หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] เลิกงานแล้วไปเที่ยวกัน คืนวันศุกร์ถึงเช้าวันจันทร์ * - กรุงเทพ - เชียงใหม่ - *
กระทู้รีวิว
เที่ยวไทย
Backpack
จังหวัดเชียงใหม่
บันทึกนักเดินทาง
หลายคนคิดว่าเที่ยวไกล ๆ อาจจะต้องรอเวลาวันหยุดยาว ๆ ถึงจะเที่ยวได้
วันนี้พวกเราจะพาทุกคนไปเที่ยวให้ดูโดยใช้ระยะเวลาแค่คืนวันศุกร์ถึงเช้าวันจันทร์
หลังจากเรียนเสร็จในวันศุกร์พวกเราก็ได้นัดกันไปเที่ยวเชียงใหม่โดยการเดินทางของพวกเราเริ่มจากสถานีรถไฟบางซื่อ
เป็นจุดต้นทางของการเดินทาง ค่าตั๋วรถไฟชั้น 3 พัดลม ราคา 270 บาท
ในวันนั้นกรุงเทพมีฝนตกหนักเกิดน้ำท่วมในสถานีหัวลำโพงทำให้รถไฟหลาย ๆ เที่ยวเกิดการล่าช้า แต่ในเที่ยวการเดินทางของพวกเราก็โชคดีที่ไม่ได้มาช้าเหมือนเที่ยวอื่น ๆ และแล้วก็ได้นั่งรถไฟออกจากสถานีบางซื่อกรุงเทพมหานคร เวลา 22.30
การเดินทางของเรานั่งรถไฟใช้เวลาประมาณ 13 – 14 ชม. เป็นการนั่งรถไฟไกล ๆ ครั้งแรกของพวกเราทั้งสี่คน ถึงจะเมื่อยไปหน่อยแต่ก็ได้อะไรหลาย ๆ อย่างนับว่าเป็นประสบการณ์ใหม่จริง ๆ เช่น วิวสองข้างทาง อาหารที่มีแม่ค้าพ่อค้ามาขายบนรถไฟในช่วงที่พักในแต่ละสถานีและอาหารบนรถไฟเองก็มี แต่ที่พวกเราชอบมากที่สุดก็คือบรรยากาศช่วงเช้า ๆ ที่มองไปข้างทางแล้วเจอหมอกบนทุ่งนา ป่า ภูเขา เป็นภาพที่น่าจดจำมากครับ
( อาหารบนรถไฟนี่ก็อร่อยเหมือนกันนะอุ่นแล้วอุ่นอีก 555+ )
*-* แล้วพวกเราก็มาถึงสถานีรถไฟเชียงใหม่ *-*
บอกเลยว่าตอนนั้นเหนื่อยและเมื่อยเลเวลเกือบจะ99 แต่ด้วยความตื่นเต้นตั้งแต่ได้เห็นเมืองจากสองข้างก็ลืมความเหนื่อยไปเลย ในสถานีรถไฟของเชียงใหม่นั้นเป็นสถานีรถไฟของเมืองแห่งการท่องเที่ยวจริง ๆ ครับ โดยจะเห็นได้จากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวให้คำปรึกษาสอบถาม แผนที่แนะนำที่ท่องเที่ยวแจกฟรี และทัวส์นำเที่ยว เยอะไปหมด และพวกเราก็ได้เหมารถแดงไปโรงแรมที่หาไว้ อยู่แถว ๆ ถนนนิมมานเหมินทร์
มาถึงที่พัก พวกเราพักที่โรงแรม ราคาห้อง 500 บาท ต่อคืน พักได้ห้องละ 2 คน ในห้องก็ดูสะอาดดี มีแอร์ มีเตียงสองเตียง มองวิวหน้าต่างก็เห็นภูเขาและหมอกสวยมาก ถือว่าโอเคเพราะทริปเราเน้นประหยัดด้วย ฮ่า ๆ บรรยากาศแถว ๆ โรงแรมก็เงียบสงบ ร่มรื่นดี ร้านอาหาร ร้านบุฟเฟ่ เยอะไปหมด
หลังจากที่พักจนหายเหนื่อย ตามที่วางแผนกันไว้ว่าจะแว๊นน มอเตอร์ไซด์ชมและเที่ยวในตัวเมืองกันในวันแรกที่เชียงใหม่ พวกเราก็ได้ไปเช่ารถมอเตอร์ไซด์ของร้านที่อยู่เยื้อง ๆ ของโรงแรม ค่าเช่าก็ 250 – 300 บาท ต่อคันและก็ได้คำแนะนำจากร้านเช่ารถว่าให้ลองขับไปชมเมืองในคูเมืองสี่เหลียมดูจะมีวัดและสถานที่ท่องเที่ยวเยอะ
