สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 12
จำไม่ได้ว่าป.ไหน น้อยใจแม่ไม่ซื้อวีดีโอให้ ก็เลยเอากระดาษไปแปะหน้าห้องแม่ว่า "หนีออกจากบ้านไม่อยู่แล้ว" เอากระเป๋าเป้ใบเล็กๆมาเก็บเสื้อผ้า ผ้าขนหนู
แม่มาเจอถามทำอะไร ก็เลยบอกแม่ว่า จะหนีออกจากบ้าน แม่ก็เลยจะอาสาไปส่ง
แม่ก็พาเดินไปที่ปากซอย ให้ไปนั่งที่ป้ายรถเมล์ แล้วแม่ก็เดินไปซื้อขนม,น้ำหวานมา ซื้อเสร็จแม่ก็บอกว่ากลับบ้านไปกินขนมกัน
ผมก็เลยจับมือแม่กลับบ้าน กลับบ้านมาเจอพี่สาวกำลังกรอวีดีโอในเครื่องกรออยู่ บอกมาดูทอมแอนด์เจอร์นี่กัน ลืมหมดว่าจะหนีออกจากบ้าน
ทุกวันนี้แม่ยังเก็บกระดาษ,กระเป๋า ไว้อยู่เลย และก็เป็นเรื่องเล่าประจำครอบครัวที่มีเวลาแขกมาบ้านจะต้องเล่าให้แขกฟัง แม้ว่าจะเล่าเป็นรอบที่สองล้านแล้วก็ตาม
แม่มาเจอถามทำอะไร ก็เลยบอกแม่ว่า จะหนีออกจากบ้าน แม่ก็เลยจะอาสาไปส่ง
แม่ก็พาเดินไปที่ปากซอย ให้ไปนั่งที่ป้ายรถเมล์ แล้วแม่ก็เดินไปซื้อขนม,น้ำหวานมา ซื้อเสร็จแม่ก็บอกว่ากลับบ้านไปกินขนมกัน
ผมก็เลยจับมือแม่กลับบ้าน กลับบ้านมาเจอพี่สาวกำลังกรอวีดีโอในเครื่องกรออยู่ บอกมาดูทอมแอนด์เจอร์นี่กัน ลืมหมดว่าจะหนีออกจากบ้าน
ทุกวันนี้แม่ยังเก็บกระดาษ,กระเป๋า ไว้อยู่เลย และก็เป็นเรื่องเล่าประจำครอบครัวที่มีเวลาแขกมาบ้านจะต้องเล่าให้แขกฟัง แม้ว่าจะเล่าเป็นรอบที่สองล้านแล้วก็ตาม

ความคิดเห็นที่ 31
เคยค่ะ
ตอนประมาณ 5 ขวบได้มั้ง
งอนอะไรแม่ก็ไม่รู้ จำไม่ได้ล่ะ
ตอนนั้นอยู่แฟลต ชั้น 1 ห้องใกล้ๆ บันไดแฟลตนะ
ถ้าลงบันไดแฟลตไป จะเจอตู้โทรศัพท์สาธารณะ
ก็หนีออกจากบ้านไปอยู่ที่ตู้โทรศัพท์นั่นแหล่ะ
เอานมไปด้วยกล่องนึง ขนมถุงนึง
ตอนออกมาจากห้อง แม่ก็เห็นนะ
แม่ก็ถามว่าไปไหน ก็บอกโกรธๆ ว่า "หนีออกจากบ้าน" แม่ก็ไม่พูดอะไร
ตอนออกมา ไม่ได้มองว่าแม่ออกมาดูเราป่าว
แต่แม่เปิดประตูห้องทิ้งไว้ ไม่ปิดประตู
หนีออกจากบ้านไปได้สัก 5 นาที
ชักหงุดหงิดว่าทำไมแม่ไม่มาตามหา
หรือว่าเราจะหนีมาไกลไป?
