แบ่งปันเรื่องราว "กราบสักการะพระบรมศพ" กลุ่มแรกของวันที่ 14 พ.ย. 59 [ฉบับค้างคืนที่สนามหลวง]

สวัสดีครับ
การบอกเล่าเรื่องราวครั้งนี้ต้องขออภัยหากรูปภาพไม่สวยนะครับ พอดีใช้กล้องโทรศัพท์ถ่าย
ให้รูปภาพน้อยๆนิดๆได้เล่าเรื่องราวละกันนะครับ
หากตรงไหนมีข้อสงสัยหลังไมค์มาได้ครับ
[รายละเอียดการแต่งกายไปมีถามเข้ามามาก ท่านสามารถดูได้ที่ความเห็นที่ 60 หรือหาจาก Google ได้ครับ มีหลายเว็บ]



ด้วยความที่อยากเข้าไปกราบสักการะพระบรมศพสักครั้งในชีวิตนี้
ก็ติดตามข่าวสาร หารายละเอียด มาสักระยะ
13 พ.ย. ตัดสินใจเดินทางสู่สนามหลวง
โดยคิดว่าจะเข้าคิวกราบสักการะในกลางดึกคืนนั้นเพื่อให้ได้เข้าไปในช่วงเช้าตรู่
[และการเดินทางครั้งนี้ผมเดินทางร่วมกับผู้หญิงหนึ่งคนครับ นั่นคือคนที่เอ่ยปากชวนผม และคือส่วนประกอบการตัดสินใจสำหรับครั้งนี้]

เกิดคำถามขึ้นในหัว คืนวันที่ 13 พ.ย. จะนอนไหน ก่อนที่จะตื่นมาต่อแถวกลางดึก
หาข้อมูลที่พักเรียบร้อย เป็นที่พักใกล้ๆสะพานพระปิ่นเกล้า
(แค่หาข้อมูลไว้ โทรเช็คแล้ว หลายที่ว่าง เลยยังไม่จอง กะว่าไปเช็คอินเอาข้างหน้าเลย)
รวม 10 ที่พักรอบสนามหลวงราคาหลักร้อย >>> http://khunnaiver.blogspot.com/2015/08/blog-post_14.html

เดินทางถึงสนามหลวงโดยรถบริการฟรีเวลาประมาณ 19.00 น.
ถือโอกาสเดินสำรวจบริเวณโดยรอบ ยังเห็นผู้คนที่ยังเผ้ารอต่อแถวเพื่อเข้าไปกราบสักการะเยอะพอสมควร
ตามเต๊นต่างๆยังให้บริการอาหารและเครื่องดื่มอยู่

ใช้เวลาช่วงนี้เดินไปที่กองอำนวยการที่กลางท้องสนามหลวง
เพื่อสอบถามข้อมูลต่างๆ ได้ความว่า
1.จุดต่อคิวสำหรับกราบพระบรมศพในช่วงกลางดึกที่ผู้คนจะรอต่อแถวกัน อยู่บริเวณภายนอกรั้วกั้นของสนามหลวง
คือซอยท่าพระจันทร์ด้านข้างวัดมหาธาตุ (ซอยที่ตรงกับถนนที่ตัดผ่านกลางสนามหลวงพอดี)


2.พื้นที่สนามหลวงจะปิดไม่ให้คนเข้าเวลา 21.00 น. และเปิดอีกครั้งเวลาประมาณ 04.00
(เพื่อให้คนที่รอบริเวณซอยท่าพระจันทร์ได้มาต่อคิว)

3.กองอำนวยการให้บริการพื้นที่สำหรับคนที่จะนอนภายในท้องสนามหลวง 2 เต๊นท์โตๆ
(คือเต๊นท์ที่ใช้พักคอยในช่วงกลางวันนั้นแหละ) แต่เป็นการจับจองพื้นที่นอนกันเองไม่ได้แบ่งโซนชาย-หญิง
เจ้าหน้าที่แจ้งว่าเวลาประมาณตีสามครึ่งถึงตีสี่ผู้ที่อยู่บริเวณภายในรั้วของสนามหลวงจะได้เป็นผู้ตั้งแถว
ความหมายคือ เจ้าหน้าที่ให้สิทธิ์คนที่นอนค้างที่สนามหลวงได้เข้าสักการะเป็นกลุ่มแรก


