เพิ่งกลับมาจากเดลี สดๆร้อนๆ เย็นวันที่ 11 พย 59 ค่ะ
อยู่ที่อินเดียในวันที่เลิกให้ใช้ ธนบัตร 500 และ 1000 ค่ะ
โรงแรมที่อยู่เป็นโรงแรมที่มีธนาคารสาขาให้แลกเงินได้
แต่เนื่องจาก เมื่อรัฐบาลประกาศใช้ไม่ได้ หลายๆที่ก็จะไม่รับธนบัตร 2 ชนิดดังกล่าว หากเป็นร้านใหญ่ๆจะยังรับอยู่บ้าง
ดังนั้นทั้งนักท่องเที่ยว และคนอินเดียเองก็จะอลหม่านกันอยู่ในธนาคารเกือบตลอดเวลา
อย่างเราเองไปแลกทั้งหมด 4 รอบด้วยกัน กว่าจะแลกได้
รอบที่ 1 กำลังจะถึงคิว เป็นคนถัดไป เจ้าหน้าที่บอกหมดเวลามาใหม่ตอน 3 โมง แต่เรื่องด้วยเป็นโปรแกรมที่เซ็ตไว้พร้อมผู้เข้าร่วมประชุมท่านอื่นที่มาประชุมพร้อมกัน จึงไม่สามารถกลับมาแลกตามเวลาที่เจ้าหน้าที่แจ้งไว้ได้ ตอนนั้นคิดว่าเดินออกไปข้างนอก จะพยายามลองซื้อของในร้านใหญ่เพื่อแตกแบงค์ด้วย เพราะแลกได้แค่วันละ 4000 รูปีเท่านั้น และวันถัดมาต้องบินกลับเมืองไทยแล้ว จึงต้องพยายามใช้จ่ายรูปีที่มีอยู่ไปด้วย แต่ก็ไม่สามารถแตกได้จนหมด ขนาดในตัวมีธนบัตรใหญ่ประมาณ 6000 รูปี และก็คิดว่ากลับไปแลกเงินก็น่าจะยังคงมีให้แลกได้ จึงยังไม่พยายามใข้เงินรูปีจนหมด และกลับมาโรงแรมเพื่อแลกเงินที่เหลือ
รอบที่ 2 กลับมาถึงโรงแรมประมาณ 6 โมงเย็น ตรงไปแลกเงินทันที
แต่ๆ เกิดเหตุการณ์ no cash ขึ้น เวลาตอนนั้นคือ เกือบ 6 โมงเย็น คุณลุงคนเดิมบอก มาใหม่อีกที 1 ทุ่ม เราก็ต้องเดินจากไปมาใหม่อีกรอบ 1 ทุ่ม
รอบที่ 3 มารอต่อแถวตอน 1 ทุ่ม ณ ตอนนั้นคิดแค่ว่าแลกอะไรก็ได้แลกกลับเป็นดอลล่าร์ก็ได้เพื่อให้เงินรูปีที่มีอยู่ในมือไม่ใช่แค่กระดาษ ต่อแถวไป 1 ชม กำลังจะถึงแล้ว อยู่ๆคุณลุงก็ประกาศออกมาว่า ไม่รับแลกรูปีเป็นสกุลใดๆทั้งสิ้น จะรับแต่ เงินต่างชาติแลกเป็นรูปีเท่านั้น อ้าวคราวนี้แหละ อลหม่านกันอีกรอบเกิดการโวยเล็กๆ ขึ้นมาทีเดียวเพราะคนที่ต่อแถวเห็นว่ามีคนมาส่งเงินรูปีใบเล็กๆให้ แล้วทำไมถึงไม่ยอมให้แลก นอกจากนั้นเงินสกุลดอลล่าหรือยูโรก็น่าจะมีให้แลกเปลี่ยนได้ แต่ลุงแกไม่ยอมท่าเดียว บอกว่าให้มาใหม่พรุ่งนี้ 10 โมง
คราวนี้แหละ ความเครียดยิ่งมากขึ้น เพราะเราเองต้องออกจากโรงแรมไปสนามบินตอน 7 โมงครึ่ง และ ไม่สามารถรู้ได้ว่าที่สนามบินจะใช้ธนบัตร 2 ชนิดนั้นได้รึเปล่า เลยพยายามอ้อนวอนคุณลุงเพื่อให้เห็นใจ ลุงตอบอย่างเดียว โน 10 โมงเช้าเท่านั้น ยูต้องมา 10 โมงเช้า
ตอนนั้นไม่รู้จะทำยังไงแล้วกะว่าทำใจอย่างเดียวเลย เดี๋ยวกินข้าวเสร็จจะลงมาซื้อของใต้โรงแรมให้หมด เงินมีเท่าไหร่ใช้ไปให้หมด คือต้องขอให้ร้านใต้โรงแรมรับธนบัตร 2 แบบนั้นด้วย
