สวัสดีค่ะ
นี่เป็นกระทู้แรกเลยนะคะ จะมาแชร์ประสบการณ์ในการไปเที่ยวญี่ปุ่นค่ะ ไปกะแฟน 2 คน เมื่อวันที่ 26 ต.ค. - 2 พ.ย. 59 ที่ผ่านมา การไปเที่ยวครั้งนี้อยากไปดูใบไม้เปลี่ยนสี แฟนเลยจองตั๋วตั้งแต่ต้นปีเลย ราคาของตั๋วเครื่องบิน ขาไป scoot ราคารวม 2 คน 12,750.- บาท ขากลับ airasia 2 คน 10,568.91 บาท เฉลี่ยค่าตั๋วไปกลับต่อคนก็ประมาณ 11,xxx บาท
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ใกล้วันเดินทางเพิ่งจะเห็นว่านามสกุลในพาสปอตไม่ตรงกับที่จองไว้ ยกตัวอย่าง look กับ luk อ่านเหมือนกัน แต่แฟนเป็นคนจองให้เลยเข้าใจว่าเราใช้ look แต่ไม่ใช่ ใช้ luk คิดหนักเลยกลัวไม่ได้บินแฟนเลยโทรสอบถาม scoot มีค่าธรรมเนียมในการแก้ไขด้วย 2,400.- บาท แล้วเพิ่มค่าประกันมาอีกเอาออกไม่ได้ 700.- บาท เสียเพิ่มเลย 3,100.- บาท เซ็ง แต่ของ airasia แก้ไขให้เลยไม่เสียสักกะบาท ทำให้เรารู้เลยว่าต่อไปคงไม่ไปกะ scoot แล้วล่ะเก็บทุกเม็ด

ภายในเครื่องบิน

นั่งริมหน้าต่าง วิวตอนเช้า เสียค่าจองที่ 600.- บาท เพิ่ม แฟนกลัวไม่ได้บินเลยจองที่ด้วย อ่านรีวิว scoot เยอะเลยกลัว

วิวตอนบ่าย

จองอาหารมาค่ะ จ่ายเพิ่มนะคะ 430.- บาท มีลาซานญ่า ช็อคโกแลต โค้ก กินด้วยกันประทังความหิวไปก่อน

2 ปีก่อนก็ไปเที่ยวญี่ปุ่นกันค่ะ ไปแค่โตเกียวใช้บริการของ HIS ซื้อตั๋วเครื่องบินไป-กลับพร้อมที่พัก 4 คืน 5 วัน ไปกับ japan airline (๋JAL) ประทับใจมากกกกก เวลาไฟท์บินก็ดีทั้งไปและกลับไม่เสียเวลาเลย เที่ยวเต็มที่ บริการบนเครื่องก็ดีสุดๆ ราคาน่าจะคนละ 29,000.- บาท เราว่าคุ้มนะ ถ้าไปอีกครั้งเลือก JAL ดีกว่าค่ะ หาข้อมูลจากการอ่านหนังสือ จากรีวิวในเน็ตเยอะๆค่ะ เพื่อเป็นการเตรียมตัว

