The Warriors Gate : 勇士之門 (Chinese)
“หนังจีนแอ็คชันสุดตลก ที่ถูกปรุงด้วยเชฟฝรั่งมือดี”
The Warriors Gate เป็นหนังแอ็คชันแฟนตาซี ที่เกิดจากการร่วมมือกันของค่ายหนังจีนและฝรั่งเศส ด้วยทุนสร้างกว่า 300 ล้านหยวน (ประมาณ 1500 ล้านบาท)
The Warriors Gate เป็นเรื่องราวของแจ็ค บรอนด์สัน (Uriah Shelton) เด็กหนุ่มติดเกมส์ผู้หนึ่ง แล้วในวันหนึ่ง เรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อเถ้าแก่ร้านมิสเตอร์จาง (Henry Mah)ที่แจ็คทำงานอยู่ ได้มอบถังวิเศษที่ตกทอดกันมาในตระกูลให้แก่แจ็คและถังวิเศษนี้เองที่นำแจ็คทะลุมิติเข้าไปสู่จีนยุคโบราณและต้องกอบกู้อาณาจักรจากผู้นำชนเผ่าจอมโฉด (Dave Bautista) รวมถึงช่วยเหลือเจ้าหญิงซูหลิน (Ni Ni) ให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของเหล่าร้ายและทำให้เธอได้ขึ้นเป็นจักรพรรดินีเพื่อครองดินแดนนี้อย่างสงบสุข ซึ่งระหว่างที่แจ็คเดินทาง ก็จะมีคู่หูองค์รักษ์ผู้เคร่งขรึม จ้าว (Mark Chao) คอยเคียงข้างและผู้วิเศษ (Francis Ng) ที่จะมาคอยช่วยเหลือแจ็คในยามคับขัน
หนังจีนแอ็คชันสุดตลก ที่ถูกปรุงด้วยเชฟฝรั่งมือดี
The Warriors Gate เป็นหนังแอ็คชัน-แฟนตาซีที่ผสมผสานเอกลักษณ์ระหว่างเอเชียกับยุโรป คือ สไตล์พล็อตเรื่อง-เนื้อเรื่องแบบจีน แต่ดำเนินเรื่องแบบฝรั่ง คล้ายอาหารจีนที่ใช้เชฟฝรั่งมือดีปรุง ทำให้มีรสชาติกินง่าย ไม่แปลกแยกจากอาหารอื่นอย่างที่เคยเป็นมา ดังนั้นภายในหนังเรื่องนี้ เราจะไม่สังเกตเห็นบรรยากาศความเนือยของหนังเลย (ซึ่งถ้าเป็นหนังจีนแท้สไตล์นี้ ส่วนใหญ่ก็มักจะเนือยอยู่เสมอ) การดำเนินเรื่องกระชับ ลูกเล่นการเล่าเรื่องฉับไวตรงประเด็น สร้างสรรค์ เร้าอารมณ์ให้น่าติดตาม ไม่เหลือเค้าสไตล์การดำเนินเรื่องแบบจีนหลงเหลืออยู่เลย ทำให้หนังต่อเนื่องสนุกไม่มีเบื่อ
ภาพ CG หนังสวยงาม ฉากต่อสู้เนียนตา มันส์บู๊แบบหนังจีนกำลังภายใน ส่วนเรื่อง Location ถ่ายทำในประเทศจีนก็ถือว่างดงามมาก หนังพยายามจะทำให้เราเห็นทิวทัศน์ความยิ่งใหญ่ของประเทศจีนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสูง เช่น เทือกเขาสูงซับซ้อนสลับตัดกันไปมา ทะเลสาบอันกว้างใหญ่ ป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์และป่าไผ่อันเป็นเอกลักษณ์ของประเทศจีน รวมถึงพระราชวังแบบจีน-ชุดแต่งกายแบบจีน เรียกได้ว่า Production ทำได้สวยงาม เนี้ยบ
