ตะลุยเชียงใหม่ 3วัน2คืน
สวัสดีเพื่อนๆชาว BP ทริปนี้เป็นการเดินทางโดยมีระยะเวลาเตรียมตัวน้อยมาก เพราะระยะเวลาเดินทางที่กระชั้นชิด แต่ปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ เชื่อว่าหลายๆท่านคงไม่พลาดที่จะหาเวลาไปสัมผัสอากาศหนาวที่เชียงใหม่อย่างแน่นอน ผมจะมาเล่าและถ่ายทอดเรื่องราวที่ได้ไปสัมผัสมาให้ได้ชมกัน จะเป็นยังไงไปดูกันเลย
เริ่มออกเดินทาง
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ทริปนี้ผมได้ชวนผู้ร่วมชะตากรรมในครั้งนี้มาอีก 3คน ซึ่งทุกคนก็ได้รอช้าที่จะตอบตกลงทันทีที่ได้ยินชื่อของจังหวัดเชียงใหม่
เราเริ่มออกสตาร์ทกันที่ ศูนย์สมบัติทัวร์วิภาวดีครับ ซึ่งผมมาถึงก่อนเวลารถออกตั้ง 3 ชม.แหนะ
ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นเราจึงไม่มีตัวเลือกในการเดินทางมากนัก หวยจึงตกอยู่ที่
บริษัทบางกอกบัสไลน์ ชั้นสุพรีมคลาส ซึ่งมันก็คือรถ vip นั้นแหละ จาก กรุงเทพ-เชียงใหม่ สนนราคาอยู่ที่คนละ
759 บาท
ที่ศูนย์สมบัติทัวร์มีห้องรับรองสำหรับลูกค้าคับ เราจึงไม่ต้องห่วงเรื่องคนจะเยอะ รอนาน ที่นี่เค้าเอาอยู่ครับ
เวลา 20.30 ได้เวลาขึ้นรถแล้วววว
เบาะกว้างสบาย แถมมีจอทีวีส่วนตัวไว้แก้เหงา
หลังจากหลับๆยาวไปถึงเชียงใหม่ เราก็ถูกปลุกด้วยเสียงที่สองของพนักงานประจำรถ

ถึงสถานีขนส่งอาเขต เราก็รีบจัดแจงนั่งสองแถวไปที่พักทันที
ที่พักของเราจะอยู่ในย่าน นิมมาน นะคับ ซึ่งเราโทรจองกับเจ้าของโดยตรงเลย เป็นที่พักราคาไม่แพง สนนราคาห้อง2คน อยู่ที่คืนละ
750 บาท เท่านั้น รวมอาหารเช้าแบบทำกินเองได้
กลังจากจัดแจงเก็บข้าวของ ล้างหน้าแปรงฟันเรียบร้อย เราก็ไปเริ่มต้นทริปกันเลย
DAY1
เราเช่ารถมอเตอร์ไซค์จากลุงเจ้าของที่พักเลย เรามากัน 4คน จัดมา2คัน ราคาวันละ
250บาท ต่อวันต่อคัน ซึ่งก็ไม่แพงมากสำหรับที่เที่ยวระดับนี้
ตามแพลนเราจะไปกันที่ บ้านแม่กำปอง จัดไปชุดใหญ่อย่าให้เสีย
การเดินทางของฉันและเธอคือการเรียนรู้ การเรียนรู้ของเราสองคนคือความเข้าใจ
ร้องเพลงสักหน่อย อารมย์ดีจริงๆ
อื้อถึงถึงสักที
แม่กำปองงงงงงง
และแล้วเราก็มาถึง จุดหมายปลายทางของใครหลายๆคน ตอนแรกคิดว่าคนจะไม่เยอะ ผิดคาด คนมาถ่ายรูปกันเยอะมาก
บรรยากาศของที่นี่ดีมาก รักษาความเป็นดั้งดิมได้ดี ถีงแม้จะมีโฮมสเตย์ใหม่ๆ แต่ก็ไม่ทิ้งเอกลักษณ์ของที่นี่ไป
โอเคหลังจากที่ชื่มชมบรรยากาศดีๆกันแล้ว สถานที่ต่อไปที่เราจะไปเยื่อนกันก็คือ
the giant chiangmai
ร้านกาแฟบนต้นไม้สุดชิค วิวสวยขั้นเทพ
จะสวยเทพขนาดไหน เรา4คนจะไปดูให้รู้แล้วรู้รอดกันไป