วางแผนการเที่ยวมาแบบนี้ค่ะ
Day 1 26 ต.ค. 59 BKK - OSAKA
Day 2 27 ต.ค. 59 USJ
http://pantip.com/topic/35813419
Day 3 28 ต.ค. 59 กิน Endo sushi - ปราสาท Himeji - ปราสาท OSAKA
http://pantip.com/topic/35820678
Day 4 29 ต.ค. 59 Kyoto
http://pantip.com/topic/35831102
Day 5 30 ต.ค. 59 Kawaguchiko
http://pantip.com/profile/417130
Day 6 31 ต.ค. 59 Tokyo - Tokyo One Piece Tower - Akihabara
Day 7 1 พ.ย. 59 Tokyo - Akihabara - Shibuya - Harajuku
Day 8 2 พ.ย. 59 Narita - BKK
Day 1 26 ต.ค. 59 บินเวลา 9.25 น. ถึงโอซาก้า ประมาณ 5 โมงเย็น บวก 2 ชม เวลาญี่ปุ่น (ถ้าไทยก็บ่าย 3) ผ่าน ตม (ถามเบอร์โทรโรงแรมด้วยนะเตรียมไปเผื่อไว้ด้วยค่ะ) รอกระเป๋า ไม่นาน แล้วก็รีบออกไปหา JR-WEST Ticket Office เพื่อไปแลกบัตร ICOCA เพื่อใช้เดินทางในโอซาก้า ขึ้นบันไดเลื่อนไปชั้น 2 แล้วเดินออกไปข้างนอกอยู่ซ้ายมือ เดินไปถูกเฉยเลยเพราะว่าดูวิดีโอรีวิวเที่ยวก่อนมาหาไม่ยากค่ะ วางแผนการเดินทางภายในเมืองว่าจะใช้อะไรดี ซื้อ pass ดีไหม สรุปกันว่าไม่ซื้อละกัน ใช้เป็นบัตร ICOCA ดีกว่า
บัตร ICOCA เป็นบัตรเติมเงิน ใช้แตะตรงสัญลักษณ์ IC เวลาขึ้นรถไฟ รถเมล์ ซื้อของในร้านสะดวกซื้อก็ได้ บัตรนี้มีอายุ 10 ปี ใช้ที่โตเกียวก็ได้ค่ะ ใช้มาแล้ว เลยเก็บไว้ไม่ได้ไปแลกคืน เพราะลายคิตตี้น่ารัก เงินในบัตรก็ไม่เหลือเลยใช้เกลี้ยง 5555 เราเลือกแบบที่มีรถไฟ Haruka นั่งเข้าเมืองด้วย ไปลงที่สถานี Tennoji ราคา 3,100.- yen หักค่ารถไฟ Haruka 1,100.- yen ค่าบัตร 500.- yen ก็จะเหลือเงินในบัตร 1,500.- yen ค่ะ เข้าไปจองซื้อได้ก่อนด้วยค่ะ ที่
http://www.westjr.co.jp/global/en/ticket/icoca-haruka/ แล้วก็ได้รับการตอบรับผ่าน e-mail เราก็ปริ๊นไปยื่นค่ะ ถึง Office JR คนเยอะมากค่ะ เลยถามเจ้าหน้าที่ว่าจะมาแลกบัตร ICOCA แล้วก็จองตั๋วรถไฟสายโรแมนติกด้วย เขาเลยบอกให้ขึ้นไปชั้น 2 เอากระเป๋าล็อคกุญแจโซ่ไว้ด้านล่าง ขึ้นไปก็คนเยอะค่ะ ก็รอคิว พอถึงคิว ก็ยื่นใบให้ จนท. แล้วก็ได้บัตรมา พร้อมตั๋วรถไฟ Haruka นั่งเข้าเมือง

แล้วก็บอกเขาว่าจะจองตั๋วรถไฟสายโรแมนติกด้วย เขาก็เอาโบรชัวร์มาให้ดูเลย มีภาษาไทย

เราเลือกมาแล้วว่าจะไปจากสถานีสุดท้าย โทรกโกะ คาเมโอกะ มา สถานี arashiyama เพื่อลงไปดูป่าไผ่ รอบแรกเลย 9.35 น. ที่ต้องจองเพราะอ่านรีวิวแล้วบอกว่าคนเยอะ ต้องรอนานควรจองไปก่อน เขาก็บอกว่าถ้ารอบนี้ จะเห็นวิวภูเขาไม่เห็นแม่น้ำนะ เอารอบ 10.35 น. ดีกว่า เราก็คิด แผนเที่ยว kyoto เรามีเวลาวันเดียว จะทำให้แผนเปลี่ยนไหมนะ แต่ก็ไม่เป็นไรเอาที่เขาเห็นว่าดีกับเรา สรุปเลยได้รอบ 10.35 น. (ดีแล้วล่ะที่ได้รอบนี้เพราะกว่าเราจะไปถึง kyoto แล้วนั่งรถไฟ JR ไปเพื่อไปขึ้นรถไฟสายโรแมนติกใช้เวลาพอสมควรเลยคือต้องออกจากโอซาก้าแต่เช้ามากกกก รอบ 9.35 น. ไม่ทันแน่ๆ แต่ตอนที่วางแผนคิดว่าต้องไปให้ทันให้ได้) หน้าตาบัตรรถไฟสายโรแมนติก