ได้รถแล้วเราก็ไปแว๊นนซ์กันเถอะ
ที่แรกที่เราขับรถมอเตอร์ไซด์เที่ยวในตัวเมืองก็คือ วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร ตอนแรกก็ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหนขับรถตาม Google map แต่ที่สังเกตได้จากไกล ๆ คือยอดเจดีย์ทองคำ เป็นวัดที่สวยงามมากครับ มีพระพุทธสิหิงค์พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินล้านนา โบสถ์และวิหารเป็นการตกแต่งแบบศิลปะล้านนาโดยแท้และยังมีประวัติที่น่าสนใจ
แวะกินข้าวเติมพลังก่อนแพ๊บบ หิวว
ที่ต่อมาที่ที่สองที่เราขับมอเตอร์ไซด์เที่ยวในเมืองเชียงใหม่คือ วัดเจดีย์หลวงวรวิหารเป็นวัดเก่าแก่ของจังหวัดเชียงใหม่ที่น่าสนใจมากคือวิหารหลวงและพระเจดีย์หลวงที่ใหญ่มากมองเห็นได้แต่ไกลเหมือนกับวัดพระสิงห์มหาวรวิหาร แต่ในวัดเจดีย์หลวงวรวิหาร จะมีเจ้าหน้านี้ดูแลการจอดรถ จอดไม่เกิน 2 ชั่วโมง จอดฟรี แต่การแต่งตัวถ้านักท่องเที่ยวแต่งตัวไม่เหมือนสมก็จะมีชุดให้เปลี่ยนถือว่าดูแลได้ดีมากครับ
(ถ้าลองนึกย้อนกลับไปคนสมัยก่อนเขาสร้างกันยังไงเนี่ยใหญ่โตขนาดนี้ *0*)
และก็มาที่ที่สามของการขับมอเตอร์เที่ยวชมในตัวเมืองเชียงใหม่ซื่งก็คือ พระบรมราชาอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ที่มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ให้เราได้ศึกษา อยู่หน้าหอศิลปวัฒนธรรมเชียงใหม่ และตรงข้ามกับศาลแขวงเชียงใหม่เดิมที่มีสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกที่สวย สถานที่แห่งนี้ก็ถือได้ว่าเป็นสถานที่ที่อยู่กลางเมืองเชียงใหม่
หลังจากนั่งรถไฟแล้วก็มาเที่ยวต่อเลย พอกลับมาโรงแรมด้วยความเหนื่อยเล่นนอนกันกว่าจะตื่นก็สองทุ่มกว่าเกือบยาวจนไม่ได้ไปเที่ยวต่อซะแล้ววว หลังจากนั้นก็ขับรถออกไปเที่ยวถนนคนเดินกัน วันนั้นเป็นวันเสาร์ถนนคนเดินจะอยู่ที่ถนนวัวลาย แต่ถ้าเป็นวันอาทิตย์จะอยู่ที่ถนนท่าแพ จะขายของให้ช๊อปกันตั้งแต่ 17.00 น. – 22.00 น. เป็นถนนคนเดินที่ยาวและของขายมากครับ
แล้วเราก็กลับมาพักเอาแรงพร้อมที่จะลุยในวันที่สองของเชียงใหม่
ตื่น 06.00 น. ทำธุระส่วนตัวและเก็บกระเป๋ามาฝากไว้ที่ด้านล่างของโรงแรมเพราะต้องออกก่อนเที่ยงเลยคิดว่าเอาลงมาฝากไว้เลยดีกว่าและก็ได้ออกจากโรงแรมประมาน 6.45 น. เช้ากำลังพอดีเลยครับ แต่ก็คิดไว้ว่าอากาศจะยังไม่หนาวขนาดนี้เลยไม่ได้เตรียม หมวก ถุงมือ อุปกรณ์กันหนาวไป มีแต่เสื้อกันหนาว แล้วก็ขับมอเตอร์ไซด์ขึ้นดอย เต็ม ๆ เลยครับ หนาวมากก มือแข็งแทบบิดจะไม่ไหว ถ้ารู้อย่างงี้พกถุงมือมาสักคู่ก็น่าจะดี แต่ด้วยความถึก สู้ครับ ลุย !
