[แฟนฟิค SOTUS // ก้องภพ x อาทิตย์] จากวันนี้ ... และตลอดไป

เพราะรัก และ คิดถึงพี่อาทิตย์กับก้องภพ ในนิยายเรื่อง SOTUS พี่ว้ากตัวร้ายกับนายปีหนึ่ง ของคุณ BitterSweet
คิดถึงมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก จนต้องระบายออกมาเป็นแฟนฟิค one shot ให้หายคิดถึงกันสักหน่อย
ชอบไม่ชอบอย่างไรฝากคอมเม้นติชมกันได้เลยนะคะ

รักคนอ่านทุกคนนน
Kipling


แฟนฟิค SOTUS พี่ว้ากตัวร้ายกับนายปีหนึ่ง by Kipling

จากวันนี้ และตลอดไป
     



     

          

แสงแดดยามใกล้เที่ยงแผดจ้าจนแทบลืมตาไม่ขึ้น แต่ความรีบร้อนที่มีมากกว่าทำให้ชายหนุ่มแทบไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น นอกจากเป้าหมายตรงหน้า ซึ่งก็คือ ...วินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง          

“พี่ๆ ไปตึกวิศวะอุตฯครับ !!!” หนุ่มวัยเริ่มต้นทำงานตะโกนดังลั่นตามสไตล์อดีตเฮดว้ากคนดังที่ใครต่อใครร่ำลือกันว่าเขากินโทรโข่งกับไมโครโฟนเป็นอาหารหลัก แม้แต่เจ้าของรถวินฯเองยังสะดุ้งโหยง ก่อนหันมายังผู้โดยสารคนเดิมที่วิ่งหน้าตั้งกระโดดพรวดขึ้นซ้อนท้ายโดยไม่รอคำตอบสักคำ          

“ด่วนครับพี่ !!!” อาทิตย์กระชับสายสะพายกระเป๋าโน้ตบุ๊กเข้าข้างเอวพร้อมตะเบ็งย้ำขึ้นอีกครั้ง พี่วินฯที่ยังงุนงงอยู่จึงรีบสตาร์ทเครื่องแล้วออกตัวทันที          

ระหว่างที่มอเตอร์ไซค์วิ่งลัดเลาะแทรกตัวตามเส้นทางที่แออัดไปด้วยยานพาหนะคับคั่งอยู่พักหนึ่ง เจ้าของรถกลับส่ายหัวแล้วหันมาพูดกับผู้โดยสารหนุ่มข้างหลัง          

“เดี๋ยวพี่ลัดออกทางข้างตึกเรียนรวมละกันนะน้อง  ขืนวิ่งเส้นหลักคงอีกนานกว่าจะถึง” พูดจบพี่วินฯก็หักเลี้ยวเข้าตรอกเล็กๆ เป็นอันรู้กันว่าคือทางลัดไปคณะวิศวกรรมศาสตร์ ด้วยความว่องไวคล่องตัวแบบนี้นั่นล่ะที่ทำให้อาทิตย์ตัดสินใจใช้บริการมอเตอร์ไซค์รับจ้างอย่างไม่ลังเล เพราะรู้ดีว่า ‘วันนี้’ การจราจรในมหาวิทยาลัยจะต้องติดนรกแตกแน่นอน วันสำคัญประจำปีอีกหนึ่งวันที่ผู้คนมากมายมารวมตัวกันไม่ว่าจะเป็นนักศึกษาทุกชั้นปี คณาจารย์ทุกคณะ หรือแม้กระทั่งพ่อแม่พี่น้องญาติโยมอีกหลายร้อยพันครอบครัวทั้งในและต่างจังหวัดที่พร้อมใจกันมาให้กำลังใจลูกหลานของตัวเอง          

... วันรับปริญญา ...
          