รอบที่ 4 พอท้องอิ่มทุกอย่างเริ่มดีขึ้น เลยคิดว่าเราจะลองมาอ้อนวอนคุณลุงอีกครั้ง การอ้อนวอนครั้งนี้ยังไม่สำเร็จ ลุงยืนยันตามเดิมพร้อมบอกว่าไปแลกสนามบิน
เราจึงย้ำกับลุงมา ชัวร์ใช่มั้ยว่าที่สนามบินเราสามารถแลกได้นะ
ลุงติดต่อที่ไปยังที่หนึ่งเพื่อสอบถามให้ พร้อมรอคำตอบว่าสนามบินรับแรกรึเปล่า
คาดว่าฝ่ายนั้นตอบกลับมาว่า สนามไม่รับแลกเป็นรูปีเล็ก
ลุงคนเห็นใจเราที่ พวกเรามาทั้งหมด 4 รอบด้วยกัน ลุงเลยตัดใจให้พวกเราแลกเป็นรุปีเล็กในที่สุด
แต่ๆ การแลกเงินก็ไม่ง่ายอย่างที่คิด คาดว่าธนบัตร 1000 ของเราคงจะใหม่เกินไป
ลุงถามว่า ไปและเงินมาจากที่ไหน
พอตอบไปว่าแลกที่เมืองไทย
ลุงเหมือนจะไม่ยอมให้แลก ลุงเริ่มไม่มั่นใจกับเงินของพวกเรา
โชคดีที่น้องที่ไปด้วยเอ่หลักฐานการแลกเงินจาก ซุปเปอร์ริชไปด้วย จึงพยายามอธิบายที่มาของเงินให้ลุงเข้าใจ
จนสุดท้ายลุงยอมให้แลกเงินในที่สุด
ณ ตอนนั้นดีใจ ประกนึ่งถูกล๊อตเตอรี่รางวัลน้อยๆเลยทีเดียว
ไชโย เงินที่ชั้นมีไม่ใช่เศษกระดาษแล้วเฟ้ย
ธนบัตรที่ยกเลิกไปแล้ว
ธนบัตร 2000 ที่เพิ่งประกาศใช้
ใหม่กิ๊กเลยทีเดียวค่ะ
สุดท้ายขอสรุปเรื่องการแลกเงินไว้ดังนี้นะคะ
1. การแลกเงิน แลกได้วันละ 4000 รูปี พร้อมสำเนาพาสปอร์ต พาสปอร์ตตัวจริง และแบบฟอร์มเพื่อกรอกรายละเอียด
2. หากแลกรูปีไปจากเมืองไทย แล้วจะไปแตกเป็นรูปีเล็กพยายามเอาหลักฐานการแลกเงินจากไทยติดไปด้วย เผื่อถูกซักถามจะได้มีที่มาที่ไปของเงินที่แลกมาค่ะ
3. อาจเกิดกรณีเงินสดหมดจนไม่สามารถแลกได้ อย่างไรก็ตามควรติดเงินสดุล ดอลล่าร์หรือยูโรไปด้วยนะคะ บางที่ก็รับเงินไทยนะคะ
4. หากเป็นร้านค้าร้านใหญ่ๆ ก็จะมีการรับเครดิตการ์ดได้ค่ะ ส่วนปลอดภัยหรือไม่ คงไม่สามารถตอบได้นะคะ หากจะใช้ต้องดูร้านที่ดูหน้าตาน่าเชื่อถือ
5. หลังจากยกเลิกการใช้ธนบัตร 500 และ 1000 ทางรัฐบาลได้ออกธนบัตร 2000 ออกมาใช้งานค่ะ คนอินเดียเองส่วนหนึ่งยังไม่เคยได้ใช้ธนบัตรดังกล่าว แต่วันที่พวกเราแลกมา คุณลุงได้ให้ธนบัตร 2000 บาทมาด้วย เราเลยกลายเป็นคนกลุ่มแรกๆที่ได้ใช้ไปโดยปริยาย
6. รัฐบาลแจ้งการแลกธนบัตร 500 และ 1000 ได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2559
ปล. สุดท้ายขอขอบคุณคุณลุงอินเดียมากที่ยอมให้แลกเงินในที่สุดค่ะ
ประสบการณ์ครั้งนี้ คงทำให้จำประเทศอินเดียไว้ไปตลอดเลยทีเดียว
ปล.2 แก้ไขตัวสะกดที่มีการพิมพ์ผิด
ขออภัยที่มีการพิมพ์ผิดนะคะ พิมพ์จากมือถือในคืนที่กลับมาถึง จึงอาจเกิดข้อผิดพลาดขึ้นได้ค่ะ