ตอนนั้นขับผ่านจุดชมวิวเห็นพระอาทิตย์กำลังจะขึ้นพอดีและด้านล่างก็เห็นตัวจังหวัด ไม่คิดเลยว่าเวลามันจะเหมาะอะไรอย่างนี้สำหรับทริปของพวกเราในครั้งนี้ เพราะไม่รู้เลยอะไรมาก่อนเลย ทั้งเวลา สภาพอากาศ ลุยไปข้างหน้าอย่างเดียวครับผม
มาถึงจุดชมวิวอีกจุดครับ นี่เป็นจุดของชมดอยปุย เป็นอีกหนึ่งจุดที่น่าประทับใจมากครับ จากคนที่อยู่งกรุงเทพ ไม่ได้เจออากาศแบบนี้มานาน พอได้มาสัมผัสแบบนี้แล้ว ฟินสุด ๆ ไปเลยครับ มีภูเขาล้อมรอบด้วยหมอกและมองลงไปก็จะเห็นหมู่บ้านดอยปุย
จากนั้นพวกเราก็ขับลุยต่อเพื่อนที่จะไปหมู่บ้านขุนช่างเคี่ยนให้ได้ ในการเดินทางนั้นเส้นทางถนนต่อจากนี้อาจจะดูอันตรายไปอยู่บ้างนะครับเพราะถนนไม่ค่อยดีและยังมีลื่นเพราะมีหมอกหนามาก ต้องขับอย่างระวังมาก ๆ อ่านจากป้ายทำไมไม่กี่กิโลเมตรเองแต่พอขับจริง ๆ ทำไมรู้สึกไกลจัง พวกเราสายลุยอยู่แล้วว ฮ่าๆๆ
หลังจากนั้นก็ออกเดินทางต่อและแวะพักรถ เข้าห้องน้ำที่จุดบริการของศูนย์บริการนักท่องอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ – ปุย เงียบมากครับหรือเพราะอาจจะยังไม่ถึงหน้าเทศกาล แต่ก็มีเจ้าหน้าดูแลอยู่ครับผม
มาถึงจุดหมายจุดแรกที่วางแผนเอาไว้แล้วนั่นก็คือ หมู่บ้านขุนช่างเคี่ยน อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 1400 ม. บรรยากาศเงียบสงบมากครับ พอเข้าไปจะมีร้านกาแฟพวกเราก็สั่งกาแฟไว้แล้วก็เดินสำรวจรอบ ๆ กลับมานั่งจิบกาแฟ อากาศดีมาก ๆ เลยครับ คุ้มค่ากับการขับรถมอเตอร์ไซด์มาไกล(แต่มีคนปั่นจักรยานและวิ่งมาถึงนี่ด้วยนะครับ สุดยอดดมาก !)
แต่ที่จริงในเส้นทางนี้จะมีอีกสิ่งหนึ่งที่น่าดูคือต้นดอกเสือโคร่งหรือซากุระเมืองไทยที่สถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยนแต่ว่าในตอนที่เราไปยังไม่ใช่ช่วงหน้าเทศกาลที่ดอกจะบานสีชมพูสะพรั่งมาก พวกเราก็เลยไม่ได้เข้าไปดูข้างในจริง ๆ
ก่อนจะถึงดอยปุยแวะพักรถที่สวนสองแสนจะมีร้านกาแฟหนึ่งร้านข้างทาง พวกเราก็เข้าไปสั่งแล้วก็มารอตรงโต๊ะ บาร์ โอ้โห ! มันสุดยอดมาครับมองไปเห็นวิวรอบ ๆ
แล้วเราก็มาถึง หมู่บ้านดอยปุย แล้วครับหลังจากที่มองเห็นจากจุดชมวิวแล้วก็ได้มาถึงจริง ๆ คึกคักมากครับที่หมู่บ้านดอยปุยคนเยอะมากครับ ร้านขายของเยอะไปหมด มีสวนน้ำตกอยู่ข้างใน ๆ ด้วยครับ เสียค่าเข้าชม 10บาท ต่อคน
** ยังไม่หมดเท่านี้นะครับ **
ชื่อสินค้า:
เชียงใหม่ - ดอยสุเทพ - ดอยปุย
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
รบกวนช่วยจัดทริปเที่ยงเชียงใหม่ 3 วัน 3 คืน ให้หน่อยครับ