อาทิตย์ก้มมองนาฬิกาข้อมือของตัวเองสลับกับมองทางข้างหน้าไปมาอย่างหงุดหงิด ใช่ เขารีบสุดๆ จนอยากจะให้รถวินฯติดถังไนตรัสด้วยซ้ำ ร้อนใจ ถึงขนาดต้องยอมเสียเครดิตลางานครึ่งวันเลยทีเดียว ความจริงเจ้าตัวตั้งใจลาหยุดหนึ่งวัน แต่ติดตรงที่ว่าช่วงเช้าดันมีประชุมด่วนซึ่งเลี่ยงไม่ได้เด็ดขาด ชนิดที่ต่อให้ป่วยก็ต้องลากสายน้ำเกลือไปด้วย ดังนั้นพอประชุมเสร็จตอนสิบเอ็ดโมงกว่า อดีตเฮดว้ากจึงวิ่งติดสปีดพุ่งพรวดออกมาจากออฟฟิศทันที          

ที่จริงวันนี้ก็ไม่ได้สำคัญอะไรขนาดนั้นหรอก ก็แค่เป็นวันรับปริญญาของก้องภพ ...เท่านั้นเอง          

แถมว่าที่บัณฑิตไม่เคยรบเร้าอะไรเลยสักคำ แค่บอกเล่าให้ฟังทางโทรศัพท์ว่ากำหนดการซ้อมใหญ่วันไหน รับจริงเมื่อไรเท่านั้น          

“พี่อาทิตย์ไม่ต้องมาก็ได้นะครับ มันตรงกับวันธรรมดาที่พี่ต้องทำงานพอดี แถมเป็นช่วงปิดไตรมาสอีก งานพี่คงยุ่งมาก ผมเข้าใจนะครับ”          

ก้องภพยังคงคอนเซ็ปต์สายเหตุผลอยู่เสมอ ซึ่งอาทิตย์เองก็เห็นด้วย อีกทั้งตัวเขาเองไม่เคยยอมให้เรื่องส่วนตัวมากระทบกับงานของทั้งคู่โดยเด็ดขาดอยู่แล้ว          

แต่เพราะเห็นว่าไม่ได้เจอหน้ากันเลยตลอดเกือบหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ทำให้อาทิตย์ยอมทำโอทีเพิ่มอีกหลายชั่วโมง แถมเคลียร์งานบางส่วนล่วงหน้าเพื่อหาโอกาสลาหยุดครึ่งวันมาร่วมแสดงความยินดีกับว่าที่บัณฑิตใหม่ให้ได้          

.... อย่างน้อยแค่เจอหน้ากัน ได้เห็นรอยยิ้มของเจ้าคนหน้าซื่อตาใสใจหมาป่านั่น สักนาทีก็ยังดี          

ไม่นานนัก มอเตอร์ไซค์รับจ้างก็ได้โลดแล่นมาจอดอยู่ตรงลานหน้าตึกคณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาอุตสาหการ อาทิตย์จึงรีบกระโดดลงจากรถ ควักเงินค่าโดยสารจ่ายให้พี่วินฯแล้วผละออกมาทันทีโดยไม่รอเงินทอน ก่อนจะชะงักเมื่อสังเกตเห็นว่าบริเวณหน้าตึกที่ควรเต็มไปด้วยเหล่าบัณฑิตสวมชุดครุยและผู้คนมากมาย  เวลานี้กลับเหลือแต่พวกนักศึกษาเดินขวักไขว่หรือไม่ก็จับกลุ่มพูดคุยกัน กับบรรดาผู้ปกครองนั่งพักกระจายอยู่ตามจุดต่างๆทั่วตึกวิศวะอย่างสบายอารมณ์          

อาทิตย์ถึงกับหน้าถอดสี พลางก้มลงมองนาฬิกาข้อมืออีกครั้ง เห็นชัดว่าตอนนี้ทั้งเข็มสั้นกับเข็มยาวเพิ่งเลยพ้นเลขสิบสองไปได้ไม่กี่ขีด          

.... เขามาไม่ทัน ....          

