ขออนุญาตแชร์ประสบการณ์ ในการเดินทางไปพระบรมมหาราชวัง เพื่อถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เผื่อจะเป็นประโยชน์บ้าง ไม่มากก็น้อยแก่คนที่ยังไม่เคยไป และวางแผนไว้ว่าจะไปนะคะ
10 พ.ย. 59
ตื่น 04.30 น. ตั้งใจจะออกจากบ้าน ไม่เกิน 05.30 น. เพื่อไปให้ถึงที่จอดรถที่สถานี MRT ศูนย์วัฒนธรรม ตอน 06.00 น. แต่ก็ช้ากว่าที่ตั้งใจไว้เกือบครึ่งชั่วโมง จากนั้นก็นั่งรถไฟฟ้า MRT จนถึงสถานีหัวลำโพง เพื่อต่อรถ Shuttle bus ไปลงสนามหลวง
เนื่องจากเราไม่มีภาพในหัวเลยว่า อะไรอยู่ตรงไหน ทิศไหนเป็นทิศไหน จึงเอาความสะดวกเป็นที่ตั้ง ว่า มาทางนี้เราสามารถเอารถไปจอดในที่ๆปลอดภัย ค่าจอดรถไม่แพงมาก ไปกลับรถไฟฟ้าง่าย แต่พอไปถึงสนามหลวง จึงพบว่า การมาทางนี้ จุดจอดรถ Shuttle bus อยู่ตรงสนามไชย หน้า ร.ด. และเราต้องเดินต่อไปให้ถึง ณ จุดเริ่มต้นแถว ที่มีลูกบอลลูนสีขาวเป็นจุดสังเกต ซึ่งค่อนข้างไกลมาก
พอเดินหาจุดตั้งต้นพบ จะเป็นบริเวณที่เพิ่งลาดยางมะตอย และตั้งเต้นท์มาแค่ วันสองวันนี่เอง ก็ต้องเดินวกไปวนมา เหมือนงูเลื้อย (ถ้าใครเคยไปเข้าคิวเครื่องเล่นที่ดิสนี่ย์แลนด์ จะเข้าใจ) แต่ที่นี่แต่ละช่วงมันมีระยะทางที่ยาวมาก น่าจะเป็นร้อยเมตรได้ ก็เดินไปจนถึงหางแถว ก้มดูนาฬิกา ก็พบว่า เป็นเวลา 07.30 น.แล้ว เอาละ เริ่มต้นจับเวลากันตรงนี้แล้วกันนะ
ณ จุดนี้ เค้าให้นั่งเรียงกันเป็น 4 แถว ตามยาว แนะนำว่า ใครมาด้วยกันให้นั่งเรียงกันแบบ หน้า-หลัง เรียงเดี่ยว ลงมา อย่านั่งเรียง 4 ตามขวาง เพราะเวลา แถวขยับ มันจะคลาดเคลื่อนกันไป "แน่นอน"
สักพัก เริ่มมีจิตอาสา มาแจก ขนม และน้ำดื่ม แต่เราสามารถออกจากแถวไปห้องน้ำ หรือ หาของกินตามจุดต่างๆเองได้เหมือนกัน เพียงแต่ว่า ถ้าคุณไปคนเดียว มันจะเสี่ยงอย่างยิ่ง ที่จะกลับมาหาคิวตัวเองไม่เจอเพราะแถวขยับ ตรงนี้ strongly recommend ว่า ควรมีเพื่อนไปด้วย อย่างน้อย 1 คน
