ก่อนอื่นขอบอกไว้ก่อนว่า นี่เป็นกระทู้แรกในชีวิตที่มาเขียนรีวิว อาจจะไม่ถูกหลักการเขียน อาจจะน่าเบื่อในการอ่าน ก็ขออภัยไว้ก่อนล่วงหน้านะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เนื่องจากเราได้บนไว้ว่า ถ้าผ่านตม.เกาหลี เราจะกลับมาเขียนกระทู้รีวิวการไปเที่ยวในครั้งนี้ จึงได้เกิดกระทู้นี้ขึ้นมา
ทริปนี้ เกิดขึ้นจากที่เราอยากไปเที่ยวเกาหลีมากกกกกกกกก ด้วยความติ่ง ติ่งทุกอย่างที่เป็นเกาหลี รู้อย่างล่ะนิดอย่างล่ะหน่อย
ทริป GO TO KOREA จึงเกินขึ้นมา
กิตติศัพท์ของตม.เกาหลี เราก็รู้ๆกันอยู่ ว่าเข้ายากบ้างล่ะ ว่าโหดบ้างล่ะ ว่าดุบ้างล่ะ อ่านกระทู้ ตม.เกาหลีมาเยอะมากเกิดความกังวลมากมาย จะเสียเงินไปเปล่าๆไหม แต่ความจริงกลัวอายคนอื่นมากกว่านะ ถ้าโดนส่งกลับ แต่ก็ยังมีความมั่นใจอยู่บ้างว่าฉันจะผ่านไปได้
อย่าง คำถาม-คำตอบ ที่จะมักจะโดนตม. ถาม เราก็จะจำ และได้เตรียมคำตอบไว้ว่าจะตอบยังไง
และอีกอย่างเอกสารเราก็เตรียมไปหลายอย่าง
ตั๋วไปกลับ ใบจองที่พัก ใบจอง KTX ใบรับรองการทำงาน (เป็นไงค่ะ เอกสารแน่นค่ะ)
ในกลุ่มที่ไปเที่ยวเราเป็นคนเดียวที่พาสปอร์ตขาวนะคะ ไม่เคยไปเที่ยวต่างประเทศเลย
ทริปเราบินไปกับสายการบิน AirAsia เที่ยวดึก ไปถึงเกาหลีประมาณ 9 โมง ถึงแล้วก็นั่งรถไฟต่อไปด่านตรวจคนเข้าเมือง
ช่องตรวจคนเข้าเมืองจะมี 2 ฝั่งนะคะ ฝั่งคนเกาหลี กับต่างชาติ เราบอกกับเพื่อนว่าเราอยู่หน้าสุดนะ ขอเข้าเป็นคนแรกในกลุ่ม
แต่แล้วเราก็โดนตัดแถวไปฝั่งคนเกาหลีคนเดียว เพื่อนถามว่ากลับมาฝั่งเดิมไหม เราก็กลัวมีพิรุจ กลัวตม. ที่จัดแถวจะจับตาดูเรา
ก็เลยยืนทำใจร่มๆ ไม่เปลี่ยนไปฝั่งที่เพื่อนอยู่ ไม่มองไม่พูดคุยกับคนอื่น เตรียมคิดหาคำตอบ ตอบคำถามตม.
