สวัสดีครับทุกคน
ผมพึ่งขอแฟนแต่งงานไปเมื่อวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา เลยอยากจะมารีวิวให้เพื่อนๆฟังกัน เผื่อใครจะอยากนำไปประยุกต์ใช้บ้างครับ ปกติไม่เคยเขียนอะไรแบบนี้ ผิดพลาดประการใดก็ต้องขอโทษล่วงหน้าด้วยครับ

ขั้นตอนการเตรียมการมี
1.การเตรียมแหวน
2. การเลือกวันและสถานที่
3. จังหวะเซอร์ไพรส์
ผมกับแฟนได้คบกันมาเป็นระยะเวลาทั้งหมด 8 ปี เจอกันตอนผมอยู่ปี 2 และน้องเขาอยู่ปี 1 ครับ น้องเป็นแฟนคนแรกและคนเดียวของผมครับ ตอนนี้ทั้งคู่อยู่ทีลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกาครับ แต่อยู่คนละเมืองเนื่องจากสถานที่ทำงานอยู่คนละที่กัน
การเตรียมแหวน
การเตรียมแหวนเป็นส่วนที่ใช้เวลานานสุดเลย เรื่องแรกคือเรื่องของไซส์แหวน เมื่อตอนคบกันช่วงปีที่ 6 ตอนไปเวกัส ผมพาเธอไปเดินผ่านร้าน Tiffany เลยชวนเธอเข้าไปดูแหวนกันเล่นๆครับ คนขายก็ทำหน้าที่ได้ดีมาก มาให้เธอลองแหวนแบบต่างๆครับ ผมก็พยายามสังเกตุดูว่าเธอชอบแบบไหน ซึ่งบอกตรงๆมันก็มีหลายแบบมาก ก็คุยเล่นกันตามประสาคนลองฟรีแต่ไม่ซื้อ ตอนจะออกจากร้านผมก็บอกว่าให้ลองดูด้วยเลยซิว่าไซส์อะไร คือจุดนี้เขาอาจจะสงสัย แต่ผมไม่ได้แพลนจะขอในเร็ววันนั้น เลยไม่น่าจะคิดว่าจะกระทบอะไรกับแผนระยะยาว พอรู้ไซส์ผมก็เมมไว้ในมือถือเรียบร้อยครับ
เรื่องเพชรผมก็เริ่มๆศึกษาตั้งแต่ช่วงปีที่ 7 ครับ ลองเซิจไปเรื่อยๆ ปกติผมชอบซื้ออะไรในอินเตอร์เน็ตครับ เพราะรู้สึกว่าเราไม่ถูกลิมิตด้วยของที่เฉพาะทางร้านมี ความรู้เรื่องเพชรคือศูนย์ครับ รู้อย่างเดียวว่าเพชรคือ.. เพชรครับ เลยเริ่มจากการหาข้อมูลบน Google เว็บหลักๆที่เจอก็มีพวก Bluenile และ Jamesallen ส่วนพวกที่หาใช้หาข้อมูลหลักๆเลยคือ Pricescope ครับ คนในนั้นเป็นกันเองและมีข้อมูลเยอะแยะไปหมด ผมก็ลองคำนวณดูว่ามีงบเท่าไหร่สำหรับแหวนวงนี้ แล้วก็เริ่มเตรียมตัวเก็บเงินครับ พออีกสองเดือนก่อนที่จะขอ ก็ได้ตัวเลือกมาสองตัวสุดท้ายจากเว็บ WhiteFlash และ VictorCanera ครับ หลังจากตัดสินใจอีกสักพักก็ลงเอยที่ VictorCanera ด้วยเหตุผล 2 ประการคือ ตัวแหวน (Setting) เป็นการทำแบบ Hand Forge และผมได้เห็นเพชรของจริงก่อนเพราะหน้าร้านเขาอยู่แอลเอครับ ส่วนเรื่องรายละเอียดของแหวนคงไม่ลงไปมากกว่านี้ เดี๋ยวจะกลายเป็นกระทู้รีวิวแหวนแทนไปซะก่อน อิอิ