ได้ทุกอย่างครบก็ไปรอรถไฟ Haruka นั่งเข้าเมือง

มาแล้วๆ

แต่ยังขึ้นไม่ได้ค่ะ รอคนลง แล้วก็รอ จนท.ตรวจรถไฟ และทำความสะอาด พอเสร็จเก้าอี้ในรถไฟกลับหลังหันเองค่ะ ดีจัง เพราะมันเป็นสถานีสุดท้ายแล้ว ต้องกลับหลังหัน มุ่งหน้าเข้าเมือง

ตอนนั่งรถไฟก็เปลี่ยนซิมค่ะ แฟนซื้อซิมมาใช้ที่นี่ 800.- บาท คิดว่าคุ้มกว่าเช่า pocket wifi เพราะแพงกว่า ใช้ซิมเดียวแชร์เน็ตให้กัน 2 คน

เจอพี่ๆคนไทยมาเที่ยวด้วยค่ะ นั่งรถไฟเข้าเมืองมาด้วยกัน ถึงสถานี Tenoji รู้สึกหิวข้าวมากเวลานี้ ประมาณ 1 ทุ่ม ต้องเดินทางต่อเข้าโรงแรม ดู hyperdia หรือ google map ว่าไปไง ให้แฟนทำค่ะ รอตามอย่างเดียวเธอพาฉันไปนะ ตอนแรกกะจะนำแต่แฟนดึงไว้หยุดดูให้ดีก่อนว่าเราต้องไปขึ้นทางไหนถูกสายรึเปล่า อ้อหรอ รีบอ่ะหิวข้าว

นั่งรถไฟสองต่อมา ก่อนเข้าโรงแรมเล็งไว้แล้วว่าจะกินร้านชาบูนี้อยู่ก่อนถึงโรงแรมใกล้ๆ พอเข้าไป เต็มซะงั้นต้องจองก่อน อดกินเลย เลยเข้าโรงแรม Check-in ก่อนแล้วค่อยมาหากิน เราพักที่โรงแรม naniwa อยู่ใกล้แหล่งของกิน ของช็อปเลย โดทมโบริ ชินไซบาชิภายในห้องของโรงแรมนี้ค่ะ ห้องก็สะอาดดีค่ะ เงียบ พื้นที่ก็มีแบบพอดีๆ จำกัดๆ ไม่มีอาหารเช้า ราคา 12,306.- บาท พัก 3 วัน ตกวันละ 4,102.- บาท

กำลังว่าจะออกไปหาอะไรกิน คุณแฟนเลยบอกว่าลืมกระเป๋าสะพายไว้บนรถไฟ Haruka อ่ะ ทำไงดี เลยเกิดอาการตึงเครียดขึ้น เริ่มว่ากัน ในนั้นมีโน้ตบุ๊ค (4x,xxx) กล้อง (2x,xxx) แฟนเลยว่าไม่เอาก็ได้ ไม่ได้ต้องไปตามเอาคืน เราก็คิดว่ามันไม่หายหรอกเพราะคนญี่ปุ่นไม่น่าจะมีใครหยิบไปคงเป็น จนท.ในรถไฟตรวจแล้วเห็นก็คงเก็บไว้ให้ คิดในแง่ดี แล้วเราจะทำยังไงกันดี ขอความช่วยเหลือจาก พนง.โรงแรม ก็ให้ไปติดต่อที่ไหนสักอย่าง แต่มันเปิด 9 โมง รอไม่ได้อ่ะ เลยคิดกันว่ากลับไปที่จุดเริ่มต้นที่ลงรถไฟคือ สถานี Tennoji ออกมาจากโรงแรม แฟนลืมอะไรอีกแล้ว เลยให้กลับไปเอารอข้างทาง ฮือๆๆ ถ้าไม่เกิดเหตุขึ้นคงได้ข้ามถนนไปเดินเล่นหาของกินแล้ว