ต้องบอกก่อนว่าร้านกาแฟที่ว่านี้อยู่บนยอดเขาเลย ทางชันมาก คนที่ไม่ชินทางหรือขับรถไม่แข็งแนะนำรถรับส่งตรงตีนเขา ไปกลับเที่ยวละ
100บาท
ความชิคที่อธิบายไม่ได้ ต้องมาสัมผัสด้วยตัวเอง รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน

***ขออนุญาติเจ้าของภาพด้วยนะครับ***
คนจะเยอะไปไหน
สรุปคือไม่มี่โต้ะนั่ง เสียจายยย ไม่เป็นไรถือว่ามากันแล้วถ่ายรูปชมวิวกันไป
ไปกันต่อๆ ตอนแรกคิดว่าจะกลับไปที่พักแล้วไปเที่ยวในเมืองต่อ แต่ดันไปเห็นป้าย
บ่อน้ำพุร้อนสันกำแพง
อั้ยยะไม่ธรรมดานะ แวะดูสักหน่อยจะเป็นไร
น้ำพุร้อนสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ เปิดไห้เขาชมทุกวัน ตั้งแต่ เวลา 8.00น – 21.00น บัตรผ่านประตูบำรุงสหกรณ์คนละ 30บาท มีบริการห้องอาบน้ำแร่และบริการที่พัก ร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึก
จัดแจงเสียค่าเข้าเรียบร้อย
คนที่ไปที่นี่ส่วนใหญ่จะมากันเป็นครอบครัว พาลูกพาหลานมาแช่เท้าสบายใจ
เหนื่อยมาทั้งวันกลับที่พักกัน
ย่านนิมมานที่เราพักจะมีร้านอาหารหลายอย่าง หลายร้าน
อย่างร้านกาแฟที่เราไปนั่งกันก็จะมีความชิคในแบบของตัวเอง อันนี้ต้องไปลองด้วยตัวเอง
กลับที่พักแยกย้ายไปพักผ่อนก่อนพร้อมลุยวันที่สอง
DAY2
วันนี้เช้าวันใหม่ วันนี้เราตื่นแต่เช้าเพื่อที่จะไปสถานที่ยอดฮิตอีกที่นึงของเชียงใหม่ นั้นก็คือ
ม่อนแจ่ม
ระหว่างทางที่ไปมีมีทะเลหมอก สวยมากกก
ถึงแล้ว ม่อนแจ่ม แหกขี้ตาตื่นแต่เช้า ขับมอเตอร์ไซค์งัวเงียไปถึง ก็ต้องตะลึงกับภาพที่เห็น ไม่ผิดหวังจริงๆ
มีความอันซีนนนนน
ม่อนแจ่ม คือพื้นที่บนสันเขาในระดับความสูงประมาณ1,350 เมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นส่วนหนึ่งของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอยตั้งอยู่บริเวณหมู่บ้านม้งหนองหอย อ.แม่ริม บนม่อนแจ่มมีอากาศหนาวเย็นสบายตลอดทั้งปี
ลุยๆๆ ไปกันต่อที่
สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 8.30-17.00 น. ค่าธรรมเนียม ผู้ใหญ่ 40 บาท นักเรียน นักศึกษา คนละ 2 0 บาท ผู้ใหญ่อายุเกิน 60 ภิกษุ สมาเณร เด็กอายุต่ำกว่า 12 ไม่เสียค่าเข้าชม รถยนต์ 4 ล้อ คันละ 100 บาท รถบัส คันละ 200 บาท
เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่ดีทีเดียว บรรยากาศดี ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าจับมือคู่รักมาเดินดูดอกไม้กันสองต่อสอง อิจฉาาาาาา
เสร็จจากที่นี่เราก็กลับที่พักกันเลย เดี๋ยวตอนค่ำเราจะไปขับรถชมเมืองกัน