อดีตรุ่นพี่แทบเข่าอ่อนหมดแรง จนต้องเดินโซซัดโซเซไปนั่งตรงม้าหินข้างกำแพงตึก ถอดสายกระเป๋าโน้ตบุ๊กวางลงข้างตัวพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ จำได้ขึ้นใจว่ากำหนดการเข้าหอประชุมรับปริญญาคือ 12.00 น. อุตส่าห์วางแผนลางาน ทั้งคำนวณเส้นทางอย่างดิบดี สุดท้ายก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า          

“โธ่เว้ยยย” อาทิตย์บ่นใส่ตัวเองเบาๆ ดวงตาคมหรี่ลงอย่างเหนื่อยล้า ก่อนเหลือบมองบรรยากาศรอบตัวอีกครั้ง นักศึกษาที่มากันในวันนี้ทุกคนแต่งตัวถูกระเบียบเรียบร้อยเป็นพิเศษเพื่อให้เกียรติพิธีสำคัญ มีบ้างที่ชายเสื้อเริ่มหลุดลุ่ยเพราะถึงเวลาต้องใช้แรงงานเคลียร์พวกซุ้มต่างๆที่จัดไว้ให้กับเหล่าพี่บัณฑิต ทั้งแสตนเชียร์และคัตเอ้าท์สำหรับถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ทั้งซุ้มกิจกรรมเล็กๆที่กระจายอยู่ทั่วลานหน้าตึกคณะ ทุกอย่างที่ผ่านสายตาอาทิตย์ทำให้เจ้าตัวอดไม่ได้ที่จะนึกย้อนกลับไปเมื่อสองปีก่อน....          

.... ในวันที่ตนเองสวมชุดครุยเข้าพิธีสำคัญเดียวกัน          

วันนั้น.... ใครบางคน ... คนที่เป็นจอมวางแผนมาตั้งแต่สมัยชิงธงปีหนึ่ง ดึงดันพาเขาไปยืนอยู่ตรงกลางกลุ่มนักศึกษารุ่นน้องกลุ่มใหญ่ จากนั้นปล่อยเขายืนเคว้งอยู่กลางวงเพื่อไปจัดแถวเพื่อนๆของตัวเองให้เป็นแนวล้อมเขาไว้          

“พวกเรา บูมให้พี่อาทิตย์!!!” ก้องภพออกคำสั่งเสียงดัง“WE ARE ENGINEER พร้อม สาม สี่!!!!”          

E-N–G–I– N– E– E - R   ENGINEER    ENGINEER   เฮ้ !!!”          

ทุกพยางค์ ทุกถ้อยคำ กึกก้องสนั่นไปทั่วจนผู้คนต่างหันมองมาที่เดียวกัน ทั้งยังสะท้อนเข้าไปในหัวใจของรุ่นพี่ที่ยืนอยู่เป็นจุดศูนย์กลาง หูของอาทิตย์อื้อตึงไปหมด หากไม่ใช่เพราะเสียงบูมที่ดังลั่นโสตประสาท แต่เป็นเพราะความปลาบปลื้มที่ล้นปรี่จนจับต้นชนปลายไม่ถูกมากกว่า          

“พ... พวกคุณนี่มัน... ผ่านมาตั้งหลายปีแล้วแต่ก็ยังบูมไม่ได้เรื่อง” ยังไม่ทิ้งลายพี่ว้ากมากฟอร์ม แต่น้ำเสียงนุ่มอ่อนที่ต่างออกไปทำให้บรรดารุ่นน้องรวมถึงก้องภพจับทางได้ว่าพี่บัณฑิตคนนี้ไม่ได้โกรธเคืองอะไรเลย แต่กำลังปลื้มใจอย่างที่สุดต่างหาก          

“ขอบคุณทุกคนมาก”          

รอยยิ้มของรุ่นน้องถูกส่งมาอย่างพร้อมเพรียงกันทันทีที่ได้ยินเช่นเดียวกับพี่อาทิตย์ เจ้าตัวยิ้มบางตอบกลับวูบหนึ่งพลันเดินก้มหน้าฝ่าวงล้อมผละจากไป ทุกคนจึงต่างเคลื่อนย้ายกันไปเตรียมตั้งแถวบูมให้รุ่นพี่คนอื่นๆต่อ          