พอดีจะไปเที่ยวเชียงใหม่ จองตั๋วเครื่องบินไว้เดือนหน้า เดินทางวันพฤหัสถึงเชียงใหม่ 7.40 น. กลับเช้าวันอาทิตย์ ผมว่าจะเช่ามอเตอร์ไซค์แต่ยังไม่รู้ว่าจะเช่าที่ไหน จองโรงแรมไว้ที่นิมมานครับ สถานที่จะไปก็
สมาชิกหมายเลข 910734
จากตามพรลิงค์สู่นครพิงค์เชียงใหม่
ครั้งนี้เราจะพาไปเที่ยวกันที่อาณาจักรล้านนา ดินแดนรวยวัฒนธรรรม ทริปนี้เดินทางวันที่ 22-27 มิถุนายน 2559 งบประมาณไม่เกิน 12,000 บาท (สำหรับ2คน) โดยมีตารางการเดินทางคร่าวๆดังนี้ 22 มิถุนายน 2559 18:0
สมาชิกหมายเลข 2596374
7 วันในเชียงใหม่ – ประสบการณ์การท่องเที่ยวและสถานที่ห้ามพลาด
เนื้อหา: สวัสดีครับทุกคน 🙏 เพิ่งมีโอกาสเดินทางไปเที่ยวเชียงใหม่เป็นเวลา 7 วัน เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์ เผื่อเป็นข้อมูลสำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังวางแผนไปเที่ยว 📍 วันที่ 1 เดินเล่นรอบเมืองเก่า แวะวัดพระส
สมาชิกหมายเลข 8531301
ท่องเที่ยวไปคนเดียว EP 1: เที่ยวราชบุรี 1 วัน พิพิธภัณฑ์ราชบุรี อณาจักรทาราวดี
จากเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ตามแนวชายแดน ทำให้ต้องเปลี่ยนแผนจากอณาจักรเขมรโบราณ มาเป็น อณาจักรทาราวดี ซึ่ง หนึ่งในพื้นที่ ที่นักประวัติศาสตร์ ปักหมุดหมายไว้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของอณาจักรทาราวดี คือ แหล่งโบร
สมาชิกหมายเลข 3128390
เที่ยวเชียงใหม่ปลายฤดูฝน 4 วัน 3 คืน
ทริปนี้เราได้แพลนไปเที่ยวเชียงใหม่ 4 วัน 3 คืน โดยจะไปทางฝั่งเชียงดาว - แม่แตง โดยแพลนไว้ว่านอนเชียงดาว 2 คืน แล้วมานอนแถวม่อนเงาะ 1 คืน แล้วมาเที่ยวในเมือง ทริปนี้ไม่ได้แพลนอะไรมาก เนื่องจากไปฤดูฝน เ
YhakTiewKorTiew
ถามเรื่องเที่ยวเชียงใหม่หน่อยค่า
จะไปเที่ยวเชียงใหม่วันที่27-29 ธ.ค.56นี้ค่ะ หาข้อมูลมาบ้างแล้วว่าจะไปไหนบ้าง แต่ไม่แน่ใจว่าแต่ละที่ใกล้-ไกล กันแค่ไหนค่ะ แล้วควรใช้พาหนะอะไรดี เช่ามอเตอร์ไซค์จะไปได้ทุกที่หรือเปล่า หรือควรเช่ารถยนต์ ห
สมาชิกหมายเลข 1031157
น่านสุดปลายฟ้า
Exploration is really the essence of the human spirit. "Fran Borman" การออกค้นหาสิ่งใหม่ ๆ เป็นสิ่งสำคัญในชีวิตคนเรา สวัสดีครับ วันนี้เราจะมาแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวของพวกเราที่มีโอกา
สมาชิกหมายเลข 3821129
ดอยในเชียงใหม่ ที่ไม่ไกลเมือง เห็นวิวเขาๆ มีที่ไหนบ้างครับ
รบกวนขอคำแนะนำจะพาลูกขึ้นเชียงใหม่ครั้งแรกอยากพาไป 1. ดอย ดูภูเขา ยอดเขา อยากได้ที่ไม่ไกลเมือง และไม่ต้องเดินไกลๆ 2. น้ำตก หรือลำธาร ทางไปข้อ 1 ขอบคุณมากครับ
แม่นทุกครั้ง เมื่อหลังเกมส์
วันนี้ไปที่ ที่ไม่เคยไปแถวบ้าน อารีน่า บราโว่ พระราม9 ห้างหรืออะไร เหงามาก,แวะวัดก่อนไปดู ละครเวที bnk,รุ่น3 ขากลับเดิน