อันนี้เป็นรูปของแหวนครับ ตรงฐานรองผมให้เขาทำพิเศษเป็นรูปหัวใจครับ มีทั้งหมดสี่ด้านเท่ากับหัวใจสี่ห้องพอดี

การเลือกวันและสถานที่
ผมก็เริ่มจากการรีเซิจก่อน ทั้ง Google และ YouTube มีเงื่อนไขคือต้องโรแมนติกเป็นหลักครับ เรื่องการเซอร์ไพรส์ผมจะให้ความสำคัญรองกว่าการสร้างช่วงเวลาพิเศษของเราขึ้นมาครับ ก็มาเจอบอลลูนแล้วรู้สึกถูกใจมากๆ เลยตัดสินใจว่าจะเอาบนบอลลูนเนี่ยแหละ และต้องเป็นบนบอลลูนด้วยไม่ใช่ก่อนหรือหลังลง เพราะมันไม่โรแมนติกเท่ากับการขอด้านบนครับ
สถานที่ปล่อยบอลลูนผมเลือก Del Mar ครับ อยู่ใกล้ๆกับ San Diego ส่วนอีกที่ที่เลือกไว้คือ Napa Valley แต่ผมคิดว่าวิวของ Del Mar น่าจะสวยกว่าเพราะจะเห็นทะเลด้วย (แต่สุดท้ายบอลลูนลอยห่างจากทะเลไปเรื่อยๆ เลยเห็นแค่ไกลๆครับ) ส่วนช่วงเวลาผมเลือกเป็นพระอาทิตย์ตกจะได้เห็นท้องฟ้าสวยๆครับ
ส่วนเรื่องวันที่ ผมเลือกวันที่ 8 ตุลาคม เพราะเป็นวันครบรอบแปดปีของเราพอดีครับ วันที่ 8 ครบรอบ 8 ปี ถ้าเราหมุมให้เลข 8 นอนลงก็กลายเป็นเครื่องหมาย Infinity พอดิบพอดี ช่วงสองถึงสามเดือนก่อนหน้าวันจริง ผมก็มีเกริ่นกับน้องว่า “เดี๋ยวเราไปนั่งบอลลูนกันนะ พี่อยากนั่งมานาน ครบรอบแปดปีของเรา กลัวหรือเปล่า” คือปกติเราสองคนจะออกไปกินข้าวร้านหรูหน่อยทุกปีอยู่แล้วครับ ครั้งนี้ผมเลยบอกว่าเพิ่มบอลลูนเข้าไปแล้วไปกินร้านอาหารต่อ จะได้บอกเธอให้แต่งตัวสวยๆแล้วไม่สงสัย เพื่อลดความเธอสงสัยลง ผมเลยพูดเรื่องบอลลูนบ่อยหน่อยแต่พูดแบบผ่านๆ จะได้ทำให้น้องเขารู้สึกว่า “ก็แค่เป็นการไปนั่งบอลลูน”
จุดที่ยากที่สุดเลยคือผมอยากให้มีการอัดวิดีโอ จะได้เก็บไว้ใช้ในงานวันแต่งงานครับ แต่จะทำยังไงให้มันเนียนนี่ซิคือปัญหาใหญ่เลยครับ ถ้าอยู่ๆมีตากล้องไปด้วยสองคน เธอต้องสงสัยแน่นอนครับ ตอนแรกผมเลยคิดไว้ว่างั้นให้ตากล้อง (2 คน) ปลอมตัวเป็นนักถ่ายสารคดี แล้วเผอิญเจอกันพอดี เก็บวิวในช่วงแรกๆ แล้วค่อยไปถ่ายย้อนหลังใหม่หลังจากที่ผมขอแล้ว พอถามเพื่อนผู้ชาย ส่วนใหญ่บอกเห็นด้วยกับวิธีนี้กัน แต่เพื่อนผู้หญิงทุกคนคัดค้านครับ มีแต่คนบอกว่าจะบ้าเหรอ แบบนี้น้องเขารู้อยู่แล้ว ก็เลยเปลี่ยนแผนให้กลายเป็นว่า ผมซื้อดีลนั่งบอลลูนมาแล้วตากล้องอยู่ในแพคเกจด้วย ผมก็ใช้วิธีเดิมครับบอกน้องไปเลยว่า ซื้อดีลมาและมีตากล้องมาด้วยนะ เห็นถูกแล้วคุ้มดี! ก็ดูเหมือนน้องเขาจะเชื่อนะครับ เพราะปกติผมเป็นคนชอบซื้อดีลจาก Groupon อยู่ละ
