สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นต้องขอแนะนำตัวก่อน จขกท.เป็นนศ.ปีสี่ มหาลัยค่อนข้างดังในภาคเหนือ ซึ่งขอสงวนพื้นที่ส่วนตัวแค่แชร์ประสบการณ์เท่านั้นนะคะ ขออนุญาตไม่เปิดเผยตัวตน อิอิ ดูเป็นการเป็นงาน จริงจัง

ดด เบื่ออ่าน อินโทร ข้ามไปบรรทัดที่มี ****** เลยค่ะ
เนื่องจากกระทู้นี้เป็นกระทู้แรกและจขกท.เป็นเจ้าของ สมัครเอง ยืนยันเอง เล่าเอง เข้มป่ะละ 555555 ผิดพลาดอะไรขอโทษด้วยนะคะ
เห็นหลายคนแชร์ประสบการณ์ขนหัวลุกให้อ่านอย่างเมามันส์ และตัวจขกท.เองก็ชอบที่จะนั่งอ่าน ประสบการณ์ของเพื่อนๆชาวพันทิป บางเรื่องก็ขนหัวลุกปนๆกับตลกขำขันกันไป บางเรื่องก็จริงจังเศร้าเคล้าน้ำตา
วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ของตัวเองบ้าง เอาเรื่องแรกคือ อ่านสือสอบ คืนวันพระใหญ่ (คนเหนือเขาพูดกันแบบนี้ถ้าอยากรู้เพิ่มเติม google เลยจ้า)
***** เรื่องเกิดตอนจขกท.อยู่ปี 2-3 จำรายละเอียดปลีกย่อยไม่ได้ทั้งหมด
เริ่มเรื่องจากชีวิตพื้นฐานของนศ.ส่วนใหญ่ พอใกล้สอบ ไม่ไฟนอลก็มิสเทอม จะมีเทศกาลอ่านหนังสือดึกๆ เผลอๆบางคนอาจจะอ่านยันเช้า เรียกกันว่า โต้รุ่งกันไปข้างนึงเลย
ตัวจขกท.เองเป็นนศ.ที่ค่อยข้างชอบออกไปอ่านหนังสือข้างนอก คนเดียวบ้างกับเพื่อนบ้าง แต่ส่วนใหญ่ชอบที่จะไปกับเพื่อนมากกว่า
ด้วยงบทางการเงินที่หายไประหว่างทาง (กิน,เที่ยว บลาๆ) ทำให้ก่อนสอบเงินก็มีน้อยนิด เลยไม่อยากที่จะไปนั่งอ่านตามร้านกาแฟหรือร้านอ่านหนังสือที่เปิดดึกๆ
ก็เลยนัดกับเพื่อนไปอ่านหนังสือกัน 3 คน โดยประมาณ วันนั้นจำได้แม่นว่าเป็นวันพระ และเป็นวันที่คนเหนือเรียกว่าวันปล่อยผี ตามความเชื่อ นศ.หลายๆคนมักจะกลับบ้านกันในวันนี้ และให้เหตุผลว่า วันปล่อยผี กูกลัว คงแรงอ่า กลับบ้านดีกว่า อุ่นใจ จุฟๆ
ตัวจขกท.เองไม่ได้กลับเนื่องจากติดสอบ เลยจำเป็นต้องอ่านหนังสือ ประกอบกับไม่ได้กลัวถึงขนาดนั้น เป็นคนที่เชื่อเรื่องเหนือธรรมชาตินะคะ แต่เวลาเจอต้องมีเหตุมีผลมาสนับสนุน เพราะบางกรณีเป็นแค่ปรากฏการณ์ธรรมชาติอย่าง ดึกๆ เหล็กโครงสร้างตึกคลายตัว จะได้ยินเสียงคล้ายๆลูกแก้วตก อะไรประมาณนี้ก็จะไม่กลัวค่ะ หอพักจขกท.เป็นห้องค่อนข้างเล็กหน่อย มีประตูสามประตูคือ ประตูห้อง ประตูระเบียงกับประตูห้องน้ำ เวลาปิดประตูแรงๆ อธิบายง่ายๆจะเกิดการบีบอัดของมวลอากาศ (รึเปล่า) ทำให้ประตูที่อยู่อีกฝั่งมีเสียงดังขึ้นคล้ายๆ คนผลักประตู กึกๆๆ ยิ่งฤดูฝน ไม่ต้องพูดถึงค่ะ ลมข้างนอกตีเข้าประตูสามบานพร้อมกัน ดังสลับกันเป็นเสียงเพลง กึกกักๆๆ เหมือนคนมาผลักประตูตลอดเวลา แบบนี้จะไม่กลัวค่ะ เพราะรู้อยู่แล้วว่าเพราะอะไร
