความสูงพระธาตุดอยสะเก็ด 30m ถ้าคำนวนแล้วพระธาตุจะมีขนาดเชิงมุมที่ 2.4 องศา เมื่อถ่ายรูปพระจันทร์คู่กับพระธาตุดอยสะเก็ดแล้วพระจันทร์จึงมีขนาดเล็กกว่า
เมื่อทราบกันอย่างนี้แล้วพระจันทร์เต็มดวงคราวหน้าอย่าลืมออกมาถ่ายรูปกันนะครับ

ใครมีรูปพระจันทร์ช่วงที่ผ่านมาเอามารวมแจมกันได้นะครับ ^ ^
เพิ่มเติมเทคนิคการถ่ายภาพ
การถ่ายภาพพระจันทร์คู่กับสิ่งก่อสร้างในเวลากลางคืน แสงพระจันทร์จะมีความสว่างมากกว่าแสงจากอาคาร วีธีการถ่ายจะถ่ายภาพเป็น 2 ส่วนคือส่วนของฉากหน้า และพระจันทร์ โดยถ่ายแยกกันสองใย
ตัวอย่างภาพนี้ดึงจาก file ภาพ file เดียวที่วัดแสงที่พระจันทร์ จะได้พระจันทร์สว่างพอดีไม่หลุด Highlight ส่วนฉากหน้าจะมืดมาก พอเอามาปรับในโปรแกรม Lightroom เพื่อเปิดส่วนมืด Noise เลยเยอะมากเป็นพิเศษ
การถ่ายฉากหน้าสามารถถ่ายได้ 2 ช่วงคือ ก่อนพระจันทร์จะตก หรือหลังจากพระจันทร์ตกไปแล้วซึ่งส่วนใหญ่ผมจะถ่ายไว้ทั้งสองแล้วค่อยมาเลือกเอา
ภาพฉากหน้าของวัดพระธาตุดอยสุเทพ
การถ่ายพระจันทร์ผมใช้สูตร f11 เหมือนถ่ายพระจันทร์ทั่วไปครับ คือ s 1/iso, f11 แต่การถ่ายเราใช้ขาตั้งกล้องผมเลยลด iso ลงอยู่ที่ประมาณ 200 จะได้ s=1/200, f11
จะได้ภาพพระจันทร์ที่แสงพอดี แต่ฉากหน้ามืดตามรูปครับ
จากนั้นนำมารวมกันใน Photoshop
สำหรับใครที่มีเทคนิดเพิ่มเติมอย่างไรแนะนำกันได้นะครับ
ข้อมูลอ้างอิง
http://earthsky.org/astronomy-essentials/close-and-far-moons-in-2016
http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9560000060143
https://th.wikipedia.org/wiki/ขนาดเชิงมุม
https://th.wikipedia.org/wiki/วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร
http://www.digilannatemple.com/index.php/2012-02-07-17-12-47
http://www.tambondoisaket.org/img_update/download/107_298_watpatad.pdf
Supermoon เมื่อการถ่ายภาพ และดาราศาสตร์มาเจอกัน
จากปรากฎการณ์นี้จึงหาวิธีการถ่ายรูปพระจันทร์ให้น่าสนใจมากกว่าถ่ายแต่รูปพระจันทร์อย่างเดียว เลยเกิดความคิดที่จะถ่ายภาพพระจันทร์คู่กับสิ่งก่อสร้างเพื่อให้เกิดการเปรียบเทียบในด้านของขนาดสิ่งก่อนสร้าง กับขนาดของพระจันทร์ ซึ่งผมอยู่เชียงใหม่และคิดว่าถ่ายพระจันทร์คู่กับวัดพระธาตุดอยสุเทพ ซึ่งก่อนหน้าเคยได้ถ่ายภาพพระอาทิตย์คู่กับวัดพระธาตุดอยสุเทพ
เริ่มวางแผนการถ่ายโดยคำนวนหาจุดตกของพระจันทร์ด้วยโปรแกรม ซึ่งปัจจุบันมีโปรแกรมช่วยทั้งใน Desktop, iOs, Andriod สามารถหามาใช้งานได้ทั้งแบบฟรี และเสียเงิน และเมื่อได้จุดถ่ายคร่าวๆ แล้วก็ลองใช้ google street view ดูหน้างานคร่าวๆ ก่อนที่จะออกไปดูพื้นที่จริงอีกทีหนึ่ง
รายชื่อโปรแกรม
http://photoephemeris.com