อีกอย่างคือ อย่าคิดว่า จะไปตัวเปล่าๆ เพราะเค้ามีแจกฟรี ทุกสิ่งอย่าง เพราะ คุณอาจไม่ชอบกิน สิ่งที่เค้ามาแจก หรือ ของแจก อาจมาไม่ถึงมือคุณ เพราะ เค้าเดินแจกไม่ทั่วถึง และของมักจะหมด ก่อนจะถึงคนที่อยู่ด้านในๆของแถว แนะนำว่า ควรเตรียมอาหารที่กินง่ายๆ อยู่ท้อง ไปเอง เตรียมไว้เลย 3 มื้อ เช่น ข้าวเหนียวหมูปิ้ง หมูฝอย อะไรพวกนั้น ไม่ต้องใส่กล่องอะไรให้ยุ่งยาก ใส่ถุง ใส่ใบตองอะไรก็แล้วแต่ กินเสร็จก็ฝากจิตอาสาที่มาเดินเก็บขยะทิ้งไป เป็นการลดภาระของน้ำหนักสัมภาระหอบหิ้ว แล้วถ้าเกิดอยากกินขนมต่างๆที่มีมาแจก ก็ค่อยรับมากิน เป็นอย่างๆไป แต่เราเตรียมมื้อหลักมาเอง เพื่อความมั่นใจว่า เรากินได้ และ ได้กิน ส่วนน้ำดื่ม ไม่ต้องเอาไป เพราะมีมาแจกเหลือเฟือ
อีกอย่างที่แนะนำเลยคือ ที่รองนั่ง เพราะต้องนั่งกับพื้นเป็นระยะเวลานานมาก จากที่เรานั่งมา พลาสติก แค่กันเปื้อน ไม่ได้กันเจ็บ นั่งนานๆ ตาตุ่ม หลังเท้า อยู่กับพื้นยางมะตอย พื้นซีเมนต์ เจ็บมากๆขอบอก ถ้าจะดี ควรเป็นกระดาษกล่อง หรืออะไรที่หนาหน่อย จะได้กันเจ็บได้ แต่ที่ดีที่สุด ควรเป็นเก้าอี้พับได้แบบเตี้ยๆ รับรอง สบายที่สุด
เราอยู่ตรงบริเวณนี้จนประมาณเที่ยง ถึงได้เดินออกจากจุดนี้ ฝ่าเปลวแดด ไปยังอีกเต้นท์ ที่มีเก้าอี้ให้นั่ง ตรงนี้ นั่งเฉยๆอีก ชั่วโมงกว่า ถึงได้ขยับ ไปอีกเต้นท์ ที่ตั้งแนบรั้วสนามหลวง เป็นแนวยาวมาก จากตรงนี้ แถวค่อยๆคืบคลาน สลับหยุดนิ่งไปอย่างช้าๆ จนกระทั่งถึงทางออก เพื่อข้ามถนน ไปยังฝั่งกำแพงพระบรมมหาราชวัง ที่ซึ่งมีเก้าอี้ตั้งเป็นแนวยาว ก่อนจะถึงประตูมณีนพรัตน์
จากประตูด้านนี้ เข้าไปด้านใน ต้องเดินอ้อมระเบียงในวัดพระแก้วก่อนอีกยาวมาก ก่อนจะมาโผล่ตรงพระที่นั่งอัมรินทร์วินิจฉัย
ซึ่งเป็นจุดที่หยุดคอยคิวเข้าไปพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทแล้ว ยังนะ การรอคอยยังไม่สิ้นสุด เพราะเรามาถึงจุดนี้ประมาณ 16.48 น. เท่าที่กะด้วยสายตา จุดนี้มีคนนั่งรออยู่เป็นพันคน ให้คิดถึงถนนด้านหน้าพระที่นั่งอัมรินทร์วินิจฉัย พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ไปจนถึงพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ถนนยาวขนาดนั้น มีคนเต็มหมด
จากจุดนี้ แถวค่อยๆขยับอย่างเชื่องช้า จนในที่สุด เราก็ได้เข้าไปถึงด้านในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ จะแจกถุงดำ ให้ใส่ถุงเท้า และ รองเท้า (ต้องถอดหมด ทั้งถุงเท้า รองเท้า) แล้วก็เข้าแถวเดินขึ้นบันไดพระที่นั่ง