กลับมาที่เดิม พอจะอ่านนส.กัน ก็ต้องมานั่งคิดกันว่า จะไปอ่านกันที่ไหน? เนื่องจากเทศกาลสอบ ในมอคนเยอะ(หรือเปล่า) + ยุงเยอะอีก (-าด)
หลังจากนั่งคิดเป็นประเด็นกันอยู่นานพอสมควร เลยได้ข้อสรุปว่าจะไปอ่านหนังสือใต้หอเพื่อนคนนึง ซึ่งตอนนั้นไม่ได้ร่วมวงสนทนาด้วย
อธิบายพอสังเขปเกี่ยวกับหอเพื่อนคนนี้ ซึ่งจขกท.เอง ก็เพิ่งจะมึ้ง (มึ้งเป็นภาษาเหนือแปลว่า คิดได้) หลังจากเจอดีกันแล้วว่า หอเพื่อนคนนี้เป็นหอที่ตั้งอยู่บนทางสามแพร่ง หอนางจะมีรั้วกั้นรอบตึก ตึกสูงสี่ชั้นมั้ง ถ้าจำไม่ผิด จะมีอยู่อยู่สองตึกหันหน้าเข้าหากัน เป็นหอพักญ/ช ล้วนแยกกัน
เคยไปนอนเล่น+ ทำงานที่ห้องนางอยู่สองสามครั้ง เคยถามแก้มแซวไปว่า อยู่หอคนเดียวเจอผีบ้าวเปล่า เพราะเพื่อนจขกท.คนนี้ ค่อนข้างสันโดษ ชอบที่จะอยู่คนเดียว อะโลนๆ ชั้นชอบ และนางอยู่ชั้นสอง ห้องเกือบในสุด (มั้งนะ)
นางก็ตอบเป็นนัยๆให้ตีความหมายเอาเองว่า บางวันก็ได้กลิ่นหอมของธูป (อันนี้น่าจะมีคนจุดธูปอะนะ) บางวันก็ได้กลิ่นสาบๆ แต่ส่วนใหญ่จะได้กลิ่นหอมของธูปมากกว่า อ่อออออค่ะ (เรื่องนี้เคยถามตอนปี1 ลืม!! )
ด้วยความที่หอใกล้กันมาก ปากซอย กับทางแยกในซอย ไม่กี่ร้อยเมตร จขกท.ไปพร้อมเพื่อนที่ไปรับมาก่อนนั้น
ตอนนี้พวกเราก็อยู่ใต้หอนางเรียบร้อย วันนั้นอากาศค่อยข้างเย็น (หลอนไปอีกกกกก) ในหัวพวกเราไม่คิดถึงเรื่องผีๆสางๆ อะไรกันเลย เพราะกังวลกับการสอบที่จะมาถึงกันมากกว่า ด้วยความที่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย จขกท.ก็เลยไม่ค่อยสบาย และวันนั้นก็ปวดหัวตุบๆ (นิสๆ เกิดเป็นชะนีต้องสตรอง) มีไข้นิดหน่อย บางคนเชื่อว่า คนที่ไม่สบาย จิตจะอ่อนกว่าคนปกติ จึงมักจะเจออะไรๆที่เหนือธรรมชาติได้ง่ายกว่า อันนี้ก็เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะคะ
พอไปถึง ก็โทร.หาเพื่อนให้ลงมาอ่านด้วยกันใต้หอ
เมื่อมากันครบแล้ว พวกเราเริ่มอ่านด้วยกัน ปกติจขกท.เองจะค่อนข้างมีสมาธิเวลาอ่านหนังสือระดับนึง คิดในใจวันนี้ทำไม ไม่ค่อยมีสมาธิ อากาศรอบๆ คือแบบมันอึนๆ แต่เพื่อนๆ ก็ดูปกติ ไม่มีใครมีความรู้สึกแปลกๆ หรือแสดงสีหน้าว่ามันแปลกเลยซักคน
จขกท.เองก็เลยคิดว่า มันอาจจะเพราะเราไม่สบาย ถ้ากลับหอคงต้องพาราเซไปนอน ซักเม็ดแล้วหละ