ปัญหานึงของการถ่ายวิดีโอหรือภาพบนบอลลูนคือขนาดของกระเช้าครับ ขนาดเล็กมาก อันที่ผมนั่งขนาด 1.1 เมตร x 1.3 เมตรเอง ดังนั้นเลนส์ที่ใช้ต้องเป็นเลนส์ Wide Angle ตรงนี้ดีที่ผมเตรียมไว้ก่อน ไม่งั้นตอนขึ้นไปจะมีปัญหาแน่ๆ
จังหวะเซอร์ไพรส์
ผมคิดแบบเข้าข้างตัวเองว่า
“เอาวะ น้องเขาไม่น่าจะสงสัย น้องต้องแค่คิดว่ามานั่งบอลลูนครบรอบแปดปีเฉยๆ” เท่าที่ดูตัวอย่างจากของคนอื่นๆมา จังหวะการเซอร์ไพรส์จะมีสองจังหวะ คือ เซอร์ไพรส์ก่อนการให้แหวน (เช่น การปิดตาแล้วพาเดิน การร้องเพลงเกริ่น คือรู้ละว่าโดนขอชัวร์) และเซอร์ไพรส์ตอนให้แหวนเลย (เช่น ยกเค้กมาเปิดที่โต๊ะมาแล้วเจอแหวนเลย) ผมเลือกที่ใช้สองแบบคู่กันครับ
- พอตอนไปถึงจุดปล่อยบอลลูน ผมเตี๊ยมกับกัปตันไว้ว่าให้เอาป้าย Happy Anniversary มาวางไว้ครับ น้องจะได้คิดว่าวันนี้มาเพื่อวันครบรอบจริงๆ ไม่มีเหตุผลอื่นแอบแฝง ก่อนการขึ้นก็มีการถ่ายรูปกับป้ายตามปกติครับ
- พอขึ้นไปประมาณยี่สิบนาที ช่วงนั้นผมพยายามหาจังหวะที่ดีสำหรับการเริ่มร้องเพลง โดยปกติแล้วบอลลูนจะเงียบมากครับ จะมีเสียงอย่างเดียวคือตอนเขาเปิดไฟเพื่อให้บอลลูนลอยขึ้นครับ ปกติจะเปิดประมาณทุกๆนาที ส่วนเพลงผมเลือกเพลง “เพื่อเธอ” ของพี่นภ เพราะว่าความหมายเข้ากับเราสองคนมาก ปรากฎว่าพอกำลังจะจบท่อนแรก เธอร้องไห้ครับ! คือปกติน้องเป็นคนร้องไห้ยากสุดๆ ดูหนังเศร้าขนาดไหนก็ไม่ร้อง ตอนนั้นร้องไห้ทำให้ผมไปต่อไม่ถูกเลยทีเดียว ผมเตรียมว่าจะร้องสองท่อน เลยเป็นอันจบที่ท่อนเดียวครับ
- หลังจากร้องเพลงจบ ผมบอกให้น้องหลับตา จุดนี้ผมตั้งใจว่าให้น้องเขาคิดว่ากำลังจะโดนขอแต่งงานครับ แต่.. ไม่ใช่ครับ ผมให้หนังสือนิทานเรื่องราวของเราสองคนตลอดช่วงเวลาแปดปีที่ผ่านมาครับ โดยหน้าปกเขียนว่า Happy 8th Year Anniversary ตอนหลับตาน้องก็เริ่มยิ้มๆ ผมมาดูวิดีโอย้อนหลังเห็นว่ามีแอบเปิดตานิดนึงด้วย! ตัวหนังสือผมเย็บติดไว้กับหลังเสื้อครับ ตอนแกะเลยจะใช้เวลานิดนึง พอน้องลืมตาก็เห็นหนังสือครับ ดูผิดหวังเล็กน้อย ช่วงนี้แผนที่เตรียมมาคือ ผมจะค่อยๆเล่าเรื่องของเราประกอบกับตอนน้องอ่านหนังสือ เพื่อที่จะสร้างโมเมนต์มาใหม่ แต่ถึงเวลาจริงๆผมก็พูดอะไรไม่ค่อยออกครับ ทีเตรียมไว้พูดไปประมาณ 20%