ยกเว้นก้องภพ ... ที่วิ่งตามหลังคนของตัวเองมาติดๆ แต่พี่ว้ากในคราบบัณฑิตหนุ่มยังคงสาวเท้าเร็วๆหนีไปทางด้านหลังตึกคณะ สัญญาณแบบนี้มันดูคุ้นตาชอบกล ก้องภพจึงเร่งฝีเท้าไปดักข้างหน้าคนที่เอาแต่ก้มงุดไม่มองทาง          

“พี่อาทิตย์ครับ”          

คนเป็นพี่ชะงักพลางเงยหน้าขึ้น ก่อนจะรีบหันหนีไปอีกด้านอย่างรวดเร็ว แต่ก็ทำให้ก้องภพทันได้เห็นแววตาเอ่อชื้นและแดงก่ำ เจ้าตัวจึงแอบยิ้มมุมปากเมื่อสิ่งที่คาดเดาไว้นั้นถูกเผง          

“ผมเคยบอกพี่แล้วไงครับ ว่าถ้าพี่จะร้องไห้อีกให้บอกผม... ผมจะช่วยซับน้ำตาให้เอง”          

“ก้องภพ!!!”.............          

          

........... สุดท้าย ในวันนั้น ใจของพี่ว้ากก็ยังพ่ายแพ้ต่อ 0062 ตัวแสบอยู่ดี          

          

พอย้อนนึกถึงตรงนี้ ยิ่งทำให้อาทิตย์รู้สึกผิดมากกว่าเดิมจนแทบตีอกชกหัวตัวเอง ก็ดูสิ พอถึงวันสำคัญที่สุดในชีวิตของก้องภพบ้าง ตัวเองกลับไม่สามารถทำอะไรเพื่ออีกฝ่ายได้เลยสักอย่าง น่าหงุดหงิดจนต้องบ่นระบายออกมา          

“กูนี่มัน....”          

...... เป็นแฟนที่ไม่ได้เรื่องเลยว่ะ          

คำบ่นที่เหลือถูกต่อเติมเงียบๆในใจ อาทิตย์พ่นลมหายใจแรงๆอีกครั้งแล้วเอนตัวพิงกำแพงอย่างเซ็งสุดชีวิต แถมยิ่งคิดมากเท่าไร กระเพาะยิ่งเริ่มแสบบิดมวนมากขึ้นทุกที          

จริงสิ... ตั้งแต่ออกจากบ้านมาแต่เช้าจนถึงตอนนี้ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยสักอย่างนี่หว่า          

อดีตพี่ว้ากเหลียวมองซ้ายขวาอย่างใช้ความคิด ถึงท้องจะหิวแค่ไหนแต่เขากลับไม่มีกะจิตกะใจอยากกินอะไรเลยสักนิด แต่จะปล่อยให้น้ำย่อยทำลายกระเพาะต่อไปก็ไม่ได้อีก เกิดเจ็บป่วยขึ้นมาเรื่องจะวุ่นวายไปกันใหญ่ แล้วยิ่งถ้าถึงหูก้องภพเข้าล่ะก็ เจ้านั่นต้องบ่นยาวเป็นขบวนรถไฟหัวลำโพงแน่ๆ          

ไม่รู้ทำไม.... พอคิดถึงตรงนี้ อาทิตย์กลับยอมผุดลุกขึ้นแต่โดยดี บีบไหล่ไล่ความเมื่อยล้าแล้วคว้ากระเป๋าโน้ตบุ๊กขึ้นสะพายอีกครั้งก่อนก้าวเดินออกมา แต่แทนที่จะไปโรงอาหาร เขากลับมุ่งหน้าตรงไปยังถนนสายหลักที่เชื่อมทางต่อกันระหว่างตึกคณะอื่นๆแทนเสียอย่างนั้น          

ริมถนนสองข้างวันนี้เต็มไปด้วยร้านรวงต่างๆตั้งบู้ธชั่วคราวอยู่มากมาย เยอะที่สุดคงเป็นพวกร้านขายช่อดอกไม้ ตุ๊กตา และของที่ระลึกสำหรับเป็นของขวัญให้กับว่าที่บัณฑิต และยังมีพวกรถเข็นขายของกินกระจายตัวแทรกอยู่ไม่น้อยเช่นกัน          

