สวัสดีค่ะนี่เป็นกระทู้แรกของเรา ต้องขอบอกก่อนว่าเรายืมไอดีเพื่อนมานะคะ เพราะของเรามันโพสต์รูปไม่ได้
คือเราไม่เคยคิดจะตั้งกระทู้เลยค่ะ แต่เรื่องนี้ไม่ไหวจริงๆค่ะ
ต้องขอบอกว่าเราอยู่บ้านที่เป็นทาวน์เฮาส์ ลักษณะบ้านจะติดๆกัน แต่พื้นที่หน้าบ้านก็จะมีทุกหลังอยู่นะคะ
พื้นที่สำหรับจอดรถ หรือทำกิจกรรมหน้าบ้าน แต่ก็จะมีบางประเภทที่เอาพื้นที่ตรงหน้าบ้านมาทำห้องเพิ่ม
ต่อเติมจนจอดรถ จนตากผ้าไม่ได้ ก็ต้องจอดรถและตากผ้าตรงถนน
เรื่องเกิดขึ้นเมื่อวานนี้เลยค่ะ เรากับแฟนเราออกไปทำงานแต่เช้า ปกติทุกวันกว่าจะกลับก็เย็นหรือบางวันก็มืด
แต่เมื่อวานแฟนเราลางานครึ่งวันเลยกลับบ้านมาก่อน พอมาถึงสิ่งที่เห็นคือ เสื้อ กางเกง ถุงเท้า ตากเต็มประตูรั้วหน้าบ้าน
แล้วบ้านเราจะต้องก้มหัวลงไปเปิดประตูเล็กเพื่อจะเข้าบ้าน แต่ตรงประตูเล็กมีทั้ง ถุงเท้า และกางเกง
ซึ่งโดยปกติถุงเท้าและกางเกงมันก็คือของที่ไม่ควรเอามาอยู่บนหัวอยู่แล้ว
แฟนเรามาถึงบ้านจอดรถเพื่อดูว่าเห็นแล้วจะมีคนมาหยิบออกไหม น้าบ้านตรงข้ามที่รู้จักก็เดินเลยไปเหมือนไม่ใช่ของตัวเอง
จนแฟนเราหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูป น้าคนเดิมก็พูดมาเสียงดังว่า "ไม่ต้องถ่ายหรอก ของพี่เองแค่ตากผ้าจะมีปัญหาอะไร"
แฟนเราไม่ตอบโต้ เพราะด้วยความที่ตัวเองไม่ใช่เจ้าของบ้าน แฟนเราเลยส่งรูปมาหาเราแล้วเล่าให้ฟัง เราก็แบบเห้ย !!! แค่ตากบ้านคนอื่นมันก็ไม่ใช่แล้ว
พอตกเย็นเราด้วยความเป็นเจ้าของบ้านเลยเดินไปถาม
เรา : น้าเมื่อตอนเที่ยงมีปัญหาอะไรรึเปล่า
น้า : ไม่มีนิ มีปัญหาอะไร
เรา : เรื่องตากผ้าไง เห็นบอกว่ามีปัญหา เห็นบอกแค่ตากผ้าจะมีปัญหาอะไร
น้า : ไม่ได้พูด ไหนไปถามน้องคนนั้นสิ
เดินมาหน้าบ้านเรา เพื่อมาถามแฟนเรา
น้า : พี่ยอกแค่ว่าของพี่เอง ไม่ต้องถ่ายรูปหรอก แค่ตากผ้าไม่น่าจะมีปัญหา
แฟน : เมื่อตอนกลางวันไม่ได้พูดแบบนี้
หลังจากแฟนเราพูดจบ น้าเค้าก็โวยวายเสียงดังขึ้นมา
น้า : ก็แค่เสื้อผ้า มันจะมีอะไร กางเกงในก็ไม่มี
เรา : แน่ใจหรอว่าแค่เสื้อผ้า จะดูรูปไหม ทั้งถุงเท้า ทั้งกางเกง แล้วมาตากตรงที่ต้องเปิดประตู ก็รู้ว่าต้องเปิดประตูตรงนี้ มันต้องก้มหัวเปิดประตูก็เห็นอยู่ทุกวัน
แล้วทำไมต้องเอามาตาก
น้า : โวยวายๆๆๆๆๆ
เรา : เอ้า !!! ไม่มีกางเกงใน แต่ถุงเท้ามันคือของต่ำไม่รู้หรอ หรือปกติเอามาใส่หัว (ขอบอกเลยตอนนั้นโมโหสุดขีด ไม่สนใจอายุแล้วค่ะ)