- หน้าสุดท้ายของหนังสือผมทำเป็นเครื่องหมาย Infinity เจาะรูไว้ด้านขวา แล้วกะว่าพอน้องกำลังอ่าน ผมจะคุกเข่าขอ แล้วให้แหวนผ่านทางช่องนั้นครับ ปรากฎว่าหน้าสุดท้ายน้องเปิดผ่านเร็วมาก ผมเลยบอกให้ย้อนกลับไปลองอ่านดูดีๆอีกที จังหวะที่น้องดูใหม่อีกที ผมก็คุกเข่าขอน้องเขาทันทีครับ น้องก็ตกใจ แล้วเอาหนังสือไปบังหน้าไปแก้เขิล เลยไม่ได้ให้แหวนผ่านช่องที่เตรียมไว้ครับ (เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อะไรๆอาจจะไม่เป็นอย่างที่เตรียมไว้ครับ)
- ช่วงนั้นเหมือนเวลาหยุดอยู่กับที่ ผมก็ใจหวิว ลุ้นน่าดูว่าน้องจะตอบตกลงไหม แต่สุดท้ายน้องก็พยักหน้าตอบตกลงครับ ดีใจมาก! จากนั้นก็ใส่แหวนให้เรียบร้อย (ขอแนะนำว่าควรมีการซ้อมใส่แหวนนะครับ เวลาใส่ยากมากครับ อย่าลืมเอามือซ้ายประคองมือไว้นะครับ) หลังจากนั้นเราก็กอดกันร้องไห้ทั้งคู่เลย ผ่านไปสักพักผมก็เฉลยให้น้องฟังว่า ผมเตรียมตากล้องมาเป็นพิเศษ แล้วตากล้องก็บอกให้เราถ่ายฉากสวมแหวนใหม่ที่ผมเก้ๆกังๆครับ
พอลงมาด้านล่างก็มีการดื่มแชมเปญและเก็บฉากปิดท้ายสำหรับวิดีโอนิดหน่อยก็เป็นอันจบครับผม
ข้อแนะนำครับ
- ไม่ควรเตรียมอะไรเซอร์ไพรส์ในช่วงตอนลงจอด เพราะว่าจุดลงไม่แน่นอนขึ้นกับลม สภาพอากาศ
- เรื่องตากล้องควรจะมีสองคน เพราะว่าได้หลายมุม และไม่จำเป็นต้องถ่ายใหม่หลายรอบ
- ควรจะเริ่มขอตั้งแต่ช่วงสิบถึงสิบห้านาทีแรก จะได้มีเวลามาเก็บฉากเพิ่มเติมหลังจากนั้นครับ
- 50% ที่เตรียมไว้อาจจะไม่ตรงกับที่ตั้งใจ ดังนั้นคิดแผนสำรองไว้ด้วยครับ อย่าทำอะไรให้ซับซ้อนมาก จะยิ่งมีโอกาสผิดพลาด
ขอบคุณที่ตามอ่านกันมาจนจบนะครับ มีคำถามตรงไหนสอบถามมาได้เลยครับ
ขอบคุณ
Videography by Path88 -
http://path88.com/
Photobook by Zestzero illust -
http://www.facebook.com/zestzeroillust
Final Editing by Nick Koonvirarak - nkoonvirarak@gmail.com
Hot Air Balloon Ride by Magical Adventure Balloon Rides -
http://www.hotairfun.com/
