"ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์" คำนี้น่าจะใช้ได้กับความรักของผม และเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้นะ
ผมเป็นนักศึกษาปีที่ 3 ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เคยมีความรักผ่านเข้ามาก็บ่อยครั้ง แต่ก็ไม่เคยจะไปกันรอด
เหมือนผมจะเป็นคนชอบคนง่ายนะ ซึ่งมันอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมต้องพบกับความทุกข์จากความรักอยู่เสมอๆ
บางทีก็รู้จักกันผ่านเฟซบุ๊ค พอคุยกันถูกคอก็ตกลงคบกันเป็นแฟนแล้ว แต่พอเจอกันได้ทำกิจกรรมร่วมกันก็รู้สึกว่าไม่โอเค
จนสุดท้ายก็ต้องเลิกลากันไป ทั้งเราบอกเลิกและเขาบอกเลิก เป็นแบบนี้มาแล้วบ่อยครั้ง...
มาเข้าเรื่องกันดีกว่าครับ ผมกับเพื่อนรู้จักกันมาตั้งแต่ ม.2 ตอนนั้นเธอก็มีแฟนอยู่แฟนของเธอก็เพื่อนผมนี่แหละครับ
แต่ตอนนั้นผมก็ยังไม่ได้รู้สึกอะไรกับเธอเพราะผมไม่เคยคิดจะแย่งแฟนใครอยู่แล้ว จนประมาณ ม.3เกือบๆจะขึ้นม.4 เพื่อนผมก็เลิกกัน
ด้วยสาเหตุอะไรผมก็ไม่ทราบ และเพื่อนของผมก็โสดตั้งแต่ตอนนั้นมา หลังจากขึ้นม.4ผมกับเพื่อนก็ได้อยู่ห้องเดียวกัน
(ตอนม. 2-3 ก็ห้องเดียวกัน) แต่เพื่อนที่เป็นผู้ชายอยู่อีกห้อง(เขาเลิกกันแล้วนี่นา) ผมก็เลยได้มีโอกาสพูดคุยและเล่นกับกลุ่มของเพื่อนมากขึ้น
เพราะว่าในห้องผมมีผู้ชายไม่กี่คน ก็เลยเล่นกับเพื่อนผู้หญิงมากกว่า ด้วยความใกล้ชิดกันมากขึ้นได้รู้เกี่ยวกับเพื่อนของผมมากขึ้น
ก็ทำให้ผมประทับใจเพื่อนผมมาก เพราะว่าเพื่อนขยันและที่สำคัญไม่ห่วงสวยแต่ก็ดูแลตัวเองนะ จนถึงม.6 ผมตัดสินใจบอกเธอว่าผมรู้สึกอย่างไรกับเธอ
ผมก็ถูกปฏิเสธแล้วเราก็ไม่ได้คุยกันไปพักหนึ่ง แต่ใจผมก็ยังรู้สึกดีกับเพื่อนคนนี้เสมอ ผมเคยตั้งใจว่ายังไงก็จะรอเพื่อนคนนี้ต่อไป และผมก็คงจะ
ไม่กล้าบอกเธออีกแน่ๆ จนขึ้นปี 1 ผมกับเพื่อนก็ได้เรียนกันคนละมหาวิทยาลัย แต่ก็เป็นวิทยาลัยที่อยู่ไม่ไกลกัน
พอขึ้นปี1 เราก็รู้สึกห่างเหินมันทำให้ผมถอดใจ ว่าเธอคงจะไม่คิดอะไรกับเราแล้วล่ะ เธอคงจะมีคนมาชอบมาจีบแล้วล่ะ (ผมคิดเองเออเองน่ะ)
แล้วผมก็ได้มีแฟนคนหนึ่ง เรารู้จักกันผ่านเฟซ แล้วก็คุยกันมาเรื่อยๆ ผมยอมรับนะว่าช่วงนั้นผมเหงามากๆ เพราะว่าอยู่หอคนเดียว(หอในมหาวิทยาลัย)
ไม่ค่อยจะมีเพื่อนคุยเพราะมาเรื่ยนที่นี่แค่นเดียวเพื่อนที่โรงเรียนไม่มีใครมาด้วย ผมก็เลยพยายามจีบแฟนคนนี้จนสุดท้ายเธอก็ตอบตกลง
ซึ่งตอนนั้นเราก็ไม่เคยเจอกันมาก่อน เจอก็แค่ผ่านๆ เราก็คบกันผ่านเฟซ คุยกันผ่านเฟซ นานๆได้ไปกินข้าวด้วยกันทีหนึ่ง ตอนนั้นก็รู้สึกดีนะครับ