http://www.photopills.com
http://www.sunsurveyor.com
http://suncalc.net
และอีกหลายๆโปรแกรมครับ
จุดที่วางไว้
มุมมอง street view
อุปกรณ์ที่ใช้ถ่ายภาพนั้นจะเป็นการใช้เลนส์ที่มีทางยาวโฟกัสสูงๆ เพื่อให้ภาพของวัดพระธาตุดอยสุเทพและพระจันทร์มีขนาดใหญ่ เพราะจากจุดที่ถ่ายนั้นระยะห่างจนไปถึงพระธาตุในทางอากาศนั้นอยู่ที่ประมาณ 5km ซึ่งหากมองด้วยตาปล่าวเราจะเห็นพระธาตุดอยสุเทพเล็กนิดเดียว อุปกรณ์ที่ผมใช้จะเป็น กล้อง Nikon D750 คู่กับเลนส์ Nikon 200-500mm และขาตั้งเพื่อป้องกันการสั่นไหวในขณะถ่ายภาพ
ภาพวัดพระธาตุดอยสุเทพ ที่ระยะ 500mm
การถ่ายภาพแนวนี้แนะนำไปก่อนเวลาอย่างน้อย 30นาที เพื่อดูทิศทาง และแนวการเดินของพระจันทร์อีกครั้งหนึ่ง เพราะการคำนวนอาจจะไม่ถูกต้อง 100% ต้องคอยไปสังเกตหน้างานอีกครั้ง เมื่อตั้งจุดถ่ายแล้วไม่แนะนำให้เปลี่ยนจุดถ่ายขณะพระจันทร์เข้าตำแหน่งที่ต้องการ สาเหตุเพราะเมื่อพระจันทร์จะเคลื่อนผ่านเร็วมาก อาจจะมีเวลาไม่ถึง 3 นาทีเมื่อพระจันทร์อยู่ในตำแหน่งที่ต้องการ
ภาพพระจันทร์ตกหลังพระธาตุเช้าวันที่ 15 พฤศจิกายน 2559
หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมพระจันทร์เมื่อเทียบกับวัดแล้วทำไมพระจันทร์ถึงมีขนาดใหญ่ ทั้งนี้สามารถอธิบายได้ด้วยเรื่องของขนาดเชิงมุมของวัตถุ ซึ่งพระจันทร์จะมีขนาดเชิมมุมอยู่ที่ประมาณ 0.5 องศา ดังนั้นหากวัดพระธาตุดอยสุเทพที่เป็นฉากหน้ามีขนาดเชิงมุมเล็กกว่า 0.5 องศาแล้วพระจันทร์ที่ทาบลงหลังวัดพระธาตุดอยสุเทพจะมีขนาดใหญ่กว่าพระธาตุ
ขนาดเชิงมุมมีหลักการจากพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ ที่หลายๆคนได้เรียนจนปวดหัวในสมัย ม.ปลาย นั้นก็คือ sine, cos, tan ครับ การที่พระจันทร์มีระยะทางห่างจากโลกราว 363,104กิโลเมตร และมีเส้นผ่านศูนย์กลางราว 3,474กิโลเมตร การคำนวนหามุมของพระจันทร์จะเป็นไปตามสูตร
cr:wikipedia
cr:wikipedia
ความสูงของพระธาตุดอยสุเทพอยู่ที่ ประมาณ 11ศอก ถ้าตีเป็นเมตรก็จะประมาณ 5.5m
ซึ่งหากคำนวนระยะเชิงมุมของพระธาตุดอยสุเทพจะได้ดังนี้
ความสูงพระธาตุ 5.5m
ระยะทางแนวราบ 3km (ระยะประมาณจาก google) จากจุดที่ตั้งกล้องถ่าย
เมื่อคำนวนจะได้ระยะเชิงมุมของพระธาตุดอยสุเทพเท่ากับ 0.08 องศา แต่หากใครเคยขึ้นไปบนวัดพระธาตะดอยสุเทพ ตัวองค์พระธาตุจะยกสูงจากพื้นขึ้นไปอีกราว 3 เมตร ทำให้ความสูงของพระธาตุเมื่อวัดจากพื้นจะอยู่ที่ประมาณ 8.5 m เมื่อคำนวนระยะเชิงมุมก็จะได้เท่ากับ 0.17 องศา
ขนาดเชิงมุมของพระจันทร์
เส้นผ่านศูนย์กลางของพระจันทร์ 3,474km
ระยะจากโลกถึงพระจันทร์ 363,104km (วันที่ 14 พฤศจิกายน 2559)
เมื่อคำนวนจะได้ระยะเชิงมุมของพระจันทร์เท่ากับ 0.54 องศา