ถึง สถานี Tennoji ก็มองหา Office Jr พอมาถึง ไม่เห็นมี Office เลย มีแต่ จนท ประจำสถานี ก็เลยบอกแฟนว่าไปคุยเองเลย ยืนดูอยู่ห่างๆ หน้าบูดๆ เพราะหิวไง หงุดหงิดด้วย คุยกันอยู่นานเลยเข้าไปฟังด้วย เป็น พนง.ญ มีป้ายติดเสื้อ Jr โอเคน่าจะถามถูกที่แระ เขาก็โทรประสานงานไง ถามรายละเอียด ฟังแบบรู้เรื่องมั่ง ไม่รู้เรื่องมั่ง ภาษาอังกฤษก็ไม่ได้เก่งกันมากมาย แฟนก็อธิบายลักษณะกระเป๋าไป มีอะไรอยู่ข้างไหน ลืมที่ไหน เขาก็ถามมาว่านั่งแถวที่เท่าไร ดีนะที่เป็นคนเลือกที่นั่งเลยพอจำได้ สักถามคุยกันอยู่นาน เขาก็ว่าเห็นกระเป๋าแล้วแต่มันไปถึง kyoto แล้วนะ จะมาเอาที่นี่ไหม เราก็เลยว่าไม่เป็นไร เราจะไปเอาที่ เกียวโต เพราะจะไปอยู่แล้ว อีก 2 วัน เขาก็จดภาษาญี่ปุ่นใส่กระดาษยื่นให้ เอาไว้ไปยื่นตอนเอาของมั่ง แล้วก็เอาแผนที่เป็นศูนย์เก็บของหายที่เกียวโตให้อยู่ติดกับสถานีเกียวโตเลย สบายใจแล้ว แต่ช่วงเวลาที่อยู่โอซาก้าจะไม่มีกล้องถ่ายรูป ใช้มือถือถ่ายแทน ก็ยังดี จบเรื่อง คืนดีกัน ก็ได้เวลาหาของกิน เดินเข้าห้างติดสถานีนี่แหละ ร้านนี้เลย อร่อยดี แต่กินมากๆเลี่ยนอ่ะ ไม่ค่อยกินอาหารแบบนี้ไง แต่แฟนนี่ชอบเลย

ร้านขนมในห้างก็น่ากิน

อิ่มแล้วก็เดินทางกลับไปแถวโรงแรม

เดินเล่นแถวโดทมโบริ ของกินเพรียบเลย ดึกแล้วนะ 4 ทุ่ม แต่พวกร้าน แถว ชินไซบาชิปิดหลายร้านแล้ว บะหมี่มังกร

ร้านขายคุชิคัตซึ

ร้านต่างๆ

แถวป้ายกูลิโกะ แสงสีเยอะเลย

คนนี้แต่งตัวจัดเต็มมาก เข้ากับ วัน Halloween เลย

PABLO ร้านนี้จะมากินให้ได้

เดินกลับโรงแรมในซอยที่อยู่ตรงข้ามซอยโรงแรมเลยซอย pablo นี่แหละ แต่ pablo อยู่ต้นซอย ซอยนี้มีแต่ผับ บาร์ คลับ แล้วก็มีผู้ชาย Host มายืนเรียกแขกผู้หญิงหน้าร้านเต็มเลย แหล่งเที่ยวกลางคืนซินะ วันต่อมาเลยหลีกเลี่ยงซอยนี้