[รีวิว] การขอแต่งงานบนบอลลูนและการทำมิวสิควีดีโอไปพร้อมๆกันครับ
ผมพึ่งขอแฟนแต่งงานไปเมื่อวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา เลยอยากจะมารีวิวให้เพื่อนๆฟังกัน เผื่อใครจะอยากนำไปประยุกต์ใช้บ้างครับ ปกติไม่เคยเขียนอะไรแบบนี้ ผิดพลาดประการใดก็ต้องขอโทษล่วงหน้าด้วยครับ
ขั้นตอนการเตรียมการมี
1.การเตรียมแหวน
2. การเลือกวันและสถานที่
3. จังหวะเซอร์ไพรส์
ผมกับแฟนได้คบกันมาเป็นระยะเวลาทั้งหมด 8 ปี เจอกันตอนผมอยู่ปี 2 และน้องเขาอยู่ปี 1 ครับ น้องเป็นแฟนคนแรกและคนเดียวของผมครับ ตอนนี้ทั้งคู่อยู่ทีลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกาครับ แต่อยู่คนละเมืองเนื่องจากสถานที่ทำงานอยู่คนละที่กัน
การเตรียมแหวน
การเตรียมแหวนเป็นส่วนที่ใช้เวลานานสุดเลย เรื่องแรกคือเรื่องของไซส์แหวน เมื่อตอนคบกันช่วงปีที่ 6 ตอนไปเวกัส ผมพาเธอไปเดินผ่านร้าน Tiffany เลยชวนเธอเข้าไปดูแหวนกันเล่นๆครับ คนขายก็ทำหน้าที่ได้ดีมาก มาให้เธอลองแหวนแบบต่างๆครับ ผมก็พยายามสังเกตุดูว่าเธอชอบแบบไหน ซึ่งบอกตรงๆมันก็มีหลายแบบมาก ก็คุยเล่นกันตามประสาคนลองฟรีแต่ไม่ซื้อ ตอนจะออกจากร้านผมก็บอกว่าให้ลองดูด้วยเลยซิว่าไซส์อะไร คือจุดนี้เขาอาจจะสงสัย แต่ผมไม่ได้แพลนจะขอในเร็ววันนั้น เลยไม่น่าจะคิดว่าจะกระทบอะไรกับแผนระยะยาว พอรู้ไซส์ผมก็เมมไว้ในมือถือเรียบร้อยครับ
เรื่องเพชรผมก็เริ่มๆศึกษาตั้งแต่ช่วงปีที่ 7 ครับ ลองเซิจไปเรื่อยๆ ปกติผมชอบซื้ออะไรในอินเตอร์เน็ตครับ เพราะรู้สึกว่าเราไม่ถูกลิมิตด้วยของที่เฉพาะทางร้านมี ความรู้เรื่องเพชรคือศูนย์ครับ รู้อย่างเดียวว่าเพชรคือ.. เพชรครับ เลยเริ่มจากการหาข้อมูลบน Google เว็บหลักๆที่เจอก็มีพวก Bluenile และ Jamesallen ส่วนพวกที่หาใช้หาข้อมูลหลักๆเลยคือ Pricescope ครับ คนในนั้นเป็นกันเองและมีข้อมูลเยอะแยะไปหมด ผมก็ลองคำนวณดูว่ามีงบเท่าไหร่สำหรับแหวนวงนี้ แล้วก็เริ่มเตรียมตัวเก็บเงินครับ พออีกสองเดือนก่อนที่จะขอ ก็ได้ตัวเลือกมาสองตัวสุดท้ายจากเว็บ WhiteFlash และ VictorCanera ครับ หลังจากตัดสินใจอีกสักพักก็ลงเอยที่ VictorCanera ด้วยเหตุผล 2 ประการคือ ตัวแหวน (Setting) เป็นการทำแบบ Hand Forge และผมได้เห็นเพชรของจริงก่อนเพราะหน้าร้านเขาอยู่แอลเอครับ ส่วนเรื่องรายละเอียดของแหวนคงไม่ลงไปมากกว่านี้ เดี๋ยวจะกลายเป็นกระทู้รีวิวแหวนแทนไปซะก่อน อิอิ