ไม่ได้แล้ว เดี๋ยวแม่หาไม่เจอ
เลยย้ายที่ เดินกลับไปในห้องที่แฟลต
แม่ถามว่า "กลับมาแล้วเหรอ ไม่หนีออกจากบ้านแล้วเหรอ"
ตอบแม่ว่า "ไม่กลับ ยังหนีออกจากบ้านอยู่ แค่เปลี่ยนที่"
แล้วก็เข้าไปอยู่ในตู้เสื้อผ้าแม่ แต่เปิดประตูตู้ไว้ 2 บานเลย เปิดพัดลมจ่อด้วย แล้วก็หลับไป
ตื่นตอนแม่เรียกกินข้าว แม่บอกหนีออกจากบ้านนานแล้ว กลับบ้านเถอะนะ
เลยพยักหน้าให้แม่ แล้วออกไปกินข้าว
ตอนประมาณ 5 ขวบได้มั้ง
งอนอะไรแม่ก็ไม่รู้ จำไม่ได้ล่ะ
ตอนนั้นอยู่แฟลต ชั้น 1 ห้องใกล้ๆ บันไดแฟลตนะ
ถ้าลงบันไดแฟลตไป จะเจอตู้โทรศัพท์สาธารณะ
ก็หนีออกจากบ้านไปอยู่ที่ตู้โทรศัพท์นั่นแหล่ะ
เอานมไปด้วยกล่องนึง ขนมถุงนึง
ตอนออกมาจากห้อง แม่ก็เห็นนะ
แม่ก็ถามว่าไปไหน ก็บอกโกรธๆ ว่า "หนีออกจากบ้าน" แม่ก็ไม่พูดอะไร
ตอนออกมา ไม่ได้มองว่าแม่ออกมาดูเราป่าว
แต่แม่เปิดประตูห้องทิ้งไว้ ไม่ปิดประตู
หนีออกจากบ้านไปได้สัก 5 นาที
ชักหงุดหงิดว่าทำไมแม่ไม่มาตามหา
หรือว่าเราจะหนีมาไกลไป?
ไม่ได้แล้ว เดี๋ยวแม่หาไม่เจอ
เลยย้ายที่ เดินกลับไปในห้องที่แฟลต
แม่ถามว่า "กลับมาแล้วเหรอ ไม่หนีออกจากบ้านแล้วเหรอ"
ตอบแม่ว่า "ไม่กลับ ยังหนีออกจากบ้านอยู่ แค่เปลี่ยนที่"
แล้วก็เข้าไปอยู่ในตู้เสื้อผ้าแม่ แต่เปิดประตูตู้ไว้ 2 บานเลย เปิดพัดลมจ่อด้วย แล้วก็หลับไป
ตื่นตอนแม่เรียกกินข้าว แม่บอกหนีออกจากบ้านนานแล้ว กลับบ้านเถอะนะ
เลยพยักหน้าให้แม่ แล้วออกไปกินข้าว
ความคิดเห็นที่ 66
เคยตอนเรียนอยู่ ปวช.1 ค่ะ
แม่เราเชื่อคำยุแยงจากคนข้างบ้าน
ก็เลยมาด่าเรา ทั้ง ๆ ที่เราไม่รู้เรื่องเลย
จู่ ๆ โดนแม่ด่าแบบไม่มีเหตุผล
น้อยใจค่ะ เก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าปีนออกหลังบ้านเลย
ไม่รู้จะไปไหนเลยไปนั่งอยู่หน้าห้างพาต้าปิ่นเกล้าค่ะตอนนั้น
แล้วโทรหาเพื่อน เล่าเหตุการณ์ให้ฟัง
เพื่อนก็ดีมาก บอกว่าให้มาอยู่กับเราไม่ต้องไปไหน
พอดีช่วงนั้นพึ่งปิดเทอมได้ 2-3 วัน
เราก็เลยไปอยู่กับเพื่อนตลอดปิดเทอมเลย
พ่อกับแม่ของเพื่อนอยู่ต่างประเทศ
เขาอยู่กันสามคนพี่น้อง
เพื่อนเราเป็นพี่สาวคนโต
ตัวเราอายุเท่าน้องสาวคนเล็กเขา
ครอบครัวเขาใจดีมาก
เวลาไปเที่ยวไหนก็ลากเราไปด้วย
เราไม่รู้จะตอบแทนยังไงเลยช่วยทำงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ
เพื่อนบอกว่าเราเลี้ยงง่าย
แค่มีหนังสือการ์ตูนกะไข่ก็อยู่ได้ล่ะ 555
พอเปิดเทอมเราก็กลับไปเรียน
ใส่ชุดของน้องสาวเขาค่ะ
พอดีครอบครัวนี้เรียนที่เดียวกะเราหมด
เปิดเทอมวันแรก
คุณครูฝ่ายปกครองเรียกหาเลยค่ะ
ถามว่าไปอยู่ที่ไหนมา รู้ไหมว่าพ่อแม่เป็นห่วงมาก
มาตามหาลูกที่โรงเรียนตั้งหลายรอบ
แล้วทางโรงเรียนก็รีบโทรตามพ่อกับแม่เราค่ะ
พอแม่มาเห็นกอดเราร้องไห้เลย
บอกว่าจะไม่หูเบาเชื่อคนอื่นมากกว่าลูกอีกแล้ว
แล้วแม่ก็ขอโทษเราค่ะ
เราก็น้ำตาซึมเลยค่ะ
เริ่มรู้สึกผิด
ยิ่งตอนแม่บอกว่าเห็นพ่อเราเป็นคนเงียบ ๆ ไม่ค่อยพูดแบบนั้น
รู้ไหมว่าพ่อนอนร้องไห้ทุกคืนเลยนะ
พ่อกับแม่ตระเวนตามหาเราทุกที่ที่คิดว่าเราจะไปตลอดช่วงปิดเทอมเลย
เวลาแม่เห็นชุดกระโปรงน่ารัก ๆ จะนึกถึงเราแล้วร้องไห้ทุกครั้ง
สารภาพตามตรงค่ะ
พึ่งเข้าใจความรักของพ่อแม่จริง ๆ ก็วันนั้นล่ะ
พึ่งรู้ว่าเรามีค่ากับพ่อแม่มากแค่ไหน
เพราะที่บ้านเราพ่อแม่ไม่เคยพูดคำว่ารักค่ะ
กอดหรือหอมแก้มนี่ไม่มีเลย
ตอนนั้นเลยคิดแบบเด็ก ๆ ว่า
ถ้าแม่เชื่อข้างบ้านแปลว่าแม่รักคนข้างบ้านมากกว่าเรา
แม่ถึงไม่เชื่อมั่นในตัวเรา ทั้ง ๆ ที่เลี้ยงเรามาตั้งแต่เกิด
เวลาเรานึกถึงเรื่องนี้ทีไร
จะนึกขอบคุณครอบครัวของเพื่อนคนนี้ทุกครั้ง
ตอนเราไปอยู่กับเขาเคยถามว่าถ้าเราไม่กลับบ้านไปเลย
เขาจะรังเกียจเรารึเปล่า
เพื่อนก็หัวเราะบอกว่าอยู่ไปเหอะ
ขอให้ตั้งใจเรียน บ้านเราเลี้ยงเธอได้
โห...แบ่บ โคตรซึ้งใจ
เสียดายตั้งแต่จบ ปวช. ก็แยกย้ายกันไป
เราพยายามตามหาเพื่อนคนนี้มาตลอดแต่ยังไม่เจอเลยค่ะ
หากบังเอิญบุ๋มได้มาอ่านกระทู้นี้ติดต่อกลับเราด้วยนะ
ข้อมูลบุ๋มเท่าที่เราจำได้
มีน้องชายคนที่สอง ชื่อ โรจน์ เกิด ปี 2519
และน้องสาวเกิด 3 พฤศจิกายน 2520 แต่เราจำชื่อไม่ได้
ส่วนบุ๋ม เกิดปี 2518 ค่ะ
#คิดถึงมากนะเพื่อน
แม่เราเชื่อคำยุแยงจากคนข้างบ้าน
ก็เลยมาด่าเรา ทั้ง ๆ ที่เราไม่รู้เรื่องเลย
จู่ ๆ โดนแม่ด่าแบบไม่มีเหตุผล
น้อยใจค่ะ เก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าปีนออกหลังบ้านเลย
ไม่รู้จะไปไหนเลยไปนั่งอยู่หน้าห้างพาต้าปิ่นเกล้าค่ะตอนนั้น
แล้วโทรหาเพื่อน เล่าเหตุการณ์ให้ฟัง
เพื่อนก็ดีมาก บอกว่าให้มาอยู่กับเราไม่ต้องไปไหน
พอดีช่วงนั้นพึ่งปิดเทอมได้ 2-3 วัน
เราก็เลยไปอยู่กับเพื่อนตลอดปิดเทอมเลย