เหนื่อยมากแล้ววันนี้กลับโรงแรมพักผ่อนค่ะ พรุ่งนี้ไปเที่ยว USJ เย้ๆๆ

กระทู้ตอนต่อไปค่ะ
Day 2 USJ
[CR] เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง โอซาก้า-เกียวโต-คาวากูจิโกะ-โตเกียว
นี่เป็นกระทู้แรกเลยนะคะ จะมาแชร์ประสบการณ์ในการไปเที่ยวญี่ปุ่นค่ะ ไปกะแฟน 2 คน เมื่อวันที่ 26 ต.ค. - 2 พ.ย. 59 ที่ผ่านมา การไปเที่ยวครั้งนี้อยากไปดูใบไม้เปลี่ยนสี แฟนเลยจองตั๋วตั้งแต่ต้นปีเลย ราคาของตั๋วเครื่องบิน ขาไป scoot ราคารวม 2 คน 12,750.- บาท ขากลับ airasia 2 คน 10,568.91 บาท เฉลี่ยค่าตั๋วไปกลับต่อคนก็ประมาณ 11,xxx บาท
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ภายในเครื่องบิน
นั่งริมหน้าต่าง วิวตอนเช้า เสียค่าจองที่ 600.- บาท เพิ่ม แฟนกลัวไม่ได้บินเลยจองที่ด้วย อ่านรีวิว scoot เยอะเลยกลัว
วิวตอนบ่าย
จองอาหารมาค่ะ จ่ายเพิ่มนะคะ 430.- บาท มีลาซานญ่า ช็อคโกแลต โค้ก กินด้วยกันประทังความหิวไปก่อน
2 ปีก่อนก็ไปเที่ยวญี่ปุ่นกันค่ะ ไปแค่โตเกียวใช้บริการของ HIS ซื้อตั๋วเครื่องบินไป-กลับพร้อมที่พัก 4 คืน 5 วัน ไปกับ japan airline (๋JAL) ประทับใจมากกกกก เวลาไฟท์บินก็ดีทั้งไปและกลับไม่เสียเวลาเลย เที่ยวเต็มที่ บริการบนเครื่องก็ดีสุดๆ ราคาน่าจะคนละ 29,000.- บาท เราว่าคุ้มนะ ถ้าไปอีกครั้งเลือก JAL ดีกว่าค่ะ หาข้อมูลจากการอ่านหนังสือ จากรีวิวในเน็ตเยอะๆค่ะ เพื่อเป็นการเตรียมตัว
วางแผนการเที่ยวมาแบบนี้ค่ะ
Day 1 26 ต.ค. 59 BKK - OSAKA
Day 2 27 ต.ค. 59 USJ http://pantip.com/topic/35813419
Day 3 28 ต.ค. 59 กิน Endo sushi - ปราสาท Himeji - ปราสาท OSAKA http://pantip.com/topic/35820678
Day 4 29 ต.ค. 59 Kyoto http://pantip.com/topic/35831102
Day 5 30 ต.ค. 59 Kawaguchiko http://pantip.com/profile/417130
Day 6 31 ต.ค. 59 Tokyo - Tokyo One Piece Tower - Akihabara
Day 7 1 พ.ย. 59 Tokyo - Akihabara - Shibuya - Harajuku
Day 8 2 พ.ย. 59 Narita - BKK
Day 1 26 ต.ค. 59 บินเวลา 9.25 น. ถึงโอซาก้า ประมาณ 5 โมงเย็น บวก 2 ชม เวลาญี่ปุ่น (ถ้าไทยก็บ่าย 3) ผ่าน ตม (ถามเบอร์โทรโรงแรมด้วยนะเตรียมไปเผื่อไว้ด้วยค่ะ) รอกระเป๋า ไม่นาน แล้วก็รีบออกไปหา JR-WEST Ticket Office เพื่อไปแลกบัตร ICOCA เพื่อใช้เดินทางในโอซาก้า ขึ้นบันไดเลื่อนไปชั้น 2 แล้วเดินออกไปข้างนอกอยู่ซ้ายมือ เดินไปถูกเฉยเลยเพราะว่าดูวิดีโอรีวิวเที่ยวก่อนมาหาไม่ยากค่ะ วางแผนการเดินทางภายในเมืองว่าจะใช้อะไรดี ซื้อ pass ดีไหม สรุปกันว่าไม่ซื้อละกัน ใช้เป็นบัตร ICOCA ดีกว่า