แต่ ผู้ที่ประสงค์จะค้างที่สนามหลวงต้องถึงพื้นที่สนามหลวงก่อนประตูปิด 21.00 น.
(จนท.จะเริ่มแจ้งคนที่เข้าช่วง 20.30 เป็นต้นไปแล้วว่าใกล้ถึงเวลาปิดแล้ว)
คือ ผ่านกระบวนการตรวจบัตร สัมภาระตรงทางเข้ามาเรียบร้อยแล้ว แล้วเดินทางมาบริเวณกองอำนวยการ
สามารถจับจองพื้นที่ได้เลย ทั้งนี้เครื่องนอนต่างๆเราต้องเตรียมไปเอง
บริเวณนั้นมีพัดลม ระบบแสงสว่าง จุดชาร์จโทรศัพท์บริการตลอดคืน

4.เมื่อถึงเวลาตั้งแถวกลางดึก จนท. ให้ผู้คนที่ค้างคืนมาตั้งแถวครบเรียบร้อยแล้ว ประมาณ 04.00 น.
จะเปิดประตูให้ผู้คนที่ต่อแถวรอด้านนอกสนามหลวงมาต่อแถว


ด้วยประเด็นความสนใจในข้อที่ 3 ทำให้คิดทบทวนว่าจะเอาไงดีระหว่างนอนที่สนามหลวง ได้เข้าเป็นกลุ่มแรกแน่นอน
หรือเข้าที่พัก แล้วกลางดึกมาต่อแถวบริเวณซอยท่าพระจันทร์ จึงถาม จนท.แถวนั้นเพื่อประกอบการตัดสินใจ
ได้ความว่าเที่ยงคืนป็นต้นไปก็มีคนจากต่างจังหวัดมาตั้งแถวแล้ว ตีสามก็ยาวเหยียดแล้วแหละ และบางคืนยาวไปถึงท่าพระจันทร์

งั้นสรุปตัดสินใจ ค้างที่สนามหลวงนี่แหละคืนนี้ เพราะเดินดูแล้วมีผู้คนจับจองพื้นที่ในเต๊นท์กันแล้ว
สอบถามเพื่อความมั่นใจว่ารอเข้าแถวคืนนี้ใช่ไหมคำตอบคือ...ใช่

ด้วยความที่เตรียมชุดเข้าสักการะแยกใส่กระเป๋ามา
และเป็นความเคยชินที่ไปค้างไหนพกแปรงสีฟัน ยาสีฟัน ผ้าเช็คตัวใส่กระเป๋าตลอด และครั้งนี้เตรียมแผ่นรองนั่งมาด้วย
(แผ่นพลาสติกแบบขายตามชมมหรสพงานวัดเพราะคิดว่าคงต้องได้นั่งในแถวรอกันบ้างแหละ)
ทั้งบริเวณใกล้เต๊นท์ที่พักจะมีรถสุขาเคลื่อนที่หลายคันจอดให้บริการตลอดอีกด้วย
ถือว่า พร้อมนอนสำหรับคืนนี้ จึงตัดสินใจแน่นแน่แล้วว่า คืนนี้ นอนที่นี่แหละ
แต่ว่า ไม่มีที่อาบน้ำในตอนเช้านะครับ

21.00 น. บรรยากาศโดยรอบเริ่มสงบลง เหลือเพียงประชาชนที่รอเข้าสักการะ
(สำนักพระราชวังจะให้คนที่มาเข้าแถวก่อนเวลาปิด ได้เข้าสักการะในคืนนั้น แม้ว่าจะดึกก็ตาม อันนี้ท่าน จนท. สำนักพระราชวังกล่าว)


เต้นท์แรกเริ่มแน่นไปด้วยผู้คน เดินๆไปอีกเต๊นท์ๆนี้ จนท.จะไม่ได้เก็บเก้าอี้ออก
เลยจับจองพื้นที่บริเวณนั้น ซักพักไม่นานเริ่มมีเพื่อนร่วมอุดมการณ์มาอยู่ด้วย

(ขออภัยหากภาพไม่สุภาพเท่าไหร่นักเพราะต่างคนต่างนอนแล้ว)



22.00 น. เป็นต้นไปบรรยากาศเริ่มเงียบ มีเสียง จนท. จาก กทม.ทำความสะอาดพื้นที่
มองไปรอบๆผู้คนต่างขยับเก้าอี้ออกให้พื้นที่ว่างพอที่จะนอน บางคนนอนบนเก้าอี้