เราเตรียมเอกสารทุกอย่างที่มี ถือไว้กับมือ แต่เอาเสื้อคลุมปิดไว้ พอดีถือเสื้อคลุมไว้ มันร้อนไม่ได้ใส่
เราได้ตม.เป็นผู้หญิงค่ะ เขาไม่สนใจเราเท่าไหร่นะ มองผ่านๆ เราก็มองตอบ ทั้งที่ใจเต้นแรงมาก ตม.บอกให้มองกล้องถ่ายรูป แสกนนิ้ว
แล้วก็ถามนิดหน่อย ว่ามากี่วัน มาคนเดียวหรอ มากับเพื่อนกี่คน หลังจากนั้นก็ปั้มแล้วยื่นพาสปอร์ตคืนให้เรา เรานี่ขอบคุณแทบไม่ทัน
จำได้ว่าตอบไปว่า OK, Thank You หยิบพาสปอร์ตแล้วก็เดินจากมาแบบดีใจสุดๆๆๆ (มาคิดอีกที เราบอก OK เขาทำไมว่ะ แทนที่จะขอบคุณอย่างเดียว ฮ่าๆๆๆ)
ยืนรอเพื่อนจนครบทุกคน แล้วก็ไปรับกระเป๋ากันค่ะ
หลังจากนั้นเราก็เดินทางต่อไป BUSAN ด้วย KTX รถไฟความเร็วสู๊งงง ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงนั่งไป BUSAN
ที่พักเราจองที่ Haeundae ค่ะ กว่าจะไปถึงที่พัก เช็คอินเก็บข้าวของก็เย็นมากแล้วนะคะ วันนี้เลยไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลย
ไปเดินเล่นที่หาด ดูทะเลสีดำ ไปดูสะพาน แล้วก็กลับไปนอน ผ่านไป 1 วัน
DAY 2
วันที่ 2 ของทริป ไปวัด Haedong Yonggung Temple (해동용궁사)
เดินทางโดยรถเมย์สาย 181 จากสถานีรถไฟใต้ดิน Haeundae (해운대역) ไปลงที่ป้าย 용궁 사 국립수산 과학원
ไกลพอสมควร ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงก็จะถึงป้ายที่จะลง
ลงจากรถเมย์แล้วก็เดินไปต่อนะคะ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจากตรงนี้ไปวัดมีรถเข้าไปไหม แต่ตอนที่เราเดินเข้าไปไม่เห็นมีรถเลย เดินวนไปค่ะออกกำลังกาย ฮึบๆๆ
บรรยากาศวัด Haedong Yonggung Temple (해동용궁사)
หลังจากชื่นชมความงามของวัดเสร็จแล้ว ก็เดินกลับมาทางเดิม แล้วก็ข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามเพื่อรอรถเมล์นั่งไปสถานีรถไฟใต้ดิน ไปยังหมู่บ้าน Gamcheon Culture Village (감천문화마을)
ตรงนี้เป็นทางที่จะเดินไปขึ้นรถเมล์เพื่อไปยังหน้าหมู่บ้าน ขึ้นรถเมล์สาย 1-1 or 2-2 แนะนำว่าถ้าได้นั่งจะดีมาก เพราะเป็นทางขึ้นเขา ถ้ายืนอาจจะโยกเย้ก เวียนหัวก็เป็นได้ นั่งรถเมย์มาไม่นานก็ถึงที่ลง
ใช้เวลาเดินเล่นในนี้นานพอสมควรนะคะ ยิ่งถ้าสายถ่ายรูปนี่ อาจจะใช้เวลานาน 4-5 ชั่วโมงเลยทีเดียว