และในที่สุด เราก็มาถึงหน้าพระบรมโกศจนได้ เจ้าหน้าที่ให้นั่งเว้นระยะกันพอประมาณ เพื่อให้สามารถก้มกราบได้ จากนั้นเค้าจะให้กราบ และ อธิษฐานสักอึดใจ ก็ให้ลุก แล้วเดินออกทางประตูอีกด้าน พอลงมาจะมีตู้กระจกใบใหญ่ตั้งอยู่ที่ปลายบันได ใครอยากทำบุญ โดยเสด็จพระราชกุศล ให้เตรียมเงินไว้ก่อนเลย เพราะถ้าลงมาแล้วค่อยเปิดกระเป๋าหาเงินหยอด จะทำให้เกะกะ ขวางทางคนที่เดินตามลงมาได้
จากนั้นก็เดินออกมาคืนถุงดำให้เจ้าหน้าที่ และใส่รองเท้า ณ ตรงนี้ เป็น เวลา 18.20 น. จากนั้น เดินออกมาด้านนอกพระที่นั่ง
จะมีการแจกภาพพระโกศเป็นที่ระลึก พร้อมทั้งน้ำดื่มขวดเล็กๆ นมไวตามิลค์กล่อง และ ข้าวเปลือกห่อน้อยๆ มีลายพระหัตถ์ "พอเพียง" ของทั้ง 4 อย่างนี้ แจกในพระบรมมหาราชวัง มีเจ้าหน้าที่ท่านหนึ่ง แนะนำว่า ถือเป็นของพระราชทาน เราต้องรับทุกอย่าง ภาพพระโกศ และ ห่อข้าวเปลือก นำไปบูชา น้ำดื่ม อาจจะเก็บไว้บูชาหรือไว้ทำน้ำมนต์ก็ได้ ส่วน ไวตามิลค์ แนะนำให้ดื่มไปเถอะ
ในที่สุด ก็การเดินทางอันยาวนานตลอดวันก็เสร็จสิ้น รวมเวลาจากจุดเริ่มต้น จนสิ้นสุด 11 ชั่วโมงเต็ม ไม่นับเวลาเดินทางไปกลับ จากบ้าน แต่เป็นการเดินทางที่อิ่มใจ ปลื้มใจ สุดๆ
ขออนุญาตแชร์ประสบการณ์ การไปถวายสักการะ พระบรมศพ ค่ะ
10 พ.ย. 59
ตื่น 04.30 น. ตั้งใจจะออกจากบ้าน ไม่เกิน 05.30 น. เพื่อไปให้ถึงที่จอดรถที่สถานี MRT ศูนย์วัฒนธรรม ตอน 06.00 น. แต่ก็ช้ากว่าที่ตั้งใจไว้เกือบครึ่งชั่วโมง จากนั้นก็นั่งรถไฟฟ้า MRT จนถึงสถานีหัวลำโพง เพื่อต่อรถ Shuttle bus ไปลงสนามหลวง
เนื่องจากเราไม่มีภาพในหัวเลยว่า อะไรอยู่ตรงไหน ทิศไหนเป็นทิศไหน จึงเอาความสะดวกเป็นที่ตั้ง ว่า มาทางนี้เราสามารถเอารถไปจอดในที่ๆปลอดภัย ค่าจอดรถไม่แพงมาก ไปกลับรถไฟฟ้าง่าย แต่พอไปถึงสนามหลวง จึงพบว่า การมาทางนี้ จุดจอดรถ Shuttle bus อยู่ตรงสนามไชย หน้า ร.ด. และเราต้องเดินต่อไปให้ถึง ณ จุดเริ่มต้นแถว ที่มีลูกบอลลูนสีขาวเป็นจุดสังเกต ซึ่งค่อนข้างไกลมาก
พอเดินหาจุดตั้งต้นพบ จะเป็นบริเวณที่เพิ่งลาดยางมะตอย และตั้งเต้นท์มาแค่ วันสองวันนี่เอง ก็ต้องเดินวกไปวนมา เหมือนงูเลื้อย (ถ้าใครเคยไปเข้าคิวเครื่องเล่นที่ดิสนี่ย์แลนด์ จะเข้าใจ) แต่ที่นี่แต่ละช่วงมันมีระยะทางที่ยาวมาก น่าจะเป็นร้อยเมตรได้ ก็เดินไปจนถึงหางแถว ก้มดูนาฬิกา ก็พบว่า เป็นเวลา 07.30 น.แล้ว เอาละ เริ่มต้นจับเวลากันตรงนี้แล้วกันนะ