อันนี้เป็นรูปของแหวนครับ ตรงฐานรองผมให้เขาทำพิเศษเป็นรูปหัวใจครับ มีทั้งหมดสี่ด้านเท่ากับหัวใจสี่ห้องพอดี
การเลือกวันและสถานที่
ผมก็เริ่มจากการรีเซิจก่อน ทั้ง Google และ YouTube มีเงื่อนไขคือต้องโรแมนติกเป็นหลักครับ เรื่องการเซอร์ไพรส์ผมจะให้ความสำคัญรองกว่าการสร้างช่วงเวลาพิเศษของเราขึ้นมาครับ ก็มาเจอบอลลูนแล้วรู้สึกถูกใจมากๆ เลยตัดสินใจว่าจะเอาบนบอลลูนเนี่ยแหละ และต้องเป็นบนบอลลูนด้วยไม่ใช่ก่อนหรือหลังลง เพราะมันไม่โรแมนติกเท่ากับการขอด้านบนครับ
สถานที่ปล่อยบอลลูนผมเลือก Del Mar ครับ อยู่ใกล้ๆกับ San Diego ส่วนอีกที่ที่เลือกไว้คือ Napa Valley แต่ผมคิดว่าวิวของ Del Mar น่าจะสวยกว่าเพราะจะเห็นทะเลด้วย (แต่สุดท้ายบอลลูนลอยห่างจากทะเลไปเรื่อยๆ เลยเห็นแค่ไกลๆครับ) ส่วนช่วงเวลาผมเลือกเป็นพระอาทิตย์ตกจะได้เห็นท้องฟ้าสวยๆครับ
ส่วนเรื่องวันที่ ผมเลือกวันที่ 8 ตุลาคม เพราะเป็นวันครบรอบแปดปีของเราพอดีครับ วันที่ 8 ครบรอบ 8 ปี ถ้าเราหมุมให้เลข 8 นอนลงก็กลายเป็นเครื่องหมาย Infinity พอดิบพอดี ช่วงสองถึงสามเดือนก่อนหน้าวันจริง ผมก็มีเกริ่นกับน้องว่า “เดี๋ยวเราไปนั่งบอลลูนกันนะ พี่อยากนั่งมานาน ครบรอบแปดปีของเรา กลัวหรือเปล่า” คือปกติเราสองคนจะออกไปกินข้าวร้านหรูหน่อยทุกปีอยู่แล้วครับ ครั้งนี้ผมเลยบอกว่าเพิ่มบอลลูนเข้าไปแล้วไปกินร้านอาหารต่อ จะได้บอกเธอให้แต่งตัวสวยๆแล้วไม่สงสัย เพื่อลดความเธอสงสัยลง ผมเลยพูดเรื่องบอลลูนบ่อยหน่อยแต่พูดแบบผ่านๆ จะได้ทำให้น้องเขารู้สึกว่า “ก็แค่เป็นการไปนั่งบอลลูน”
จุดที่ยากที่สุดเลยคือผมอยากให้มีการอัดวิดีโอ จะได้เก็บไว้ใช้ในงานวันแต่งงานครับ แต่จะทำยังไงให้มันเนียนนี่ซิคือปัญหาใหญ่เลยครับ ถ้าอยู่ๆมีตากล้องไปด้วยสองคน เธอต้องสงสัยแน่นอนครับ ตอนแรกผมเลยคิดไว้ว่างั้นให้ตากล้อง (2 คน) ปลอมตัวเป็นนักถ่ายสารคดี แล้วเผอิญเจอกันพอดี เก็บวิวในช่วงแรกๆ แล้วค่อยไปถ่ายย้อนหลังใหม่หลังจากที่ผมขอแล้ว พอถามเพื่อนผู้ชาย ส่วนใหญ่บอกเห็นด้วยกับวิธีนี้กัน แต่เพื่อนผู้หญิงทุกคนคัดค้านครับ มีแต่คนบอกว่าจะบ้าเหรอ แบบนี้น้องเขารู้อยู่แล้ว ก็เลยเปลี่ยนแผนให้กลายเป็นว่า ผมซื้อดีลนั่งบอลลูนมาแล้วตากล้องอยู่ในแพคเกจด้วย ผมก็ใช้วิธีเดิมครับบอกน้องไปเลยว่า ซื้อดีลมาและมีตากล้องมาด้วยนะ เห็นถูกแล้วคุ้มดี! ก็ดูเหมือนน้องเขาจะเชื่อนะครับ เพราะปกติผมเป็นคนชอบซื้อดีลจาก Groupon อยู่ละ