อาทิตย์รู้ดีว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ในอารมณ์ที่ไม่ค่อยเจริญอาหารเท่าไรนัก จึงอยากเดินดูร้านรถเข็นพวกนี้เพื่อหาอะไรรองท้องเบาๆมากกว่าไปนั่งกินข้าวที่โรงอาหาร แต่เอาเข้าจริงพออาทิตย์เดินผ่านทั้งร้านหมูปิ้ง ลูกชิ้นปิ้ง เครปญี่ปุ่นยอดฮิต หรือแม้กระทั่งร้านสะดวกซื้อประจำตึกก็ตาม กลับไม่มีอะไรที่เขาทำให้รู้สึกอยากกินเลยสักอย่าง ไอ้ครั้นจะปล่อยให้ตัวเองหิวโซก็คงไม่ดีแน่ จึงจำใจเดินต่อไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมาย          

หลายนาทีต่อมา เหมือนสวรรค์เป็นใจให้ชายหนุ่มพบแสงแห่งความหวังปลายอุโมงค์ อาทิตย์เหลือบมองเห็นร้านกาแฟโบราณที่เป็นรถเข็นเก่าๆตั้งขายอยู่ตรงหัวมุมแยกหน้าคณะวิทยาศาสตร์ เขาจึงรีบปรี่เข้าไปอย่างไม่รอช้า นึกออกโดยพลันว่ามีเพียงเมนูเดียวที่จะเยียวยาอารมณ์ขุ่นมัวของตัวเองในเวลานี้ได้          

“ลุงๆ ขอนมเย็นแก้วนึงครับ”          

ชายสูงอายุเจ้าของร้านเงยหน้าขึ้นมองคนสั่งออเดอร์อยู่แว้บหนึ่ง เหมือนประหลาดใจเล็กๆว่าเครื่องดื่มสีหวานนี้พ่อหนุ่มออฟฟิศตาดุเสียงโหดจะสั่งกินเอง แต่ก็ไม่ได้พูดตอบอะไรพลางก้มหน้าชงนมเย็นให้เพราะไม่อยากให้ลูกค้ารอนาน          

ไม่เกินสองนาที เครื่องดื่มสุดโปรดของอาทิตย์ก็ชงเสร็จเรียบร้อย เขาจึงรีบจ่ายเงินแล้วคว้าแก้วนมเย็นสีชมพูสุดน่ารักขึ้นดูดฮวบๆราวกับตายอดตายอยากมานาน ความหอมหวานกลิ่นสละผสมนมช่วยเขาได้เสมอ อารมณ์หงุดหงิดที่คุกกรุ่นอยู่คลายลงอย่างง่ายดาย เช่นเดียวกับน้ำย่อยที่กำลังกัดผนังกระเพาะเริ่มสงบลงโดยพลัน          

พอใจเย็นลง อาทิตย์จึงเริ่มขบคิดว่าวันนี้จะเอายังไงต่อ จะกลับบ้านเลยก็ดูไม่คุ้มค่ากับที่ลำบากดั้นด้นมาจนถึงที่นี่ แต่กว่าพิธีการจะเสร็จสิ้นก็อีกตั้งหลายชั่วโมง ระหว่างนี้คงต้องหาอะไรทำไปก่อน โชคดีที่ตัดสินใจเอางานบางส่วนติดตัวมาด้วย อย่างน้อยยังถือโอกาสหาที่นั่งทำงานฆ่าเวลาได้บ้าง          

นมเย็นสีชมพูถูกดูดจนเกลี้ยงไม่เหลือสักหยด อาทิตย์จึงทิ้งลงถังขยะแล้วหันกลับไปทางคณะวิศวะตามเดิม แต่เมื่อเดินผ่านร้านขายของที่ระลึกต่างๆจึงเริ่มฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า          

เออว่ะ ... ยังไม่มีของขวัญรับปริญญาให้ก้องภพเลยนี่หว่า          

To be continue........
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่