สวัสดีครับผมมีคำถามมาถามเพื่อนๆกัน ว่าระหว่างคนที่ทำให้ "มีความสุข" กับคนที่ ทำให้ "มีความทุกข์" จะเลือกอะไรกัน
ผมเชื่อว่าหลายคนต้องเลือกคนที่ทำให้ "มีความสุข" ใช่ไหมครับ แต่เชื่อไหมครับผมเลือกคนที่ทำให้ผมมีความทุกข์ เพราะตอนแรกผมคิดว่าเค้าจะเป็นคนที่ทำให้ผมมีความสุข
ขอเล่าประสบการณ์เมื่อประมาณเกือบ2ปีที่แล้วนะครับ ตอนนั้นผมอยู่ ม.6 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ผมได้ชอบผู้หญิงคนหนึ่งขอแทนเธอว่า "เอ" นะครับ เอเป็นคนที่สวยมากคนหนึ่งในโรงเรียน เธออยู่ม.6 คนละห้องกับผม แต่เราก็รู้จักกันเพราะเอเป็นเพื่อนของเพื่อนผมอีกทีที่ชื่อว่า "บี" บีเป็นเพื่อนผมเองครับ บีกับผมอยุ่ห้องเดียวกันมาตั้งแต่ขึ้นม.4 จนถึงม.6 บีเป็นเพื่อนที่สนิทกับผมคนหนึ่งเลยแหละ เป็นเพื่อนผู้หญิงคนเดียวที่ผมสนิทด้วย ส่วนบีนั้นรู้จักกับเอมาตั้งแต่สมัยประถมเพราะเคยเรียนห้องเดียวกัน เข้าเรื่องเลยนะครับ คือผมชอบเอมาสักพักแล้ว ผมก็แสดงออกให้เธอรู้นะครับว่าผมชอบ เธอก็มีท่าทีที่อธิบายไม่ถูกว่าเหมือนจะรู้สึกหรือไม่รู้สึกกับผมกันแน่ ผมแสดงออกว่ามีใจให้เธอตอน ม.6 เทอม2ครับ จนผ่านมาเกือบเดือนท่าทีของเธอก็ยังไม่ชัดเจนว่ารู้สึกยังไงกับผม ผมจึงให้บีเป็นคนกลางให้ผม โดยบีก็คอยช่วยเหลือสนับสนุนผมเต็มที่ คอยเอาขนมที่ผมฝากไปให้ คอยชวนเอไปเที่ยวด้วยกันกับผม เรามักไปไหนมาไหนกัน3คน จนเรื่องราวของผมเหมือนจะดีขึ้น แต่เอก็ไม่มีท่าที่ว่าจะมีใจให้ผมเลย ผมจึงเริ่มรู้สึกท้อก็คอยปรึกษากับบี ระบายความรู้สึกแย่ๆกับบี บีก็คอยให้กำลังใจผมมาตลอด คอยปลอบคออยู่กับผมในเวลาที่ผมรู้สึกแย่เสมอ เวลาผ่านไปผมยังชอบเอเหมือนเดิม แต่ฝ่ายเอนั้นยิ่งมีทีท่าตีตัวออกห่างมากกว่าเดิม ผมไม่รู้จะทำยังไงก็ได้แต่ปรึกษาบีเหมือนเดิม บีก็ช่วยผมได้แค่ปลอบผมมาตลอด จนถึงวันปีใหม่ ผมจึงตัดคิดว่า เอาวะเป็นไงเป็นกันไม่ลองไม่รู้ผมจึงส่งข้อความไปในไลนของเอ เนื้อหาก็ประมาณคำอวยพรปีใหม่กับรูปน่ารักๆ แล้วก็สารภาพรักกับเธอ ผมส่งข้อความหาเธอตอนเที่ยงคืนตรงพอดี ผมได้แต่รอข้อความของเธอตอบกลับจนเผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ จนเช้าก็เห็นข้อความที่เธอตอบกลับมาประมานตอนช่วงตี2 สรุปใจความได้ว่า เอมีคนที่ชอบอยู่แล้ว เอเห็นผมเป็นเพื่อนที่ดีคนหนึ่งมากกว่า