เดินกลับบ้าน นั่ง mrt. ไปขึ้น,ออกที่สถานี เพชรบุรี ครั้งแรกใน,ชีวิตที ออกสถานีนี้ และเดิน มาทาง เชื่อมทางไป art ตอนแรกว่า จะเดินริม,ถนน เพชรบุรี แล้ว ตัดเข้าทางวัดอุทัย. หรือเดินตาม ถนน เดิน
สมาชิกหมายเลข 6115048
++++ รบกวนช่วยดูแพลนเชียงใหม่เที่ยวหน่อยค่า ++++
สวัสดีค่ะ เรากำลังจะไปเที่ยวเชียงใหม่ช่วงเดือน พ.ย. ปีนี้ วันที่ยังไม่ชัวร์ เริ่มเลยนะคะ วันที่ 1 วันพฤหัส ถึงสนามบินเชียงใหม่ ประมาณบ่ายโมง - แวะกินข้าวซอยวัดฟ้าฮ่าม - ตรงดิ่งไปแม่กำปอง // วัดแม่กำป
สมาชิกหมายเลข 1381393
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
เที่ยวไทย
Backpack
จังหวัดเชียงใหม่
บันทึกนักเดินทาง
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 7
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] เลิกงานแล้วไปเที่ยวกัน คืนวันศุกร์ถึงเช้าวันจันทร์ * - กรุงเทพ - เชียงใหม่ - *
หลายคนคิดว่าเที่ยวไกล ๆ อาจจะต้องรอเวลาวันหยุดยาว ๆ ถึงจะเที่ยวได้
วันนี้พวกเราจะพาทุกคนไปเที่ยวให้ดูโดยใช้ระยะเวลาแค่คืนวันศุกร์ถึงเช้าวันจันทร์
หลังจากเรียนเสร็จในวันศุกร์พวกเราก็ได้นัดกันไปเที่ยวเชียงใหม่โดยการเดินทางของพวกเราเริ่มจากสถานีรถไฟบางซื่อ
เป็นจุดต้นทางของการเดินทาง ค่าตั๋วรถไฟชั้น 3 พัดลม ราคา 270 บาท
ในวันนั้นกรุงเทพมีฝนตกหนักเกิดน้ำท่วมในสถานีหัวลำโพงทำให้รถไฟหลาย ๆ เที่ยวเกิดการล่าช้า แต่ในเที่ยวการเดินทางของพวกเราก็โชคดีที่ไม่ได้มาช้าเหมือนเที่ยวอื่น ๆ และแล้วก็ได้นั่งรถไฟออกจากสถานีบางซื่อกรุงเทพมหานคร เวลา 22.30
การเดินทางของเรานั่งรถไฟใช้เวลาประมาณ 13 – 14 ชม. เป็นการนั่งรถไฟไกล ๆ ครั้งแรกของพวกเราทั้งสี่คน ถึงจะเมื่อยไปหน่อยแต่ก็ได้อะไรหลาย ๆ อย่างนับว่าเป็นประสบการณ์ใหม่จริง ๆ เช่น วิวสองข้างทาง อาหารที่มีแม่ค้าพ่อค้ามาขายบนรถไฟในช่วงที่พักในแต่ละสถานีและอาหารบนรถไฟเองก็มี แต่ที่พวกเราชอบมากที่สุดก็คือบรรยากาศช่วงเช้า ๆ ที่มองไปข้างทางแล้วเจอหมอกบนทุ่งนา ป่า ภูเขา เป็นภาพที่น่าจดจำมากครับ
*-* แล้วพวกเราก็มาถึงสถานีรถไฟเชียงใหม่ *-*
บอกเลยว่าตอนนั้นเหนื่อยและเมื่อยเลเวลเกือบจะ99 แต่ด้วยความตื่นเต้นตั้งแต่ได้เห็นเมืองจากสองข้างก็ลืมความเหนื่อยไปเลย ในสถานีรถไฟของเชียงใหม่นั้นเป็นสถานีรถไฟของเมืองแห่งการท่องเที่ยวจริง ๆ ครับ โดยจะเห็นได้จากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวให้คำปรึกษาสอบถาม แผนที่แนะนำที่ท่องเที่ยวแจกฟรี และทัวส์นำเที่ยว เยอะไปหมด และพวกเราก็ได้เหมารถแดงไปโรงแรมที่หาไว้ อยู่แถว ๆ ถนนนิมมานเหมินทร์
