“เด่นเก้าแสน กระทิงแดงยิม”ร้องตร.เพื่อนบ้านสาวรุมฟันเจ็บ ปมสุนัขเห่า
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 11 พฤศจิกายน นายสุเทพ หวังมุก อายุ 40 ปี หรือ เด่นเก้าแสน กระทิงแดงยิม อดีตแชมป์มวยโลกชาวไทย พร้อม นายวุฒิชัย ปัญญาพัฒนะ ทนายความ เดินทางเข้าให้ปากคำกับ ร.ต.อ ชวภณ คล่องยุทธ รอง สว.(สอบสวน) ส.น.ธรรมศาลา เพื่อแจ้งความดำเนินคดีในข้อหา“พยายามฆ่า” กับนาง วิมลนันท์ ดิลกรัตติพัฒน์ อายุ 45 ปี และ น.ส.ธัญรัตน์ ดิลกรัตติพัฒน์ อายุ 27 ปี ผู้เป็นบุตรสาว ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านที่ใช้อาวุธมีดดาบฟันเข้าที่ศีรษะและนิ้วก้อยด้านซ้ายเกือบขาดวิ่น โดยแพทย์ได้ทำการรักษาโดยเย็บปิดแผลที่ศีรษะจำนวน 6 เข็ม ก่อนทำการผ่าตัดต่อนิ้วก้อยมือซ้าย ภายหลังมีปากเสียงกันเรื่องสุนัขและเป็นปัญหากับเพื่อนบ้านทั้ง 2 คนกันมาอย่างยาวนาน เหตุเกิดภายในหมู่บ้านสุขทวี ซอยบรมราชชนนี 76 แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กทม. เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา
ภายหลังการเข้าสอบปากคำ นายสุเทพ หรือเด่นเก้าแสน เปิดเผยว่า ตนเพิ่งจะรับการรักษาจนแพทย์ให้ออกมารักษาที่บ้านเมื่อวันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา จึงได้รีบเดินทางเข้ามาแจ้งความและให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนเรื่องราวทั้งหมดนั้นก่อนหน้านี้ตนและคู่กรณีทั้ง 2 มักจะมีปัญหากันเป็นประจำ เนื่ิองจากลูกสาว-ลูกชายของตนเอง วัย 4 และ5 ขวบมักจะเดินผ่านหน้าบ้านของคู่กรณีที่ อยู่ถัดไป 2 หลังเป็นประจำ เพื่อที่จะไปบ้านของน้าสาว และเมื่อลูกชาย-ลูกสาวเดินผ่านก็จะผ่านบ้านคู่กรณี หมาที่บ้านคู่กรณีมักจะเห่า บ้างครั้งลูกสาว-ลูกชายเดินผ่านบ้านก็จะไปเด็ดใบไม้หน้าบ้านเขา ซึ่งก็เป็นการเล่นตามประสาเด็กแต่คู่กรณีทั้ง 2 คนก็ขู่จะเอามีดฟันแขน ดุด่าเด็กเป็นประจำ
นายสุเทพหรือเด่นเก้าแสน กล่าวต่อไปว่า ลูกๆของตนทั้ง 2 ก็เล่นซนกันตามประสาเด็ก ยังไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร บางครั้งตนหรือคนในบ้านพาลูกออกมาเดินเล่น ลูกของตนเมื่อเห็นหมาก็จะเข้าไปเล่นทำท่าเหมือนจะตีหมา คู่กรณีทั้ง 2 คนก็จะมายืนด่าผมหน้าบ้านหาว่าลูกผมไปตีหมาเขา และก็ทะเลาะกันถึงเรื่องราวแบบนี้กันมาตลอด กระทั่งถึงวันเกิดเหตุ นางวิมลนันท์ ได้เดินมาด่าตนถึงหน้าบ้านว่า คนในบ้านของตนไปพูดจาใส่ร้าย ว่าหมาของเขามาขี้ที่หน้าบ้านของตน
“ผมได้เดินตามออกไปหน้าบ้านเพื่อนจะคุย กระทั่งเดินตามไปที่หน้าบ้านนางวิมลนันท์ เพื่อพูดคุยก่อนมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง กระทั่ง น.ส.ธัญรัตน์ลูกสาว วิ่งถือมีดดาบยาวประมาณ 1เมตรไล่ฟัน ผมจึงวิ่งหนีตายจนเสียหลักล้มลงก่อนถูกกระหน่ำฟันเข้าที่กลางศีรษะ ผมพยายามต่อสู้ด้วยมือและเท้า กระทั่งพลาดท่าถูกฟันแล้วเอามือซ้ายรับดาบจนนิ้วก้อยเกือบขาด” นายสุเทพระบุ