สำหรับเนื้อเรื่อง The Warriors Gate เป็นหนังที่มีเนื้อเรื่องธรรมดา เป็นไปตามสูตรสำเร็จ ไม่มีอะไรมากมายนอกไปจากการผจญภัย เจออุปสรรคต่างๆ คล้ายๆกับเวลาเราเล่นเกมส์ผจญภัยข้ามป่า ข้ามเขา ข้าวแม่น้ำยาวไปจนถึงรังบอสใหญ่และบู๊กับบอสใหญ่ในฉากสุดท้าย จุดไคล์แมกซ์ของหนังก็ไม่เกินความคาดหมายมากมายอะไร ที่เป็นไฮไลต์ของหนังเรื่องนี้จริงๆ คือ มุกตลกที่แทรกเข้ามาถูกที่ถูกเวลา ลงตัว ทำให้คนดูหัวเราะท้องแข็งได้ทั้งเรื่อง (ตอนแรกผมดู Trailer ก็ไม่คิดจริงๆว่ามันจะเป็นหนังตลกขนาดนี้ 555) ส่งผลให้หนังน่าติดตามตลอดทั้งเรื่อง ไม่มีส่วนไหนที่น่าเบื่อเลย (ทั้งๆที่ผมนึกว่า ผมจะต้องหลับเป็นแน่แท้)
มุกทั้งหลายที่หนังเอามาใช้ ผมคิดว่ามีความน่าสนใจ เพราะ มุกตลกที่ใส่มา เป็นการดึงเอกลักษณ์ของหนังจีนทั้งหลาย มายำเป็นมุกตลกทั้งตลก+เสียดสีให้คนดู มุกบางอย่างก็ดูเป็นมุกสไตล์เอเชียที่หาไม่ได้ที่ไหนนอกจากหนังเอเชีย ซึ่งถือได้ว่าหนังยิงได้ตรงเป้าพอดี เพราะ ทำได้ขำตลกจริงๆ (จนบางที ผมยังสงสัยว่า The Warriors Gate เป็นหนังแอ็คชันหรือหนังตลกกันแน่ 555)
แต่ก็ใช่ว่าข้อเสียจะไม่มีเลย เพราะว่า หนังก็มีจุดผิดพลาดเรื่องความสมเหตุสมผลในเนื้อเรื่อง เช่น การที่เถ้าแก่ร้านมอบถังวิเศษให้แก่แจ๊ค ทั้งๆที่เป็นถังประจำตระกูล การที่ในหนังพูดภาษาอังกฤษทั้งเรื่องสลับกับพูดจีนในบางเวลา ทั้งๆที่พื้นหลังเรื่องเป็นอาณาจักรจีนยุคโบราณหรือการที่พระเอกฝึกวิทยายุทธไม่กี่วันแต่สามารถบู๊กับศัตรูได้ราวกับฝึกมาแล้วนานปี สิ่งเหล่านี้อาจเป็นรายละเอียดที่ผู้กำกับไม่ได้แก้ไขไว้ แต่หากดูแบบไม่คิดมาก(ซึ่งหนังเรื่องนี้ก็ไม่ควรดูแบบคิดมากอยู่แล้ว) ก็ไม่ได้ทำให้หนังดูดร็อปลงมากมายแต่ประการใด เพราะ ถึงแม้จะมีจุดผิดพลาดเหล่านี้ หนังก็ยังสนุกอยู่ดี ทั้งจากฉากต่อสู้ มุกตลกและเรื่องราวของหนัง
Dave Bautista (ผู้นำชนเผ่าสุดโฉด)
นักแสดง(ตลกจำเป็น)
Uriah Shelton (แจ๊ค) และ Ni Ni (ซูหลิน)
แสดงได้ดีทุกคน สมบทบาท (แม้บทบาทจะดูโอเวอร์ สไตล์แฟนตาซีจีน) Uriah Shelton (แจ๊ค) ในมาดเด็กหนุ่มที่ต้องไปเผชิญกับเรื่องเหลือเชื่อไม่คาดคิด Ni Ni (ซูหลิน) ในมาดของเจ้าหญิงผู้สง่าเลอโฉม แต่ก็มีมุกหลุดออกมาทำให้ผู้ชมได้ฮาไปตามๆกัน Francis Ng ในมาดผู้วิเศษกวนโอ๊ย ทั้งสามคนแสดงได้ดี
Francis Ng (ผู้วิเศษ)
ส่วนที่เซอร์ไพร์สเป็นพิเศษคงยกให้ใครไปไม่ได้ นอกจาก Dave Bautista และ Mark Chao (องครักษ์จ้าว) ในส่วนของ Mark Chao ผมต้องขอชมว่าแสดงได้ดีมาก เพราะว่า Mark Chao อยู่ในบทองครักษ์จ้าว ผู้เคร่งขรึม แต่กลับปล่อยมุกหลุดออกมาได้เป็นธรรมชาติชนิดคนหัวเราะก๊ากทั้งโรงหนังได้ตลอด ยิ่งไปกว่านั้น Dave Bautista ที่มาในมาดผู้นำชนเผ่าสุดโฉม หน้าเหี้ยม ใจเหี้ยม เงียบ น่าเกรงขาม คาแรคเตอร์ที่ออกมาดุดันเหี้ยมโหดขนาดนี้ สามารถปล่อยมุกหลุดขำเกินคาด จี้ทั้งโรงหนัง ได้อย่างแนบเนียน ทำให้ผมอดทึ่งความสามารถในการแสดงและความสามารถในการเขียนบทของผู้เขียนบทนักแสดงไม่ได้