ช่วงเวลานั้นผมน้ำตาคลอเบ้าครับ รู้สึกเสียใจรู้สึกโหวงเหวงแบบบอกไม่ถูก เสียใจจนไม่อยากทำอะไร ได้แต่โทรไปร้องไห้และระบายให้กับบีฟัง บีก็ปลอบผมโทรคุยกับผมฟังผมรับฟังได้ทั้งวัน ตามใจผมทุกอย่างโดยไม่มีทีท่ารำคาณผมเลย จนถึงเวลาเปิดเรียนหลังจากวันหยุดช่วงปีใหม่ ผมไปโรงเรียนด้วยท่าทีซึมเศร้า บีก็ยังคอยปลอบคอยอยู่กับผมเสมอ บีไม่เคยทิ้งผมไปไหนเลยในวันที่ผมแย่ แต่ถึงแม้บีจะปลอบผมยังไงแต่ความรู้สึกผมมันก็ยังรู้สึกชอบเออยู่ ผมกับเอหลังจากวันปีใหม่ก็คุยกันได้ แต่น้อยลงกว่าตอนก่อนหน้าที่ผมจะสารภาพรักกับเธอ เหมือนเธอพยายามเว้นระยะห่างกับตัวผม แต่ใจผมก็ยังรู้สึกกับเธออยู่ดี ถึงแม้ผมจะทุกข์ก็ตาม จนถึงวันวาเลนไทล์ ผมก็ยังซื้อช๊อคโกแลตและดอกกุหลาบให้เออยู่ แต่ผมไม่ได้ให้กับเอตรงๆนะครับ ผมเอาไปไว้ใต้โต๊ะเรียนเธอพร้อมการ์ด เนื้อหาในการ์ดก็ยังเป็นความรู้สึกของผมที่มีต่อเออยู่ ในวันนั้นผมไม่ได้หวังว่าเธอจะซื้ออะไรให้ผมเลย จนมีเพื่อนผู้หญิงในห้องคนหนึ่ง ยื่นช๊อคโกแลตกับตุ๊กตามาให้แล้วบอกว่ามีคนฝากมาให้ หัวใจของผมรู้สึกพองโตมาก ผมไม่คิดว่าผมจะได้รับของแบบนี้จากเอในวันวาเลนไทล์ ผมดีใจมาก รีบกลับมานั่งที่โต๊ะแล้วเปิดการ์ดอ่าน มันทำให้ผมรู้สึกตกใจมาก เพราะคนที่ฝากของ2อย่างนี้มาให้คือ บี ภายในการ์ดเขียนไว้สรุปได้ว่า บีนั้นชอบผมมาตั้งแต่ ม.4แล้ว แต่ไม่กล้าพูดเพราะกลัวเสียความเป็นเพื่อน ไหนจะเรื่องที่ผมชองเออีก บีจึงไม่กล้าบอกผมและช่วยให้ผมสมหวังกับเอดีกว่าเพราะเห็นผมรักเอมากและผมน่าจะมีความสุขถ้าได้คบเอ เนื้อหามนการ์ดยาวมากแต่ผมขอตัดสรุปมาสั้นๆนะครับ จังหวะนั้นผมรู้สึกอึ้ง งง ไปหมด บีเป็นคนที่อยู่ข้างผมมาตลอด คอยทำให้ผมมีความสุขมาตลอด ทำไมผมกลับมองไม่เห็น ทำไมผมถึงไปรักคนที่ทำให้ผมไม่มีความสุข ทำไมผมไม่เห็นค่าของคนที่อยู่ข้างๆ ทุกๆอย่างมันเข้ามาในหัวผม ผมจึงไปถามเพื่อนคนที่บีฝากของมาให้ว่าบีอยู่ไหน ตอนนั้นเป็นเวลาใกล้เลิกเรียนแล้ว เพื่อนที่เอาของมาให้บอกผมว่า บีกลับบ้านไปแล้ว ผมไม่รู้ว่าผมควรทำยังไงต่อผมกลับบ้านครุ่นคิดเรื่องของ เอ และ บี ทุกๆอย่างมันตีกันไปหมด คนหนึ่งผมรักมากแต่ทุกข์มาก ส่วนอีกคนเป็นคนที่รักผมมากทำให้ผมมีความสุขมาก เหมือนจะเลือกง่ายๆเลยใช่ไหมครับว่าควรเลือกคนไหนความรู้สึกไหน