จากหมู่บ้าน Gamcheon Culture Village (감천문화마을) เราก็ไปต่อกันที่ ตลาดปลา Jagalchi Market (자갈치시장) เนื่องจากเราใช้เวลาใน Gamcheon Culture Village นานพอสมควรเราก็เลือกที่จะนั่งแทกซี่เพื่อไปตลาดปลา (คือเดินจนเหนื่อย ขี้เกียจเดินหาป้ายรถเมล์นั่นเอง)
DAY 3
เก็บกระเป๋าออกเดินทางกลับ S E O U L เรากลับกันแต่เช้าเลยนะคะ ถึง S E O U L ประมาณเที่ยง เช็คอินได้ตอนบ่าย 2 โมง
หลังจาก Check in เราก็ไปเดินเล่นที่ Ihwa Mural Village ลงที่สถานี Hyehwa 혜화 (Exit 2) เดินไม่ไกลเท่าไหร่ แต่ก็เดินขึ้นเขาอีกแร่ะ จะผ่านสวน Naksan park แต่เราไม่ได้แวะเข้าไปในสวนนะคะ เราไม่ค่อยมีเวลา เพราะต้องไปที่อื่นต่อ
ถูกลบไปแล้วค่ะ บันไดรูปปลา
บันไดดอกไม้ ก็ถูกลบเช่นกัน
สถานที่สุดท้ายในวันนี้คือ Banpo Bridge (반포대교) หรือสะพานสายรุ้ง วิวและบรรยากาศดีมากค่ะ ถ้าได้ไปนั่งเล่นกับแฟนจะโรแมนติกมาก ฮ่าๆๆ เริ่มเพ้อเจ้อและออกทะเลแร่ะ
[CR] ตามหาฝัน My First Time B U S A N -->> T O -->> S E O U L
ก่อนอื่นขอบอกไว้ก่อนว่า นี่เป็นกระทู้แรกในชีวิตที่มาเขียนรีวิว อาจจะไม่ถูกหลักการเขียน อาจจะน่าเบื่อในการอ่าน ก็ขออภัยไว้ก่อนล่วงหน้านะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ทริปนี้ เกิดขึ้นจากที่เราอยากไปเที่ยวเกาหลีมากกกกกกกกก ด้วยความติ่ง ติ่งทุกอย่างที่เป็นเกาหลี รู้อย่างล่ะนิดอย่างล่ะหน่อย
ทริป GO TO KOREA จึงเกินขึ้นมา
กิตติศัพท์ของตม.เกาหลี เราก็รู้ๆกันอยู่ ว่าเข้ายากบ้างล่ะ ว่าโหดบ้างล่ะ ว่าดุบ้างล่ะ อ่านกระทู้ ตม.เกาหลีมาเยอะมากเกิดความกังวลมากมาย จะเสียเงินไปเปล่าๆไหม แต่ความจริงกลัวอายคนอื่นมากกว่านะ ถ้าโดนส่งกลับ แต่ก็ยังมีความมั่นใจอยู่บ้างว่าฉันจะผ่านไปได้
อย่าง คำถาม-คำตอบ ที่จะมักจะโดนตม. ถาม เราก็จะจำ และได้เตรียมคำตอบไว้ว่าจะตอบยังไง
และอีกอย่างเอกสารเราก็เตรียมไปหลายอย่าง
ทริปเราบินไปกับสายการบิน AirAsia เที่ยวดึก ไปถึงเกาหลีประมาณ 9 โมง ถึงแล้วก็นั่งรถไฟต่อไปด่านตรวจคนเข้าเมือง
ช่องตรวจคนเข้าเมืองจะมี 2 ฝั่งนะคะ ฝั่งคนเกาหลี กับต่างชาติ เราบอกกับเพื่อนว่าเราอยู่หน้าสุดนะ ขอเข้าเป็นคนแรกในกลุ่ม
แต่แล้วเราก็โดนตัดแถวไปฝั่งคนเกาหลีคนเดียว เพื่อนถามว่ากลับมาฝั่งเดิมไหม เราก็กลัวมีพิรุจ กลัวตม. ที่จัดแถวจะจับตาดูเรา
ก็เลยยืนทำใจร่มๆ ไม่เปลี่ยนไปฝั่งที่เพื่อนอยู่ ไม่มองไม่พูดคุยกับคนอื่น เตรียมคิดหาคำตอบ ตอบคำถามตม.