ปัญหานึงของการถ่ายวิดีโอหรือภาพบนบอลลูนคือขนาดของกระเช้าครับ ขนาดเล็กมาก อันที่ผมนั่งขนาด 1.1 เมตร x 1.3 เมตรเอง ดังนั้นเลนส์ที่ใช้ต้องเป็นเลนส์ Wide Angle ตรงนี้ดีที่ผมเตรียมไว้ก่อน ไม่งั้นตอนขึ้นไปจะมีปัญหาแน่ๆ
จังหวะเซอร์ไพรส์
ผมคิดแบบเข้าข้างตัวเองว่า “เอาวะ น้องเขาไม่น่าจะสงสัย น้องต้องแค่คิดว่ามานั่งบอลลูนครบรอบแปดปีเฉยๆ” เท่าที่ดูตัวอย่างจากของคนอื่นๆมา จังหวะการเซอร์ไพรส์จะมีสองจังหวะ คือ เซอร์ไพรส์ก่อนการให้แหวน (เช่น การปิดตาแล้วพาเดิน การร้องเพลงเกริ่น คือรู้ละว่าโดนขอชัวร์) และเซอร์ไพรส์ตอนให้แหวนเลย (เช่น ยกเค้กมาเปิดที่โต๊ะมาแล้วเจอแหวนเลย) ผมเลือกที่ใช้สองแบบคู่กันครับ
- พอตอนไปถึงจุดปล่อยบอลลูน ผมเตี๊ยมกับกัปตันไว้ว่าให้เอาป้าย Happy Anniversary มาวางไว้ครับ น้องจะได้คิดว่าวันนี้มาเพื่อวันครบรอบจริงๆ ไม่มีเหตุผลอื่นแอบแฝง ก่อนการขึ้นก็มีการถ่ายรูปกับป้ายตามปกติครับ
- พอขึ้นไปประมาณยี่สิบนาที ช่วงนั้นผมพยายามหาจังหวะที่ดีสำหรับการเริ่มร้องเพลง โดยปกติแล้วบอลลูนจะเงียบมากครับ จะมีเสียงอย่างเดียวคือตอนเขาเปิดไฟเพื่อให้บอลลูนลอยขึ้นครับ ปกติจะเปิดประมาณทุกๆนาที ส่วนเพลงผมเลือกเพลง “เพื่อเธอ” ของพี่นภ เพราะว่าความหมายเข้ากับเราสองคนมาก ปรากฎว่าพอกำลังจะจบท่อนแรก เธอร้องไห้ครับ! คือปกติน้องเป็นคนร้องไห้ยากสุดๆ ดูหนังเศร้าขนาดไหนก็ไม่ร้อง ตอนนั้นร้องไห้ทำให้ผมไปต่อไม่ถูกเลยทีเดียว ผมเตรียมว่าจะร้องสองท่อน เลยเป็นอันจบที่ท่อนเดียวครับ
- หลังจากร้องเพลงจบ ผมบอกให้น้องหลับตา จุดนี้ผมตั้งใจว่าให้น้องเขาคิดว่ากำลังจะโดนขอแต่งงานครับ แต่.. ไม่ใช่ครับ ผมให้หนังสือนิทานเรื่องราวของเราสองคนตลอดช่วงเวลาแปดปีที่ผ่านมาครับ โดยหน้าปกเขียนว่า Happy 8th Year Anniversary ตอนหลับตาน้องก็เริ่มยิ้มๆ ผมมาดูวิดีโอย้อนหลังเห็นว่ามีแอบเปิดตานิดนึงด้วย! ตัวหนังสือผมเย็บติดไว้กับหลังเสื้อครับ ตอนแกะเลยจะใช้เวลานิดนึง พอน้องลืมตาก็เห็นหนังสือครับ ดูผิดหวังเล็กน้อย ช่วงนี้แผนที่เตรียมมาคือ ผมจะค่อยๆเล่าเรื่องของเราประกอบกับตอนน้องอ่านหนังสือ เพื่อที่จะสร้างโมเมนต์มาใหม่ แต่ถึงเวลาจริงๆผมก็พูดอะไรไม่ค่อยออกครับ ทีเตรียมไว้พูดไปประมาณ 20%