คืนนี้เราไปต่อกันที่ประตูท่าแพกัน ไปเดินตลาดกลางคืนที่เค้าว่าแซ่บ จะดีแค่ไหนไปดูกัน
เดินมาเรื่อยๆก็ไปสะดุดตากับสถานที่นึง เห็นเจ้าหน้าที่บอกว่าเป็น คุ้มของเจ้าเมืองเชียงใหม่เก่า ก็เลยขอเข้าไปชมหน่อยละกัน
รักษาสภาพได้ดีมาก
ที่นี่มีร้านขายของที่ระลึกด้วย มาอุดหนุนกันได้ เราจะได้มีสถานที่ทางประวัติศาสตร์ไว้ดูกันต่อไป
DAY3
วันนี้เป็นวันสุดท้าย ไอเราก็ว่าจะไปเดินดูบรรยากาศยามเช้าย่านนิมมานสักหน่อย แต่ดันหนื่อยจากเมื่อวานเลยตื่นสายยยยยย เสียดาย
ก่อนกลับเราไม่ลืมที่จะไปชิมของดีเชียงใหม่ เค้าว่าถ้าไม่ได้กินถือว่ามาไม่ถึง
ร้านนี้เลยยยยย
ข้าวซอยนิมมาน ที่เค้าว่าเด็ด
หน้าตาดูดีเลยทีเดียว
รสชาติถือว่าอร่อยมากจากที่เคยกินหลายๆที่ น่องไก่ให้มาเต็มๆ สุดยอดมาก อยากให้มาลอง
เดินทางกลับ
ขากลับเรากลับรถทัวร์เหมือนเดิมครับ
บริษัทพรพิริยะทัวร์ ปรับอากาศชั้น1 เชียงใหม่ - กรุงเทพ รถออกเวลา 19.30 ถึง หมอชิตประมาณ ตี5
ราคาคนละ
488บาท
ถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ
สรุปแล้วการไปเที่ยวทริปนี้ได้ความประทับใจกลับมาเต็มเปี่ยม ไม่ผิดหวังเลยกับจังหวัดเชียงใหม่ อยากให้ทุกคนได้หาโอกาสไปเที่ยวกัน แล้วคุณจะรู้เมืองไทยมีดี
พระคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะครับ
พาไปยิ้ม@เชียงใหม่ : เที่ยวเมืองเก่า ตะลุยขุนเขา
สวัสดีเพื่อนๆชาว BP ทริปนี้เป็นการเดินทางโดยมีระยะเวลาเตรียมตัวน้อยมาก เพราะระยะเวลาเดินทางที่กระชั้นชิด แต่ปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ เชื่อว่าหลายๆท่านคงไม่พลาดที่จะหาเวลาไปสัมผัสอากาศหนาวที่เชียงใหม่อย่างแน่นอน ผมจะมาเล่าและถ่ายทอดเรื่องราวที่ได้ไปสัมผัสมาให้ได้ชมกัน จะเป็นยังไงไปดูกันเลย
เริ่มออกเดินทาง
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ทริปนี้ผมได้ชวนผู้ร่วมชะตากรรมในครั้งนี้มาอีก 3คน ซึ่งทุกคนก็ได้รอช้าที่จะตอบตกลงทันทีที่ได้ยินชื่อของจังหวัดเชียงใหม่
เราเริ่มออกสตาร์ทกันที่ ศูนย์สมบัติทัวร์วิภาวดีครับ ซึ่งผมมาถึงก่อนเวลารถออกตั้ง 3 ชม.แหนะ
ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นเราจึงไม่มีตัวเลือกในการเดินทางมากนัก หวยจึงตกอยู่ที่
บริษัทบางกอกบัสไลน์ ชั้นสุพรีมคลาส ซึ่งมันก็คือรถ vip นั้นแหละ จาก กรุงเทพ-เชียงใหม่ สนนราคาอยู่ที่คนละ 759 บาท
ที่ศูนย์สมบัติทัวร์มีห้องรับรองสำหรับลูกค้าคับ เราจึงไม่ต้องห่วงเรื่องคนจะเยอะ รอนาน ที่นี่เค้าเอาอยู่ครับ
เวลา 20.30 ได้เวลาขึ้นรถแล้วววว
เบาะกว้างสบาย แถมมีจอทีวีส่วนตัวไว้แก้เหงา