พวกเราอ่านหนังสือตั้งแต่หัวค่ำ ตอนเวลาเข้าใกล้เที่ยงคืนเข้าไปทุกทีๆ เพื่อนๆ ยังคงตั้งใจอ่านหนังสือ แต่บางคนเริ่มไม่ค่อยมีสมาธิกันแล้ว จึงมีบางคนหยิบมือถือขึ้นมาเล่นบ้าง เป็นการพักสมอง พักสายตา
ยิ่งเข้าใกล้เที่ยงคืน จขกท. เริ่มรู้สึกว่าอาการรอบข้าง เงียบ เงียบมากกกก คือไม่มีเสียงของแมลงหรืออะไรเลย ทั้งๆที่หัวค่ำจะมีเสียงจิ้งหริด หรือเสียงสัตว์ เสียงลม แต่ตอนนี้ไม่มีเลย พร้อมๆกับความรู้สึกที่เหมือนมีคนมองอยู่ตอนเวลา ทำให้จขกท.เริ่มมองซ้ายมองขวา
แล้วเพื่อนๆก็คุยกัน เนื่องจากเริ่มล้ากับการอ่านหนังสือเป็นเวลานาน (ยังๆ มันยังไม่รู้ตัว) เม้ามอยกันใหญ่ หัวเราะบ้าง
แล้วจขกท.ก็เริ่มไม่ไหวกับบรรยากาศอึนๆ ก็เลยพูดออกมาว่า "วันนี้รู้สึกไม่ค่อยดีเลย อึนๆหวะ แปลกๆ" พอเพื่อนได้ยิน ก็พูดทำนองปลอบใจ เหมือนพวกมันไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรเลย จขกท.เองก็เลย เลยตามเลย เพราะตอนนั้นก็กำลังงงงวนกับเนื้อหาที่จะสอบอยู่
เราคุยกันซักพักจึงอ่านหนังสือกันต่อ
จนกระทั่งเวลา ตี 1-2 พวกเราก็เริ่มไม่ไหวกันแล้ว บางคนก็ไม่อ่านแล้ว นั่งเล่นโทรศัพท์ บางคนก็เริ่มคุย ก็เหมือนรู้กัน ต่างคนก็ต่างเริ่มหยุดอ่าน เพราะแต่ละคนก็ไม่ค่อยจะไหวกัน
อย่ากระนั้นเลยไม่รอช้า จขกท.คิดว่า ใส่ก่อนได้เปรียบ (กูจะปิกละ)
จขกท. "ปิกละปะ"
เพื่อน "เอ่อ ปะ ปิกละบ๋อ บะไหวแล้ว ไค่หลับ"
จขกท. "โอเค ปิกหอกั๋น"
จากนั้นเพื่อนๆก็ทะยอยเก็บของ แล้วแยกย้ายกันกลับ โดยมีเพื่อนจขกท.คนนึง มานอนด้วย เนื่องจากหอนางอยู่ไกล และเวลานี้ก็ดึกเกินกว่าจะกลับ พอถึงห้องจขกท. ก็อาบน้ำ แล้วเตรียมนอน ก่อนนอนก็คุยกับเพื่อนนิดหน่อย (เรื่องไร้สาระ) ซึ่งในระหว่างคุยกันจขกท.มีความรู้สึกที่ยังคงมีคนมองอยู่ตลอดเวลา ปกติไม่เคยเป็นเลยเวลาอยู่หอ
พอคุยกันจนหน่ำใจ ก็ได้เวลาเข้านอน จขกท.ก็ปิดไฟ โดยทั้งเพื่อนและจขกท.ต่างนอนหงายกันทั้งคู่
ต้องเล่าก่อนว่า เพื่อนจขกท.คนนี้ ในชีวิตของนางไม่เคยเจผอสระผีมาก่อน นางบอกว่า กูไม่เคยเจอเลยยยยย แต่กูก็กลัวนะ (อีผี ไม่เคยเจอเลย จะกลัวทำไมวะ ไม่มีเซ้นอะ)
จังหวะที่จขกท.กำลังเคลิมๆใกล้หลับเต็มทนละ ก็มีความรู้สึกนึงเกิดขึ้น คือ ขยับตัวไม่ได้ โอ้ยยยยยยย กูไค่หลับบบบ (กูง่วงนอน)
จขกท.ขยับตัวไม่ได้ค่ะ พยายามอย่างมากในการขยับตัว เพราะอยากเปลี่ยนทา พยายามอยู่นานเลย (ในความคิดของเรานะ) เลยทนไม่ไหว เรียกเพื่อนเลยจ้า (ขอเรียกว่า ปอนะคะ)