ประสบการณ์ ณ วันที่ธนบัตร 500 และ 1000 รูปี กลายเป็นเพียงเศษกระดาษ
อยู่ที่อินเดียในวันที่เลิกให้ใช้ ธนบัตร 500 และ 1000 ค่ะ
โรงแรมที่อยู่เป็นโรงแรมที่มีธนาคารสาขาให้แลกเงินได้
แต่เนื่องจาก เมื่อรัฐบาลประกาศใช้ไม่ได้ หลายๆที่ก็จะไม่รับธนบัตร 2 ชนิดดังกล่าว หากเป็นร้านใหญ่ๆจะยังรับอยู่บ้าง
ดังนั้นทั้งนักท่องเที่ยว และคนอินเดียเองก็จะอลหม่านกันอยู่ในธนาคารเกือบตลอดเวลา
อย่างเราเองไปแลกทั้งหมด 4 รอบด้วยกัน กว่าจะแลกได้
รอบที่ 1 กำลังจะถึงคิว เป็นคนถัดไป เจ้าหน้าที่บอกหมดเวลามาใหม่ตอน 3 โมง แต่เรื่องด้วยเป็นโปรแกรมที่เซ็ตไว้พร้อมผู้เข้าร่วมประชุมท่านอื่นที่มาประชุมพร้อมกัน จึงไม่สามารถกลับมาแลกตามเวลาที่เจ้าหน้าที่แจ้งไว้ได้ ตอนนั้นคิดว่าเดินออกไปข้างนอก จะพยายามลองซื้อของในร้านใหญ่เพื่อแตกแบงค์ด้วย เพราะแลกได้แค่วันละ 4000 รูปีเท่านั้น และวันถัดมาต้องบินกลับเมืองไทยแล้ว จึงต้องพยายามใช้จ่ายรูปีที่มีอยู่ไปด้วย แต่ก็ไม่สามารถแตกได้จนหมด ขนาดในตัวมีธนบัตรใหญ่ประมาณ 6000 รูปี และก็คิดว่ากลับไปแลกเงินก็น่าจะยังคงมีให้แลกได้ จึงยังไม่พยายามใข้เงินรูปีจนหมด และกลับมาโรงแรมเพื่อแลกเงินที่เหลือ
รอบที่ 2 กลับมาถึงโรงแรมประมาณ 6 โมงเย็น ตรงไปแลกเงินทันที
แต่ๆ เกิดเหตุการณ์ no cash ขึ้น เวลาตอนนั้นคือ เกือบ 6 โมงเย็น คุณลุงคนเดิมบอก มาใหม่อีกที 1 ทุ่ม เราก็ต้องเดินจากไปมาใหม่อีกรอบ 1 ทุ่ม
รอบที่ 3 มารอต่อแถวตอน 1 ทุ่ม ณ ตอนนั้นคิดแค่ว่าแลกอะไรก็ได้แลกกลับเป็นดอลล่าร์ก็ได้เพื่อให้เงินรูปีที่มีอยู่ในมือไม่ใช่แค่กระดาษ ต่อแถวไป 1 ชม กำลังจะถึงแล้ว อยู่ๆคุณลุงก็ประกาศออกมาว่า ไม่รับแลกรูปีเป็นสกุลใดๆทั้งสิ้น จะรับแต่ เงินต่างชาติแลกเป็นรูปีเท่านั้น อ้าวคราวนี้แหละ อลหม่านกันอีกรอบเกิดการโวยเล็กๆ ขึ้นมาทีเดียวเพราะคนที่ต่อแถวเห็นว่ามีคนมาส่งเงินรูปีใบเล็กๆให้ แล้วทำไมถึงไม่ยอมให้แลก นอกจากนั้นเงินสกุลดอลล่าหรือยูโรก็น่าจะมีให้แลกเปลี่ยนได้ แต่ลุงแกไม่ยอมท่าเดียว บอกว่าให้มาใหม่พรุ่งนี้ 10 โมง
คราวนี้แหละ ความเครียดยิ่งมากขึ้น เพราะเราเองต้องออกจากโรงแรมไปสนามบินตอน 7 โมงครึ่ง และ ไม่สามารถรู้ได้ว่าที่สนามบินจะใช้ธนบัตร 2 ชนิดนั้นได้รึเปล่า เลยพยายามอ้อนวอนคุณลุงเพื่อให้เห็นใจ ลุงตอบอย่างเดียว โน 10 โมงเช้าเท่านั้น ยูต้องมา 10 โมงเช้า
ตอนนั้นไม่รู้จะทำยังไงแล้วกะว่าทำใจอย่างเดียวเลย เดี๋ยวกินข้าวเสร็จจะลงมาซื้อของใต้โรงแรมให้หมด เงินมีเท่าไหร่ใช้ไปให้หมด คือต้องขอให้ร้านใต้โรงแรมรับธนบัตร 2 แบบนั้นด้วย