พ่อกับแม่ของเพื่อนอยู่ต่างประเทศ
เขาอยู่กันสามคนพี่น้อง
เพื่อนเราเป็นพี่สาวคนโต
ตัวเราอายุเท่าน้องสาวคนเล็กเขา
ครอบครัวเขาใจดีมาก
เวลาไปเที่ยวไหนก็ลากเราไปด้วย
เราไม่รู้จะตอบแทนยังไงเลยช่วยทำงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ
เพื่อนบอกว่าเราเลี้ยงง่าย
แค่มีหนังสือการ์ตูนกะไข่ก็อยู่ได้ล่ะ 555
พอเปิดเทอมเราก็กลับไปเรียน
ใส่ชุดของน้องสาวเขาค่ะ
พอดีครอบครัวนี้เรียนที่เดียวกะเราหมด
เปิดเทอมวันแรก
คุณครูฝ่ายปกครองเรียกหาเลยค่ะ
ถามว่าไปอยู่ที่ไหนมา รู้ไหมว่าพ่อแม่เป็นห่วงมาก
มาตามหาลูกที่โรงเรียนตั้งหลายรอบ
แล้วทางโรงเรียนก็รีบโทรตามพ่อกับแม่เราค่ะ
พอแม่มาเห็นกอดเราร้องไห้เลย
บอกว่าจะไม่หูเบาเชื่อคนอื่นมากกว่าลูกอีกแล้ว
แล้วแม่ก็ขอโทษเราค่ะ
เราก็น้ำตาซึมเลยค่ะ
เริ่มรู้สึกผิด
ยิ่งตอนแม่บอกว่าเห็นพ่อเราเป็นคนเงียบ ๆ ไม่ค่อยพูดแบบนั้น
รู้ไหมว่าพ่อนอนร้องไห้ทุกคืนเลยนะ
พ่อกับแม่ตระเวนตามหาเราทุกที่ที่คิดว่าเราจะไปตลอดช่วงปิดเทอมเลย
เวลาแม่เห็นชุดกระโปรงน่ารัก ๆ จะนึกถึงเราแล้วร้องไห้ทุกครั้ง
สารภาพตามตรงค่ะ
พึ่งเข้าใจความรักของพ่อแม่จริง ๆ ก็วันนั้นล่ะ
พึ่งรู้ว่าเรามีค่ากับพ่อแม่มากแค่ไหน
เพราะที่บ้านเราพ่อแม่ไม่เคยพูดคำว่ารักค่ะ
กอดหรือหอมแก้มนี่ไม่มีเลย
ตอนนั้นเลยคิดแบบเด็ก ๆ ว่า
ถ้าแม่เชื่อข้างบ้านแปลว่าแม่รักคนข้างบ้านมากกว่าเรา
แม่ถึงไม่เชื่อมั่นในตัวเรา ทั้ง ๆ ที่เลี้ยงเรามาตั้งแต่เกิด
เวลาเรานึกถึงเรื่องนี้ทีไร
จะนึกขอบคุณครอบครัวของเพื่อนคนนี้ทุกครั้ง
ตอนเราไปอยู่กับเขาเคยถามว่าถ้าเราไม่กลับบ้านไปเลย
เขาจะรังเกียจเรารึเปล่า
เพื่อนก็หัวเราะบอกว่าอยู่ไปเหอะ
ขอให้ตั้งใจเรียน บ้านเราเลี้ยงเธอได้
โห...แบ่บ โคตรซึ้งใจ
เสียดายตั้งแต่จบ ปวช. ก็แยกย้ายกันไป
เราพยายามตามหาเพื่อนคนนี้มาตลอดแต่ยังไม่เจอเลยค่ะ
หากบังเอิญบุ๋มได้มาอ่านกระทู้นี้ติดต่อกลับเราด้วยนะ
ข้อมูลบุ๋มเท่าที่เราจำได้
มีน้องชายคนที่สอง ชื่อ โรจน์ เกิด ปี 2519
และน้องสาวเกิด 3 พฤศจิกายน 2520 แต่เราจำชื่อไม่ได้
ส่วนบุ๋ม เกิดปี 2518 ค่ะ
#คิดถึงมากนะเพื่อน
แสดงความคิดเห็น
ตอนเด็กๆ ใครเคยหนีออกนอกบ้านมั้งครับ
ส่วนตัวผมเองหนีไปนอนเล่น ในห้องน้ำห้าง
ความคิดตอนนั้นอยากหนีข้าม จังหวัดหนีไปหา บ้านอยู่เอง