จขกท. "ปอ ปออ ปอออ ปออออออ ปอออออโว้ยยยยยย เอ่ปอออออ" ไม่ได้ยิน และไม่มีเสียงใดๆออกจากปากจขกท.เลย ที่ไม่ค่อยกลัวหรือตื่นเต้นอะไรมาก ปกติโดนประจำค่ะ และไม่ตื่นเต้น สวดมนต์อะไร ส่วนมากถ้าอยู่นิ่งๆ ซักพักเขาก็จะไปเอง แต่นี้ไม่ไหวจริงๆอึดอัดมากกก
พอเพื่อนจขกท.ไม่ได้ยิน เลยทำให้จขกท.เอง เริ่มหัวร้อน และด้วยความที่ง่วงมาก เลยหยุดค่ะ หยุดในที่นี้คือหยุดกระวนกระวาย หยุดดิ้นรน แต่หันมาสู้ค่ะ งัดข้อแข็ง

พยายามยกมือขึ้นแข่งกับแรงกดทับค่ะ งัดก็เป็นเวลาพอสมควรก็หลุดค่ะ
พอหลุดแล้วจขกท.ก็เปลี่ยนท่านอน แล้วหลับต่อ (เหนื่อยมากไม่ไหวจะ ลุกมาโวยวายเปิดไฟร้องไห้ กูง่วงงง) ซักพักได้ยินเสียงคางเล็กๆ หืออๆๆ ใกล้ๆตัวจขกท. เลยตั้งใจฟังดีๆ หลับตาไปด้วยเพราะง่วง ปรากฏว่า เสียงเพื่อนจขกท.เอง คางหือๆ อยู่แปบนึง
จขกท.ก็นอนฟังมันคางงั้นแหละ ไม่นานนางก็เปลี่ยนท่า โอเค มันเปลี่ยนท่าละ สงสัยวันนี้มันคงเหนื่อยมาก ฝันแน่เลย
พอตื่นเช้ามา รู้สึกวันนั้นจะไม่มีเรียน หรือเรียนบ่าย ไม่แน่ใจ คุยกับเพื่อนตามปกติ เม้ามอยไปเรื่อย สุดท้ายมนมาเรื่องนอน
จขกท. "เมื่อคืนนอนเป็นไงมั้ง หลับสบายเลยสิ กรนด้วย" ประชดเล็กๆ
เพื่อน "เอ่อ" แล้วก็นิ่งไปสามสี่วิ แล้วพูดต่อว่า " เมื่อคืนกูขยับตัวไม่ได้อ่า" เอาแล้วไง
จขกท. "อ่าวหรอ" นางก็พูดต่อว่า
เพื่อน "รู้มั้ย เมื่อคืนพอกูขยับตัวไม่ได้ กูเรียกนานมาก โคตรดัง ดังจนน่าจะได้ยินออกไปข้างนอก เขาได้ยินกันทั้งตึกเลยมั้ง ไม่ได้ยินกูหรอ??"
คิดในใจ กูได้ยิน ได้ยินแค่เสียงหือออๆๆ ในลำคออ่า แต่ได้แค่ตอยว่า "ไม่ได้ยินอ่า"
จขกม. "โดนผีอำแล้วหละ เมื่อคืนกูก็โดน โดนก่อนอ่า ตอนแรกกูคิดว่า เขาจะมาทำกับกูคนเดียว แต่นี้โดนด้วยหรอ"
เพื่อน "เอ่อ กูโดนด้วยอ่า เห๊ยยยย ผีอำมันเป็นแบบนี้เองหรอ เห๊ยยย เพิ่งเคยเจอ" ยังๆ ยังทำเป็นมีมุขตบท้าย
เพื่อน "หน้ากลัวหวะ"
จากนั้นเราก็เริ่มเงียบ แล้วเริ่มคิดละว่าเพราะอะไร ทำไมเขาถึงตามมา ซึ่งแน่นอน เขาตามมาจากหอเพื่อน คิดไปคิดว่า อ่อ สงสัยเราไปชวนเขากลับมาด้วย ตอนที่เราจะกลับกัน มีคำพูดนึงที่ตัวจขกท.เองเป็นคนพูดชวนเพื่อนๆกับ แต่สงสัยเขาเข้าใจคิดว่าเราชวนเขากลับด้วย เราก็พูดลอยๆว่า ไม่ได้ชวนกลับมาด้วยนะ เข้าใจผิดแล้ว กลับไปเถอะ แล้วจะทำบุญไปให้ แล้วหลังจากนั้นก็เป็นประเด็นร้อนในกลุ่มเพื่อนกับพักใหญ่ ถึงการโดนอำแพคคู่ของเรา จบแล้วค่ะ ^^