- หน้าสุดท้ายของหนังสือผมทำเป็นเครื่องหมาย Infinity เจาะรูไว้ด้านขวา แล้วกะว่าพอน้องกำลังอ่าน ผมจะคุกเข่าขอ แล้วให้แหวนผ่านทางช่องนั้นครับ ปรากฎว่าหน้าสุดท้ายน้องเปิดผ่านเร็วมาก ผมเลยบอกให้ย้อนกลับไปลองอ่านดูดีๆอีกที จังหวะที่น้องดูใหม่อีกที ผมก็คุกเข่าขอน้องเขาทันทีครับ น้องก็ตกใจ แล้วเอาหนังสือไปบังหน้าไปแก้เขิล เลยไม่ได้ให้แหวนผ่านช่องที่เตรียมไว้ครับ (เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อะไรๆอาจจะไม่เป็นอย่างที่เตรียมไว้ครับ)
- ช่วงนั้นเหมือนเวลาหยุดอยู่กับที่ ผมก็ใจหวิว ลุ้นน่าดูว่าน้องจะตอบตกลงไหม แต่สุดท้ายน้องก็พยักหน้าตอบตกลงครับ ดีใจมาก! จากนั้นก็ใส่แหวนให้เรียบร้อย (ขอแนะนำว่าควรมีการซ้อมใส่แหวนนะครับ เวลาใส่ยากมากครับ อย่าลืมเอามือซ้ายประคองมือไว้นะครับ) หลังจากนั้นเราก็กอดกันร้องไห้ทั้งคู่เลย ผ่านไปสักพักผมก็เฉลยให้น้องฟังว่า ผมเตรียมตากล้องมาเป็นพิเศษ แล้วตากล้องก็บอกให้เราถ่ายฉากสวมแหวนใหม่ที่ผมเก้ๆกังๆครับ
พอลงมาด้านล่างก็มีการดื่มแชมเปญและเก็บฉากปิดท้ายสำหรับวิดีโอนิดหน่อยก็เป็นอันจบครับผม
ข้อแนะนำครับ
- ไม่ควรเตรียมอะไรเซอร์ไพรส์ในช่วงตอนลงจอด เพราะว่าจุดลงไม่แน่นอนขึ้นกับลม สภาพอากาศ
- เรื่องตากล้องควรจะมีสองคน เพราะว่าได้หลายมุม และไม่จำเป็นต้องถ่ายใหม่หลายรอบ
- ควรจะเริ่มขอตั้งแต่ช่วงสิบถึงสิบห้านาทีแรก จะได้มีเวลามาเก็บฉากเพิ่มเติมหลังจากนั้นครับ
- 50% ที่เตรียมไว้อาจจะไม่ตรงกับที่ตั้งใจ ดังนั้นคิดแผนสำรองไว้ด้วยครับ อย่าทำอะไรให้ซับซ้อนมาก จะยิ่งมีโอกาสผิดพลาด
ขอบคุณที่ตามอ่านกันมาจนจบนะครับ มีคำถามตรงไหนสอบถามมาได้เลยครับ
ขอบคุณ
Videography by Path88 - http://path88.com/
Photobook by Zestzero illust - http://www.facebook.com/zestzeroillust
Final Editing by Nick Koonvirarak - nkoonvirarak@gmail.com
Hot Air Balloon Ride by Magical Adventure Balloon Rides - http://www.hotairfun.com/