น้า : เออ บ้านน้าผิดเอง จบไหม น้าผิดเองที่ไม่บอกให้ลูกไปตากบ้านนี้ (พร้อมชี้ไปบ้านข้างๆ)
เรา : มันไม่ใช่ไง (เราก็เริ่มเสียงดังโวยวายบ้าง)
น้า : งั้นต่อไปก็ต่างคนต่างอยู่
เรา : เอ้า !!! ก็ไม่เคยบอกให้ยุ่งนะ ไม่เคยอยากจะยุ่งกับใครอยู่แล้ว (ต้องบอกก่อนว่าปกติบ้านเรายกเว้นพ่อนะคะ เรา แม่ พี่สาว จะไม่เคยยุ่งกับใคร เวลาอยู่บ้านเราก็อยู่แต่บ้านเรา ไม่เคยไปนั่งสังสรรค์ วุ่นวายอะไรกับใครเลย)
แฟนเราก็ดึงเราเข้าบ้าน เราก็เดินเข้ามา แล้วก็บ่นกับแฟนเรา 2 คน แต่สิ่งที่เราได้ยินจากหน้าบ้านคือเค้าไม่จบ เค้าก็ยังโวยวายเสียงดัง โน้น นั่น นี่ สักพักน้าผู้หญิงซึ่งเป็นเมียของน้าคนแรกที่เราคุย แล้วพูดจาหยาบคายมาก ซึ่งตอนแรกที่เราคุยไม่มีเลยนะคำพวกนี้ เรายังให้เกียรติตรงที่เค้าแก่กว่า
เราเลยเปิดประตูออกไปเสียงดังด้วยความโมโหว่า ไหนว่าจบแล้วโวยวายทำไม
เรา : ไหนว่าจบ แล้วจะโวยวายทำไม จะเอาอะไร ห๊ะ !!!!
น้าผู้หญิง : แค่ตากผ้ามันมีปัญหาอะไร แค่นี้ไม่มีน้ำใจ
เรา : บ้านตัวเองไม่มีสิทธิ์รึไง แล้วทำไมต้องมาตาก ให้คนอื่นเค้าเดือดร้อน
น้าผู้หญิง : บ้านนี้ก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ใครๆเค้าก็รู้กัน (ขอใช้คำหยาบนะคะเพราะน้าเค้าพูดแบบนั้นจริงๆ) พวกมัน

ไม่มีใครเค้าอยากจะยุ่งด้วยหรอก
เรา : ก็ไม่เคยอยากจะยุ่งกับใคร ไม่ต้องมายุ่ง แล้วตากผ้าดูไหมว่าอะไรควรไม่ควร
น้าผู้หญิง : เด็กมันเอาไปตาก เด็กมันจะรู้อะไร (หมายถึงลูกชายเค้า)
เรา : เด็กไม่รู้ก็สั่งสอนสิ ไม่สอนมันจะรู้ไหม ก็เป็นแบบนี้ไง เด็กมันก็ทำตาม
น้าผู้หญิง : โวยวายด้วยคำหยาบคายมากๆ ประหนึ่งว่าตัวเองถูก
แฟนเราเลยบอก พอๆๆๆ เข้าบ้านปล่อยมันบ้าไปคนเดียว เราก็เดินเข้าบ้านมา แต่น้าก็ยังคงโวยวายอยู่
คือเราสงสัยว่า หน้าประตูรั้วบ้านเราที่เราต้องเข้าออกทุกวัน เราผิดหรอ หรือเราไม่มีน้ำใจหรอ เพราะเวลาเราตากผ้า เราจอดรถเราไม่เคยเดือดร้อนบ้านใครเลย เราทำทุกอย่างในเขตพื้นที่บ้านเรา แต่ทำไมพวกเค้าทำบ้านตัวเองให้ตากผ้าจอดรถไม่ได้แล้วต้องมาเดือดร้อนคนอื่น
เรายอมรับว่าเราก็ค่อนข้างพูดจาไม่ดีสำหรับเด็กกับผู้ใหญ่ แต่คือมันไม่ไหวจริงๆค่ะ อันนี้ต้องขอโทษด้วยเผื่อใครอ่านแล้วมองว่าเราก้าวร้าวเกินไป
นี่คือรุปที่แฟนเราถ่ายส่งมาให้เรา ขวามือคือประตูเล็กที่เราต้องก้มเปิดนะคะ
เพื่อนบ้านตากผ้าหน้ารั้วทางเข้าออกบ้าน เราโวยวาย เราผิดไหม?