เพื่อนๆ ถ้าออกไปอ่านหนังสือข้างนอก ก็ระมัดระวังตัวเองด้วยนะคะ เอาเสื้อกันหนาวไปด้วย กลางคืนอากาศเย็นมาก ไว้ว่างๆจะมาเล่าเรื่องอื่นๆ ในชีวิตมหาลัยนะคะ ^^
อ่านสือสอบ คืนวันพระใหญ่ (ม้วนเดียวจบ)
เนื่องจากกระทู้นี้เป็นกระทู้แรกและจขกท.เป็นเจ้าของ สมัครเอง ยืนยันเอง เล่าเอง เข้มป่ะละ 555555 ผิดพลาดอะไรขอโทษด้วยนะคะ
เห็นหลายคนแชร์ประสบการณ์ขนหัวลุกให้อ่านอย่างเมามันส์ และตัวจขกท.เองก็ชอบที่จะนั่งอ่าน ประสบการณ์ของเพื่อนๆชาวพันทิป บางเรื่องก็ขนหัวลุกปนๆกับตลกขำขันกันไป บางเรื่องก็จริงจังเศร้าเคล้าน้ำตา
วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ของตัวเองบ้าง เอาเรื่องแรกคือ อ่านสือสอบ คืนวันพระใหญ่ (คนเหนือเขาพูดกันแบบนี้ถ้าอยากรู้เพิ่มเติม google เลยจ้า)
***** เรื่องเกิดตอนจขกท.อยู่ปี 2-3 จำรายละเอียดปลีกย่อยไม่ได้ทั้งหมด
เริ่มเรื่องจากชีวิตพื้นฐานของนศ.ส่วนใหญ่ พอใกล้สอบ ไม่ไฟนอลก็มิสเทอม จะมีเทศกาลอ่านหนังสือดึกๆ เผลอๆบางคนอาจจะอ่านยันเช้า เรียกกันว่า โต้รุ่งกันไปข้างนึงเลย
ตัวจขกท.เองเป็นนศ.ที่ค่อยข้างชอบออกไปอ่านหนังสือข้างนอก คนเดียวบ้างกับเพื่อนบ้าง แต่ส่วนใหญ่ชอบที่จะไปกับเพื่อนมากกว่า
ด้วยงบทางการเงินที่หายไประหว่างทาง (กิน,เที่ยว บลาๆ) ทำให้ก่อนสอบเงินก็มีน้อยนิด เลยไม่อยากที่จะไปนั่งอ่านตามร้านกาแฟหรือร้านอ่านหนังสือที่เปิดดึกๆ
ก็เลยนัดกับเพื่อนไปอ่านหนังสือกัน 3 คน โดยประมาณ วันนั้นจำได้แม่นว่าเป็นวันพระ และเป็นวันที่คนเหนือเรียกว่าวันปล่อยผี ตามความเชื่อ นศ.หลายๆคนมักจะกลับบ้านกันในวันนี้ และให้เหตุผลว่า วันปล่อยผี กูกลัว คงแรงอ่า กลับบ้านดีกว่า อุ่นใจ จุฟๆ
ตัวจขกท.เองไม่ได้กลับเนื่องจากติดสอบ เลยจำเป็นต้องอ่านหนังสือ ประกอบกับไม่ได้กลัวถึงขนาดนั้น เป็นคนที่เชื่อเรื่องเหนือธรรมชาตินะคะ แต่เวลาเจอต้องมีเหตุมีผลมาสนับสนุน เพราะบางกรณีเป็นแค่ปรากฏการณ์ธรรมชาติอย่าง ดึกๆ เหล็กโครงสร้างตึกคลายตัว จะได้ยินเสียงคล้ายๆลูกแก้วตก อะไรประมาณนี้ก็จะไม่กลัวค่ะ หอพักจขกท.เป็นห้องค่อนข้างเล็กหน่อย มีประตูสามประตูคือ ประตูห้อง ประตูระเบียงกับประตูห้องน้ำ เวลาปิดประตูแรงๆ อธิบายง่ายๆจะเกิดการบีบอัดของมวลอากาศ (รึเปล่า) ทำให้ประตูที่อยู่อีกฝั่งมีเสียงดังขึ้นคล้ายๆ คนผลักประตู กึกๆๆ ยิ่งฤดูฝน ไม่ต้องพูดถึงค่ะ ลมข้างนอกตีเข้าประตูสามบานพร้อมกัน ดังสลับกันเป็นเสียงเพลง กึกกักๆๆ เหมือนคนมาผลักประตูตลอดเวลา แบบนี้จะไม่กลัวค่ะ เพราะรู้อยู่แล้วว่าเพราะอะไร