หลังจากหลับๆยาวไปถึงเชียงใหม่ เราก็ถูกปลุกด้วยเสียงที่สองของพนักงานประจำรถ
ถึงสถานีขนส่งอาเขต เราก็รีบจัดแจงนั่งสองแถวไปที่พักทันที
ที่พักของเราจะอยู่ในย่าน นิมมาน นะคับ ซึ่งเราโทรจองกับเจ้าของโดยตรงเลย เป็นที่พักราคาไม่แพง สนนราคาห้อง2คน อยู่ที่คืนละ 750 บาท เท่านั้น รวมอาหารเช้าแบบทำกินเองได้
กลังจากจัดแจงเก็บข้าวของ ล้างหน้าแปรงฟันเรียบร้อย เราก็ไปเริ่มต้นทริปกันเลย
DAY1
เราเช่ารถมอเตอร์ไซค์จากลุงเจ้าของที่พักเลย เรามากัน 4คน จัดมา2คัน ราคาวันละ 250บาท ต่อวันต่อคัน ซึ่งก็ไม่แพงมากสำหรับที่เที่ยวระดับนี้
ตามแพลนเราจะไปกันที่ บ้านแม่กำปอง จัดไปชุดใหญ่อย่าให้เสีย
การเดินทางของฉันและเธอคือการเรียนรู้ การเรียนรู้ของเราสองคนคือความเข้าใจ
ร้องเพลงสักหน่อย อารมย์ดีจริงๆ
อื้อถึงถึงสักที แม่กำปองงงงงงง
และแล้วเราก็มาถึง จุดหมายปลายทางของใครหลายๆคน ตอนแรกคิดว่าคนจะไม่เยอะ ผิดคาด คนมาถ่ายรูปกันเยอะมาก
บรรยากาศของที่นี่ดีมาก รักษาความเป็นดั้งดิมได้ดี ถีงแม้จะมีโฮมสเตย์ใหม่ๆ แต่ก็ไม่ทิ้งเอกลักษณ์ของที่นี่ไป
โอเคหลังจากที่ชื่มชมบรรยากาศดีๆกันแล้ว สถานที่ต่อไปที่เราจะไปเยื่อนกันก็คือ
the giant chiangmai
ร้านกาแฟบนต้นไม้สุดชิค วิวสวยขั้นเทพ
จะสวยเทพขนาดไหน เรา4คนจะไปดูให้รู้แล้วรู้รอดกันไป
ต้องบอกก่อนว่าร้านกาแฟที่ว่านี้อยู่บนยอดเขาเลย ทางชันมาก คนที่ไม่ชินทางหรือขับรถไม่แข็งแนะนำรถรับส่งตรงตีนเขา ไปกลับเที่ยวละ 100บาท
ความชิคที่อธิบายไม่ได้ ต้องมาสัมผัสด้วยตัวเอง รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน
***ขออนุญาติเจ้าของภาพด้วยนะครับ***
คนจะเยอะไปไหน
สรุปคือไม่มี่โต้ะนั่ง เสียจายยย ไม่เป็นไรถือว่ามากันแล้วถ่ายรูปชมวิวกันไป
ไปกันต่อๆ ตอนแรกคิดว่าจะกลับไปที่พักแล้วไปเที่ยวในเมืองต่อ แต่ดันไปเห็นป้าย
บ่อน้ำพุร้อนสันกำแพง
อั้ยยะไม่ธรรมดานะ แวะดูสักหน่อยจะเป็นไร
น้ำพุร้อนสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ เปิดไห้เขาชมทุกวัน ตั้งแต่ เวลา 8.00น – 21.00น บัตรผ่านประตูบำรุงสหกรณ์คนละ 30บาท มีบริการห้องอาบน้ำแร่และบริการที่พัก ร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึก
จัดแจงเสียค่าเข้าเรียบร้อย
คนที่ไปที่นี่ส่วนใหญ่จะมากันเป็นครอบครัว พาลูกพาหลานมาแช่เท้าสบายใจ
เหนื่อยมาทั้งวันกลับที่พักกัน
ย่านนิมมานที่เราพักจะมีร้านอาหารหลายอย่าง หลายร้าน
อย่างร้านกาแฟที่เราไปนั่งกันก็จะมีความชิคในแบบของตัวเอง อันนี้ต้องไปลองด้วยตัวเอง
กลับที่พักแยกย้ายไปพักผ่อนก่อนพร้อมลุยวันที่สอง
DAY2