แต่ช่วงหลังๆผมก็รู้สึกไม่โอเค ด้วยความที่แฟนผมก็ทำตัวเหมือนเด็กเกินไป แล้วมีครั้งหนึ่งที่ทำให้ผมเจ็บปวดมาก คือในวันลอยกระทงปีนั้น เรานัดกันไปลอยกระทง แต่แฟนผมก็ไปกับเพื่อน เดินเที่ยวงานก็ไปกับเพื่อนคือแบบไม่คุยกับผมเลยหมือนผมไปงานคนเดียวอ่ะ จนผมคิดกับตัวเองว่านี่เราขับรถมาตั้งไกลเพียงแค่มาดูเขาคุยกับเพื่อนหรอ? ผมก็เลยขอตัวกลับ แต่หลังจากนั้นเราก็คุยกันปกตินะ เพราะว่าผมไม่ได้แสดงออกว่าผมรู้สึกยังไง
ในระหว่างนั้นผมกับเพื่อนที่ผมแอบชอบก็คุยกันตากปกติแล้วครับ(เราคุยกันแบบเพื่อนมาตั้งแต่จบม.6ละ) ผมก็คุยเล่นกับเพื่อนและรู้สึกว่าเพื่อนคนนี้ทำให้ผมสบายใจมากๆ เราก็คุยกันในฐานะเพื่อนแบบนี้มาตลอดครับ จนมาถึงวันนี้ผมมั่นใจแล้วครับว่าผมรักเพื่อนคนนี้จริงๆ ผมชอบคนที่ขยันไม่ห่วงสวย(เพื่อนผมเลี้ยงควายด้วยนะเท่ไหมล่ะ) ส่วนแฟนผมก็ยังทำตัวเป็นเด็ก และเป็นคนที่ชอบงอลไม่รู้เป็นอะไรทำให้สุขภาพจิตผมแย่มาก เวลางอลถามว่าเป็นอะไรก็ไม่พูดกับผมอีก ผมกับแฟนคบกันมาก็จะ 2 ปีแล้วครับ ที่เราคบกันได้นานเพราะไม่ค่อยเจอกัน ในเฟซก็ไม่ค่อยจะได้คุย จนผมรู้สึกเหมือนว่านี่เราเป็นแฟนกันแค่ในฐานะแค่นั้นใช่ไหม และในตอนนี้ผมก็รู้สึกเหมือนจะหมดใจไปซะแล้ว
ตอนนี้ผมมั่นใจเหลือเกินรับว่าผมชอบเพื่อนผมมากๆ ผมก็บอกไม่ถูกนะว่าทำไม ผมอยากจะบอกความรู้สึกกับเพื่อนผมอีกซักครั้ง แต่ผมก็ยังติดที่ว่าผมยังมีแฟนอยู่และเพื่อนผมก็รู้นะว่าผมมีแฟน มันก็เลยทำห้ผมไม่กล้าที่จะพูดมันออกไป
และความทุกข์ใจมันจึงเกิดกับผม ณ ตอนนี้
ทุกข์ที่ว่าคือ
สรุปว่าผมกับแฟนเราเป็นแฟนกันจริงๆไหม ,ผมกับแฟนเราเป็นแฟนกันแค่ในฐานะแค่นั้นใช่ไหม,ผมจะเลือกทางไหนดีระหว่างแฟนที่คบกันแบบนี้กับเพื่อนที่ผมชอบแต่ไม่รู้ว่าเธอคิดยังไงกับผม,ถ้าผมบอกความรู้สึกกับเพื่อนไปผมจะเสียเพื่อนไปไหม, ฯลฯ
พอแค่นี้แหละครับ ขอโทษที่บางทีอาจจะเรียบเรียงเรื่องไม่ดีเพราะผมเขียนตามสิ่งที่ผมคิดออก ณ ขณะนี้เท่านั้น
ผมแค่อยากระบายความรู้สึกเท่านั้น ขอบคุถณครับ
เคยไหม? แอบรักเพื่อนแต่ไม่กล้าบอก
ผมเป็นนักศึกษาปีที่ 3 ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เคยมีความรักผ่านเข้ามาก็บ่อยครั้ง แต่ก็ไม่เคยจะไปกันรอด
เหมือนผมจะเป็นคนชอบคนง่ายนะ ซึ่งมันอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมต้องพบกับความทุกข์จากความรักอยู่เสมอๆ
บางทีก็รู้จักกันผ่านเฟซบุ๊ค พอคุยกันถูกคอก็ตกลงคบกันเป็นแฟนแล้ว แต่พอเจอกันได้ทำกิจกรรมร่วมกันก็รู้สึกว่าไม่โอเค
จนสุดท้ายก็ต้องเลิกลากันไป ทั้งเราบอกเลิกและเขาบอกเลิก เป็นแบบนี้มาแล้วบ่อยครั้ง...