ณ จุดนี้ เค้าให้นั่งเรียงกันเป็น 4 แถว ตามยาว แนะนำว่า ใครมาด้วยกันให้นั่งเรียงกันแบบ หน้า-หลัง เรียงเดี่ยว ลงมา อย่านั่งเรียง 4 ตามขวาง เพราะเวลา แถวขยับ มันจะคลาดเคลื่อนกันไป "แน่นอน"
สักพัก เริ่มมีจิตอาสา มาแจก ขนม และน้ำดื่ม แต่เราสามารถออกจากแถวไปห้องน้ำ หรือ หาของกินตามจุดต่างๆเองได้เหมือนกัน เพียงแต่ว่า ถ้าคุณไปคนเดียว มันจะเสี่ยงอย่างยิ่ง ที่จะกลับมาหาคิวตัวเองไม่เจอเพราะแถวขยับ ตรงนี้ strongly recommend ว่า ควรมีเพื่อนไปด้วย อย่างน้อย 1 คน
อีกอย่างคือ อย่าคิดว่า จะไปตัวเปล่าๆ เพราะเค้ามีแจกฟรี ทุกสิ่งอย่าง เพราะ คุณอาจไม่ชอบกิน สิ่งที่เค้ามาแจก หรือ ของแจก อาจมาไม่ถึงมือคุณ เพราะ เค้าเดินแจกไม่ทั่วถึง และของมักจะหมด ก่อนจะถึงคนที่อยู่ด้านในๆของแถว แนะนำว่า ควรเตรียมอาหารที่กินง่ายๆ อยู่ท้อง ไปเอง เตรียมไว้เลย 3 มื้อ เช่น ข้าวเหนียวหมูปิ้ง หมูฝอย อะไรพวกนั้น ไม่ต้องใส่กล่องอะไรให้ยุ่งยาก ใส่ถุง ใส่ใบตองอะไรก็แล้วแต่ กินเสร็จก็ฝากจิตอาสาที่มาเดินเก็บขยะทิ้งไป เป็นการลดภาระของน้ำหนักสัมภาระหอบหิ้ว แล้วถ้าเกิดอยากกินขนมต่างๆที่มีมาแจก ก็ค่อยรับมากิน เป็นอย่างๆไป แต่เราเตรียมมื้อหลักมาเอง เพื่อความมั่นใจว่า เรากินได้ และ ได้กิน ส่วนน้ำดื่ม ไม่ต้องเอาไป เพราะมีมาแจกเหลือเฟือ
อีกอย่างที่แนะนำเลยคือ ที่รองนั่ง เพราะต้องนั่งกับพื้นเป็นระยะเวลานานมาก จากที่เรานั่งมา พลาสติก แค่กันเปื้อน ไม่ได้กันเจ็บ นั่งนานๆ ตาตุ่ม หลังเท้า อยู่กับพื้นยางมะตอย พื้นซีเมนต์ เจ็บมากๆขอบอก ถ้าจะดี ควรเป็นกระดาษกล่อง หรืออะไรที่หนาหน่อย จะได้กันเจ็บได้ แต่ที่ดีที่สุด ควรเป็นเก้าอี้พับได้แบบเตี้ยๆ รับรอง สบายที่สุด
เราอยู่ตรงบริเวณนี้จนประมาณเที่ยง ถึงได้เดินออกจากจุดนี้ ฝ่าเปลวแดด ไปยังอีกเต้นท์ ที่มีเก้าอี้ให้นั่ง ตรงนี้ นั่งเฉยๆอีก ชั่วโมงกว่า ถึงได้ขยับ ไปอีกเต้นท์ ที่ตั้งแนบรั้วสนามหลวง เป็นแนวยาวมาก จากตรงนี้ แถวค่อยๆคืบคลาน สลับหยุดนิ่งไปอย่างช้าๆ จนกระทั่งถึงทางออก เพื่อข้ามถนน ไปยังฝั่งกำแพงพระบรมมหาราชวัง ที่ซึ่งมีเก้าอี้ตั้งเป็นแนวยาว ก่อนจะถึงประตูมณีนพรัตน์