บัตร ICOCA เป็นบัตรเติมเงิน ใช้แตะตรงสัญลักษณ์ IC เวลาขึ้นรถไฟ รถเมล์ ซื้อของในร้านสะดวกซื้อก็ได้ บัตรนี้มีอายุ 10 ปี ใช้ที่โตเกียวก็ได้ค่ะ ใช้มาแล้ว เลยเก็บไว้ไม่ได้ไปแลกคืน เพราะลายคิตตี้น่ารัก เงินในบัตรก็ไม่เหลือเลยใช้เกลี้ยง 5555 เราเลือกแบบที่มีรถไฟ Haruka นั่งเข้าเมืองด้วย ไปลงที่สถานี Tennoji ราคา 3,100.- yen หักค่ารถไฟ Haruka 1,100.- yen ค่าบัตร 500.- yen ก็จะเหลือเงินในบัตร 1,500.- yen ค่ะ เข้าไปจองซื้อได้ก่อนด้วยค่ะ ที่ http://www.westjr.co.jp/global/en/ticket/icoca-haruka/ แล้วก็ได้รับการตอบรับผ่าน e-mail เราก็ปริ๊นไปยื่นค่ะ ถึง Office JR คนเยอะมากค่ะ เลยถามเจ้าหน้าที่ว่าจะมาแลกบัตร ICOCA แล้วก็จองตั๋วรถไฟสายโรแมนติกด้วย เขาเลยบอกให้ขึ้นไปชั้น 2 เอากระเป๋าล็อคกุญแจโซ่ไว้ด้านล่าง ขึ้นไปก็คนเยอะค่ะ ก็รอคิว พอถึงคิว ก็ยื่นใบให้ จนท. แล้วก็ได้บัตรมา พร้อมตั๋วรถไฟ Haruka นั่งเข้าเมือง
แล้วก็บอกเขาว่าจะจองตั๋วรถไฟสายโรแมนติกด้วย เขาก็เอาโบรชัวร์มาให้ดูเลย มีภาษาไทย
เราเลือกมาแล้วว่าจะไปจากสถานีสุดท้าย โทรกโกะ คาเมโอกะ มา สถานี arashiyama เพื่อลงไปดูป่าไผ่ รอบแรกเลย 9.35 น. ที่ต้องจองเพราะอ่านรีวิวแล้วบอกว่าคนเยอะ ต้องรอนานควรจองไปก่อน เขาก็บอกว่าถ้ารอบนี้ จะเห็นวิวภูเขาไม่เห็นแม่น้ำนะ เอารอบ 10.35 น. ดีกว่า เราก็คิด แผนเที่ยว kyoto เรามีเวลาวันเดียว จะทำให้แผนเปลี่ยนไหมนะ แต่ก็ไม่เป็นไรเอาที่เขาเห็นว่าดีกับเรา สรุปเลยได้รอบ 10.35 น. (ดีแล้วล่ะที่ได้รอบนี้เพราะกว่าเราจะไปถึง kyoto แล้วนั่งรถไฟ JR ไปเพื่อไปขึ้นรถไฟสายโรแมนติกใช้เวลาพอสมควรเลยคือต้องออกจากโอซาก้าแต่เช้ามากกกก รอบ 9.35 น. ไม่ทันแน่ๆ แต่ตอนที่วางแผนคิดว่าต้องไปให้ทันให้ได้) หน้าตาบัตรรถไฟสายโรแมนติก
ได้ทุกอย่างครบก็ไปรอรถไฟ Haruka นั่งเข้าเมือง
มาแล้วๆ
แต่ยังขึ้นไม่ได้ค่ะ รอคนลง แล้วก็รอ จนท.ตรวจรถไฟ และทำความสะอาด พอเสร็จเก้าอี้ในรถไฟกลับหลังหันเองค่ะ ดีจัง เพราะมันเป็นสถานีสุดท้ายแล้ว ต้องกลับหลังหัน มุ่งหน้าเข้าเมือง
ตอนนั่งรถไฟก็เปลี่ยนซิมค่ะ แฟนซื้อซิมมาใช้ที่นี่ 800.- บาท คิดว่าคุ้มกว่าเช่า pocket wifi เพราะแพงกว่า ใช้ซิมเดียวแชร์เน็ตให้กัน 2 คน
เจอพี่ๆคนไทยมาเที่ยวด้วยค่ะ นั่งรถไฟเข้าเมืองมาด้วยกัน ถึงสถานี Tenoji รู้สึกหิวข้าวมากเวลานี้ ประมาณ 1 ทุ่ม ต้องเดินทางต่อเข้าโรงแรม ดู hyperdia หรือ google map ว่าไปไง ให้แฟนทำค่ะ รอตามอย่างเดียวเธอพาฉันไปนะ ตอนแรกกะจะนำแต่แฟนดึงไว้หยุดดูให้ดีก่อนว่าเราต้องไปขึ้นทางไหนถูกสายรึเปล่า อ้อหรอ รีบอ่ะหิวข้าว
กำลังว่าจะออกไปหาอะไรกิน คุณแฟนเลยบอกว่าลืมกระเป๋าสะพายไว้บนรถไฟ Haruka อ่ะ ทำไงดี เลยเกิดอาการตึงเครียดขึ้น เริ่มว่ากัน ในนั้นมีโน้ตบุ๊ค (4x,xxx) กล้อง (2x,xxx) แฟนเลยว่าไม่เอาก็ได้ ไม่ได้ต้องไปตามเอาคืน เราก็คิดว่ามันไม่หายหรอกเพราะคนญี่ปุ่นไม่น่าจะมีใครหยิบไปคงเป็น จนท.ในรถไฟตรวจแล้วเห็นก็คงเก็บไว้ให้ คิดในแง่ดี แล้วเราจะทำยังไงกันดี ขอความช่วยเหลือจาก พนง.โรงแรม ก็ให้ไปติดต่อที่ไหนสักอย่าง แต่มันเปิด 9 โมง รอไม่ได้อ่ะ เลยคิดกันว่ากลับไปที่จุดเริ่มต้นที่ลงรถไฟคือ สถานี Tennoji ออกมาจากโรงแรม แฟนลืมอะไรอีกแล้ว เลยให้กลับไปเอารอข้างทาง ฮือๆๆ ถ้าไม่เกิดเหตุขึ้นคงได้ข้ามถนนไปเดินเล่นหาของกินแล้ว
ถึง สถานี Tennoji ก็มองหา Office Jr พอมาถึง ไม่เห็นมี Office เลย มีแต่ จนท ประจำสถานี ก็เลยบอกแฟนว่าไปคุยเองเลย ยืนดูอยู่ห่างๆ หน้าบูดๆ เพราะหิวไง หงุดหงิดด้วย คุยกันอยู่นานเลยเข้าไปฟังด้วย เป็น พนง.ญ มีป้ายติดเสื้อ Jr โอเคน่าจะถามถูกที่แระ เขาก็โทรประสานงานไง ถามรายละเอียด ฟังแบบรู้เรื่องมั่ง ไม่รู้เรื่องมั่ง ภาษาอังกฤษก็ไม่ได้เก่งกันมากมาย แฟนก็อธิบายลักษณะกระเป๋าไป มีอะไรอยู่ข้างไหน ลืมที่ไหน เขาก็ถามมาว่านั่งแถวที่เท่าไร ดีนะที่เป็นคนเลือกที่นั่งเลยพอจำได้ สักถามคุยกันอยู่นาน เขาก็ว่าเห็นกระเป๋าแล้วแต่มันไปถึง kyoto แล้วนะ จะมาเอาที่นี่ไหม เราก็เลยว่าไม่เป็นไร เราจะไปเอาที่ เกียวโต เพราะจะไปอยู่แล้ว อีก 2 วัน เขาก็จดภาษาญี่ปุ่นใส่กระดาษยื่นให้ เอาไว้ไปยื่นตอนเอาของมั่ง แล้วก็เอาแผนที่เป็นศูนย์เก็บของหายที่เกียวโตให้อยู่ติดกับสถานีเกียวโตเลย สบายใจแล้ว แต่ช่วงเวลาที่อยู่โอซาก้าจะไม่มีกล้องถ่ายรูป ใช้มือถือถ่ายแทน ก็ยังดี จบเรื่อง คืนดีกัน ก็ได้เวลาหาของกิน เดินเข้าห้างติดสถานีนี่แหละ ร้านนี้เลย อร่อยดี แต่กินมากๆเลี่ยนอ่ะ ไม่ค่อยกินอาหารแบบนี้ไง แต่แฟนนี่ชอบเลย
ร้านขนมในห้างก็น่ากิน
อิ่มแล้วก็เดินทางกลับไปแถวโรงแรม
เดินเล่นแถวโดทมโบริ ของกินเพรียบเลย ดึกแล้วนะ 4 ทุ่ม แต่พวกร้าน แถว ชินไซบาชิปิดหลายร้านแล้ว บะหมี่มังกร
ร้านขายคุชิคัตซึ
ร้านต่างๆ
แถวป้ายกูลิโกะ แสงสีเยอะเลย
คนนี้แต่งตัวจัดเต็มมาก เข้ากับ วัน Halloween เลย
PABLO ร้านนี้จะมากินให้ได้
เดินกลับโรงแรมในซอยที่อยู่ตรงข้ามซอยโรงแรมเลยซอย pablo นี่แหละ แต่ pablo อยู่ต้นซอย ซอยนี้มีแต่ผับ บาร์ คลับ แล้วก็มีผู้ชาย Host มายืนเรียกแขกผู้หญิงหน้าร้านเต็มเลย แหล่งเที่ยวกลางคืนซินะ วันต่อมาเลยหลีกเลี่ยงซอยนี้
กระทู้ตอนต่อไปค่ะ Day 2 USJ