มาถึงที่พัก พวกเราพักที่โรงแรม ราคาห้อง 500 บาท ต่อคืน พักได้ห้องละ 2 คน ในห้องก็ดูสะอาดดี มีแอร์ มีเตียงสองเตียง มองวิวหน้าต่างก็เห็นภูเขาและหมอกสวยมาก ถือว่าโอเคเพราะทริปเราเน้นประหยัดด้วย ฮ่า ๆ บรรยากาศแถว ๆ โรงแรมก็เงียบสงบ ร่มรื่นดี ร้านอาหาร ร้านบุฟเฟ่ เยอะไปหมด
หลังจากที่พักจนหายเหนื่อย ตามที่วางแผนกันไว้ว่าจะแว๊นน มอเตอร์ไซด์ชมและเที่ยวในตัวเมืองกันในวันแรกที่เชียงใหม่ พวกเราก็ได้ไปเช่ารถมอเตอร์ไซด์ของร้านที่อยู่เยื้อง ๆ ของโรงแรม ค่าเช่าก็ 250 – 300 บาท ต่อคันและก็ได้คำแนะนำจากร้านเช่ารถว่าให้ลองขับไปชมเมืองในคูเมืองสี่เหลียมดูจะมีวัดและสถานที่ท่องเที่ยวเยอะ
ที่แรกที่เราขับรถมอเตอร์ไซด์เที่ยวในตัวเมืองก็คือ วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร ตอนแรกก็ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหนขับรถตาม Google map แต่ที่สังเกตได้จากไกล ๆ คือยอดเจดีย์ทองคำ เป็นวัดที่สวยงามมากครับ มีพระพุทธสิหิงค์พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินล้านนา โบสถ์และวิหารเป็นการตกแต่งแบบศิลปะล้านนาโดยแท้และยังมีประวัติที่น่าสนใจ
ที่ต่อมาที่ที่สองที่เราขับมอเตอร์ไซด์เที่ยวในเมืองเชียงใหม่คือ วัดเจดีย์หลวงวรวิหารเป็นวัดเก่าแก่ของจังหวัดเชียงใหม่ที่น่าสนใจมากคือวิหารหลวงและพระเจดีย์หลวงที่ใหญ่มากมองเห็นได้แต่ไกลเหมือนกับวัดพระสิงห์มหาวรวิหาร แต่ในวัดเจดีย์หลวงวรวิหาร จะมีเจ้าหน้านี้ดูแลการจอดรถ จอดไม่เกิน 2 ชั่วโมง จอดฟรี แต่การแต่งตัวถ้านักท่องเที่ยวแต่งตัวไม่เหมือนสมก็จะมีชุดให้เปลี่ยนถือว่าดูแลได้ดีมากครับ
และก็มาที่ที่สามของการขับมอเตอร์เที่ยวชมในตัวเมืองเชียงใหม่ซื่งก็คือ พระบรมราชาอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ที่มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ให้เราได้ศึกษา อยู่หน้าหอศิลปวัฒนธรรมเชียงใหม่ และตรงข้ามกับศาลแขวงเชียงใหม่เดิมที่มีสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกที่สวย สถานที่แห่งนี้ก็ถือได้ว่าเป็นสถานที่ที่อยู่กลางเมืองเชียงใหม่
ตื่น 06.00 น. ทำธุระส่วนตัวและเก็บกระเป๋ามาฝากไว้ที่ด้านล่างของโรงแรมเพราะต้องออกก่อนเที่ยงเลยคิดว่าเอาลงมาฝากไว้เลยดีกว่าและก็ได้ออกจากโรงแรมประมาน 6.45 น. เช้ากำลังพอดีเลยครับ แต่ก็คิดไว้ว่าอากาศจะยังไม่หนาวขนาดนี้เลยไม่ได้เตรียม หมวก ถุงมือ อุปกรณ์กันหนาวไป มีแต่เสื้อกันหนาว แล้วก็ขับมอเตอร์ไซด์ขึ้นดอย เต็ม ๆ เลยครับ หนาวมากก มือแข็งแทบบิดจะไม่ไหว ถ้ารู้อย่างงี้พกถุงมือมาสักคู่ก็น่าจะดี แต่ด้วยความถึก สู้ครับ ลุย !