จากประตูด้านนี้ เข้าไปด้านใน ต้องเดินอ้อมระเบียงในวัดพระแก้วก่อนอีกยาวมาก ก่อนจะมาโผล่ตรงพระที่นั่งอัมรินทร์วินิจฉัย
ซึ่งเป็นจุดที่หยุดคอยคิวเข้าไปพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทแล้ว ยังนะ การรอคอยยังไม่สิ้นสุด เพราะเรามาถึงจุดนี้ประมาณ 16.48 น. เท่าที่กะด้วยสายตา จุดนี้มีคนนั่งรออยู่เป็นพันคน ให้คิดถึงถนนด้านหน้าพระที่นั่งอัมรินทร์วินิจฉัย พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ไปจนถึงพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ถนนยาวขนาดนั้น มีคนเต็มหมด
จากจุดนี้ แถวค่อยๆขยับอย่างเชื่องช้า จนในที่สุด เราก็ได้เข้าไปถึงด้านในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ จะแจกถุงดำ ให้ใส่ถุงเท้า และ รองเท้า (ต้องถอดหมด ทั้งถุงเท้า รองเท้า) แล้วก็เข้าแถวเดินขึ้นบันไดพระที่นั่ง
และในที่สุด เราก็มาถึงหน้าพระบรมโกศจนได้ เจ้าหน้าที่ให้นั่งเว้นระยะกันพอประมาณ เพื่อให้สามารถก้มกราบได้ จากนั้นเค้าจะให้กราบ และ อธิษฐานสักอึดใจ ก็ให้ลุก แล้วเดินออกทางประตูอีกด้าน พอลงมาจะมีตู้กระจกใบใหญ่ตั้งอยู่ที่ปลายบันได ใครอยากทำบุญ โดยเสด็จพระราชกุศล ให้เตรียมเงินไว้ก่อนเลย เพราะถ้าลงมาแล้วค่อยเปิดกระเป๋าหาเงินหยอด จะทำให้เกะกะ ขวางทางคนที่เดินตามลงมาได้
จากนั้นก็เดินออกมาคืนถุงดำให้เจ้าหน้าที่ และใส่รองเท้า ณ ตรงนี้ เป็น เวลา 18.20 น. จากนั้น เดินออกมาด้านนอกพระที่นั่ง
จะมีการแจกภาพพระโกศเป็นที่ระลึก พร้อมทั้งน้ำดื่มขวดเล็กๆ นมไวตามิลค์กล่อง และ ข้าวเปลือกห่อน้อยๆ มีลายพระหัตถ์ "พอเพียง" ของทั้ง 4 อย่างนี้ แจกในพระบรมมหาราชวัง มีเจ้าหน้าที่ท่านหนึ่ง แนะนำว่า ถือเป็นของพระราชทาน เราต้องรับทุกอย่าง ภาพพระโกศ และ ห่อข้าวเปลือก นำไปบูชา น้ำดื่ม อาจจะเก็บไว้บูชาหรือไว้ทำน้ำมนต์ก็ได้ ส่วน ไวตามิลค์ แนะนำให้ดื่มไปเถอะ
ในที่สุด ก็การเดินทางอันยาวนานตลอดวันก็เสร็จสิ้น รวมเวลาจากจุดเริ่มต้น จนสิ้นสุด 11 ชั่วโมงเต็ม ไม่นับเวลาเดินทางไปกลับ จากบ้าน แต่เป็นการเดินทางที่อิ่มใจ ปลื้มใจ สุดๆ