Mark Chao (องครักษ์จ้าว)
ดนตรีประกอบภาพยนตร์
The Warrior's Gate - Trailer Exclusive Music (Gothic Storm - Aggressive Strike)
(ผมหาได้แค่ Trailer Music)
ดนตรีประกอบภาพยนตร์ทำได้ดี เร้าอารมณ์ให้หนังน่าติดตามอยู่ตลอด ในบางช่วงดนตรีก็มีกลิ่นอายแบบจีน มีการใส่เครื่องดนตรีจีน เพื่อสร้างทำนองบรรยากาศแบบจีน แต่ในบางช่วงก็ใช้ดนตรีที่ฉับไวสไตล์หนังแอ็คชันฝรั่ง รวมถึงเพลงธรรมดาบรรยากาศสมัยใหม่ ทำให้หนังดูตื่นเต้น ฉับไว ออกมาในแนวฝรั่ง (ไม่รู้ว่าผมหูเสียหรือหูไม่ดีหรือเปล่า มีความรู้สึกว่า เพลง End Credits หนังตอนจบ สไตล์ดนตรีคล้ายเพลงในเรื่อง Pirates of the Caribbean ของ Hans Zimmer )
The Warrior 's Gate Ending (มี Spoil)
สิ่งที่น่าสนใจในหนัง
ผมคิดว่าใน The Warriors Gate มีสิ่งที่น่าสนใจ คือ พื้นเรื่องของหนังคล้ายกับประวัติศาสตร์จริงบางส่วนของประเทศจีน ในยุคจีนโบราณที่บางทีเมื่อราชวงศ์อ่อนแอ ชนเผ่านอกอาณาจักร ก็เข้ามารุกราน จนต้องมีคนมากอบกู้อาณาจักรเอาไว้ (เช่น จูหยวนจาง ที่เข้ามากอบกู้อาณาจักร ขับไล่มองโกลที่ถูกมองว่าเป็นชนเผ่าป่าเถื่อนในสายตาชาวฮั่นออกไป) แต่ในที่นี้แจ๊คจะเป็นผู้กอบกู้แทนและคนที่เป็นผู้ปกครองคือ ซูหลิน
หนังยังแฝงคตินิยมแบบจีนในเรื่องการมองจักรพรรดิว่า เป็นผู้ที่ใครจะแตะต้องไม่ได้ (เพราะ เป็นโอรสจากสวรรค์) หนังแฝงวัฒนธรรมแบบจีน เช่น การร่ายรำไทเก๊ก ที่ทำให้สุขภาพดีและเสริมสร้างลมปราณภายใน
ปรัชญาที่แฝงในหนัง (มี Spoil)
หนังพูดถึงแก่นแท้ของปรัชญาการต่อสู้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้องครักษ์จ้าว สั่งให้พระเอก ยืนกางขา งอเข่า หลังตรง เอามือเหยียดตรงทำท่าโอบอากาศไว้ จินตนาการเหมือนว่าตัวเองโอบต้นไม้ใหญ่เป็นวงอยู่ (ใครเคยเรียนเทควันโด คงจะคุ้นเคยกับท่าขี่ม้าชก ท่านี้ท่ายืนคล้ายกับท่าที่พระเอกทำ) ซึ่งพระเอกก็สงสัยว่าทำไมต้องทำแบบนี้และในที่สุด องครักษ์จ้าว ก็ได้อธิบายถึงความหมายของการฝึก
"วงกลม คือ พื้นฐานของวรยุทธทั้งหมดทั้งมวล" เพราะ วงกลม คือ พื้นฐานของการหมุนเวียนพลัง การต่อสู้ด้วยกังฟู ล้วนเกี่ยวข้องกับวงกลมทั้งสิ้น เช่น การปัดหมัดคู่ต่อสู้ออกเป็นวง การดูดถ่ายแรงคู่ต่อสู้เพื่อไม่ให้ปะทะกับเราโดยตรงและสะท้อนกลับไปสู่ตัวคู่ต่อสู้เอง แม้กระทั่งการรำไทเก๊ก ก็เกี่ยวข้องกับวงกลม เพราะ เป็นการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างช้าๆ พร้อมเคลื่อนที่และวาดมือร่ายเป็นวง
ในสัญลักษณ์หยินหยาง เครื่องหมายแห่งความสมดุล ก็ยังมีลักษณะหมุนเวียนเป็นวงกลม ผสานกันสร้างความสมดุลของขั้วที่อยู่ตรงข้ามกันให้อยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกลืน ดังนั้นแก่นของวรยุทธจริงๆ จึงอยู่ที่การทำให้ร่างกายและตัวตนกลายเป็นวงกลม เมื่อใดที่เข้าใจถึงจุดนี้ ก็คือ ยามที่เข้าถึงจุดสูงสุดของวิทยายุทธแล้ว