รอบที่ 4 พอท้องอิ่มทุกอย่างเริ่มดีขึ้น เลยคิดว่าเราจะลองมาอ้อนวอนคุณลุงอีกครั้ง การอ้อนวอนครั้งนี้ยังไม่สำเร็จ ลุงยืนยันตามเดิมพร้อมบอกว่าไปแลกสนามบิน
เราจึงย้ำกับลุงมา ชัวร์ใช่มั้ยว่าที่สนามบินเราสามารถแลกได้นะ
ลุงติดต่อที่ไปยังที่หนึ่งเพื่อสอบถามให้ พร้อมรอคำตอบว่าสนามบินรับแรกรึเปล่า
คาดว่าฝ่ายนั้นตอบกลับมาว่า สนามไม่รับแลกเป็นรูปีเล็ก
ลุงคนเห็นใจเราที่ พวกเรามาทั้งหมด 4 รอบด้วยกัน ลุงเลยตัดใจให้พวกเราแลกเป็นรุปีเล็กในที่สุด
แต่ๆ การแลกเงินก็ไม่ง่ายอย่างที่คิด คาดว่าธนบัตร 1000 ของเราคงจะใหม่เกินไป
ลุงถามว่า ไปและเงินมาจากที่ไหน
พอตอบไปว่าแลกที่เมืองไทย
ลุงเหมือนจะไม่ยอมให้แลก ลุงเริ่มไม่มั่นใจกับเงินของพวกเรา
โชคดีที่น้องที่ไปด้วยเอ่หลักฐานการแลกเงินจาก ซุปเปอร์ริชไปด้วย จึงพยายามอธิบายที่มาของเงินให้ลุงเข้าใจ
จนสุดท้ายลุงยอมให้แลกเงินในที่สุด
ณ ตอนนั้นดีใจ ประกนึ่งถูกล๊อตเตอรี่รางวัลน้อยๆเลยทีเดียว
ไชโย เงินที่ชั้นมีไม่ใช่เศษกระดาษแล้วเฟ้ย
ธนบัตรที่ยกเลิกไปแล้ว
ธนบัตร 2000 ที่เพิ่งประกาศใช้
ใหม่กิ๊กเลยทีเดียวค่ะ
สุดท้ายขอสรุปเรื่องการแลกเงินไว้ดังนี้นะคะ
1. การแลกเงิน แลกได้วันละ 4000 รูปี พร้อมสำเนาพาสปอร์ต พาสปอร์ตตัวจริง และแบบฟอร์มเพื่อกรอกรายละเอียด
2. หากแลกรูปีไปจากเมืองไทย แล้วจะไปแตกเป็นรูปีเล็กพยายามเอาหลักฐานการแลกเงินจากไทยติดไปด้วย เผื่อถูกซักถามจะได้มีที่มาที่ไปของเงินที่แลกมาค่ะ
3. อาจเกิดกรณีเงินสดหมดจนไม่สามารถแลกได้ อย่างไรก็ตามควรติดเงินสดุล ดอลล่าร์หรือยูโรไปด้วยนะคะ บางที่ก็รับเงินไทยนะคะ
4. หากเป็นร้านค้าร้านใหญ่ๆ ก็จะมีการรับเครดิตการ์ดได้ค่ะ ส่วนปลอดภัยหรือไม่ คงไม่สามารถตอบได้นะคะ หากจะใช้ต้องดูร้านที่ดูหน้าตาน่าเชื่อถือ
5. หลังจากยกเลิกการใช้ธนบัตร 500 และ 1000 ทางรัฐบาลได้ออกธนบัตร 2000 ออกมาใช้งานค่ะ คนอินเดียเองส่วนหนึ่งยังไม่เคยได้ใช้ธนบัตรดังกล่าว แต่วันที่พวกเราแลกมา คุณลุงได้ให้ธนบัตร 2000 บาทมาด้วย เราเลยกลายเป็นคนกลุ่มแรกๆที่ได้ใช้ไปโดยปริยาย
6. รัฐบาลแจ้งการแลกธนบัตร 500 และ 1000 ได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2559
ปล. สุดท้ายขอขอบคุณคุณลุงอินเดียมากที่ยอมให้แลกเงินในที่สุดค่ะ
ประสบการณ์ครั้งนี้ คงทำให้จำประเทศอินเดียไว้ไปตลอดเลยทีเดียว
ปล.2 แก้ไขตัวสะกดที่มีการพิมพ์ผิด
ขออภัยที่มีการพิมพ์ผิดนะคะ พิมพ์จากมือถือในคืนที่กลับมาถึง จึงอาจเกิดข้อผิดพลาดขึ้นได้ค่ะ