วันนี้เช้าวันใหม่ วันนี้เราตื่นแต่เช้าเพื่อที่จะไปสถานที่ยอดฮิตอีกที่นึงของเชียงใหม่ นั้นก็คือ
ม่อนแจ่ม
ระหว่างทางที่ไปมีมีทะเลหมอก สวยมากกก
ถึงแล้ว ม่อนแจ่ม แหกขี้ตาตื่นแต่เช้า ขับมอเตอร์ไซค์งัวเงียไปถึง ก็ต้องตะลึงกับภาพที่เห็น ไม่ผิดหวังจริงๆ
มีความอันซีนนนนน
ม่อนแจ่ม คือพื้นที่บนสันเขาในระดับความสูงประมาณ1,350 เมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นส่วนหนึ่งของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอยตั้งอยู่บริเวณหมู่บ้านม้งหนองหอย อ.แม่ริม บนม่อนแจ่มมีอากาศหนาวเย็นสบายตลอดทั้งปี
ลุยๆๆ ไปกันต่อที่
สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 8.30-17.00 น. ค่าธรรมเนียม ผู้ใหญ่ 40 บาท นักเรียน นักศึกษา คนละ 2 0 บาท ผู้ใหญ่อายุเกิน 60 ภิกษุ สมาเณร เด็กอายุต่ำกว่า 12 ไม่เสียค่าเข้าชม รถยนต์ 4 ล้อ คันละ 100 บาท รถบัส คันละ 200 บาท
เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่ดีทีเดียว บรรยากาศดี ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าจับมือคู่รักมาเดินดูดอกไม้กันสองต่อสอง อิจฉาาาาาา
เสร็จจากที่นี่เราก็กลับที่พักกันเลย เดี๋ยวตอนค่ำเราจะไปขับรถชมเมืองกัน
คืนนี้เราไปต่อกันที่ประตูท่าแพกัน ไปเดินตลาดกลางคืนที่เค้าว่าแซ่บ จะดีแค่ไหนไปดูกัน
เดินมาเรื่อยๆก็ไปสะดุดตากับสถานที่นึง เห็นเจ้าหน้าที่บอกว่าเป็น คุ้มของเจ้าเมืองเชียงใหม่เก่า ก็เลยขอเข้าไปชมหน่อยละกัน
รักษาสภาพได้ดีมาก
ที่นี่มีร้านขายของที่ระลึกด้วย มาอุดหนุนกันได้ เราจะได้มีสถานที่ทางประวัติศาสตร์ไว้ดูกันต่อไป
DAY3
วันนี้เป็นวันสุดท้าย ไอเราก็ว่าจะไปเดินดูบรรยากาศยามเช้าย่านนิมมานสักหน่อย แต่ดันหนื่อยจากเมื่อวานเลยตื่นสายยยยยย เสียดาย
ก่อนกลับเราไม่ลืมที่จะไปชิมของดีเชียงใหม่ เค้าว่าถ้าไม่ได้กินถือว่ามาไม่ถึง
ร้านนี้เลยยยยย ข้าวซอยนิมมาน ที่เค้าว่าเด็ด
หน้าตาดูดีเลยทีเดียว
รสชาติถือว่าอร่อยมากจากที่เคยกินหลายๆที่ น่องไก่ให้มาเต็มๆ สุดยอดมาก อยากให้มาลอง
เดินทางกลับ
ขากลับเรากลับรถทัวร์เหมือนเดิมครับ
บริษัทพรพิริยะทัวร์ ปรับอากาศชั้น1 เชียงใหม่ - กรุงเทพ รถออกเวลา 19.30 ถึง หมอชิตประมาณ ตี5
ราคาคนละ 488บาท
ถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ
สรุปแล้วการไปเที่ยวทริปนี้ได้ความประทับใจกลับมาเต็มเปี่ยม ไม่ผิดหวังเลยกับจังหวัดเชียงใหม่ อยากให้ทุกคนได้หาโอกาสไปเที่ยวกัน แล้วคุณจะรู้เมืองไทยมีดี
พระคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะครับ