ตอนแรก เราไม่ได้คิดจะเขียนความทรงจำนี้ อยากเก็บไว้เป็นความภูมิใจ ของเราเงียบๆ แต่วันนี้เราพบว่าหลายๆคนคิดถึงในหลวง และอยากฟังเรื่องราวเกี่ยวกับพระองค์ท่าน เราจึงอยากมาแบ่งปันความรู้สึกขำๆปนประทับใจสูงสุดนี้ให้เพื่อนฟังค่ะ (ขออนุญาติใช้คำสามัญในการเล่าเรื่องนะคะ เพราะคำราชาศัพท์บางคำไม่ทราบจริงๆค่ะ)
ณ ตอนนั้นมีเพลงอยู่เพลงหนึ่งเป็นเพลงเก่าค่ะ ผู้ใหญ่ในวังร้องเพลงนี้ได้กันหมด แต่ปีนั้นในหลวงท่านทรงตรัสกับคุณข้าหลวงว่าอยากให้เอามาทำเก็บไว้ให้คนรุ่นต่อๆไปได้ฟังกัน ท่านผู้หญิงพึงจิตต์ ศุภมิตรได้ฟังก็เลยรีบมาหาคนทำทันทีเลยค่ะ ตกลงว่าทางรองผู้ว่าฝ่ายทหารในปีนั้น และ กอ รมน เชียงใหม่ เป็นคนรับมาทำและก็ได้ติดต่อหาคนที่จะทำเพลงนี้ ตอนนั้นพี่แววแลุพี่เล็กทีมดีเจจากกองทัพเชียงใหม่เป็นคนติดต่อเรามาเพราะรู้จักกันดีค่ะว่าเราเขียนเพลงให้ศิลปินอยู่ จนสุดท้ายเราได้รับงานเพลงนี้มาทำ ทางกอ รมนก็แจ้งกับเราว่าสามารถเบิกเงินค่าทำได้นะ ทางเราก็แจ้งกลับทันที่เช่นกันค่ะว่าถ้าเป็นงานที่ทำถวายในหลวง เรายินดีทำให้ไม่คิดค่าอะไรทั้งนั้น แต่ตอนนั้นพี่เล็กและพี่แววก็กรุณาเบิค่าเดินทางมาให้นะคะซึ่งต้อขอบคุณพี่ทั้งสองมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ ตอนนั้นเราเป็นคนเขียนเพลงคนนึงเท่านั้นค่ะแต่เรามั่นใจเหลือเกินว่า เราจะหาคนทำเพลงที่รักในหลวงมาช่วยกันทำเพลงๆนี้ได้แน่ๆ และทันทีที่รับงานคนแรกที่เรานึกถึงคือ พี่เป็ด มนต์ชีพ ศิวะสินางกรู ซึ่งเป็นทั้งพี่และอาจารย์ที่เราเคารพรักมากๆค่ะ พี่เป็ดก็กรุณาตอบตกลงช่วยทันทีจนเดโมเสร็จส่งให้ทาง กอ รมนฟัง เขาก็บอกเอาอันนี้ละเพราะเกรงจะไม่ทันวันที่5 ธันวาปีนั้นค่ะ เราก็ตกใจเพราะอยากจะทำให้ดีกว่านี้อีกมากๆแต่ก็เข้าใจค่ะว่าด้วยเวลาก็เลยโอเครีบไปทำ สรุปทันเวลาพอดี
ตอนนั้นก็เอาเข้าไปทูลถวายมนวังสวนจิตรค่ะ เป็นการเข้าวังครั้งแรก แต่ตอนนั้นในหลวงทรงประชวรเกี่ยวกับลำไส้(ขออนุญาติใช้คำสามัญนะคะเพราะไม่ทราบราชาศัพท์จริงๆค่ะ)ก็เลยไม่ได้ขอเข้าเฝ้าทูลถวาย เกรงจะไม่เหมาะและเป็นห่วงท่านค่ะ แต่ได้ฝาก ท่านผู้หญิงพึงจิตต์ ศุภมิตรเข้าไปทูลถวายในหลวงแทน แต่สิ่งที่ปลื้มปิติที่สุดคือ.....
เมื่อเสร็จพิธีการในวันที่5 ธันวาคม ปีนั้น ในหลวงทรงเสด็จประทับที่ศิริราช ท่านก็ได้รับสั่งให้ท่านผู้หญิงเปิดเพลงให้ทรงพระสดับ(ฟัง) พอได้ทรงฟัง ท่านก็ทรงแย้มสรวล(ยิ้ม)ออกมา ท่านผู้หญิงท่านก็ดีใจเอามาเล่าให้ฟังว่า ท่านฟังแล้วนะ ท่านยิ้ม ท่านก็คงรู้อ่าค่ะว่าเป็นงานเดโม แต่ท่านก็คงทรงขำว่านี่คงเร่งทำให้เสร็จทันวันที่5ธันวาคมปีนั้นแน่ๆ
แค่เป็นส่วนเล็กๆที่ทำให้ท่านทรงยิ้มได้ก็ถือเป็นความปลื้มปิติอย่างหาที่สุดมิได้แล้วค่ะเป็นเรื่องราวขำๆที่ดูรีบๆทั้งเรื่องแต่ประทับใจสูงสุดเรื่องหนึ่งในชีวิตเลยล่ะค่ะ ^___^
ขอบคุณค่ะที่อ่านจนจบ
#รักในหลวงนิจนิรัดร์และจะขอจงรักภักดีจนกว่าชีวีจะหาไม่
ข้าพเจ้า นางสาว นพรัตน์ เลิศวนิชกิจกุล
ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ทำให้ในหลวงทรงแย้มสรวล
ณ ตอนนั้นมีเพลงอยู่เพลงหนึ่งเป็นเพลงเก่าค่ะ ผู้ใหญ่ในวังร้องเพลงนี้ได้กันหมด แต่ปีนั้นในหลวงท่านทรงตรัสกับคุณข้าหลวงว่าอยากให้เอามาทำเก็บไว้ให้คนรุ่นต่อๆไปได้ฟังกัน ท่านผู้หญิงพึงจิตต์ ศุภมิตรได้ฟังก็เลยรีบมาหาคนทำทันทีเลยค่ะ ตกลงว่าทางรองผู้ว่าฝ่ายทหารในปีนั้น และ กอ รมน เชียงใหม่ เป็นคนรับมาทำและก็ได้ติดต่อหาคนที่จะทำเพลงนี้ ตอนนั้นพี่แววแลุพี่เล็กทีมดีเจจากกองทัพเชียงใหม่เป็นคนติดต่อเรามาเพราะรู้จักกันดีค่ะว่าเราเขียนเพลงให้ศิลปินอยู่ จนสุดท้ายเราได้รับงานเพลงนี้มาทำ ทางกอ รมนก็แจ้งกับเราว่าสามารถเบิกเงินค่าทำได้นะ ทางเราก็แจ้งกลับทันที่เช่นกันค่ะว่าถ้าเป็นงานที่ทำถวายในหลวง เรายินดีทำให้ไม่คิดค่าอะไรทั้งนั้น แต่ตอนนั้นพี่เล็กและพี่แววก็กรุณาเบิค่าเดินทางมาให้นะคะซึ่งต้อขอบคุณพี่ทั้งสองมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ ตอนนั้นเราเป็นคนเขียนเพลงคนนึงเท่านั้นค่ะแต่เรามั่นใจเหลือเกินว่า เราจะหาคนทำเพลงที่รักในหลวงมาช่วยกันทำเพลงๆนี้ได้แน่ๆ และทันทีที่รับงานคนแรกที่เรานึกถึงคือ พี่เป็ด มนต์ชีพ ศิวะสินางกรู ซึ่งเป็นทั้งพี่และอาจารย์ที่เราเคารพรักมากๆค่ะ พี่เป็ดก็กรุณาตอบตกลงช่วยทันทีจนเดโมเสร็จส่งให้ทาง กอ รมนฟัง เขาก็บอกเอาอันนี้ละเพราะเกรงจะไม่ทันวันที่5 ธันวาปีนั้นค่ะ เราก็ตกใจเพราะอยากจะทำให้ดีกว่านี้อีกมากๆแต่ก็เข้าใจค่ะว่าด้วยเวลาก็เลยโอเครีบไปทำ สรุปทันเวลาพอดี
ตอนนั้นก็เอาเข้าไปทูลถวายมนวังสวนจิตรค่ะ เป็นการเข้าวังครั้งแรก แต่ตอนนั้นในหลวงทรงประชวรเกี่ยวกับลำไส้(ขออนุญาติใช้คำสามัญนะคะเพราะไม่ทราบราชาศัพท์จริงๆค่ะ)ก็เลยไม่ได้ขอเข้าเฝ้าทูลถวาย เกรงจะไม่เหมาะและเป็นห่วงท่านค่ะ แต่ได้ฝาก ท่านผู้หญิงพึงจิตต์ ศุภมิตรเข้าไปทูลถวายในหลวงแทน แต่สิ่งที่ปลื้มปิติที่สุดคือ.....
เมื่อเสร็จพิธีการในวันที่5 ธันวาคม ปีนั้น ในหลวงทรงเสด็จประทับที่ศิริราช ท่านก็ได้รับสั่งให้ท่านผู้หญิงเปิดเพลงให้ทรงพระสดับ(ฟัง) พอได้ทรงฟัง ท่านก็ทรงแย้มสรวล(ยิ้ม)ออกมา ท่านผู้หญิงท่านก็ดีใจเอามาเล่าให้ฟังว่า ท่านฟังแล้วนะ ท่านยิ้ม ท่านก็คงรู้อ่าค่ะว่าเป็นงานเดโม แต่ท่านก็คงทรงขำว่านี่คงเร่งทำให้เสร็จทันวันที่5ธันวาคมปีนั้นแน่ๆ
แค่เป็นส่วนเล็กๆที่ทำให้ท่านทรงยิ้มได้ก็ถือเป็นความปลื้มปิติอย่างหาที่สุดมิได้แล้วค่ะเป็นเรื่องราวขำๆที่ดูรีบๆทั้งเรื่องแต่ประทับใจสูงสุดเรื่องหนึ่งในชีวิตเลยล่ะค่ะ ^___^
ขอบคุณค่ะที่อ่านจนจบ
#รักในหลวงนิจนิรัดร์และจะขอจงรักภักดีจนกว่าชีวีจะหาไม่
ข้าพเจ้า นางสาว นพรัตน์ เลิศวนิชกิจกุล