มาเข้าเรื่องกันดีกว่าครับ ผมกับเพื่อนรู้จักกันมาตั้งแต่ ม.2 ตอนนั้นเธอก็มีแฟนอยู่แฟนของเธอก็เพื่อนผมนี่แหละครับ
แต่ตอนนั้นผมก็ยังไม่ได้รู้สึกอะไรกับเธอเพราะผมไม่เคยคิดจะแย่งแฟนใครอยู่แล้ว จนประมาณ ม.3เกือบๆจะขึ้นม.4 เพื่อนผมก็เลิกกัน
ด้วยสาเหตุอะไรผมก็ไม่ทราบ และเพื่อนของผมก็โสดตั้งแต่ตอนนั้นมา หลังจากขึ้นม.4ผมกับเพื่อนก็ได้อยู่ห้องเดียวกัน
(ตอนม. 2-3 ก็ห้องเดียวกัน) แต่เพื่อนที่เป็นผู้ชายอยู่อีกห้อง(เขาเลิกกันแล้วนี่นา) ผมก็เลยได้มีโอกาสพูดคุยและเล่นกับกลุ่มของเพื่อนมากขึ้น
เพราะว่าในห้องผมมีผู้ชายไม่กี่คน ก็เลยเล่นกับเพื่อนผู้หญิงมากกว่า ด้วยความใกล้ชิดกันมากขึ้นได้รู้เกี่ยวกับเพื่อนของผมมากขึ้น
ก็ทำให้ผมประทับใจเพื่อนผมมาก เพราะว่าเพื่อนขยันและที่สำคัญไม่ห่วงสวยแต่ก็ดูแลตัวเองนะ จนถึงม.6 ผมตัดสินใจบอกเธอว่าผมรู้สึกอย่างไรกับเธอ
ผมก็ถูกปฏิเสธแล้วเราก็ไม่ได้คุยกันไปพักหนึ่ง แต่ใจผมก็ยังรู้สึกดีกับเพื่อนคนนี้เสมอ ผมเคยตั้งใจว่ายังไงก็จะรอเพื่อนคนนี้ต่อไป และผมก็คงจะ
ไม่กล้าบอกเธออีกแน่ๆ จนขึ้นปี 1 ผมกับเพื่อนก็ได้เรียนกันคนละมหาวิทยาลัย แต่ก็เป็นวิทยาลัยที่อยู่ไม่ไกลกัน
พอขึ้นปี1 เราก็รู้สึกห่างเหินมันทำให้ผมถอดใจ ว่าเธอคงจะไม่คิดอะไรกับเราแล้วล่ะ เธอคงจะมีคนมาชอบมาจีบแล้วล่ะ (ผมคิดเองเออเองน่ะ)
แล้วผมก็ได้มีแฟนคนหนึ่ง เรารู้จักกันผ่านเฟซ แล้วก็คุยกันมาเรื่อยๆ ผมยอมรับนะว่าช่วงนั้นผมเหงามากๆ เพราะว่าอยู่หอคนเดียว(หอในมหาวิทยาลัย)
ไม่ค่อยจะมีเพื่อนคุยเพราะมาเรื่ยนที่นี่แค่นเดียวเพื่อนที่โรงเรียนไม่มีใครมาด้วย ผมก็เลยพยายามจีบแฟนคนนี้จนสุดท้ายเธอก็ตอบตกลง
ซึ่งตอนนั้นเราก็ไม่เคยเจอกันมาก่อน เจอก็แค่ผ่านๆ เราก็คบกันผ่านเฟซ คุยกันผ่านเฟซ นานๆได้ไปกินข้าวด้วยกันทีหนึ่ง ตอนนั้นก็รู้สึกดีนะครับ