23.00 น. เคลียร์ขยับเก้าอี้ออกให้พอปูแผ่นรองนอนได้ เอากระเป๋าเป้เป็นหมอน เอาผ้าเช็ดตัวเป็นผ้าห่ม
ทาตะไคร้หอมที่ได้รับแจก ไม่นานก็หลับไปปปปป

03.30 น. โทรศัพท์ดังเพราะตั้งนาฬิกาปลุกไว้ จัดการเคลียร์ตัวเอง ผู้คนเริ่มมีกลับจากรถสุขาพร้อมในชุดเข้าสักการะแล้ว
ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ล้างหน้า แปรงฟัน เปลี่ยนเสื้อผ้า เก็บของ

03.50 น. เริ่มมีป้าๆมานั่งรอ เตรียมลุกไปตั้งแถวแล้ว


เวลานี้มีกาแฟ โอวันติน บริการให้ได้รองท้องกันแล้ว


ทันใดนั้นเจ้าหน้าที่ได้กวักมือเรียกให้คนที่พักที่สนามหลวงมาตั้งแถว


ประมาณ 04.00 น. เจ้าหน้าเปิดให้คนที่ตั้งแถวรอบริเวณซอยท่าพระจันทร์ เข้ามาวนไปต่อท้ายแถว
ประมาณ 04.20 น. เจ้าหน้าที่ให้เดินแถวไปตามเส้นทาง เดินไปเรื่อยๆ ไปหยุดที่หน้าประตูวิเศษไชยศรี


จุดสุดท้ายที่จะมีเก้าอี้ให้นั้ง  เจ้าหน้าที่จุดนั้นแจ้งว่า "ท่านที่อยู่ดิฉันนี้คือชุดแรกที่ได้เข้าสักการะของวันนี้เลย"
พร้อมทั้งบอกรายละเอียดว่าจะได้เข้าทางประตูวิเศษไชยศรีเลย ปกติจากจุดนี้ไปจะต้องเดินแถวไปเข้าประตูมณีนพรัตน์
โดยประตูวิเศษฯจะปิดประมาณ 8 โมง หลังจากนั้นผู้ที่มาถึงจุดนี้หลัง 8.00 จะได้ไปเข้าประตูทางนู้น ซึ่งไกลพอสมควร
จุดนี้เป็นจุดสุดท้ายที่เราจะใช้โทรศัพท์ได้


05.00 น. เจ้าที่ให้ลุกขึ้นเดินแถวเข้าพระบรมมหาราชวัง ผ่านประตูวิเศษ ผ่านประตูพิมานไชยศรี เลี้ยวซ้าย
จะพบกับพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เดินตรงไปอีกไม่ไกล นั้นคื่อสถานที่ ที่ประชาชนคนไทยทุกคนอยากมา
นั้นคือ "พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท"
ผ่านซุ่มประตูเล็กๆเข้าสู่พระที่นั่งดุสิตฯ
เจ้าหน้าที่แจกถุงหูหิ้วสีดำให้ใส่รองเท้าและถุงเท้า
จากนั้นให้เรียงแถวขึ้นพระที่นั่งดุสิตฯ

วินาทีที่รอคอยมานานแสนนานมาถึงแล้ว

ตอนนี้ได้นั่งอยู่เบื้องหน้าพระบรมโกศเรียบร้อยแล้ว
ความเหนื่อย ความง่วง หยุดลงที่จุดๆนี้
เปลี่ยนเป็นความตื้นตันที่ได้มากราบพ่อหลวงแล้ว
หลายคนน้ำตาไหลเมื่อนั่งอยู่ตรงนี้
เป็นความรู้สึกที่ยรรยายไม่ถูกจริงๆ
อยากให้ได้มาอยู่ ณ จุดๆนี้ จุดที่เราจะได้ใกล้พ่อหลวงมากที่สุด

เจ้าหน้าที่ให้นั่งพับเพียบ พนมมือ
สักพักแจ้งให้ก้มลงกราบ และเงยขึ้นตามลำดับ
ทุกท่านจะได้อยู่ในท่านี้ประมาณสัก 20-30 วินาทีได้
ทุกสายตามองไป ณ จุดเดียวกันคือ "พระบรมโกศ"