ด้าน พ.ต.อ ภูมิธัช โฆฆิตวนิชพงศ์ ผกก.สน.ธรรมศาลา กล่าวว่า ครั้งนี้ได้นำมีดดาบความยาวประมาณ 1 ฟุตครึ่ง มาให้นายสุเทพดูว่าใช่มีดที่ถูกคู่กรณีใช้ก่อเหตุฟันหรือไม่ โดยนาย สเทพได้ชี้ยืนยันว่าเป็นมีดดาบที่สองแม่ลูกใช้ก่อเหตุฟันตนเอง ทั้งนี้ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่24 ต.ค. ที่ผ่านมา นางวิมลนันท์ ดิลกรัตติพัฒน์ อายุ 45 ปี และ น.ส.ธัญรัตน์ ดิลกรัตติพัฒน์ อายุ 27 ปี ได้เดินทางเข้าแจ้งความ ว่าได้ถูกนาย สุเทพ หรือเด่นเก้าแสนทำร้ายร่างกาย จึงได้ใช้มีดดาบฟันเพื่อป้องกันตัว อย่างไรก็ตามเบื้องต้นได้รับแจ้งความ ไว้ทั้ง 2ฝ่ายและยังไม่ได้แจ้งข้อหากับผู้ใด ก่อนที่จะทำการสอบปากคำพยานทั้ง 2ฝ่าย ซึ่งให้การอ้างไปคนละทางว่าฝ่ายไหนนั้นเป็นคนเริ่มก่อน ฝ่ายใดเป็นการป้องกันตัว
ทั้งนี้ทางพนักงานสอบสวนจะทำการเร่งสอบปากคำพยานและหลักฐานก่อนรอใบการตรวจร่างกายของทั้ง 2เพื่อประกอบสำนวนคดี และทำสำนวนเพื่อประกอบการพิจารณาในชั้นศาล ทั้งนี้ พล.ต.ท. ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น.ภายหลังทราบเรื่องก็ได้สั่งการกำชับให้พนักงานสอบสวนให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2ฝ่ายแน่นอน
http://breakingnews.nationtv.tv/home/read.php?newsid=798104
วันที่โพสข่าว : 11 พย. 2559 เวลา 16:58 น.
“เด่นเก้าแสน กระทิงแดงยิม”ร้องตร.เพื่อนบ้านสาวรุมฟันเจ็บ ปมสุนัขเห่า (ข้อหาพยายามฆ่า)
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 11 พฤศจิกายน นายสุเทพ หวังมุก อายุ 40 ปี หรือ เด่นเก้าแสน กระทิงแดงยิม อดีตแชมป์มวยโลกชาวไทย พร้อม นายวุฒิชัย ปัญญาพัฒนะ ทนายความ เดินทางเข้าให้ปากคำกับ ร.ต.อ ชวภณ คล่องยุทธ รอง สว.(สอบสวน) ส.น.ธรรมศาลา เพื่อแจ้งความดำเนินคดีในข้อหา“พยายามฆ่า” กับนาง วิมลนันท์ ดิลกรัตติพัฒน์ อายุ 45 ปี และ น.ส.ธัญรัตน์ ดิลกรัตติพัฒน์ อายุ 27 ปี ผู้เป็นบุตรสาว ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านที่ใช้อาวุธมีดดาบฟันเข้าที่ศีรษะและนิ้วก้อยด้านซ้ายเกือบขาดวิ่น โดยแพทย์ได้ทำการรักษาโดยเย็บปิดแผลที่ศีรษะจำนวน 6 เข็ม ก่อนทำการผ่าตัดต่อนิ้วก้อยมือซ้าย ภายหลังมีปากเสียงกันเรื่องสุนัขและเป็นปัญหากับเพื่อนบ้านทั้ง 2 คนกันมาอย่างยาวนาน เหตุเกิดภายในหมู่บ้านสุขทวี ซอยบรมราชชนนี 76 แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กทม. เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา
ภายหลังการเข้าสอบปากคำ นายสุเทพ หรือเด่นเก้าแสน เปิดเผยว่า ตนเพิ่งจะรับการรักษาจนแพทย์ให้ออกมารักษาที่บ้านเมื่อวันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา จึงได้รีบเดินทางเข้ามาแจ้งความและให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนเรื่องราวทั้งหมดนั้นก่อนหน้านี้ตนและคู่กรณีทั้ง 2 มักจะมีปัญหากันเป็นประจำ เนื่ิองจากลูกสาว-ลูกชายของตนเอง วัย 4 และ5 ขวบมักจะเดินผ่านหน้าบ้านของคู่กรณีที่ อยู่ถัดไป 2 หลังเป็นประจำ เพื่อที่จะไปบ้านของน้าสาว และเมื่อลูกชาย-ลูกสาวเดินผ่านก็จะผ่านบ้านคู่กรณี หมาที่บ้านคู่กรณีมักจะเห่า บ้างครั้งลูกสาว-ลูกชายเดินผ่านบ้านก็จะไปเด็ดใบไม้หน้าบ้านเขา ซึ่งก็เป็นการเล่นตามประสาเด็กแต่คู่กรณีทั้ง 2 คนก็ขู่จะเอามีดฟันแขน ดุด่าเด็กเป็นประจำ
นายสุเทพหรือเด่นเก้าแสน กล่าวต่อไปว่า ลูกๆของตนทั้ง 2 ก็เล่นซนกันตามประสาเด็ก ยังไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร บางครั้งตนหรือคนในบ้านพาลูกออกมาเดินเล่น ลูกของตนเมื่อเห็นหมาก็จะเข้าไปเล่นทำท่าเหมือนจะตีหมา คู่กรณีทั้ง 2 คนก็จะมายืนด่าผมหน้าบ้านหาว่าลูกผมไปตีหมาเขา และก็ทะเลาะกันถึงเรื่องราวแบบนี้กันมาตลอด กระทั่งถึงวันเกิดเหตุ นางวิมลนันท์ ได้เดินมาด่าตนถึงหน้าบ้านว่า คนในบ้านของตนไปพูดจาใส่ร้าย ว่าหมาของเขามาขี้ที่หน้าบ้านของตน
“ผมได้เดินตามออกไปหน้าบ้านเพื่อนจะคุย กระทั่งเดินตามไปที่หน้าบ้านนางวิมลนันท์ เพื่อพูดคุยก่อนมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง กระทั่ง น.ส.ธัญรัตน์ลูกสาว วิ่งถือมีดดาบยาวประมาณ 1เมตรไล่ฟัน ผมจึงวิ่งหนีตายจนเสียหลักล้มลงก่อนถูกกระหน่ำฟันเข้าที่กลางศีรษะ ผมพยายามต่อสู้ด้วยมือและเท้า กระทั่งพลาดท่าถูกฟันแล้วเอามือซ้ายรับดาบจนนิ้วก้อยเกือบขาด” นายสุเทพระบุ
ด้าน พ.ต.อ ภูมิธัช โฆฆิตวนิชพงศ์ ผกก.สน.ธรรมศาลา กล่าวว่า ครั้งนี้ได้นำมีดดาบความยาวประมาณ 1 ฟุตครึ่ง มาให้นายสุเทพดูว่าใช่มีดที่ถูกคู่กรณีใช้ก่อเหตุฟันหรือไม่ โดยนาย สเทพได้ชี้ยืนยันว่าเป็นมีดดาบที่สองแม่ลูกใช้ก่อเหตุฟันตนเอง ทั้งนี้ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่24 ต.ค. ที่ผ่านมา นางวิมลนันท์ ดิลกรัตติพัฒน์ อายุ 45 ปี และ น.ส.ธัญรัตน์ ดิลกรัตติพัฒน์ อายุ 27 ปี ได้เดินทางเข้าแจ้งความ ว่าได้ถูกนาย สุเทพ หรือเด่นเก้าแสนทำร้ายร่างกาย จึงได้ใช้มีดดาบฟันเพื่อป้องกันตัว อย่างไรก็ตามเบื้องต้นได้รับแจ้งความ ไว้ทั้ง 2ฝ่ายและยังไม่ได้แจ้งข้อหากับผู้ใด ก่อนที่จะทำการสอบปากคำพยานทั้ง 2ฝ่าย ซึ่งให้การอ้างไปคนละทางว่าฝ่ายไหนนั้นเป็นคนเริ่มก่อน ฝ่ายใดเป็นการป้องกันตัว
ทั้งนี้ทางพนักงานสอบสวนจะทำการเร่งสอบปากคำพยานและหลักฐานก่อนรอใบการตรวจร่างกายของทั้ง 2เพื่อประกอบสำนวนคดี และทำสำนวนเพื่อประกอบการพิจารณาในชั้นศาล ทั้งนี้ พล.ต.ท. ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น.ภายหลังทราบเรื่องก็ได้สั่งการกำชับให้พนักงานสอบสวนให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2ฝ่ายแน่นอน
http://breakingnews.nationtv.tv/home/read.php?newsid=798104
วันที่โพสข่าว : 11 พย. 2559 เวลา 16:58 น.