กลับมาที่เดิม พอจะอ่านนส.กัน ก็ต้องมานั่งคิดกันว่า จะไปอ่านกันที่ไหน? เนื่องจากเทศกาลสอบ ในมอคนเยอะ(หรือเปล่า) + ยุงเยอะอีก (-าด)
หลังจากนั่งคิดเป็นประเด็นกันอยู่นานพอสมควร เลยได้ข้อสรุปว่าจะไปอ่านหนังสือใต้หอเพื่อนคนนึง ซึ่งตอนนั้นไม่ได้ร่วมวงสนทนาด้วย
อธิบายพอสังเขปเกี่ยวกับหอเพื่อนคนนี้ ซึ่งจขกท.เอง ก็เพิ่งจะมึ้ง (มึ้งเป็นภาษาเหนือแปลว่า คิดได้) หลังจากเจอดีกันแล้วว่า หอเพื่อนคนนี้เป็นหอที่ตั้งอยู่บนทางสามแพร่ง หอนางจะมีรั้วกั้นรอบตึก ตึกสูงสี่ชั้นมั้ง ถ้าจำไม่ผิด จะมีอยู่อยู่สองตึกหันหน้าเข้าหากัน เป็นหอพักญ/ช ล้วนแยกกัน
เคยไปนอนเล่น+ ทำงานที่ห้องนางอยู่สองสามครั้ง เคยถามแก้มแซวไปว่า อยู่หอคนเดียวเจอผีบ้าวเปล่า เพราะเพื่อนจขกท.คนนี้ ค่อนข้างสันโดษ ชอบที่จะอยู่คนเดียว อะโลนๆ ชั้นชอบ และนางอยู่ชั้นสอง ห้องเกือบในสุด (มั้งนะ)
นางก็ตอบเป็นนัยๆให้ตีความหมายเอาเองว่า บางวันก็ได้กลิ่นหอมของธูป (อันนี้น่าจะมีคนจุดธูปอะนะ) บางวันก็ได้กลิ่นสาบๆ แต่ส่วนใหญ่จะได้กลิ่นหอมของธูปมากกว่า อ่อออออค่ะ (เรื่องนี้เคยถามตอนปี1 ลืม!! )
ด้วยความที่หอใกล้กันมาก ปากซอย กับทางแยกในซอย ไม่กี่ร้อยเมตร จขกท.ไปพร้อมเพื่อนที่ไปรับมาก่อนนั้น
ตอนนี้พวกเราก็อยู่ใต้หอนางเรียบร้อย วันนั้นอากาศค่อยข้างเย็น (หลอนไปอีกกกกก) ในหัวพวกเราไม่คิดถึงเรื่องผีๆสางๆ อะไรกันเลย เพราะกังวลกับการสอบที่จะมาถึงกันมากกว่า ด้วยความที่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย จขกท.ก็เลยไม่ค่อยสบาย และวันนั้นก็ปวดหัวตุบๆ (นิสๆ เกิดเป็นชะนีต้องสตรอง) มีไข้นิดหน่อย บางคนเชื่อว่า คนที่ไม่สบาย จิตจะอ่อนกว่าคนปกติ จึงมักจะเจออะไรๆที่เหนือธรรมชาติได้ง่ายกว่า อันนี้ก็เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะคะ
พอไปถึง ก็โทร.หาเพื่อนให้ลงมาอ่านด้วยกันใต้หอ
เมื่อมากันครบแล้ว พวกเราเริ่มอ่านด้วยกัน ปกติจขกท.เองจะค่อนข้างมีสมาธิเวลาอ่านหนังสือระดับนึง คิดในใจวันนี้ทำไม ไม่ค่อยมีสมาธิ อากาศรอบๆ คือแบบมันอึนๆ แต่เพื่อนๆ ก็ดูปกติ ไม่มีใครมีความรู้สึกแปลกๆ หรือแสดงสีหน้าว่ามันแปลกเลยซักคน
จขกท.เองก็เลยคิดว่า มันอาจจะเพราะเราไม่สบาย ถ้ากลับหอคงต้องพาราเซไปนอน ซักเม็ดแล้วหละ