คือเราไม่เคยคิดจะตั้งกระทู้เลยค่ะ แต่เรื่องนี้ไม่ไหวจริงๆค่ะ
ต้องขอบอกว่าเราอยู่บ้านที่เป็นทาวน์เฮาส์ ลักษณะบ้านจะติดๆกัน แต่พื้นที่หน้าบ้านก็จะมีทุกหลังอยู่นะคะ
พื้นที่สำหรับจอดรถ หรือทำกิจกรรมหน้าบ้าน แต่ก็จะมีบางประเภทที่เอาพื้นที่ตรงหน้าบ้านมาทำห้องเพิ่ม
ต่อเติมจนจอดรถ จนตากผ้าไม่ได้ ก็ต้องจอดรถและตากผ้าตรงถนน
เรื่องเกิดขึ้นเมื่อวานนี้เลยค่ะ เรากับแฟนเราออกไปทำงานแต่เช้า ปกติทุกวันกว่าจะกลับก็เย็นหรือบางวันก็มืด
แต่เมื่อวานแฟนเราลางานครึ่งวันเลยกลับบ้านมาก่อน พอมาถึงสิ่งที่เห็นคือ เสื้อ กางเกง ถุงเท้า ตากเต็มประตูรั้วหน้าบ้าน
แล้วบ้านเราจะต้องก้มหัวลงไปเปิดประตูเล็กเพื่อจะเข้าบ้าน แต่ตรงประตูเล็กมีทั้ง ถุงเท้า และกางเกง
ซึ่งโดยปกติถุงเท้าและกางเกงมันก็คือของที่ไม่ควรเอามาอยู่บนหัวอยู่แล้ว
แฟนเรามาถึงบ้านจอดรถเพื่อดูว่าเห็นแล้วจะมีคนมาหยิบออกไหม น้าบ้านตรงข้ามที่รู้จักก็เดินเลยไปเหมือนไม่ใช่ของตัวเอง
จนแฟนเราหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูป น้าคนเดิมก็พูดมาเสียงดังว่า "ไม่ต้องถ่ายหรอก ของพี่เองแค่ตากผ้าจะมีปัญหาอะไร"
แฟนเราไม่ตอบโต้ เพราะด้วยความที่ตัวเองไม่ใช่เจ้าของบ้าน แฟนเราเลยส่งรูปมาหาเราแล้วเล่าให้ฟัง เราก็แบบเห้ย !!! แค่ตากบ้านคนอื่นมันก็ไม่ใช่แล้ว
พอตกเย็นเราด้วยความเป็นเจ้าของบ้านเลยเดินไปถาม
เรา : น้าเมื่อตอนเที่ยงมีปัญหาอะไรรึเปล่า
น้า : ไม่มีนิ มีปัญหาอะไร
เรา : เรื่องตากผ้าไง เห็นบอกว่ามีปัญหา เห็นบอกแค่ตากผ้าจะมีปัญหาอะไร
น้า : ไม่ได้พูด ไหนไปถามน้องคนนั้นสิ
เดินมาหน้าบ้านเรา เพื่อมาถามแฟนเรา
น้า : พี่ยอกแค่ว่าของพี่เอง ไม่ต้องถ่ายรูปหรอก แค่ตากผ้าไม่น่าจะมีปัญหา
แฟน : เมื่อตอนกลางวันไม่ได้พูดแบบนี้
หลังจากแฟนเราพูดจบ น้าเค้าก็โวยวายเสียงดังขึ้นมา
น้า : ก็แค่เสื้อผ้า มันจะมีอะไร กางเกงในก็ไม่มี
เรา : แน่ใจหรอว่าแค่เสื้อผ้า จะดูรูปไหม ทั้งถุงเท้า ทั้งกางเกง แล้วมาตากตรงที่ต้องเปิดประตู ก็รู้ว่าต้องเปิดประตูตรงนี้ มันต้องก้มหัวเปิดประตูก็เห็นอยู่ทุกวัน
แล้วทำไมต้องเอามาตาก
น้า : โวยวายๆๆๆๆๆ
เรา : เอ้า !!! ไม่มีกางเกงใน แต่ถุงเท้ามันคือของต่ำไม่รู้หรอ หรือปกติเอามาใส่หัว (ขอบอกเลยตอนนั้นโมโหสุดขีด ไม่สนใจอายุแล้วค่ะ)