เราเตรียมเอกสารทุกอย่างที่มี ถือไว้กับมือ แต่เอาเสื้อคลุมปิดไว้ พอดีถือเสื้อคลุมไว้ มันร้อนไม่ได้ใส่
เราได้ตม.เป็นผู้หญิงค่ะ เขาไม่สนใจเราเท่าไหร่นะ มองผ่านๆ เราก็มองตอบ ทั้งที่ใจเต้นแรงมาก ตม.บอกให้มองกล้องถ่ายรูป แสกนนิ้ว
แล้วก็ถามนิดหน่อย ว่ามากี่วัน มาคนเดียวหรอ มากับเพื่อนกี่คน หลังจากนั้นก็ปั้มแล้วยื่นพาสปอร์ตคืนให้เรา เรานี่ขอบคุณแทบไม่ทัน
จำได้ว่าตอบไปว่า OK, Thank You หยิบพาสปอร์ตแล้วก็เดินจากมาแบบดีใจสุดๆๆๆ (มาคิดอีกที เราบอก OK เขาทำไมว่ะ แทนที่จะขอบคุณอย่างเดียว ฮ่าๆๆๆ)
ยืนรอเพื่อนจนครบทุกคน แล้วก็ไปรับกระเป๋ากันค่ะ
หลังจากนั้นเราก็เดินทางต่อไป BUSAN ด้วย KTX รถไฟความเร็วสู๊งงง ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงนั่งไป BUSAN
ที่พักเราจองที่ Haeundae ค่ะ กว่าจะไปถึงที่พัก เช็คอินเก็บข้าวของก็เย็นมากแล้วนะคะ วันนี้เลยไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลย
ไปเดินเล่นที่หาด ดูทะเลสีดำ ไปดูสะพาน แล้วก็กลับไปนอน ผ่านไป 1 วัน
DAY 2
วันที่ 2 ของทริป ไปวัด Haedong Yonggung Temple (해동용궁사)
เดินทางโดยรถเมย์สาย 181 จากสถานีรถไฟใต้ดิน Haeundae (해운대역) ไปลงที่ป้าย 용궁 사 국립수산 과학원
ไกลพอสมควร ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงก็จะถึงป้ายที่จะลง
ลงจากรถเมย์แล้วก็เดินไปต่อนะคะ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจากตรงนี้ไปวัดมีรถเข้าไปไหม แต่ตอนที่เราเดินเข้าไปไม่เห็นมีรถเลย เดินวนไปค่ะออกกำลังกาย ฮึบๆๆ
บรรยากาศวัด Haedong Yonggung Temple (해동용궁사)
หลังจากชื่นชมความงามของวัดเสร็จแล้ว ก็เดินกลับมาทางเดิม แล้วก็ข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามเพื่อรอรถเมล์นั่งไปสถานีรถไฟใต้ดิน ไปยังหมู่บ้าน Gamcheon Culture Village (감천문화마을)
ตรงนี้เป็นทางที่จะเดินไปขึ้นรถเมล์เพื่อไปยังหน้าหมู่บ้าน ขึ้นรถเมล์สาย 1-1 or 2-2 แนะนำว่าถ้าได้นั่งจะดีมาก เพราะเป็นทางขึ้นเขา ถ้ายืนอาจจะโยกเย้ก เวียนหัวก็เป็นได้ นั่งรถเมย์มาไม่นานก็ถึงที่ลง
ใช้เวลาเดินเล่นในนี้นานพอสมควรนะคะ ยิ่งถ้าสายถ่ายรูปนี่ อาจจะใช้เวลานาน 4-5 ชั่วโมงเลยทีเดียว
จากหมู่บ้าน Gamcheon Culture Village (감천문화마을) เราก็ไปต่อกันที่ ตลาดปลา Jagalchi Market (자갈치시장) เนื่องจากเราใช้เวลาใน Gamcheon Culture Village นานพอสมควรเราก็เลือกที่จะนั่งแทกซี่เพื่อไปตลาดปลา (คือเดินจนเหนื่อย ขี้เกียจเดินหาป้ายรถเมล์นั่นเอง)
DAY 3
เก็บกระเป๋าออกเดินทางกลับ S E O U L เรากลับกันแต่เช้าเลยนะคะ ถึง S E O U L ประมาณเที่ยง เช็คอินได้ตอนบ่าย 2 โมง
หลังจาก Check in เราก็ไปเดินเล่นที่ Ihwa Mural Village ลงที่สถานี Hyehwa 혜화 (Exit 2) เดินไม่ไกลเท่าไหร่ แต่ก็เดินขึ้นเขาอีกแร่ะ จะผ่านสวน Naksan park แต่เราไม่ได้แวะเข้าไปในสวนนะคะ เราไม่ค่อยมีเวลา เพราะต้องไปที่อื่นต่อ
สถานที่สุดท้ายในวันนี้คือ Banpo Bridge (반포대교) หรือสะพานสายรุ้ง วิวและบรรยากาศดีมากค่ะ ถ้าได้ไปนั่งเล่นกับแฟนจะโรแมนติกมาก ฮ่าๆๆ เริ่มเพ้อเจ้อและออกทะเลแร่ะ