คุณสวยเคยได้ยินไหมว่า

ทีวีที่ซื้อจากห้างคือเกรดA ส่วนยี่ห้อเดียวกันที่ซื้อจากห้างที่ลดราคาแบบกระหน่ำเป็นประจำคือเกรดB

แม้แต่iPhone ที่ขายในอเมริกา กับที่ขายในประเทศที่กฏคุ้มครองผู้บริโภคไม่เข้มงวด ยังเกรดต่างกันเลย

นี่คือหลักการของพ่อค้าล้วนๆ คือของถูกไม่มีดี ของฟรีไม่มีในโลก

ข้าวถุงก็เช่นกัน

สารพัดยี่ห้อที่ขายในห้างแล้วพิมพ์ว่า"หอมมะลิแท้100%" และมีตราสัญญาลักษณ์"พนมมือ" อยู่ข้างถุง

ลองเอาไปเช็คDNA ดู รับรองว่าเช็คได้ไม่ถึง96% (ขั้นต่ำต้องได้96% ถึงจะเรียกว่าหอมมะลิ)

ยิ่งล็อตไหนถูกมาก ก็ยิ่งต้องปนมากขึ้น เพราะการจะวางข้าวถุงขายในห้างใหญ่ ต้องจ่ายค่าจิปาถะเยอะมาก และพ่อค้ากว่าจะได้เงินก็ต้องรออีก2-3เดือน ขืนไม่ผสมก็อยู่ไม่ได้. คนไทยจึงกินข้าวหอมมะลิผสมจนแยกไม่ออก

ยิ่งกระแสข้าวหอมมะลิ5โล100 ของนายกฯปูสนั่นแผ่นดิน ถ้าบรรดาพ่อค้าข้าวถุงยังขายในราคาเดิมโดยไม่ปรับลดราคาลงมา ผู้บริโภคก็คงไม่ซื้อ จะรอซื้อข้าวจากชาวนาโดยตรงดีกว่า  ส่วนล็อตใหม่จะมีการผสมข้าวอื่นมากขึ้นหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับจริยธรรมของพ่อค้าเป็นรายๆไป

ข้าวที่บรรจุถุงและเอาขึ้นห้างไปแล้ว หากไม่รีบระบาย เดี๋ยวมอดก็จะมา เพราะไม่ได้รมยาฆ่ามอด ถึงตอนนั้นยิ่งเจ๊ง เพราะข้าวขึ้นมอดก็ขายไม่ออก ทั้งๆที่ยังกินได้อยู่

การปรับลดราคาข้าวถุงลงมาครั้งนี้  ก็แค่การปรับกลยุทธ์ของพ่อค้าเพื่อไม่ให้ลูกค้าเก่าหนีหมดไปเท่านั้นเอง  และต้องยอมรับว่า นายกฯปูทำได้แบบสะเทือนวงการข้าวจริงๆนะฮ้า