พวกเราอ่านหนังสือตั้งแต่หัวค่ำ ตอนเวลาเข้าใกล้เที่ยงคืนเข้าไปทุกทีๆ เพื่อนๆ ยังคงตั้งใจอ่านหนังสือ แต่บางคนเริ่มไม่ค่อยมีสมาธิกันแล้ว จึงมีบางคนหยิบมือถือขึ้นมาเล่นบ้าง เป็นการพักสมอง พักสายตา
ยิ่งเข้าใกล้เที่ยงคืน จขกท. เริ่มรู้สึกว่าอาการรอบข้าง เงียบ เงียบมากกกก คือไม่มีเสียงของแมลงหรืออะไรเลย ทั้งๆที่หัวค่ำจะมีเสียงจิ้งหริด หรือเสียงสัตว์ เสียงลม แต่ตอนนี้ไม่มีเลย พร้อมๆกับความรู้สึกที่เหมือนมีคนมองอยู่ตอนเวลา ทำให้จขกท.เริ่มมองซ้ายมองขวา
แล้วเพื่อนๆก็คุยกัน เนื่องจากเริ่มล้ากับการอ่านหนังสือเป็นเวลานาน (ยังๆ มันยังไม่รู้ตัว) เม้ามอยกันใหญ่ หัวเราะบ้าง
แล้วจขกท.ก็เริ่มไม่ไหวกับบรรยากาศอึนๆ ก็เลยพูดออกมาว่า "วันนี้รู้สึกไม่ค่อยดีเลย อึนๆหวะ แปลกๆ" พอเพื่อนได้ยิน ก็พูดทำนองปลอบใจ เหมือนพวกมันไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรเลย จขกท.เองก็เลย เลยตามเลย เพราะตอนนั้นก็กำลังงงงวนกับเนื้อหาที่จะสอบอยู่
เราคุยกันซักพักจึงอ่านหนังสือกันต่อ
จนกระทั่งเวลา ตี 1-2 พวกเราก็เริ่มไม่ไหวกันแล้ว บางคนก็ไม่อ่านแล้ว นั่งเล่นโทรศัพท์ บางคนก็เริ่มคุย ก็เหมือนรู้กัน ต่างคนก็ต่างเริ่มหยุดอ่าน เพราะแต่ละคนก็ไม่ค่อยจะไหวกัน
อย่ากระนั้นเลยไม่รอช้า จขกท.คิดว่า ใส่ก่อนได้เปรียบ (กูจะปิกละ)
จขกท. "ปิกละปะ"
เพื่อน "เอ่อ ปะ ปิกละบ๋อ บะไหวแล้ว ไค่หลับ"
จขกท. "โอเค ปิกหอกั๋น"
จากนั้นเพื่อนๆก็ทะยอยเก็บของ แล้วแยกย้ายกันกลับ โดยมีเพื่อนจขกท.คนนึง มานอนด้วย เนื่องจากหอนางอยู่ไกล และเวลานี้ก็ดึกเกินกว่าจะกลับ พอถึงห้องจขกท. ก็อาบน้ำ แล้วเตรียมนอน ก่อนนอนก็คุยกับเพื่อนนิดหน่อย (เรื่องไร้สาระ) ซึ่งในระหว่างคุยกันจขกท.มีความรู้สึกที่ยังคงมีคนมองอยู่ตลอดเวลา ปกติไม่เคยเป็นเลยเวลาอยู่หอ
พอคุยกันจนหน่ำใจ ก็ได้เวลาเข้านอน จขกท.ก็ปิดไฟ โดยทั้งเพื่อนและจขกท.ต่างนอนหงายกันทั้งคู่
ต้องเล่าก่อนว่า เพื่อนจขกท.คนนี้ ในชีวิตของนางไม่เคยเจผอสระผีมาก่อน นางบอกว่า กูไม่เคยเจอเลยยยยย แต่กูก็กลัวนะ (อีผี ไม่เคยเจอเลย จะกลัวทำไมวะ ไม่มีเซ้นอะ)
จังหวะที่จขกท.กำลังเคลิมๆใกล้หลับเต็มทนละ ก็มีความรู้สึกนึงเกิดขึ้น คือ ขยับตัวไม่ได้ โอ้ยยยยยยย กูไค่หลับบบบ (กูง่วงนอน)
จขกท.ขยับตัวไม่ได้ค่ะ พยายามอย่างมากในการขยับตัว เพราะอยากเปลี่ยนทา พยายามอยู่นานเลย (ในความคิดของเรานะ) เลยทนไม่ไหว เรียกเพื่อนเลยจ้า (ขอเรียกว่า ปอนะคะ)