แต่ช่วงหลังๆผมก็รู้สึกไม่โอเค ด้วยความที่แฟนผมก็ทำตัวเหมือนเด็กเกินไป แล้วมีครั้งหนึ่งที่ทำให้ผมเจ็บปวดมาก คือในวันลอยกระทงปีนั้น เรานัดกันไปลอยกระทง แต่แฟนผมก็ไปกับเพื่อน เดินเที่ยวงานก็ไปกับเพื่อนคือแบบไม่คุยกับผมเลยหมือนผมไปงานคนเดียวอ่ะ จนผมคิดกับตัวเองว่านี่เราขับรถมาตั้งไกลเพียงแค่มาดูเขาคุยกับเพื่อนหรอ? ผมก็เลยขอตัวกลับ แต่หลังจากนั้นเราก็คุยกันปกตินะ เพราะว่าผมไม่ได้แสดงออกว่าผมรู้สึกยังไง
ในระหว่างนั้นผมกับเพื่อนที่ผมแอบชอบก็คุยกันตากปกติแล้วครับ(เราคุยกันแบบเพื่อนมาตั้งแต่จบม.6ละ) ผมก็คุยเล่นกับเพื่อนและรู้สึกว่าเพื่อนคนนี้ทำให้ผมสบายใจมากๆ เราก็คุยกันในฐานะเพื่อนแบบนี้มาตลอดครับ จนมาถึงวันนี้ผมมั่นใจแล้วครับว่าผมรักเพื่อนคนนี้จริงๆ ผมชอบคนที่ขยันไม่ห่วงสวย(เพื่อนผมเลี้ยงควายด้วยนะเท่ไหมล่ะ) ส่วนแฟนผมก็ยังทำตัวเป็นเด็ก และเป็นคนที่ชอบงอลไม่รู้เป็นอะไรทำให้สุขภาพจิตผมแย่มาก เวลางอลถามว่าเป็นอะไรก็ไม่พูดกับผมอีก ผมกับแฟนคบกันมาก็จะ 2 ปีแล้วครับ ที่เราคบกันได้นานเพราะไม่ค่อยเจอกัน ในเฟซก็ไม่ค่อยจะได้คุย จนผมรู้สึกเหมือนว่านี่เราเป็นแฟนกันแค่ในฐานะแค่นั้นใช่ไหม และในตอนนี้ผมก็รู้สึกเหมือนจะหมดใจไปซะแล้ว
ตอนนี้ผมมั่นใจเหลือเกินรับว่าผมชอบเพื่อนผมมากๆ ผมก็บอกไม่ถูกนะว่าทำไม ผมอยากจะบอกความรู้สึกกับเพื่อนผมอีกซักครั้ง แต่ผมก็ยังติดที่ว่าผมยังมีแฟนอยู่และเพื่อนผมก็รู้นะว่าผมมีแฟน มันก็เลยทำห้ผมไม่กล้าที่จะพูดมันออกไป
และความทุกข์ใจมันจึงเกิดกับผม ณ ตอนนี้
ทุกข์ที่ว่าคือ
สรุปว่าผมกับแฟนเราเป็นแฟนกันจริงๆไหม ,ผมกับแฟนเราเป็นแฟนกันแค่ในฐานะแค่นั้นใช่ไหม,ผมจะเลือกทางไหนดีระหว่างแฟนที่คบกันแบบนี้กับเพื่อนที่ผมชอบแต่ไม่รู้ว่าเธอคิดยังไงกับผม,ถ้าผมบอกความรู้สึกกับเพื่อนไปผมจะเสียเพื่อนไปไหม, ฯลฯ
พอแค่นี้แหละครับ ขอโทษที่บางทีอาจจะเรียบเรียงเรื่องไม่ดีเพราะผมเขียนตามสิ่งที่ผมคิดออก ณ ขณะนี้เท่านั้น
ผมแค่อยากระบายความรู้สึกเท่านั้น ขอบคุถณครับ