ตอนนั้นขับผ่านจุดชมวิวเห็นพระอาทิตย์กำลังจะขึ้นพอดีและด้านล่างก็เห็นตัวจังหวัด ไม่คิดเลยว่าเวลามันจะเหมาะอะไรอย่างนี้สำหรับทริปของพวกเราในครั้งนี้ เพราะไม่รู้เลยอะไรมาก่อนเลย ทั้งเวลา สภาพอากาศ ลุยไปข้างหน้าอย่างเดียวครับผม
มาถึงจุดชมวิวอีกจุดครับ นี่เป็นจุดของชมดอยปุย เป็นอีกหนึ่งจุดที่น่าประทับใจมากครับ จากคนที่อยู่งกรุงเทพ ไม่ได้เจออากาศแบบนี้มานาน พอได้มาสัมผัสแบบนี้แล้ว ฟินสุด ๆ ไปเลยครับ มีภูเขาล้อมรอบด้วยหมอกและมองลงไปก็จะเห็นหมู่บ้านดอยปุย
จากนั้นพวกเราก็ขับลุยต่อเพื่อนที่จะไปหมู่บ้านขุนช่างเคี่ยนให้ได้ ในการเดินทางนั้นเส้นทางถนนต่อจากนี้อาจจะดูอันตรายไปอยู่บ้างนะครับเพราะถนนไม่ค่อยดีและยังมีลื่นเพราะมีหมอกหนามาก ต้องขับอย่างระวังมาก ๆ อ่านจากป้ายทำไมไม่กี่กิโลเมตรเองแต่พอขับจริง ๆ ทำไมรู้สึกไกลจัง พวกเราสายลุยอยู่แล้วว ฮ่าๆๆ
หลังจากนั้นก็ออกเดินทางต่อและแวะพักรถ เข้าห้องน้ำที่จุดบริการของศูนย์บริการนักท่องอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ – ปุย เงียบมากครับหรือเพราะอาจจะยังไม่ถึงหน้าเทศกาล แต่ก็มีเจ้าหน้าดูแลอยู่ครับผม
มาถึงจุดหมายจุดแรกที่วางแผนเอาไว้แล้วนั่นก็คือ หมู่บ้านขุนช่างเคี่ยน อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 1400 ม. บรรยากาศเงียบสงบมากครับ พอเข้าไปจะมีร้านกาแฟพวกเราก็สั่งกาแฟไว้แล้วก็เดินสำรวจรอบ ๆ กลับมานั่งจิบกาแฟ อากาศดีมาก ๆ เลยครับ คุ้มค่ากับการขับรถมอเตอร์ไซด์มาไกล(แต่มีคนปั่นจักรยานและวิ่งมาถึงนี่ด้วยนะครับ สุดยอดดมาก !)
แต่ที่จริงในเส้นทางนี้จะมีอีกสิ่งหนึ่งที่น่าดูคือต้นดอกเสือโคร่งหรือซากุระเมืองไทยที่สถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยนแต่ว่าในตอนที่เราไปยังไม่ใช่ช่วงหน้าเทศกาลที่ดอกจะบานสีชมพูสะพรั่งมาก พวกเราก็เลยไม่ได้เข้าไปดูข้างในจริง ๆ
ก่อนจะถึงดอยปุยแวะพักรถที่สวนสองแสนจะมีร้านกาแฟหนึ่งร้านข้างทาง พวกเราก็เข้าไปสั่งแล้วก็มารอตรงโต๊ะ บาร์ โอ้โห ! มันสุดยอดมาครับมองไปเห็นวิวรอบ ๆ
แล้วเราก็มาถึง หมู่บ้านดอยปุย แล้วครับหลังจากที่มองเห็นจากจุดชมวิวแล้วก็ได้มาถึงจริง ๆ คึกคักมากครับที่หมู่บ้านดอยปุยคนเยอะมากครับ ร้านขายของเยอะไปหมด มีสวนน้ำตกอยู่ข้างใน ๆ ด้วยครับ เสียค่าเข้าชม 10บาท ต่อคน
** ยังไม่หมดเท่านี้นะครับ **