แต่เชื่อไหมครับ ผมเลือกที่จะปฏิเสธบีเพราะผมรู้ใจตัวเองว่าผมรักเอกว่า และผมไม่อยากเสียเพื่อน ผมเลือกที่จะส่งไลนไปบอกกับบีตรงๆ ผมไม่อยากเสียเพื่อน ขอเล่าที่เหลือแบบสั้นๆย่อๆเลยนะครับ เมื่อผมส่งข้อความหาบีแบบนั้น บีตอบกลับผมมาด้วยความรู้สึกของเธอที่มีกับผม และเข้าใจผม ส่วนเอที่ผมเอาของไปให้ก็มีเพียงข้อความมาขอบคุณเท่านั้น หลังจากนั้นผมกับบีก็กลายเป็นแปลกๆใส่กัน จนสับดาหลังจากวันวาเลนไทล์ก็ปิดเทอมจบ ม.6แล้ว บีก็เลือกที่จะหายไปจากชีวิตผม ผมเข้าใจเธอจึงไม่วอแวกับเธอเลย ส่วนเอนั้นก็ได้ไปคบกับคนที่เธอชอบเพราะสอบได้มหาลัยที่เดียวกัน ส่วนตัวผมหรอครับ หว่าเว้สิครับ5555 เล่ามาตั้งนาน ไม่มีอะไรมากไปกว่าที่ผมอยากจะบอกว่า บางทีคนที่คุณรักเค้ามากๆ เค้าอาจจะไม่ได้สนใจอะไรคุณเลยก็ได้ต่อให้พยายามยังไงก็ตาม เพราะคนที่ใช้มันไม่ต้องพนายามนิครับ ส่วนคนที่รักคุณ ก็ดูแลเค้าไว้ถนอมน้ำใจเค้าไว้เถอะครับ อย่าเหมือนผมเลย ที่เลือกคนที่ทำให้ทุกข์ แล้วเสียคนที่ทำให้คุณสุขไปตลอดชีวิต ผมอาจจะตัดจบแปลกๆนะครับ ผมเป็นคนพูดไม่เก่งพิมไม่เก่งครับ แต่อยากแชรประสบการณ์ให้เพื่อนๆได้อ่านกัน สวัสดีครับ
ประสบการณ์เลือกระหว่างคนที่ "ทำให้มีความสุข" กับคนที่ "ทำให้มีความทุกข์" คุณจะเลือกใคร
ผมเชื่อว่าหลายคนต้องเลือกคนที่ทำให้ "มีความสุข" ใช่ไหมครับ แต่เชื่อไหมครับผมเลือกคนที่ทำให้ผมมีความทุกข์ เพราะตอนแรกผมคิดว่าเค้าจะเป็นคนที่ทำให้ผมมีความสุข
ขอเล่าประสบการณ์เมื่อประมาณเกือบ2ปีที่แล้วนะครับ ตอนนั้นผมอยู่ ม.6 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ผมได้ชอบผู้หญิงคนหนึ่งขอแทนเธอว่า "เอ" นะครับ เอเป็นคนที่สวยมากคนหนึ่งในโรงเรียน เธออยู่ม.6 คนละห้องกับผม แต่เราก็รู้จักกันเพราะเอเป็นเพื่อนของเพื่อนผมอีกทีที่ชื่อว่า "บี" บีเป็นเพื่อนผมเองครับ บีกับผมอยุ่ห้องเดียวกันมาตั้งแต่ขึ้นม.4 จนถึงม.6 บีเป็นเพื่อนที่สนิทกับผมคนหนึ่งเลยแหละ เป็นเพื่อนผู้หญิงคนเดียวที่ผมสนิทด้วย ส่วนบีนั้นรู้จักกับเอมาตั้งแต่สมัยประถมเพราะเคยเรียนห้องเดียวกัน เข้าเรื่องเลยนะครับ คือผมชอบเอมาสักพักแล้ว ผมก็แสดงออกให้เธอรู้นะครับว่าผมชอบ เธอก็มีท่าทีที่อธิบายไม่ถูกว่าเหมือนจะรู้สึกหรือไม่รู้สึกกับผมกันแน่ ผมแสดงออกว่ามีใจให้เธอตอน ม.6 เทอม2ครับ จนผ่านมาเกือบเดือนท่าทีของเธอก็ยังไม่ชัดเจนว่ารู้สึกยังไงกับผม ผมจึงให้บีเป็นคนกลางให้ผม โดยบีก็คอยช่วยเหลือสนับสนุนผมเต็มที่ คอยเอาขนมที่ผมฝากไปให้ คอยชวนเอไปเที่ยวด้วยกันกับผม เรามักไปไหนมาไหนกัน3คน จนเรื่องราวของผมเหมือนจะดีขึ้น แต่เอก็ไม่มีท่าที่ว่าจะมีใจให้ผมเลย ผมจึงเริ่มรู้สึกท้อก็คอยปรึกษากับบี ระบายความรู้สึกแย่ๆกับบี บีก็คอยให้กำลังใจผมมาตลอด คอยปลอบคออยู่กับผมในเวลาที่ผมรู้สึกแย่เสมอ เวลาผ่านไปผมยังชอบเอเหมือนเดิม แต่ฝ่ายเอนั้นยิ่งมีทีท่าตีตัวออกห่างมากกว่าเดิม ผมไม่รู้จะทำยังไงก็ได้แต่ปรึกษาบีเหมือนเดิม บีก็ช่วยผมได้แค่ปลอบผมมาตลอด จนถึงวันปีใหม่ ผมจึงตัดคิดว่า เอาวะเป็นไงเป็นกันไม่ลองไม่รู้ผมจึงส่งข้อความไปในไลนของเอ เนื้อหาก็ประมาณคำอวยพรปีใหม่กับรูปน่ารักๆ แล้วก็สารภาพรักกับเธอ ผมส่งข้อความหาเธอตอนเที่ยงคืนตรงพอดี ผมได้แต่รอข้อความของเธอตอบกลับจนเผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ จนเช้าก็เห็นข้อความที่เธอตอบกลับมาประมานตอนช่วงตี2 สรุปใจความได้ว่า เอมีคนที่ชอบอยู่แล้ว เอเห็นผมเป็นเพื่อนที่ดีคนหนึ่งมากกว่า ช่วงเวลานั้นผมน้ำตาคลอเบ้าครับ รู้สึกเสียใจรู้สึกโหวงเหวงแบบบอกไม่ถูก เสียใจจนไม่อยากทำอะไร ได้แต่โทรไปร้องไห้และระบายให้กับบีฟัง บีก็ปลอบผมโทรคุยกับผมฟังผมรับฟังได้ทั้งวัน ตามใจผมทุกอย่างโดยไม่มีทีท่ารำคาณผมเลย จนถึงเวลาเปิดเรียนหลังจากวันหยุดช่วงปีใหม่ ผมไปโรงเรียนด้วยท่าทีซึมเศร้า บีก็ยังคอยปลอบคอยอยู่กับผมเสมอ บีไม่เคยทิ้งผมไปไหนเลยในวันที่ผมแย่ แต่ถึงแม้บีจะปลอบผมยังไงแต่ความรู้สึกผมมันก็ยังรู้สึกชอบเออยู่ ผมกับเอหลังจากวันปีใหม่ก็คุยกันได้ แต่น้อยลงกว่าตอนก่อนหน้าที่ผมจะสารภาพรักกับเธอ เหมือนเธอพยายามเว้นระยะห่างกับตัวผม แต่ใจผมก็ยังรู้สึกกับเธออยู่ดี ถึงแม้ผมจะทุกข์ก็ตาม จนถึงวันวาเลนไทล์ ผมก็ยังซื้อช๊อคโกแลตและดอกกุหลาบให้เออยู่ แต่ผมไม่ได้ให้กับเอตรงๆนะครับ ผมเอาไปไว้ใต้โต๊ะเรียนเธอพร้อมการ์ด เนื้อหาในการ์ดก็ยังเป็นความรู้สึกของผมที่มีต่อเออยู่ ในวันนั้นผมไม่ได้หวังว่าเธอจะซื้ออะไรให้ผมเลย จนมีเพื่อนผู้หญิงในห้องคนหนึ่ง ยื่นช๊อคโกแลตกับตุ๊กตามาให้แล้วบอกว่ามีคนฝากมาให้ หัวใจของผมรู้สึกพองโตมาก ผมไม่คิดว่าผมจะได้รับของแบบนี้จากเอในวันวาเลนไทล์ ผมดีใจมาก รีบกลับมานั่งที่โต๊ะแล้วเปิดการ์ดอ่าน มันทำให้ผมรู้สึกตกใจมาก เพราะคนที่ฝากของ2อย่างนี้มาให้คือ บี ภายในการ์ดเขียนไว้สรุปได้ว่า บีนั้นชอบผมมาตั้งแต่ ม.4แล้ว แต่ไม่กล้าพูดเพราะกลัวเสียความเป็นเพื่อน ไหนจะเรื่องที่ผมชองเออีก บีจึงไม่กล้าบอกผมและช่วยให้ผมสมหวังกับเอดีกว่าเพราะเห็นผมรักเอมากและผมน่าจะมีความสุขถ้าได้คบเอ เนื้อหามนการ์ดยาวมากแต่ผมขอตัดสรุปมาสั้นๆนะครับ จังหวะนั้นผมรู้สึกอึ้ง งง ไปหมด บีเป็นคนที่อยู่ข้างผมมาตลอด คอยทำให้ผมมีความสุขมาตลอด ทำไมผมกลับมองไม่เห็น ทำไมผมถึงไปรักคนที่ทำให้ผมไม่มีความสุข ทำไมผมไม่เห็นค่าของคนที่อยู่ข้างๆ ทุกๆอย่างมันเข้ามาในหัวผม ผมจึงไปถามเพื่อนคนที่บีฝากของมาให้ว่าบีอยู่ไหน ตอนนั้นเป็นเวลาใกล้เลิกเรียนแล้ว เพื่อนที่เอาของมาให้บอกผมว่า บีกลับบ้านไปแล้ว ผมไม่รู้ว่าผมควรทำยังไงต่อผมกลับบ้านครุ่นคิดเรื่องของ เอ และ บี ทุกๆอย่างมันตีกันไปหมด คนหนึ่งผมรักมากแต่ทุกข์มาก ส่วนอีกคนเป็นคนที่รักผมมากทำให้ผมมีความสุขมาก เหมือนจะเลือกง่ายๆเลยใช่ไหมครับว่าควรเลือกคนไหนความรู้สึกไหน แต่เชื่อไหมครับ ผมเลือกที่จะปฏิเสธบีเพราะผมรู้ใจตัวเองว่าผมรักเอกว่า และผมไม่อยากเสียเพื่อน ผมเลือกที่จะส่งไลนไปบอกกับบีตรงๆ ผมไม่อยากเสียเพื่อน ขอเล่าที่เหลือแบบสั้นๆย่อๆเลยนะครับ เมื่อผมส่งข้อความหาบีแบบนั้น บีตอบกลับผมมาด้วยความรู้สึกของเธอที่มีกับผม และเข้าใจผม ส่วนเอที่ผมเอาของไปให้ก็มีเพียงข้อความมาขอบคุณเท่านั้น หลังจากนั้นผมกับบีก็กลายเป็นแปลกๆใส่กัน จนสับดาหลังจากวันวาเลนไทล์ก็ปิดเทอมจบ ม.6แล้ว บีก็เลือกที่จะหายไปจากชีวิตผม ผมเข้าใจเธอจึงไม่วอแวกับเธอเลย ส่วนเอนั้นก็ได้ไปคบกับคนที่เธอชอบเพราะสอบได้มหาลัยที่เดียวกัน ส่วนตัวผมหรอครับ หว่าเว้สิครับ5555 เล่ามาตั้งนาน ไม่มีอะไรมากไปกว่าที่ผมอยากจะบอกว่า บางทีคนที่คุณรักเค้ามากๆ เค้าอาจจะไม่ได้สนใจอะไรคุณเลยก็ได้ต่อให้พยายามยังไงก็ตาม เพราะคนที่ใช้มันไม่ต้องพนายามนิครับ ส่วนคนที่รักคุณ ก็ดูแลเค้าไว้ถนอมน้ำใจเค้าไว้เถอะครับ อย่าเหมือนผมเลย ที่เลือกคนที่ทำให้ทุกข์ แล้วเสียคนที่ทำให้คุณสุขไปตลอดชีวิต ผมอาจจะตัดจบแปลกๆนะครับ ผมเป็นคนพูดไม่เก่งพิมไม่เก่งครับ แต่อยากแชรประสบการณ์ให้เพื่อนๆได้อ่านกัน สวัสดีครับ