ซึ่งดูจากมุมแล้วขนาดของพระธาตุจะมีขนาดเล็กกว่าพระจันทร์ราวๆ 2-3 เท่าครับ
เมื่อระยะเชิงมุมของพระธาตุมีขนาดเล็กกว่าดังนั้นเมื่อสองอย่างมาเจอกันพระธาตุดอยสุเทพจึงมีขนาดเล็กกว่าพระจันทร์
ปล. ตัวอย่างคร่าวๆ ไม่ได้อิง scale จริง
สังเกตที่จุด A คือจุดที่เราถ่ายรูปครับ ถ้าเราใกล้สิ่งก่อสร้างที่จะถ่ายมากมุมตรงจุด A ก็จะกว้างขึ้น และเมื่อกว้างกว่ามุมของพระจันทร์แล้ว ตัวสิ่งก่อสร้างก็จะใหญ่กว่าพระจันทร์ ส่วนถ้าเรายิ่งห่างจากสิ่งก่อสร้างมาก มุมที่จุด A จะเล็กลง และเมื่อมุมที่จุด A เล็กลงกว่ามุมของพระจันทร์แล้วตัวสิ่งก่อสร้างก็จะใหญ่กว่าพระจันทร์ครับ
รูปพระจันทร์เมื่อเทียบกับพระธาตุดอยสะเก็ด เย็นวันที่ 14 พฤศจิกายน 2559 ระยะห่างระหว่างจุดที่ถ่าย และพระธาตุในแนวราบประมาณ 700m ความสูงพระธาตุดอยสะเก็ด 30m ถ้าคำนวนแล้วพระธาตุจะมีขนาดเชิงมุมที่ 2.4 องศา เมื่อถ่ายรูปพระจันทร์คู่กับพระธาตุดอยสะเก็ดแล้วพระจันทร์จึงมีขนาดเล็กกว่า
เมื่อทราบกันอย่างนี้แล้วพระจันทร์เต็มดวงคราวหน้าอย่าลืมออกมาถ่ายรูปกันนะครับ
ใครมีรูปพระจันทร์ช่วงที่ผ่านมาเอามารวมแจมกันได้นะครับ ^ ^
เพิ่มเติมเทคนิคการถ่ายภาพ
การถ่ายภาพพระจันทร์คู่กับสิ่งก่อสร้างในเวลากลางคืน แสงพระจันทร์จะมีความสว่างมากกว่าแสงจากอาคาร วีธีการถ่ายจะถ่ายภาพเป็น 2 ส่วนคือส่วนของฉากหน้า และพระจันทร์ โดยถ่ายแยกกันสองใย
ตัวอย่างภาพนี้ดึงจาก file ภาพ file เดียวที่วัดแสงที่พระจันทร์ จะได้พระจันทร์สว่างพอดีไม่หลุด Highlight ส่วนฉากหน้าจะมืดมาก พอเอามาปรับในโปรแกรม Lightroom เพื่อเปิดส่วนมืด Noise เลยเยอะมากเป็นพิเศษ
การถ่ายฉากหน้าสามารถถ่ายได้ 2 ช่วงคือ ก่อนพระจันทร์จะตก หรือหลังจากพระจันทร์ตกไปแล้วซึ่งส่วนใหญ่ผมจะถ่ายไว้ทั้งสองแล้วค่อยมาเลือกเอา
ภาพฉากหน้าของวัดพระธาตุดอยสุเทพ
การถ่ายพระจันทร์ผมใช้สูตร f11 เหมือนถ่ายพระจันทร์ทั่วไปครับ คือ s 1/iso, f11 แต่การถ่ายเราใช้ขาตั้งกล้องผมเลยลด iso ลงอยู่ที่ประมาณ 200 จะได้ s=1/200, f11
จะได้ภาพพระจันทร์ที่แสงพอดี แต่ฉากหน้ามืดตามรูปครับ
จากนั้นนำมารวมกันใน Photoshop
สำหรับใครที่มีเทคนิดเพิ่มเติมอย่างไรแนะนำกันได้นะครับ
ข้อมูลอ้างอิง
http://earthsky.org/astronomy-essentials/close-and-far-moons-in-2016
http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9560000060143
https://th.wikipedia.org/wiki/ขนาดเชิงมุม
https://th.wikipedia.org/wiki/วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร
http://www.digilannatemple.com/index.php/2012-02-07-17-12-47
http://www.tambondoisaket.org/img_update/download/107_298_watpatad.pdf