น้า : เออ บ้านน้าผิดเอง จบไหม น้าผิดเองที่ไม่บอกให้ลูกไปตากบ้านนี้ (พร้อมชี้ไปบ้านข้างๆ)
เรา : มันไม่ใช่ไง (เราก็เริ่มเสียงดังโวยวายบ้าง)
น้า : งั้นต่อไปก็ต่างคนต่างอยู่
เรา : เอ้า !!! ก็ไม่เคยบอกให้ยุ่งนะ ไม่เคยอยากจะยุ่งกับใครอยู่แล้ว (ต้องบอกก่อนว่าปกติบ้านเรายกเว้นพ่อนะคะ เรา แม่ พี่สาว จะไม่เคยยุ่งกับใคร เวลาอยู่บ้านเราก็อยู่แต่บ้านเรา ไม่เคยไปนั่งสังสรรค์ วุ่นวายอะไรกับใครเลย)
แฟนเราก็ดึงเราเข้าบ้าน เราก็เดินเข้ามา แล้วก็บ่นกับแฟนเรา 2 คน แต่สิ่งที่เราได้ยินจากหน้าบ้านคือเค้าไม่จบ เค้าก็ยังโวยวายเสียงดัง โน้น นั่น นี่ สักพักน้าผู้หญิงซึ่งเป็นเมียของน้าคนแรกที่เราคุย แล้วพูดจาหยาบคายมาก ซึ่งตอนแรกที่เราคุยไม่มีเลยนะคำพวกนี้ เรายังให้เกียรติตรงที่เค้าแก่กว่า
เราเลยเปิดประตูออกไปเสียงดังด้วยความโมโหว่า ไหนว่าจบแล้วโวยวายทำไม
เรา : ไหนว่าจบ แล้วจะโวยวายทำไม จะเอาอะไร ห๊ะ !!!!
น้าผู้หญิง : แค่ตากผ้ามันมีปัญหาอะไร แค่นี้ไม่มีน้ำใจ
เรา : บ้านตัวเองไม่มีสิทธิ์รึไง แล้วทำไมต้องมาตาก ให้คนอื่นเค้าเดือดร้อน
น้าผู้หญิง : บ้านนี้ก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ใครๆเค้าก็รู้กัน (ขอใช้คำหยาบนะคะเพราะน้าเค้าพูดแบบนั้นจริงๆ) พวกมัน
เรา : ก็ไม่เคยอยากจะยุ่งกับใคร ไม่ต้องมายุ่ง แล้วตากผ้าดูไหมว่าอะไรควรไม่ควร
น้าผู้หญิง : เด็กมันเอาไปตาก เด็กมันจะรู้อะไร (หมายถึงลูกชายเค้า)
เรา : เด็กไม่รู้ก็สั่งสอนสิ ไม่สอนมันจะรู้ไหม ก็เป็นแบบนี้ไง เด็กมันก็ทำตาม
น้าผู้หญิง : โวยวายด้วยคำหยาบคายมากๆ ประหนึ่งว่าตัวเองถูก
แฟนเราเลยบอก พอๆๆๆ เข้าบ้านปล่อยมันบ้าไปคนเดียว เราก็เดินเข้าบ้านมา แต่น้าก็ยังคงโวยวายอยู่
คือเราสงสัยว่า หน้าประตูรั้วบ้านเราที่เราต้องเข้าออกทุกวัน เราผิดหรอ หรือเราไม่มีน้ำใจหรอ เพราะเวลาเราตากผ้า เราจอดรถเราไม่เคยเดือดร้อนบ้านใครเลย เราทำทุกอย่างในเขตพื้นที่บ้านเรา แต่ทำไมพวกเค้าทำบ้านตัวเองให้ตากผ้าจอดรถไม่ได้แล้วต้องมาเดือดร้อนคนอื่น
เรายอมรับว่าเราก็ค่อนข้างพูดจาไม่ดีสำหรับเด็กกับผู้ใหญ่ แต่คือมันไม่ไหวจริงๆค่ะ อันนี้ต้องขอโทษด้วยเผื่อใครอ่านแล้วมองว่าเราก้าวร้าวเกินไป
นี่คือรุปที่แฟนเราถ่ายส่งมาให้เรา ขวามือคือประตูเล็กที่เราต้องก้มเปิดนะคะ