วงกลมในที่นี้ที่หนังสื่อ ผมคิดว่า ปรัชญาจริงๆของมัน ยังสอดรับกับแนวคิดปรัญญาจีนด้านอื่นอีกด้วย คือ การทำทุกอย่างให้อยู่ในความสมดุล การหมุนเวียนไปมาของธรรมชาติและสิ่งมีชีวิต การใช้ชีวิตอย่างสมดุล
สรุป
สำหรับ The Warriors Gate ผมให้ 7.5/10 (แต่ถ้าคะแนนความตลก ผมให้ 10/10 ครับ) หนังทำได้สนุก มันส์ แม้จะมีเนื้อเรื่องตามสูตรสำเร็จ เดาทางได้ แต่ก็อุดมไปด้วยมุกตลกสุดฮาที่ไม่ทำให้ใครผิดหวัง เป็นหนังดูง่ายเรื่องหนึ่งที่ไม่ต้องคิดมาก (และอย่าไปคิดมากด้วย) ซึ่งด้วยพล็อตเรื่องแบบจีนแต่ดันดำเนินเรื่องสไตล์ยุโรปนี้ เป็นมุมใหม่น่าสนใจของหนังยุโรปที่ดึงความเป็นวัฒนธรรมจีนเข้ามาผสมกับวงการหนังมากขึ้น (อิทธิพลจีนกำลังส่งผลต่อวัฒนธรรมโลกมากขึ้นเรื่อยๆ) ด้วยการผสมผสานของเอเชียและยุโรปนี้ ทำให้หนังมีความสร้างสรรค์ สนุกสนาน ไม่น่าเบื่อ ประกอบกับ Location ประเทศจีนอันงดงาม Production สุดอลังการ ทำให้ The Warriors Gate เป็นหนังที่ไม่น่าพลาด
The Warriors Gate เป็นหนังบู๊ที่สนุก บันเทิง ตลก(โคตร) เป็นยาแก้เครียดชั้นดี เหมาะสำหรับคนไม่คิดมากและถ้าคุณดูหนังเครียดๆมาเยอะ อยากจะผ่อนคลายสมองบ้าง The Warriors Gate ไม่ทำให้คุณผิดหวัง
7.5/10
-------------------------------------------
ป.ล. อีกหนึ่งช่องทาง หากชอบรีวิวหรืออยากติดตามพูดคุยกันนะครับ
[SR] (Review) THE WARRIORS GATE (2016) : เมื่อหนังจีน ถูกเขียนบทด้วยลุค เบซอง & การผจญภัยทะลุมิติสุดท้าทาย
นักแสดง(ตลกจำเป็น)
ดนตรีประกอบภาพยนตร์
ดนตรีประกอบภาพยนตร์ทำได้ดี เร้าอารมณ์ให้หนังน่าติดตามอยู่ตลอด ในบางช่วงดนตรีก็มีกลิ่นอายแบบจีน มีการใส่เครื่องดนตรีจีน เพื่อสร้างทำนองบรรยากาศแบบจีน แต่ในบางช่วงก็ใช้ดนตรีที่ฉับไวสไตล์หนังแอ็คชันฝรั่ง รวมถึงเพลงธรรมดาบรรยากาศสมัยใหม่ ทำให้หนังดูตื่นเต้น ฉับไว ออกมาในแนวฝรั่ง (ไม่รู้ว่าผมหูเสียหรือหูไม่ดีหรือเปล่า มีความรู้สึกว่า เพลง End Credits หนังตอนจบ สไตล์ดนตรีคล้ายเพลงในเรื่อง Pirates of the Caribbean ของ Hans Zimmer )
สิ่งที่น่าสนใจในหนัง
หนังยังแฝงคตินิยมแบบจีนในเรื่องการมองจักรพรรดิว่า เป็นผู้ที่ใครจะแตะต้องไม่ได้ (เพราะ เป็นโอรสจากสวรรค์) หนังแฝงวัฒนธรรมแบบจีน เช่น การร่ายรำไทเก๊ก ที่ทำให้สุขภาพดีและเสริมสร้างลมปราณภายใน
ปรัชญาที่แฝงในหนัง (มี Spoil)
สรุป
ป.ล. อีกหนึ่งช่องทาง หากชอบรีวิวหรืออยากติดตามพูดคุยกันนะครับ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น