เจ้าหน้าที่ให้ทุกท่านลุกยืน แล้วเดินออกจากพระที่นั่งดุสิต
ในช่วงเวลาเดินออกนี้หลางคนยังหันมองไม่คลาดสายตา
หากสังเกตด้านหลังพระบรมโกศนั่งจะมี "หีบพระศพ" สีทอง คลุมด้วยผ้าอยู่

เมื่อลงจากพระที่นั่งแล้ว ใส่ถุงเท้า รองเท้า คืนถุง
เดินออกตามทางที่เจ้าหน้าที่บอกรับภาพ และข้าวพอเพียง
จากนั้นออกจากพระบรมมหาราชวังทางประตูประตูเทวาภิรมย์

เป็นเวลาที่ประมาณ 5.30 น.
รวมระยะเวลาตั้งแต่เข้าพระบรมมหาราชวังจนออกนั้น ประมาณ 30 นาทีได้
เดินกลับมาที่สนามหลวงประมาณ 6.00 น.
แถวรอเข้าสักการะวนรอบสนามหลวงและเริ่มตั้งแถวต่อในสนามหลวงแล้ว



สิ้นสุดการเดินทางครั้งที่มีค่ามากครั้งหนึ่ง





ข้อแนะนำสำหรับคนที่จะเข้าสักการะในช่วงเช้าตรู่
1.จุดให้บริการเปลี่ยนเสื้อผ้า ยังไม่เปิด ท่านควรแต่งกายให้เรียบร้อย หากจะเข้าเวลานี้
2.เชื่อฟังเจ้าหน้าที่ทุกคน ทุกฝ่าย เพื่อประโยชน์ของตัวเรา และความเป็นระบบ
      2.1 เหนื่อยใจแทนเจ้าหน้าที่กับเหตุการณ์วันนี้อยู่บ้าง ในคณะเดียวกันที่เดินมาถึงหน้าประตูวิเศษฯแล้ว
มีคุณป้าสองท่านใส่กางเกง มีคนนึงใส่รองเท้าฟองน้ำสีฟ้า เจ้าหน้าที่ได้แจ้งแล้วว่าเข้าไม่ได้
ป้าแกก็พูดเข้าได้ๆอยู่อย่างนั้น พร้อมย้ำว่าฉัน 80 แล้ว จะไม่ให้คนแก่เข้าหรือไง ประมาณนี้
เจ้าหน้าที่ก็พยายามมากบอกถ้าผ่านไปได้กลุ่มเจ้าหน้าที่ก็ต้องโดนผู้ใหญ่บ่น
แล้วถึงปล่อยผ่านไปเจ้าหน้าที่ข้างหน้าก็ไม่ยอมให้เข้าอยู่ดี
ป้าสองคนทีแรกก็มีท่ามีไม่ยอม โดยเจ้าหน้าที่มีแนวทางให้คือออกมาก่อนแล้วรอเวลาจุดเปลี่ยนเสื้อผ้าเปิด
แล้วจะให้กลับมาต่อคิวในจุดเดิม เจ้าหน้าที่พูดคุยกับป้าอยู่นาน จนกลุ่มคนรอบๆคุณป้าเริ่มมีเสียงบอกให้ป้ายอม
ป้าแกจึงยอมออกไปรอด้านข้างแถว
3.อาหารการกินตั้งแต่เริ่มเข้าแถว พี่ๆเจ้าหน้าที่ทหารจะมีบริการขนมปังอีกด้านหน้า
4.ยาดม ยาส่วนตัวควรเตรียมให้พร้อม เช้าอาจไม่มีแดดแต่ด้วยผู้คนที่มาก อากาศค่อนข้างอบอ้าว
5.นอกเหลือจากเวลาเช้าสุด กับ ดึกสุด คงต้องต่อแถวกันหลายชั่วโมงนะครับ เตรียมความพร้อมร่างกายดีๆครับ
6.รถสุขามีบริการขนานไปกับแถวที่พวกเรารอ เป็นช่วงๆ

หากใครสงสัยตรงไหนหลังไมค์มาก็ได้นะครับ อาจอธิบายตรงไหนขาดตกไป

และแนะนำว่า เราสามารถมาต่อแถวเข้าสักการะได้จนกว่าเจ้าหน้าที่จะแจ้งปิดคือก่อนเวลา 21.00 น.
เวลาสองทุ่มครึ่งผมยังเห็นคนต่อแถวเข้าถวายสักการะอยู่เลยครับ


แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่