จขกท. "ปอ ปออ ปอออ ปออออออ ปอออออโว้ยยยยยย เอ่ปอออออ" ไม่ได้ยิน และไม่มีเสียงใดๆออกจากปากจขกท.เลย ที่ไม่ค่อยกลัวหรือตื่นเต้นอะไรมาก ปกติโดนประจำค่ะ และไม่ตื่นเต้น สวดมนต์อะไร ส่วนมากถ้าอยู่นิ่งๆ ซักพักเขาก็จะไปเอง แต่นี้ไม่ไหวจริงๆอึดอัดมากกก
พอเพื่อนจขกท.ไม่ได้ยิน เลยทำให้จขกท.เอง เริ่มหัวร้อน และด้วยความที่ง่วงมาก เลยหยุดค่ะ หยุดในที่นี้คือหยุดกระวนกระวาย หยุดดิ้นรน แต่หันมาสู้ค่ะ งัดข้อแข็ง
พอหลุดแล้วจขกท.ก็เปลี่ยนท่านอน แล้วหลับต่อ (เหนื่อยมากไม่ไหวจะ ลุกมาโวยวายเปิดไฟร้องไห้ กูง่วงงง) ซักพักได้ยินเสียงคางเล็กๆ หืออๆๆ ใกล้ๆตัวจขกท. เลยตั้งใจฟังดีๆ หลับตาไปด้วยเพราะง่วง ปรากฏว่า เสียงเพื่อนจขกท.เอง คางหือๆ อยู่แปบนึง
จขกท.ก็นอนฟังมันคางงั้นแหละ ไม่นานนางก็เปลี่ยนท่า โอเค มันเปลี่ยนท่าละ สงสัยวันนี้มันคงเหนื่อยมาก ฝันแน่เลย
พอตื่นเช้ามา รู้สึกวันนั้นจะไม่มีเรียน หรือเรียนบ่าย ไม่แน่ใจ คุยกับเพื่อนตามปกติ เม้ามอยไปเรื่อย สุดท้ายมนมาเรื่องนอน
จขกท. "เมื่อคืนนอนเป็นไงมั้ง หลับสบายเลยสิ กรนด้วย" ประชดเล็กๆ
เพื่อน "เอ่อ" แล้วก็นิ่งไปสามสี่วิ แล้วพูดต่อว่า " เมื่อคืนกูขยับตัวไม่ได้อ่า" เอาแล้วไง
จขกท. "อ่าวหรอ" นางก็พูดต่อว่า
เพื่อน "รู้มั้ย เมื่อคืนพอกูขยับตัวไม่ได้ กูเรียกนานมาก โคตรดัง ดังจนน่าจะได้ยินออกไปข้างนอก เขาได้ยินกันทั้งตึกเลยมั้ง ไม่ได้ยินกูหรอ??"
คิดในใจ กูได้ยิน ได้ยินแค่เสียงหือออๆๆ ในลำคออ่า แต่ได้แค่ตอยว่า "ไม่ได้ยินอ่า"
จขกม. "โดนผีอำแล้วหละ เมื่อคืนกูก็โดน โดนก่อนอ่า ตอนแรกกูคิดว่า เขาจะมาทำกับกูคนเดียว แต่นี้โดนด้วยหรอ"
เพื่อน "เอ่อ กูโดนด้วยอ่า เห๊ยยยย ผีอำมันเป็นแบบนี้เองหรอ เห๊ยยย เพิ่งเคยเจอ" ยังๆ ยังทำเป็นมีมุขตบท้าย
เพื่อน "หน้ากลัวหวะ"
จากนั้นเราก็เริ่มเงียบ แล้วเริ่มคิดละว่าเพราะอะไร ทำไมเขาถึงตามมา ซึ่งแน่นอน เขาตามมาจากหอเพื่อน คิดไปคิดว่า อ่อ สงสัยเราไปชวนเขากลับมาด้วย ตอนที่เราจะกลับกัน มีคำพูดนึงที่ตัวจขกท.เองเป็นคนพูดชวนเพื่อนๆกับ แต่สงสัยเขาเข้าใจคิดว่าเราชวนเขากลับด้วย เราก็พูดลอยๆว่า ไม่ได้ชวนกลับมาด้วยนะ เข้าใจผิดแล้ว กลับไปเถอะ แล้วจะทำบุญไปให้ แล้วหลังจากนั้นก็เป็นประเด็นร้อนในกลุ่มเพื่อนกับพักใหญ่ ถึงการโดนอำแพคคู่ของเรา จบแล้วค่ะ ^^
เพื่อนๆ ถ้าออกไปอ่านหนังสือข้างนอก ก็ระมัดระวังตัวเองด้วยนะคะ เอาเสื้อกันหนาวไปด้วย กลางคืนอากาศเย็นมาก ไว้ว่างๆจะมาเล่าเรื่องอื่นๆ ในชีวิตมหาลัยนะคะ ^^